ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส  (อ่าน 9630 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
"สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« เมื่อ: ธันวาคม 02, 2014, 09:50:43 am »
0

"สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
เรื่อง/ภาพ...อินทรชัย พาณิชกุล

    “ถ้าสะพานไม่พัง คนไทยก็คงไม่มีวันรู้ว่าสะพานมอญนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด”
     คำบอกเล่าของชาวบ้านรายหนึ่งในอ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี หลังจากได้เห็นสิ่งที่เรียกว่า “บารมี”อันเกิดขึ้นกับสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ด้วยสายตาตัวเอง


 :96: :96: :96: :96: :96:


ตำนานสะพานมอญ

รู้กันในหมู่นักท่องเที่ยวว่า อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เป็นดั่งสวรรค์บนดิน เมืองชายแดนริมแม่น้ำโอบล้อมด้วยภูเขา สงบและงดงาม บรรยากาศรุ่มรวยด้วยวัฒนธรรมหลากหลายชาติพันธุ์ ไทย กะเหรี่ยง มอญ พม่า ลาว

นอกจากเจดีพุทธคยา วัดหลวงพ่ออุตมะ วัดใต้บาดาล และด่านเจดีย์สามองค์ อีกหนึ่งในสัญลักษณ์ของสังขละบุรีที่เป็นที่จดจำของผู้คนก็คือ สะพานมอญ หรือสะพานอุตตมานุสรณ์ สะพานไม้ที่มีความยาว 850 เมตร สร้างขึ้นจากดำริของหลวงพ่ออุตตมะ (พระราชอุดมมงคล) เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม เมื่อปีพ.ศ. 2529


   “สมัยแรกๆยังเป็นแพไม้ไผ่ต่อติดกันเว้นตรงกลางไว้เป็นแพสำหรับคนชักให้สะพานมาเชื่อมกัน เก็บเงินคนผ่านไปมาคนละบาท จนชาวบ้านเรียกว่าสะพานบาทเดียว  หลวงพ่ออุตตมะเห็นว่าชาวบ้านเดือดร้อนที่ต้องเสียเงินข้ามฝั่งเลยคิดสร้างสะพานใหม่ขึ้นมาถาวร ให้ไปมาหาสู่กันได้สะดวก
   วัสดุที่ใช้สร้างเป็นไม้ทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นไม้แดง เพราะเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความทนทานมาก ไม่ว่าเสราวสะพาน และพื้นสะพานจะเป็นไม้ขนาดหน้ากว้าง 1 ศอก ตัวสะพานใช้เสา 60 ต้น เสาช่วงกลางห่างกัน 10 ศอก ช่วงอื่นๆห่างกัน 7 ศอก ท่านเร่งสร้างทั้งกลางวันและกลางคืนใช้เวลาราว 2 เดือนก็เสร็จ”


บริเวณสามประสบ แลนด์มาร์คของสังขละบุรี


วีรพล โชติเสน ปราชญ์ชุมชนสังขละ ผายมือไปยังสะพานไม้ที่ตั้งตระหง่านขรึมขลังเหนือสายน้ำท่ามกลางไอหมอกยามเช้า สะพานมอญแห่งนี้เกิดขึ้นจากความศรัทธาของผู้คนทุกเชื้อชาติ บางคนผลัดเปลี่ยนกันมาปรุงอาหารเลี้ยง บางคนเอาเครื่องมือ บางคนเอาแรงมาช่วยกันคนละไม้ละมือ โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องจักรใดๆ เบื้องหลังความแข็งแรงคงทนท้าทายแดดฝนมานานกว่าสามทศวรรษ ชาวสังขละต้องระดมกำลังกันซ่อมแซมสะพานอย่างต่อเนื่องทุกปี

   “ที่ผ่านมา ชาวบ้านต้องคอยนำไม้ไผ่มาเสริมโครงสร้างของสะพาน นำไม้แดงมาเสริมตลอดแนวสะพานเพื่อเพิ่มความแข็งแรง หลายคนเคยผ่านประสบการณ์ซ่อมสะพานมอญมาแล้วทั้งนั้น”

กระทั่งปลายเดือนกรกฎาคม 2556 สะพานอุตตมานุสรณ์ตกเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง เมื่อเกิดเหตุฝนถล่มรุนแรง น้ำป่าไหลเชี่ยวจนซัดสะพานขาดออกจากกัน ส่งผลให้ทางจังหวัดสั่งปิดปรับปรุงชั่วคราว และได้เปิดประมูลว่าจ้างผู้รับเหมาให้เข้าทำการซ่อมแซม ทว่าติดขัดอุปสรรคปัญหาต้องลากยาวมาเกือบปีสะพานก็ยังไม่แล้วเสร็จ ตามมาด้วยกระแสกดดันอย่างหนักจากชาวบ้านในพื้นที่

แต่ท้ายที่สุดสะพานมอญซึ่งหลงเหลือเพียงซากปรักหักพังกลางน้ำก็ได้รับการบูรณะให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิม โดยน้ำมือของเหล่าทหารช่างจากกองพลทหารราบที่ 9 ร่วมกับชาวบ้าน ใช้เวลาเพียงแค่ 39 วันเท่านั้น


 :49: :49: :49: :49: :49:

เงื่อนงำที่ยังต้องพิสูจน์

คำถามที่ชาวสังขละยังคลางแคลงใจไม่หายคือ เกิดอะไรขึ้นกับเบื้องหลังการซ่อมแซมสะพานมอญครั้งนี้

เพจเฟซบุ๊กชื่อ สะพานมอญโมเดล ได้ออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะถึงสาเหตุที่การซ่อมแซมสะพานมอญเป็นไปอย่างล่าช้าว่าเกิดจากผู้รับเหมาคือ*ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์* ซึ่งถูกว่าจ้างจากทางจังหวัดด้วยวิธีพิเศษ ไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จตามกำหนดเวลาได้ อีกทั้งไม้ที่นำมาซ่อมกลับไม่ได้มาตรฐาน ต้องรื้อทิ้งใหม่ทั้งหมด

นอกจากนี้ยังนำหลักฐานที่บ่งชี้ว่าอาจมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นกับเงินบริจาคสร้างสะพานมอญโดยตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดทางผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจบนบุรี (ในขณะนั้น) ถึงต้องจ่ายเงินค่าซ่อมสะพานให้ผู้รับเหมาถึง 10 ล้านบาท จากค่าซ่อมเต็มจำนวนกว่า 16,347,000 บาท ทั้งที่ผู้รับเหมาทำผิดสัญญาว่าจ้าง หลังไม่สามารถซ่อมสะพานได้เสร็จตามกำหนด


     :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi:

    “กรณีที่เกิดขึ้นมองว่า ตัวอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเองไม่ทำตามความต้องการของชาวบ้าน เพราะที่ผ่านมาเขาซ่อมกันเองมาตลอด หลายคนมีประสบการณ์ซ่อมสะพานมอญมาแล้วทั้งนั้น แต่นี่จู่ๆก็มีผู้รับเหมามาซ่อมสะพาน โดยทางวัดและชุมชนไม่ทราบเรื่องมาก่อน ผู้รับเหมาเองไม่มีความชำนาญในการสร้างสะพานไม้ แถมไม่ให้ความสำคัญของช่างท้องถิ่น การซ่อมแซมจึงลากยาวไปนานเกือบหนึ่งปีเต็ม

    ข้ออ้างที่บอกว่าจำนวนไม้ไม่เพียงพอ ประกอบกับช่วงหน้าฝนทำให้การดำเนินการเป็นไปอย่างยากลำบาก อันนี้ไม่เป็นความจริง เพราะไม้มีอยู่แล้วที่วัดจากชาวบ้านที่บริจาคให้ไว้ในอดีต บวกกับช่วงที่เกิดเหตุก็มีคนบริจาคมาให้เพิ่มอีกเยอะ สำหรับแนวคิดการสร้างสะพาน หลวงพ่ออุตมะเคยบอกว่า ต้องทำในช่วงที่น้ำหลากเพราะสามารถเช็คปริมาณน้ำแล้วนำมาคำนวนความคงทนของกระแสน้ำได้ช่างไม้ที่เคยสร้างสะพานกับหลวงพ่ออุตมะหลายคนเมื่อเกิดเรื่องเขาก็รวมตัวกันมาช่วย ฝ่ายทหารช่างก็เชื่อในภูมิปัญญาท้องถิ่น เครื่องไม้เครื่องมือ อาหารการกิน ชาวบ้านก็สนับสนุนไม่ขาดตกบกพร่อง สะพานจึงซ่อมเสร็จใช้เวลาแค่ 39 วันเท่านั้น”

    เป็นคำให้สัมภาษณ์ของผู้ก่อตั้งเพจสะพานมอญโมเดล


 :32: :32: :32: :32: :32:

ข้อเรียกร้องของคนกลุ่มนี้คือ ต้องการทวงเงินบริจาคคืนจากภาครัฐ และนำตัวคนทุจริตมาลงโทษให้ได้

ล่าสุด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว โดยเชิญนายธวัช ไตรรุ่งตระกูล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี นายวรุตน์ ชาวกรุงเก่าและสมาชิกเฟซบุ๊กสะพานมอญโมเดลเข้าให้ปากคำ และขอข้อมูลเพิ่มเติมจากทางจังหวัดกาญจนบุรีเกี่ยวกับการว่าจ้างผู้รับเหมาด้วยวิธีพิเศษว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่


ธุรกิจเรือนำเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง


รอยยิ้มของชาวสังขละ

ภาพผู้คนเรือนหมื่นเดินเบียดเสียดบนสะพานมอญ สะพานลูกบวบ (สะพานไม้ไผ่ที่สร้างขึ้นชั่วคราวช่วงเกิดเหตุ) ตลอดจนริมสองฝั่งแม่น้ำซองกาเลีย เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ซึ่งเป็นวันเปิดสะพานอย่างเป็นทางการวันแรกหลังซ่อมเสร็จ ช่างน่าเหลือเชื่อ

   “พูดก็พูดเถอะ คนเขาตั้งตารอสะพานมอญซ่อมเสร็จทั้งนั้นแหละ ถ้าไม่ได้เดินเที่ยวบนสะพานมอญก็ถือ
ว่ามาไม่ถึงสังขละบุรี”


ป้าเย็น หญิงชาวมอญผู้ประแป้งทานาคา นุ่งโสร่งสีสด ผู้ทำหน้าที่ชักชวนนักท่องเที่ยวลงเรือล่องแม่น้ำ ยิ้มโชว์ฟันขาว เธอกระซิบว่าเกือบหนึ่งปีที่ปิดซ่อมแซมสะพานอุตตมานุสรณ์ เมืองสังขละซบเซาอย่างน่าใจหาย เกสต์เฮาส์ เรือนำเที่ยวปิดตัวลงเกือบครึ่ง ชาวบ้านหลายคนต้องหันไปยึดอาชีพเดิม คือ หาปลามาขายประทังชีวิต


ซอสิบ เด็กพม่าวัย 10 ขวบ เล่าให้ฟังว่า ช่วงสะพานมอญปิดปรับปรุง เหล่ามัคคุเทศน์น้อยบนสะพานมอญ จำนวน 5-6 คน ต้องพลาดโอกาสหาเงินค่าเล่าเรียนวันละกว่า 200-400 บาทต่อวันไปอย่างน่าเสียดาย ขณะที่ วิชา ดาบแก้ว เจ้าของแพที่พักและเรือนำเที่ยวบริเวณสามประสบบอกว่าโชคดีที่สะพานมอญซ่อมเสร็จทันช่วงไฮซีซัน นั่นแปลว่าห้องพักทุกแห่งถูกจองเต็ม ร้านอาหารร้านขายของที่ระลึกแน่นไปด้วยผู้คนหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย


วิถีชีวิตยามเย็นบนสะพานลูกบวบ


สังขละบุรีตื่นฟื้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ความศรัทธา มุ่งมั่น และใจที่เต็มเปี่ยมพร้อมจะช่วยเหลือของทุกคน ทั้งชาวบ้านในพื้นที่ นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ ทีมทหารช่างจากกองพลทหารราบที่ 9 ทุกคนที่มาช่วยซ่อมสะพานมอญแทบไม่ต้องเสียงบประมาณค่าอาหารเลยแม้แต่บาทเดียว โดยเฉพาะชุมชนเองต่างเสนอตัวเป็นเจ้าภาพทำอาหารจนคิวยาวเหยียดเลี้ยงกันได้เป็นปี นักท่องเที่ยวเองก็เอาขนมนมเนย เครื่องดื่มชูกำลังไปฝากคนที่ทำงานมิได้ขาด ถึงขั้นที่ว่านายช่างร้องขอตะปู 1 ลัง ชั่วพริบตาตะปูก็มาอยู่ตรงหน้า 4-5 ลัง กำลังคน กำลังงาน กำลังศรัทธาเปี่ยมล้น เงินบริจาคมาก็แทบไม่ต้องใช้ ยิ่งข่าวเรื่องสะพานออกไปมากเท่าไหร่ความช่วยเหลือกก็ยิ่งหลั่งไหลมามากเป็นทวีคูณ”ชาวบ้านรายหนึ่งเล่าถึงประสบการณ์ประทับใจช่วงซ่อมแซมสะพานมอญ

 ans1 ans1 ans1 ans1 ans1

อย่างไรก็ตาม ยังมีความห่วงใยปรารถนาดีจาก พระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม แสดงความเห็นถึงกระแสนักท่องเที่ยวแห่แหนกันมาเดินเที่ยวบนสะพานมอญไว้อย่างน่าคิด

   “ช่วงเทศกาลต่างๆ มักจะมีนักท่องเที่ยวเดินชมบรรยากาศอยู่บนสะพานเป็นจำนวนมากในเวลาพร้อมๆกัน ดังนั้นจะต้องระมัดระวังเรื่องของความปลอดภัยให้มาก เพราะสะพานมอญเป็นสะพานไม้ทั้งหมด ประกอบกับตั้งอยู่ในน้ำ ตัวโครงสร้างโดยธรรมชาติแล้วก็ไม่สามารถรับน้ำหนักได้เหมือนสะพานคอนกรีต เกรงว่าหากขณะจัดงานเกิดมีคนตะโกนว่าไฟไหม้ หรือสะพานแกว่งตัวเพราะแรงสั่นสะเทือนของการจุดพลุ แล้วเกิดมีผู้คนตะโกนว่าสะพานกำลังจะพัง อาจเกิดโศกนาฏกรรมเหยียบกันตาย เฉกเช่นเดียวกับงานเฉลิมฉลองเทศกาลน้ำประจำปีของกัมพูชาที่มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนก็เป็นได้”

ปฏิเสธไม่ได้ว่า กระแสการเติบโตแบบก้าวกระโดด รวมถึงความโด่งดังของข่าวสะพานมอญ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลหลั่งไหลเข้ามายังสังขละบุรี หากไม่มีการเตรียมความพร้อม การบริหารจัดการการท่องเที่ยวที่รัดกุม เสน่ห์อันขรึมขลังที่เคยมีก็อาจเปลี่ยนแปลงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป



หลวงพ่ออุตตมะ

โบสถ์กลางน้ำ

เด็กน้อยชาวมอญกับชุดเอกลักษณ์ประจำถิ่น

ยามเช้าที่ตลาดสังขละ

เจดีย์พุทธคยา


ขอบคุณภาพและบทความจาก
www.posttoday.com/กทม.-ภูมิภาค/สกู๊ปภูมิภาค/333247/สะพานมอญ-ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 02, 2014, 09:53:57 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2014, 09:04:27 pm »
0
 
:welcome: :welcome: :welcome:

เกริ่นนำกันก่อน
ภาพที่จะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นภาระกิจสำคัญที่ต้องตามพระอาจารย์ไปที่สะพานมอญ อ.สังขละบุรี เนื่องจากทีมงานมัชฌิมาได้เสนอภาพภารกิจนี้ไปแล้ว เพื่อไม่ให้เพื่อนๆมีอาการเบื่อหน่าย ผมเลยต้องเว้นวรรค รอเวลาที่เหมาะสม บัดนี้คิดว่าได้เวลาที่เหมาะสมแล้ว เพราะได้บทความจากบางกอกโพสต์มาประกอบการนำเสนอภาพ หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า ภาพเหล่านี้จะสร้างความประทับใจให้เพื่อนๆได้ไม่มากก็น้อย ติชมซักถามได้ตามอัธยาศัยครับ





ลงเรือไปดูโบสถ์กลางน้ำ ถ่ายภาพแผ่นน้ำใกล้สะพานมอญมาให้ชม


ทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำซองกาเลีย ประทับใจผมมาก ที่สำคัญอากาศบริสุทธิ์มากๆ รู้สึกสุขสดชื่นครับ

เจดีย์ทีเห็นคือ เจดีย์พุทธคยา วัดวังวิเวการาม

เรือนี้เป็นเรือที่ใช้ในพิธีสะเดาะเคราะห์ของชาวสังขละบุรี จอดอยู่ตรงตำแหน่งที่เรียกว่า สามประสบ

หอนี้น่าจะเป็นหอระฆัง

ถึงแล้ว "โบสถ์กลางน้ำ"
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2014, 09:23:48 pm »
0
ด้านนี้เป็นด้านหน้าของโบสถ์ ภาพนี้เป็นภาพแรกที่ถ่ายติดรุ้งที่สังขละบุรี(อยู่ด้านล่างขวามือ)








นำภาพพระอาจารย์มาให้ชม เฉพาะที่โบสถ์กลางน้ำ มีภาพพระอาจารย์เท่านี้ครับ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2014, 02:33:41 am »
0
 st11 st12 st12 thk56

 ถึงว่า ภาพถ่าย จาก คุณ raponson จึงไม่มีเป็นที่น่าแปลกใจ อยู่ ในตอนแรก คะ นึกว่า พระอาจารย์ท่านตั้งให้คนถ่ายคือ คุณ thawatchia173 ซะอีก

   แต่ถาพระอาจารย์ มีเยอะดี นะคะ ดูจากภาพ รู้สึกว่า ท่าน สมบูรณ์ ( อ้วน ) ขึ้นมากนะคะ  จากที่ทราบในเฟค ว่าท่านไม่ค่อยได้ฉัน แต่ ทำไม สมบูรณ์ จัง

  thk56 thk56 thk56
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2014, 10:59:42 am »
0








บรรยากาศในโบสถ์กลางน้ำ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2014, 11:00:20 am »
0







บรรยากาศในโบสถ์กลางน้ำ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2014, 11:26:11 am »
0


สองภาพบนเป็นประตูทิศตะวันออกของโบสถ์ เป็นประตูหน้าโบสถ์

ประตูนี้เป็นประตูหลังโบสถ์ เป็นทิศตะวันตก


ด้านนี้เป็นทิศเหนือของโบสถ์ ประตูไม่มีแล้ว (สองภาพบน)

ด้านนี้เป็นประตูโบสถ์ทิศใต้


วัดวังก์วิเวการาม
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะ ร่วมกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ได้ร่วมกันสร้างขึ้น ในปี พ.ศ. 2496 ที่บ้านวังกะล่าง อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ใกล้กับชายแดนไทย-พม่า ห่างจากอำเภอเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 220 กิโลเมตร

ในระยะแรกมีเพียงกุฏิและศาลา มีฐานะเป็นสำนักสงฆ์ แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า วัดหลวงพ่ออุตตมะ ตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำ 3 สาย คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกัน ในปี พ.ศ. 2505 ได้รับอนุญาตจากกรมการศาสนาให้ใช้ชื่อว่า วัดวังก์วิเวการาม ซึ่งตั้งตามชื่ออำเภอเดิม คืออำเภอวังกะ-สังขละบุรี ซึ่งต่อมาถูกยุบเป็นกิ่งอำเภอ ก่อนที่จะยกฐานะเป็น อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีในปี พ.ศ. 2508


 :25: :25: :25: :25: :25:

วัดวังก์วิเวการาม ก่อสร้างด้วยศิลปะแบบพม่า มีพระพุทธรูปหินอ่อน และ งาช้างแมมมอธ มีเจดีย์พุทธคยาจำลอง สร้างจำลองแบบจาก เจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย โดยเริ่มก่อสร้าง พ.ศ. 2518 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2529 สะพานมอญ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ยาวประมาณ 900 เมตร

เมื่อ พ.ศ. 2527 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเมื่อกักเก็บน้ำแล้ว น้ำในเขื่อนเขาแหลมจะท่วมตัวอำเภอเก่ารวมทั้งบริเวณหมู่บ้านชาวมอญทั้งหมด ทางวัดจึงได้ย้ายมาอยู่บนเนินเขาในที่ปัจจุบัน หลวงพ่ออุตตมะได้จัดสรรที่ดินของวัดวังก์วิเวการามให้ชาวบ้านครอบครัวละ 30 ตารางวา ปัจจุบันหมู่บ้านชาวมอญมีพื้นที่ราว 1,000 ไร่เศษ มีผู้อาศัยราว 1,000 หลังคาเรือน ชาวบ้านเกือบทั้งหมดจัดเป็นผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่าซึ่งไม่มีบัตรประชาชน หาเลี้ยงชีพโดยการปลูกพืชผักสวนครัวตามชายน้ำ ทำประมงชายฝั่ง คนหนุ่มสาวส่วนหนึ่งนิยมเป็นลูกจ้างในโรงงานเย็บเสื้อที่อยู่ไม่ห่างจากหมู่บ้าน

ส่วนบริเวณวัดหลวงพ่ออุตตมะเดิม ปัจจุบันพระอุโบสถหลังเก่าจมอยู่ใต้น้ำ และมีชื่อเสียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand เป็นที่รู้จักในชื่อว่า วัดใต้น้ำ สังขละบุรี

________________________________
th.wikipedia.org/wiki/วัดวังก์วิเวการาม 
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2014, 11:48:13 am »
0


พยายามเก็บภาพสวยๆ ของเด็กขายดอกไม้ แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือนัก




เด็กสองคนนี้ เห็นปั๊บก็รู้ว่า เป็นพี่น้องกัน

ช่วงเวลาที่ขึ้นไปชมโบสถ์ มีนักท่องเที่ยวพอสมควร ประมาณไม่เกินห้าสิบคน

เก็บภาพบรรยากาศรอบๆโบสถ์ มาให้ชมครับ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2014, 06:58:36 pm »
0



ภาพนี้สังเกตเห็นมีหมาอยู่ตัวหนึ่ง สงสัยเหลือเกินมาได้อย่างไร ใครชั่งเอามาปล่อยทิ้ง หรือว่าเป็นหมาของเจ้าของเรือให้เช่า ครั้นจะว่าตามเจ้าของ(เด็กๆ)มาขายดอกไม้ก็น่าใช่

 :c017:
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

suchin_tum

  • ไม่กลับมาเกิด
  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 486
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2014, 08:05:03 pm »
0
ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
ขอน้อมอาราธนากำลังแห่งครูอาจารย์กรรมฐานมัชฌิมาจงมาประสิทธิ์ประศาสตร์

waterman

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 302
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2014, 07:16:14 am »
0
 thk56 thk56 thk56
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2014, 12:13:14 pm »
0









ภาพชุดนี้เป็นขากลับจากการชมโบสถ์กลางน้ำ ส่วนตัวผมเป็นลูกแม่น้ำ
ชื่นชอบบรรยากาศต่างๆของแม่น้ำ อยากให้บรรยายภาพไหนเพิ่มเติม ก็ขอกันมาได้ครับ ยินดีเป็นอย่างยิ่ง
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2014, 12:28:08 pm »
0


สะพานลูกบวบครับ กำลังจะเดินข้ามจากฝั่งวัดหลวงพ่ออุตตมะ ไปฝั่งตัวอำเภอสังขละบุรี


เวทีกลางน้ำที่เห็น เตรียมไว้แสดงโชว์ต่างๆในช่วงค่ำ ภาพนี้ถ่ายติดรุ้งเป็นภาพที่สอง

ภาพนี้ถ่ายติดรุ้งเป็นภาพที่สาม อยู่มุมล่างขวา
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2014, 12:48:12 pm »
0


ผู้ชายที่อยู่เดินตามหลังพระอาจารย์ คือ คุณธวัชชัย (ธรรมธวัช)

วันที่ไปสะพานลูกบวบชำรุดมากแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังซ่อม

ภาพนี้เป็นภาพที่สี่ ที่ถ่ายติดรุ้ง อยู่มุมล่างขวา



จุดนี้สะพานชำรุดมาก ยังไม่ได้ซ่อม เลยเป็นคอขวด การสัญจรคับคั่ง
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2014, 01:12:42 pm »
0


อีกประมาณ ๑๐ เมตร ก็จะถึงฝั่ง แต่ต้องเสี่ยงนิดนึง ต้องใช้แถวตอนเรียงหนึ่ง หวาดเสียวเล็กน้อย
ดูเหมือนจะมีคนไม่กล้าข้าม ยืนทำใจอยู่บนตลิ่ง

ภาพนี้เป็นภาพที่ห้า ที่ถ่ายติดรุ้ง

ถ่ายจากฝั่งตัวอำเภอสังขละบุรีครับ ภาพนี้หามุมอยู่หลายอึดใจ พยายามเลือกมุมสวยๆ

ภาพนี้เป็นภาพเด่น เด่นตรงเงาคนในน้ำ บังเอิญครับ ไม่มีเจตนาจะถ่ายเงาในน้ำ

ภาพนี้เป็นภาพที่ผมชอบที่สุด จำไม่ได้ว่า ถ่ายบนตลิ่งหรือถ่ายบนสะพานไม้
หากถามว่าชอบตรงไหน ชอบแนวสะพานที่ไม่เป็นเส้นตรง มันมีลีลายักย้ายเล็กน้อย


ความเป็นมาของเมืองสังขละบุรี

สังขละบุรี มีคำขวัญว่า “เมืองสามหมอก ดินแดนสามวัฒนธรรม” คือมีทั้ง ไทย มอญ กะเหรี่ยง มีสะพานไม้อุตมานุสรณ์ เป็นสัญลักษณ์เด่น ที่ใครมาก็ต้องมาเยือน สะพานไม้ที่ยาวที่สุดอันดับ2ของโลกแห่งนี้ พร้อมกับสัมผัสวัฒนธรรมแบบคนมอญ ทาแป้งมอญ การเทินของไว้ที่หัว และภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งมีแง่มุมทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกด้วย เจดีย์สามองค์

สังขละบุรี เป็นอำเภอที่ติดต่อกับชายแดนพม่า ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 215 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากอำเภอ ทองผาภูมิ 74 กิโลเมตร เมืองชายแดนแห่งนี้ รายล้อมด้วยธรรมชาติและขุนเขาอัน เขียวขจี มีแม่น้ำซองกาเลีย ไหลจากต้นกำเนิดในประเทศพม่า พาดผ่านอำเภอสังขละบุรีหล่อเลี้ยงผู้คนสองฟากฝั่งแม่น้ำ และเชื่อมสัมพันธ์ ชนชาติมอญทั้งสองประเทศ มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

แม่น้ำซองกาเลียจึงเป็นชื่อเรียกจากภาษามอญ แปลเป็นไทยว่า “ฝั่งโน้น” แม่น้ำซองกาเลียแบ่งแผ่นดินอำเภอสังขละบุรีออกเป็น สองฝั่ง
     - ฝั่งหนึ่งคือตัวอำเภอ ซึ่งรวม สถานที่ราชการ และสถานที่พัก สำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งคนส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่พูดภาษาไทย ภาคกลางส่วน
     - อีกฝั่งหนึ่ง เป็นหมู่บ้านของชาวมอญทั้งที่ตั้งรกราก มานานนับร้อยปี และเพิ่งอพยพเข้ามาใหม่สังขละบุรีเมืองที่ มีความงามหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม ของพี่น้องต่างเผ่าพันธุ์ ทั้งมอญ กระเหรี่ยง ไทย ลาว พม่า ฯลฯ

อำเภอสังขละบุรีมีชาวมอญอาศัยตั้งบ้านเรือนอยู่เป็นจำนวนมาก ตัวอำเภอตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า"สามประสบ" คือบริเวณที่ลำน้ำสามสาย อันได้แก่ห้วยซองกะเลีย ห้วยบิคลี่ และห้วยรันตี ไหลมาบรรจบกันเป็นของแม่น้ำแคว เมืองแห่งสายน้ำ ขุนเขา และผืนป่าอันอุดม

__________________________________________________
sangkla.sadoodta.com/content/ความเป็นมาของเมืองสังขละบุรี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 04, 2014, 01:22:07 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2014, 09:30:12 am »
0

เห็นแพของชาวบ้านแล้ว เข้าใจเลยว่า เศรษฐกิจที่นี่อยู่ด้วยการท่องเที่ยว




เห็นภาพนี้แล้ว รู้สึกถึงความอบอุ่นในครอบครัว


ภาพนี้จะเห็นเวทีจัดกิจกรรมทั้งบนน้ำและบนตลิง เวทีนี้จะใช้ในพิธีเปิดสะพานมอญอย่างเป็นทางการ


เก็บภาพบรรยากาศ ก่อนพิธีเปิดสะพานอย่างเป็นทางการ มาให้ชมครับ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2014, 09:45:41 am »
0

เจ้าหน้าที่เคลียพื้นที่ เพื่อติดตั้งและตรวจสอบพลุ ก่อนพิธีเปิด



ภาพที่เห็นเป็นฝั่งตัวอำเภอสังขละบุรี ฉากที่เห็นเป็นโรงแรม


สองภาพบนน่าจะเป็นเด็กชาวมอญนะครับ คงจะมาร่วมงานพิธีเปิด


เก็บบรรยากาศก่อนพิธีเปิดมาให้ชม ภาพทั้งหมดถ่ายที่ฝั่งตัวอำเภอสังขละบุรี
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2014, 09:57:04 am »
0

ความสุขของนักท่องเที่ยว เห็นชัดเลย

ความอบอุ่นของครอบครัว เห็นแล้วชื่นใจ





เจ้าหน้าที่ปิดสะพานลูกบวบ และเปิดให้ใช้สะพานมอญอย่างเป็นทางการแล้วครับ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2014, 10:07:26 am »
0


ภาพนี้เป็นภาพประวัติศาสตร์ พระอาจารย์กำลังกระทำภารกิจที่สำคัญที่สุดในทริปนี้ (ห้ามถามครับ)


อีกหนึ่งภาพประวัติศาสตร์ พระอาจารย์เป็นพระภิกษุองค์แรกที่เดินข้ามสะพานมอญ หลังจากเปิดเป็นทางการ


ในกลุ่มกรรมฐานมัชฌิมาฯ สระบุรี ถือว่า ภาพเหล่านี้สำคัญยิ่ง เป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์กรรมฐาน
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2014, 10:14:58 am »
0


เก็บภาพ "ยามเย็นบนสะพานมอญ" มาให้ชม


พลุเหล่านี้ จะถูกจุดในพิธีฉลองในช่วงค่ำของวันนั้น

พิธีฉลองการเปิดสะพานมอญ เริ่มแล้วครับ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2014, 10:33:37 am »
0
ขออนุโมทนาสาธุ

        และภาพนี้ก็คือ....ครูบาอาจารย์ของข้าพเจ้า

             และเป็น พระอาจารย์กรรมฐาน ที่สอนกรรมฐานแก่ข้าพเจ้า

                             ขออนุโมทนาสาธุ ในภารกิจของครูบาอาจารย์ทั้งหมด
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2014, 11:39:50 pm »
0


ฉันไม่เหลียวหลังแล้ว


     "อุตตมานุสรณ์" ครั้งคราแต่ท่านสร้าง     
บัดนี้คว้างทางไม้ให้บัดสี
สร้างใหม่ข้ามใช้ใหม่ฤกษ์ต้องมี       
ฉันจึงรี้มาวางฤกษ์เบิกสะพาน

     กิจธุระเมตตานั้นวางไม่ได้       
สังขละจึงต้องไปย่างจรจาร
ใช้ไก่แก้วตรึงตอกไว้ให้เอื้องาน       
ใครใช้ผ่านให้คลาดแคล้วสวัสดี

     ต่อแต่นี้สะพานมอญกะเหรี่ยงไทยข้าม
ไม่ต้องคร้ามคร้านสัญจรปรองดองมี
ดั่งสายน้ำสามประจบซองกาเรีย/บีคลี่/รันตี       
ร่วมศักดิ์ศรีผืนแผ่นดินร่วมราชัน

     ฉันได้มาใช่ใคร่มาประจักษ์แล้ว       
ยืนยลโบสถ์เห็นหลังแพร้วใช่อยากหัน
ป่วยไสยคุณพาลกระทำระยำฉัน       
สังขละมาประคองขันธ์แทบไม่ไหว

     สัญจรธรรมภาพพานำให้ท่านเห็น       
กิจบำเพ็ญเมตตานั้นไปเป็นไป
หน้าที่สงฆ์ฉันสืบสั่งชาติสุดท้าย       
หย่อนฝากฝังงานใช่ไหวคงแคล้วกัน.

                                                                 ธรรมธวัช.!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 22, 2014, 09:26:49 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ธันวาคม 08, 2014, 07:22:20 am »
0
อนุโมทนา สาธุ สำหรับ ภาพที่ยังมีมาให้ชม

และ อนุโมทนา กับคำกลอน ที่แต่งเกือบได้ครบเจตนา ที่ได้ไป

  st12
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2014, 10:19:54 pm »
0
 st11 st12 st12 thk56
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2014, 06:21:11 pm »
0
ย้อนดูภาพ  บารมีหลวงพ่ออุตมะ

    และครูบาอาจารย์
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "สะพานมอญ"...ฟ้าหลังฝนยังคงสดใส
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: มิถุนายน 01, 2015, 01:51:55 am »
0

     ชมภาพสัญจรครั้งก่อน ของพระอาจารย์
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา