ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เส้นทางสู่ความพ้นทุกข์ : ธรรมะยู-เทิร์น  (อ่าน 1766 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28431
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 

เส้นทางสู่ความพ้นทุกข์ : ธรรมะยู-เทิร์น
โดย อิทธิโชโต

เรื่องการขบฉันของพระป่าสมัยหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น อาหารการกินก็ลำบาก สมัยนี้ อาหารการกินของพระสบายมากกว่าญาติโยมด้วยซ้ำ แต่เรื่องจิตใจ เรื่องการภาวนาของพระสมัยนี้ กลับค่อนข้างจะหย่อนยาน แต่สมัยครูบาอาจารย์เคร่ง ตึง ตลอดเลยตั้งแต่ท่านบวชมาจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต ท่านก็ยังไปวิเวกอยู่

หลวงปู่มั่น ท่านไม่เคยคิดสร้างวัดเลย ไปไหนก็ไปอยู่เพียงชั่วเวลาหนึ่ง แค่ลานนั่งธรรมดาๆ ท่านก็อยู่ได้ แม้แต่ชาวบ้านที่พบท่านก็ยังตั้งคำถามว่า ท่านอยู่ได้อย่างไร ถ้าเป็นคนปฏิบัติธรรมจะมองเห็นว่า นี่แหละที่ทำให้ธรรมะปรากฏแก่จิตแก่ใจ ขณะเดียวกัน ก็เพราะธรรมะปรากฏแก่ใจแล้ว ท่านจึงอยู่อย่างนั้นได้ ถ้าเป็นพระที่ธรรมะยังไม่ปรากฏแก่ใจก็อาจจะถอนตัวแล้ว ไม่ไปธุดงค์ให้ลำบากดีกว่า ซึ่งไม่ใช่วิสัยของคนทั่วๆ ไปจะทำกัน แต่การออกวิเวกเป็นวิสัยของผู้รักสงบ ผู้หวังความพ้นทุกข์ ผู้หวังวิมุติในเบื้องหน้า ท่านก็จะฝ่าฟันกับความยากลำบากทุกอย่างทางกาย แต่จิตใจกลับเจริญขึ้นๆ ท่านจึงฝ่าฟันมาได้


 :25: :25: :25: :25: :25:

เวลาเราไปฟังครูบาอาจารย์ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่นโดยตรงเทศน์ ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่แหวน หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่ชา หรือหลวงตามหาบัว  เวลาท่านเล่า หรือเราอ่านจากบันทึกของท่าน ทำให้สะท้อนใจว่า ขนาดเราไม่ได้เห็นด้วยตัวเอง ยังรู้สึกว่า ลำบากขนาดนี้ ลำบากจริงๆ แล้วเราก็เกิดความปีติ มีความศรัทธาในปฏิปทาของท่าน ที่ท่านฝ่าฟันมา บุกเบิกมา คำสาธุการ มันจะเกิดขึ้นในจิตในใจของเราเอง

นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นผ่านมาแล้วไม่ถึงร้อยปี ไม่นานเลย ลองย้อนไปถึงพระพุทธเจ้า สองพันกว่าปี ท่านมาจากตระกูลกษัตริย์ ที่สละโลกออกบวช ท่านสมบูรณ์แบบเช่นนั้น หลวงปู่มั่น ลำบากขนาดนี้ พระพุทธเจ้าจะลำบากขนาดไหน


 st12 st12 st12 st12 st12

เมืองไทย ยังรู้จักพระ ยังรู้จักศาสนา พระต้องการข้าว ต้องการน้ำก็ให้ แต่พระพุทธเจ้าล่ะ สมัยก่อน ไม่มีใครรู้จักเลย เพราะสมัยก่อนคนนับถือเทวดา เทพ อินทร์ พระพรหม ผี ฯลฯ

อย่างไรก็แล้วแต่ สำหรับผู้ปฏิบัติธรรม ที่เดินบนเส้นทางนี้ แม้ลำบากสักเพียงใดก็ไม่ท้อถอย ถึงลำบากอย่างไรก็ต้องเดิน ลำบากอย่างไรก็ต้องไป เพราะพระนิพพานคือจุดหมายปลายทาง


 :96: :96: :96: :96: :96:

ย้อนมาดูเราๆ ท่านๆ สมัยนี้ พระพุทธเจ้าวางแผนที่ไว้ให้ ในเมืองไทยก็มีหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ที่เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ ท่านก็ได้วางแนวทางไว้ให้เช่นกัน  ทุกอย่างท่านก็สั่งสอนตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าเคยสั่งสอนมาแล้ว เหลือเพียงเราเท่านั้น ที่จะต้องเดิน ต้องภาวนา ตามแนวทางที่ท่านพบ และผ่านไป เมื่อท่านผ่านไป ท่านก็ยังมีความกรุณาต่อพวกเราทั้งหลาย ทั้งหมดจึงขึ้นอยู่กับเราทั้งนั้นว่าจะมีความอุตสาหะ พยายาม และความกล้าที่จะดำเนินรอยตามแค่ไหน เพียงใด


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20141206/197158.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

suchin_tum

  • ไม่กลับมาเกิด
  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 486
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เส้นทางสู่ความพ้นทุกข์ : ธรรมะยู-เทิร์น
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2014, 07:37:42 pm »
0
พระอาจารย์เสาร์ กันตะสีโล วัดเลียบ จ.อุบลราชธานี(อุปสมบท พ.ศ.2424)  ขึ้นกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ

 กับ พระสังวรานุวงเถร(เมฆ) แจ้งพระกรรมฐาน(สอบอารมณ์) กับพระสังวรานุวงศ์เถร(เอี่ยม)ครั้งเป็นพระครูสังวรสมาธิวัตร พระคณาจารย์เอก
     พระอาจารย์เสาร์ ท่านจําพรรษาอยู่วัดพลับ 3 ปีจึงจบ

       .........................................................................................

      ส่วนพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต อุปสมบท พ.ศ.2434 วัดคําบง(มหานิกาย)จ.อุบลราชธานี ท่านสัญจรมาสามองค์
มี พระภิกษุมั่น พระภิกษุสิงห์ (คนละองค์กับพระอาจารย์สิงห์) และพระภิกษุจัน

       สามองค์มาศึกษากรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับกับ พระสังวรานุวงศ์เอี่ยม จําพรรษาวัดพลับ 1 พรรษา

  จบเบื้องต้นสี่ห้องพระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ ทั้งสามองค์จบ ปีติ-ยุคล-สุข-อานาปานสติ

       ต่อมาพระสังวรานุวงศ์เถร (เอี่ยม) ได้แนะนําฝากตัวให้พระภิกษุมั่น-พระภิกษุสิงห์-พระภิกษุจัน ไปศึกษาต่อกับ พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโร จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นศิษย์ที่เรียน กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ ของวัดพลับมาแต่เดิม

       คุยคร่าวๆกับประวัติของท่านพระอาจารย์สองรูปนี้

ที่มา จากหนังสือ พระประวัติ สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน(เล่มสีแดง)isbn 978-974-88177-7-4

     
       
บันทึกการเข้า
ขอน้อมอาราธนากำลังแห่งครูอาจารย์กรรมฐานมัชฌิมาจงมาประสิทธิ์ประศาสตร์

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: เส้นทางสู่ความพ้นทุกข์ : ธรรมะยู-เทิร์น
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2014, 09:17:56 pm »
0


เฆี่ยนแซ้ดุรงค์พาล

     ชีพปราณมีเป็นทุน       กอบก่อบุญต้องลำเค็ญ
หวังธรรมเพียรยากเย็น       วิเวกปลีกเร้นธุดงค์
     เยื่องนี้เป็นตำนาน       ขรัวครูจารวัตรธำรง
กายพรากลูกเมียปลง       นิพพานคว้าสังสารวัฏฏ์ลา.

                                                             ธรรมธวัช.!



http://www.santidham.com/tudong/tudung.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 07, 2014, 09:26:26 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เส้นทางสู่ความพ้นทุกข์ : ธรรมะยู-เทิร์น
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2014, 10:22:15 pm »
0
           ประตูนั้นเปิดรอท่าน    เรียนสืบสานประเพณี

          ศึกษาลำดับมี       ยังทันครูผู้รู้วิชา

          ทุกข์นั้นมิอาจผ่านได้ หากมิรู้ใจในการกล่อมธาตุ

           เข้าสู่วิชาพระศาสตร์  เริ่มฝึกฝนไปจะได้รู้ทาง

            มีครูผู้ชี้ทางให้    คณะห้าอยู่ไหนราชสิทธาราม

          กรรมฐานโบราณลือนาม  วัดพลับคือนามเลื่องลือแดนชน

          การันตีด้านทางฝึกฝน   ประวัติครูบามากมายผ่านตา

          สมเด็จพระสังฆราชสุก  ไก่เถื่อน ไก่ป่ายังเชื่องเลยนะ

            ชาวพุทธแดนไกลทั่วหล้า ต่างก็ไหลมาศึกษาแก่นธรรม

            วัดพลับมีชื่อระบือ  ตราไว้ในใจแผ่นดินสยาม

            กษัตริย์ไทยหลายๆพระนาม  อุปถากอุ้มชูธำรงค์อาจารย์

              มรรคผลมิใช่เรืองฝัน  มิใช่ตำนานโบราณปรัมปรา

              ถามใจเราดูเถอะว่า    วันนี้แหละหนา อย่าไปกลัวใจ

               พระอาจารย์ต้อนรับทุกท่าน  ไปขึ้นกรรมฐานลงทะเบียนที่ใจ

              ตั้งธาตุตั้งธรรมใส่ให้   เสร็จแล้วกลับไปปฏิบัติบูชา

             วันนี้อย่าได้ประมาท อย่าพลาดโอกาสอันดีนี้หนา

            หลังกึ่งพุทธกาลไกล้มา  จะเสียเวลาหากไม่รีบไป

          .......................ศิษย์ธัมมะวังโส-อาโลโก

           

         
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา