ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การถือ ธุดงค์ บางครั้ง ก็ไม่ได้เป็นไปเพื่อการดับกิเลส มีตัวอย่างพระพุทธพจน์  (อ่าน 3065 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
พระวินัยปิฎก  ปริวาร  [อุปาลิปัญจกะ]
 ๖.  ธุดงควรรค  เล่มที่  8  หน้า 627 ฉบับจุฬา


พระผู้มีพระภาคตรัสว่า    “อุบาลี    ภิกษุผู้ถือการฉันเฉพาะในบาตรนี้มี    ๕    จำพวก
๕    จำพวก    คือ
 ๑.    เพราะเป็นผู้โง่เขลา    งมงาย    จึงถือการฉันเฉพาะในบาตร
 ๒.    เป็นผู้มีความปรารถนาเลวทราม    ถูกความอยากครอบงำ    จึงถือ การฉันเฉพาะในบาตร
 ๓.    เพราะมัวเมา    จิตฟุ้งซ่าน    จึงถือการฉันเฉพาะในบาตร

 ๔.    เพราะเข้าใจว่า    พระพุทธเจ้า    พระสาวกของพระพุทธเจ้าสรรเสริญ จึงถือการฉันเฉพาะในบาตร 
๕.    เพราะอาศัยความมักน้อย    สันโดษ    ขัดเกลา    ความเงียบสงัดและ เพราะอาศัยว่า    การฉันเฉพาะในบาตร    มีประโยชน์อันงามนี้    จึงถือ การฉันเฉพาะในบาตร
   อุบาลี    ภิกษุผู้ถือการฉันเฉพาะในบาตรมี    ๕    จำพวก    นี้แล”
   ธุดงควรรคที่ ๖ จบ

 



   หลาย ๆ ท่าน มักเข้าใจว่า ธุดงค์ นั้นมีความบริสุทธ์ ที่ี มรรค ผล นิพพาน ในครั้งนั้น ท่านอุบาลี ก็ทูลถามพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงจำแนกให้รู้โดยนัย 5 ประการ ของผู้ออกธุดงค์ โดยยกเรื่องการฉันในบาตร เป็นวัตร ให้ฟังประการหนึ่ง   

     พวกที่ 1 ทำสักว่า ทำตาม ทำมาอย่างไร ก็ทำไปอย่างนั้น จึง นั่งบ่นก่นว่า ผู้อื่อนบ้างว่า ไม่ฉันในบาตร ก็ยังดี ที่ยังรักษา ประณีต ประเพณี อยู่

     พวกที่ 2  มีจิตแอบแฝง ต้องการสร้างภาพ เพื่อ โลกธรรม 8  อันนี้หนัก ดังนั้นจะเห็นว่า พระธุดงค์ปลอมชอบ ขอเงินญาติโยม ส่วนตัวเคยเจอมาหนึ่งครั้่งแล้ว ที่ขอเงินกันอย่าง ซึ่งหน้า บิณฑบาตขอเป็นเงินไม่เอาอาหาร ( เฮ้อ นี่แหละเขาเรียกว่า ธุดงค์ )

     พวกที่ 3 ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยฟุ้งซ่าน อยู่ตรงแต่เรื่อง นี้ วัน ๆ เอาแต่เรื่องนี้ จนภาวนาแท้ ๆ ไม่ได้ทำกัน  บางท่านก็ ธุดงค์ทุกวัน เป็น เดือน เป็นปี แต่แก่นสาร ก็ได้แต่เพียงเรื่องความอดทน ๆๆๆๆๆ จนไม่รู้ว่า จะอดทนไปเพื่ออะไร ( เฮ้อ แบบนี้ ฟุ้งซ๋านมาก ก็บอก คืนสิกขา เท่านั้น แหละ )

     พวกที่ 4 นี่ดีขึ้นมาหน่อย เพราะมีความเคารพพระพุทธเจ้า จึงถือวัตรตามพระพุทธเจ้า แต่ถ้าไม่เข้าใจ ขาดความเคารพ ก็ไม่ต่างอะไรกับพวกที่ 1

     พวกที่ 5  พวกนี้มีแก่นสาร อ่านก็รู้แล้ว






     
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 29, 2013, 11:58:27 am โดย arlogo »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ปัจจุบัน เรื่อง การเดินธุดงค์ ไม่ค่อยเหมาะสม แล้ว ในภาคกลาง แต่ยังมีเหมาะสมอยู่ ใน ภาคเหนือ อิสาณ สาเหตุมาจากเส้นทางการเดินธุดงค์ นั้นมีความสำคัญ เพราะ อันตรายจาก ยานยนต์ ที่เฉี่ยวชน พระธุดงค์ ทั้งเสียชีวิต และพิการ มีมากขึ้น

   

 http://www.dailynews.co.th/crime/22324

 
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
อยากให้ท่านทั้งหลาย ทำความเข้าใจ
 กับคำว่า ธุดงค์ และ จาริก
 ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกัน แต่คนละเรื่องราว


บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา

ครูนภา

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +25/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 608
  • ภาวนา ร่วมกับพวกท่าน แล้วสุขใจ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st12 st12 st12

   พึ่งทราบ คะ ว่าปัจจุบัน มีพระธุดงค์ ถูกรถเฉี่ยวชน คะ นึกว่าไม่มี เสียอีก

 
บันทึกการเข้า
ศรัทธา ปัญญา ขันติ ความเพียร คุณสมบัติผู้ภาวนา
ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่าน ที่เป็นกัลยาณมิตร