ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ฝึกสมาธิมา 10 ปี ไม่พัฒนาขึ้นเลย ตอนนี้มาฝึกกสินดู เลยอยากถามจากผู้ที่ฝึกสำเร็จแ  (อ่าน 11119 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

numchut

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 5
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เราฝึกสมาธิมา 10 ปี กว่าๆล่ะฝึกตั้งแต่อายุ 16 ตอนนี้ 27 แล้ว รู้สึกไม่เกิดการพัฒนาเลย ยังมีนิวร อยู่ แต่บางครั้งนิวรไม่เกิด ก็ไม่ได้ไปไหน ยังอยู่ที่ขณิกสมาธิ เคยไปได้ไกลสุดแค่ เห้นนิมิตร เป็นผลึกแก้ว หมุนอยู่ตรงหน้า มีเสียงด้วย จนตกใจ หลุดออกจากสมาธิ จากนั้นทำอย่างไรก็ทำไม่ได้อีก ทำได้แค่ครั้งเดียว เลยหันมาฝึกสมถะกรรมฐาน ด้วยการมองกสิน
หลังจากอ่านตำราแล้ว ก็ลองปฏิบัติดู
เราเลือกกสินแสงสว่าง และจ้องดูแสงนั้น  ไม่นานประมาณ 3 นาที ก็เห็นเป้นมุก ประกายแสง สวยงามมาก และมันก็เลื่อนที่ไปมาด้วย  แต่ไม่รู้ว่าเราทำถูกหรือเปล่าว เพราะเราไม่ได้หลับตา เราลืมตาจ้องอยู่แบบนั้น พอหลับตา ภาพกสินก็หายไป เราเลยลืมตาจ้อง ประมาณ 15-20 นาที และเกิดความสงสัย เลยมาถามว่าเราทำถูกไหม ภาพที่เห็นคือ อุคนิมิต หรือการเมื่อยล้าของประสาทตา รบกวนผู้รู้ตอบด้วย
ส่วนท่านใดที่สำเร็จฌาณ 4 รบกวนช่วยถามพุทธบารมีด้วยว่า
เราฝึกถูกจริตไหม และพอจะมีทางสำเร็จไหม

อนุโมทนานะคับ
บันทึกการเข้า

เท่ากับผลรวม

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +11/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 169
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

เราฝึกถูกจริตไหม และพอจะมีทางสำเร็จไหม


อันนี้ไม่ทราบได้ครับ เพราะถ้าคุณชอบฝึกถูกจริต ก็น่าจะสำเร็จได้นะครับ
ส่วนการได้นิมิตนั้น เท่าที่ผมทราบมาในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับไม่สนใจเรื่องของภาพนะครับ

สนใจเพียงรัศมีเท่านั้น นะครับ

ส่วนถ้าจะตอบว่าปฏิบัติได้เป็นฌานหรือไม่ ผมว่าตนเองน่าจะรุ้คำตอบนะครับ
เพราะกสิณแสงนั้นให้ผลทางด้านการปฏบัติ

ปกติ อุคคนนิมิต คือ นิมิตที่ถือเอาไว้ได้ด้วยใจนะครับ ไม่ใช่ลืมตาแล้วเห็น หลับตาแล้วดับครับ
นิมิตกสิณ ต้องฝึกจากด้านนอกสู่ด้านใน ครับ

ผมคิดว่า น่าจะต้องเรียนถามพระอาจารย์ทางเมล นะครับ เพราะถามในห้องกระทู้ไม่ได้รับคำตอบหรอกครับ
เพราะการส่ง หรือ แจ้งกรรมฐาน จะแจ้งกรรมฐานเป็นการส่วนบุคคลครับ

 :s_hi:



ขอบคุณภาพจาก http://board.postjung.com
บันทึกการเข้า
ชีวิต นี้เพื่อพุึทธศาสน์

sakol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมว่า จขกท. รู้อยู่แล้วว่าได้อยู่แค่ ขณิกะสมาธิ นะครับ
ดังนั้นสำหรับ จขกท. ก็คงชอบวิธีการนี้อยู่

 แต่ผมเคยไปวัดราชสิทธาราม ตอนขึ้นกรรมฐาน หลวงพ่อพระครูให้อธิษฐาน อาโลกกะิสิณัง แล้วให้เพ่งใจเข้าไปดูจิตด้านในว่าเห็น อะไร ดังนั้นผมคิดว่า หลวงพ่อพระครูท่านก็สอนอาโลกกสิณพร้อมกับ พุทธานุสสติด้วยนะครับ


ขอบคุณภาพจาก http://www.dhammakaya.biz

ผมว่าคล้าย ๆ กับการเพ่งลูกแก้วแบบวัดธรรมกาย หรือ ไม่ครับ

 :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า

tasawang

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 116
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

 แต่ผมเคยไปวัดราชสิทธาราม ตอนขึ้นกรรมฐาน หลวงพ่อพระครูให้อธิษฐาน อาโลกกะิสิณัง แล้วให้เพ่งใจเข้าไปดูจิตด้านในว่าเห็น อะไร ดังนั้นผมคิดว่า หลวงพ่อพระครูท่านก็สอนอาโลกกสิณพร้อมกับ พุทธานุสสติด้วยนะครับ


 :smiley_confused1:

ส่วนนี้ตอนไปขึ้นกรรมฐาน และปฏิบัติกรรมฐาน ที่นั่นหลวงพ่ออธิษฐานให้ดูกาย ด้านในคะ
พูดถึงเรื่องกายนี้ เพื่อที่ไปเรียนที่ปากน้ำเคยพูดถึง 18 กาย ให้ฟังครั้งหนึ่งคะ

มีใครพอจะรู้เรื่อง 18 กาย บ้างคะ

 :67:
บันทึกการเข้า

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ลองเสริฃหาคำว่า กาย 18 ก็เจอจริง ๆ ครับ ใช่อันนี้หรือไม่ครับ

กายในภพสามนี้ ๘ กาย คือ
1. กายมนุษย์
2. กายมนุษย์ละเอียด
3. กายทิพย์
4. กายทิพย์ละเอียด
5. กายรูปพรหม
6. กายรูปพรหมละเอียด
7. กายอรูปพรหม และ
8. กายอรูปพรหมละเอียด และ

• กายที่พ้นภพสามหรือกายโลกุตตระ ๑๐ กาย คือ

1. กายธรรมโคตรภู
2. กายธรรมโคตรภูละเอียด
3. กายพระโสดา
4. กายพระโสดาละเอียด
5. กายพระสกทาคา
6. กายพระสกทาคาละเอียด
7. กายพระอนาคา
8. กายพระอนาคาละเอียด
9. กายพระอรหัต และ
10. กายพระอรหัตละเอียด

http://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=7333
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


ที่หามาได้อีกภาพนะครับ

ไปตามอ่านกันเองในเว็บนี้นะครับ เกรงใจเว็บ madchima นะครับเพราะกล่าวเรื่องวิชาธรรมกาย

http://www.gotoknow.org/blog/dhammakaya-misunderstand/254849?locale=en

 :s_hi:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 25, 2011, 02:35:47 pm โดย Hero »
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ

kira-d-note

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 119
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อาโลกแปลว่า แสงสว่าง  การพิจารณาแสงสว่างเป็นอารมณ์์ มีวิธีการดังนี้ คือ

ให้เรานึกเอารูปแสงสว่างกลมจ้า สุกใส   เป็นการบริกรรม นิมิต แล้วมาบริกรรมภาวนา ว่าอาโลกกสิณัง(อา-โล-กะ-กะ-สิ-ณัง)   จนภาพที่เห็นแสงสว่าง อาการของไฟ นั้นติดตา บริกรรมได้ขึ้นใจ จะเดินก็เห็น นั่งก็เห็น นอนก็เห็นไฟ ใจก็บริกรรมว่า  อาโลกกสิณัง อยู่ตลอดเวลา ใจก็เข้าถึงอารมณ์ฌาณ เมื่อสำเร็จ

เป็น   อาโลกกสิณ  แล้ว  เราสามารถ ที่จะขยับไป กสิณกองอื่นทั้ง  ๑๐  กองได้ 

องค์ คุณ ของกสิณกองนี้ ก็มีคือ จิตใจ ของผู้นั้นจะเบิกบานแจ่มใส ทิพยจักขุญาณเกิดขึ้นได้ง่าย

เมื่อทำำอาการของ สมถกรรมฐานในกองอื่น ที่ร่วม รวมกันเป็นองค์ประกอบของวัตถุ หรือ สิ่งมีชีวิต ก็ทำให้เกิดเป็นรูปร่างของสิ่งมีชีวิตนั้นได้(กสิณ ทั้ง ๑๐ )

http://jandatorn.net76.net/arlokakasin.html
บันทึกการเข้า
แก๊งค์ อ๊บ อ๊บ

paisalee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 382
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อ้างถึง
เราเลือกกสินแสงสว่าง และจ้องดูแสงนั้น  ไม่นานประมาณ 3 นาที ก็เห็นเป้นมุก ประกายแสง สวยงามมาก และมันก็เลื่อนที่ไปมาด้วย  แต่ไม่รู้ว่าเราทำถูกหรือเปล่าว

อยากทราบวิธีการ ที่เพ่งแสงหน่อยครับ ทำอย่างไรเล่าให้ฟังได้หรือไม่ครับ สนใจกสิณแสงเหมือนกันครับ

 :s_hi: :c017:
บันทึกการเข้า
บุญที่้ข้าพเจ้าได้ทำวันนี้ ขออุทิศให้แก่ บิดาและน้องชายที่ล่วงลับ มารดาที่ยังมีชีวิตอยู่

Lux

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 113
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ภาพที่เห็นไม่ใช่ ภาพอุคคหนิมิต คะ

เพราะภาพ อุคคหนิมิต ต้องถือเอาด้วยใจได้คะ คือ จะลืมตา หรือ หลับตา ก็ได้คะ ไม่หายไปคะ

แต่ก็อนุโมทนาด้วยคะ ดิฉันยังไม่ฟันธงนะคะเพียงกล่าวตามที่ตนเองได้ปฏิบัติมาจนถึงห้องพระอานาปานสติ

ตามครูอาจารย์สอนแล้ว ก็เห็นว่าไม่ใช่นะคะ

 :67:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 26, 2011, 08:47:56 am โดย Lux »
บันทึกการเข้า
อยากให้ทุกคนได้มีรอยยิ้ม มีความสุข แม้แบบชาวโลก
อยากให้ทุกคนไม่มีทุกข์ มีแต่สุข ในการภาวนา
อยากหนอ .... ก็ทุกข์หนอ ใช่หรือไม่จ๊ะ

numchut

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 5
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ยิ่งไขว่คว้า ยิ่งห่างไกล เซง

บันทึกการเข้า

poepun

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 134
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ยิ่งไขว่คว้า ยิ่งห่างไกล เซง



อาโลกแปลว่า แสงสว่าง  การพิจารณาแสงสว่างเป็นอารมณ์์

องค์ คุณ ของกสิณกองนี้ ก็มีคือ จิตใจ ของผู้นั้นจะเบิกบานแจ่มใส

อย่าพึ่งเซงครับ ยังมีลมหายใจอยู่ ก็มีโอกาสปฏิบัติภาวนาต่อไปได้ครับ ที่สำคัญเรามีกัลยาณมิตรช่วยกันแนะนำแล้วครับดีกว่า ฝึกไปด้วยตนเองครับ ก็น่าที่สำเร็จได้ ว่าแต่จุดประสงค์การฝึก กสิณแสงสว่าง นี้คุณ numchut มีเป้าหมายอย่างไรครับ ลองเล่าให้พวกผมฟังได้หรือไม่ครับ อย่างน้อยผมก็อนุโมทนากับคุณที่สามารถฝึกจนเห็นอุคคหนิมิต ภายนอกได้แล้ว ถ้าภาวนาต่อไป ผมก็ว่าโอกาสของคุณก็จะได้ อุคคหนิมิต ภายในเป็นลำดับต่อไปครับ

ดังนั้น อย่าพึ่ง เซง ครับ
เพราะผู้ฝึก อาโลกกสิณ นั้น มีอารมณ์แจ่มใส เป็นผลด้วยครับ

อนุโมทนาครับ

 :25:
บันทึกการเข้า

ratree

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 102
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คุณ numchut อย่าท้อนะคะ คุณไม่ได้เสียเวลาไปเปล่า ใน 10 ปี หรอกคะ

เพราะตอนนี้คุณภาวนามาถึงขึ้น อุคคหนิมิตภายนอก แล้ว ซึ่งตามลำดับ ก็เป็นภายในคะ

ตอนเป็นภายในเรียกว่า อุคคหนิมิต และ ปฏิภาคนิมิต คะ

พยายามต่อไปนะคะ

อนุโมทนาด้วยคะ

 :25:
บันทึกการเข้า

numchut

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 5
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คือจิต ของผม ชอบลอยไปลอยมาครับ ไม่อยู่นิ่ง ภาวาได้ นิดหน่อยก็ลอย กว่าจะรู้ตัวก็ไปซะไกล สร้างคอนโด อะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมดแล้วครับ
ส่วนจุดประสงค์ ก็ไม่มีอะไรครับ แค่ลองเปลี่ยนวิธีดู เพราะไปบวช หลวงพ่อให้ภาวนา และก็เรียนรู้ต่างๆจากตำรา
เลยลองมาพิจารณาตัวเองดูว่า 10 ปี ทำไมได้แค่นี้
ผมก็เลยมาฝึกกสินครับ
ส่วนที่เลือกแสงสว่างเพราะ มันจำง่ายเวลาหลับตาก็เห็นครับ
แต่ตอนนี้ผมมองกสินประมาณ 15 นาที และก็โน้มจิตมาที่จมูก และภาวนาโดยกำหมดลมหายใจเหมือนก่อน
ภาวนาไปๆมาๆรู้สึกหูอื้อๆ และมีอาการตึงๆตรงกลางหัว ตอนนี้ก็ยังไม่หาย ยังเป็นอยู่เลย
แต่ตอนเวลาเราทานข้าว หรือทำอะไรที่มันเพลินๆ ไปในทางกิเลส มันจะหาย
ผมเป็นอะไรครับ งง ตัวเอง
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
เราฝึกสมาธิมา 10 ปี กว่าๆล่ะฝึกตั้งแต่อายุ 16 ตอนนี้ 27 แล้ว รู้สึกไม่เกิดการพัฒนาเลย ยังมีนิวร อยู่ แต่บางครั้งนิวรไม่เกิด ก็ไม่ได้ไปไหน ยังอยู่ที่ขณิกสมาธิ เคยไปได้ไกลสุดแค่ เห้นนิมิตร เป็นผลึกแก้ว หมุนอยู่ตรงหน้า มีเสียงด้วย จนตกใจ หลุดออกจากสมาธิ จากนั้นทำอย่างไรก็ทำไม่ได้อีก ทำได้แค่ครั้งเดียว เลยหันมาฝึกสมถะกรรมฐาน ด้วยการมองกสิน
หลังจากอ่านตำราแล้ว ก็ลองปฏิบัติดู
เราเลือกกสินแสงสว่าง และจ้องดูแสงนั้น  ไม่นานประมาณ 3 นาที ก็เห็นเป้นมุก ประกายแสง สวยงามมาก และมันก็เลื่อนที่ไปมาด้วย  แต่ไม่รู้ว่าเราทำถูกหรือเปล่าว เพราะเราไม่ได้หลับตา เราลืมตาจ้องอยู่แบบนั้น พอหลับตา ภาพกสินก็หายไป เราเลยลืมตาจ้อง ประมาณ 15-20 นาที และเกิดความสงสัย เลยมาถามว่าเราทำถูกไหม ภาพที่เห็นคือ อุคนิมิต หรือการเมื่อยล้าของประสาทตา รบกวนผู้รู้ตอบด้วย
ส่วนท่านใดที่สำเร็จฌาณ 4 รบกวนช่วยถามพุทธบารมีด้วยว่า
เราฝึกถูกจริตไหม และพอจะมีทางสำเร็จไหม

อนุโมทนานะคับ



ผมจะคุยเป็นเพื่อนนะครับ

มรรค คือ ทาง ฉะนั้นเราจำเป็นต้องเดินบนทาง และขอให้พิจารณามรรค ๘ โดยละอียด

โดยเฉพาะ จิตตสิกขา หรือ สมาธิสิกขา

- สัมมาวายามะ (พยายามชอบ ได้แก่ ปธาน หรือ สัมมัปปธาน ๔)
- สัมมาสติ (ระลึกชอบ ได้แก่ สติปัฏฐาน ๔)
- สัมมาสมาธิ (ตั้งจิตมั่นชอบ ได้แก่ ฌาน ๔)


ขอให้ใช้โยนิโสมนสิการ (พิจารณาเป็นขั้นตอนโดยละเอียด)

การจะได้มาซึ่งสมาธิ จำเป็นต้องปฎิบัติตามมรรคทั้งสามข้อไปพร้อมกัน

คุณพยายามถึงที่สุดแล้วหรือยัง

คุณพบกัลยาณมิตร หรือ ครูบาอาจารย์ที่รู้จริงทั้งปฏิบัติและทฤษฏีแล้วหรือยัง

วันที่ ๑๒ มิถุนายนที่จะถึง ขอเชิญที่สระบุรี ที่บ้านคุณจิตตรี

ปัญหาที่คุณประสบอยู่ อาจจะบรรเทาลงได้

การเดินทางตามมรรค มันมีเวลาและระยะทาง เป็นตัวกำหนด

หากอินทรีย์(ศรัทธา วิิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา)คุณยังไม่แก่กล้า คุณไม่มีทางเห็นธรรม


ตามพระสูตรจะเห็นว่า พระพุทธเจ้าจะเลือกเทศน์กับคนที่อินทรีย์แก่กล้าแล้วเท่านั้น

ดังนั้น ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วม "อบรมอินทรีย์กันเถอะ"

 :welcome: ;) :49:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 28, 2011, 09:22:20 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ฝึกมาตั้ง 10 ปี ยังไม่ท้อถอย อย่ามาถอยตอนปีที่ 11 เลยนะจ๊ะ

ภาวนา พากเพียร ต่อไปเรื่อย ๆ เถิดนะจ๊ะ สงสัยใด ๆ ก็สอบถามมา

กัลยาณมิตร จะช่วยกันทุกท่าน

เจริญพร

 ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

numchut

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 5
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ภาวนาไปๆมาๆรู้สึกหูอื้อๆ และมีอาการตึงๆตรงกลางหัว ตอนนี้ก็ยังไม่หาย ยังเป็นอยู่เลย
แต่ตอนเวลาเราทานข้าว หรือทำอะไรที่มันเพลินๆ ไปในทางกิเลส มันจะหาย
 

อาการนี้คืออะไร บอกหน่อย
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ภาวนาไปๆมาๆรู้สึกหูอื้อๆ และมีอาการตึงๆตรงกลางหัว ตอนนี้ก็ยังไม่หาย ยังเป็นอยู่เลย
แต่ตอนเวลาเราทานข้าว หรือทำอะไรที่มันเพลินๆ ไปในทางกิเลส มันจะหาย
 

อาการนี้คืออะไร บอกหน่อย

อาการนี้น่าจะเีรียกว่า "ปิติค้าง" ในทางกรรมฐานมัชฌิมา พระอาจารย์สอนว่า

ก่อนออกจากการภาวนา ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆจนตัวตั้ง แล้วค่อยๆผ่อนลมหายใจออก

ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนรู้สึกว่า อาการเป็นปรกติ ความจริงสักสามครั้งก็น่าจะหายแล้ว

อยากให้คุณ numchut มาที่บ้านคุณจิตตรีในวันที่ ๑๒ มิถุนายนที่จะถึงนี้

เพราะบางเรื่อง ตอบทางเว็บบอร์ดไม่ได้ครับ

 :welcome: ;) :49:





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 30, 2011, 02:52:08 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
เราฝึกสมาธิมา 10 ปี ตั้งแต่อายุ 16 ตอนนี้ 27 แล้ว รู้สึกไม่เกิดการพัฒนาเลย ยังมีนิวรณ์ อยู่

ยิ่งไขว่คว้า ยิ่งห่างไกล เซง

จิต ของผม ชอบลอยไปลอยมาครับ ไม่อยู่นิ่ง ภาวะได้ นิดหน่อยก็ลอย ผมก็เลยมาฝึกกสินแสงสว่างภาวนาโดยกำหมดลมหายใจเหมือนก่อน ภาวนาไปๆมาๆรู้สึกหูอื้อๆ และมีอาการตึงๆตรงกลางหัว ผมเป็นอะไรครับ งง ตัวเอง

การขวนขวายภาวนาเป็นเรื่องดี เพียรไปอย่าละวาง ผมเองเริ่มภาวนาเมื่ออายุ 9 ขวบ ติดอยู่ที่ปิติยาวนานถึง 30 ปี หาคำตอบไม่ได้ ก้าวหน้ากว่านี้ไม่มี กระทั่งมาพบพระอาจารย์ชี้นำจึงนับว่าเป็นบุญ 12 มิถุนายน มาพบกันให้ได้นะครับ ทางสว่างมีรออยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 31, 2011, 06:08:06 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา