ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: กรรมของคนไทย ทำกันไว้เอง ตอนที่ ๑.  (อ่าน 3256 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28362
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
กรรมของคนไทย ทำกันไว้เอง ตอนที่ ๑.
« เมื่อ: มิถุนายน 02, 2010, 07:10:59 pm »
0
กรรมของคนไทย ทำกันไว้เอง
(ถึงเวลามาแก้กรรมกันเสียที)

ธรรมกถาของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต)


- ๑ -
เจอวิกฤตการเมือง คือเจอจุดพลิกฟื้นคนไทย

๑.๑ คนทั่วไป พอกายป่วย ใจก็ป่วย
ลองมองดูคนเจ็บคนไข้ที่ว่าสุขภาพร่างกายไม่ดี ถูกโรคเบียดเบียน เมื่อร่างกายเจ็บป่วย จิตใจก็มักจะไม่สบายไปด้วย พอจิตใจไม่สบาย ก็เกิดปัญหาข้างในหลายอย่าง เช่น ท้อแท้ หดหู่ เซื่องซึม เหงาหงอย เบื่อหน่าย เป็นต้น บางทีก็ถึงกับเครียด คับแค้นใจ หมดหวัง สิ้นหวัง ฯลฯ เหล่านี้ เราถือว่าเป็นสภาพจิตที่ไม่ดี เป็นความป่วยทางจิตใจ กลายเป็นว่า ไม่ได้ป่วยแต่กายอย่างเดียว ใจก็ป่วยไปด้วย เลยอ่อนแอป้อแป้ไปหมด นี่แค่คนเจ็บคนไข้เท่านั้น

๑.๒ ใช้ปัญญาพลิกฟื้นใจ ให้เป็นผู้กระทำ
เรามาพิจารณากันดู เอาแค่ที่คนไข้ก่อนว่า เมื่อคนไข้ถูกโรคภัยไข้เจ็บโจมตีทางร่างกายนั้น ก็บอบช้ำไปด้านหนึ่งแล้ว เรียกว่า ถูกกระทำทางด้านร่างกาย คือ ร่างกายถูกโรคมันทำเอา

แต่ปัญหายังเกิดซ้อนขึ้นมาอีกว่า ทั้งที่ความจริงนั้น โรคไม่ได้ไปทำอะไรกับใจของเขาเลย ใจของเขาก็อยู่เป็นปกติ แต่กลายเป็นว่า ด้านที่ถูกกระทำมากที่สุด กลายเป็นจิตใจ พอกายถูกกระทำแล้ว ใจก็พลอยถูกกระทำด้วย ทั้งๆ ที่ใจอยู่ดีๆ แต่กลายเป็นตัวถูกกระทำไปเสียนี่

ปัญหาสำคัญที่ตรงนี้ ก็คือ คนทำตัวให้เป็นผู้ถูกกระทำไปเสีย ใจพลอยไปถูกกระทำ เหมือนกับที่กายได้ถูกกระทำ แต่ที่จริงนั้น ใจไม่ได้ถูกโรคกระทำอะไรเลย แล้วใครทำล่ะ ก็ตัวนั่นแหละทำเสียเอง เพราะฉะนั้น ต้องจับจุดนี้ให้ได้ คือ ก็อย่าให้ใจถูกกระทำซิ นี่มันเรื่องอะไรล่ะ เราถูกกระทำ เราก็แย่

แม้แต่แค่เป็นฝ่ายตั้งรับก็ไม่เอา อย่าทำอย่างนั้น เราต้องเป็นผู้กระทำต่อมันจริงๆ นะ ใจเรายังเป็นอิสระอยู่นี่ เราเพลี่ยงพล้ำไปบ้าง ก็ด้านเดียวเท่านั้น อีกด้านหนึ่งยังเป็นของเราเต็มที่ ต้องวางท่าทีให้ถูก


ขณะนี้ร่างกายของเราถูกโรคกระทำแล้ว เราก็พลิกตัวขึ้นมาเป็นผู้กระทำต่อโรค ทางกายก็หันไปทำต่อมัน คือทำการบำบัดรักษา และทางใจที่เป็นอิสระอยู่ ก็ช่วยให้กำลังเสริมเข้าไป แล้วยังมีปัญญาซึ่งสำคัญที่สุดอีกตัวหนึ่ง เอาปัญญานั้นมาใช้หาทางเป็นฝ่ายกระทำให้ได้ผลดีที่สุด

จุดสำคัญข้อแรก ก็คือ เรายอมตัวเป็นผู้ถูกกระทำ หรือทำตัวเราให้เป็นผู้ถูกกระทำเสียเอง จึงเสียท่า เสียกระบวนไปหมดเพราะฉะนั้น ต้องคอยนึกไว้ คือ มีสติบอกตัวเองไว้ ไม่ว่าต่อเรื่องอะไร เราต้องเป็นผู้กระทำ อย่าปล่อยตัวลงไปให้ถูกกระทำ ถ้าเราผันตัวขึ้นมาเป็นผู้กระทำได้ จิตใจจะดีขึ้นมาเองเลย
 
พอเจอกับสถานการณ์ ดูท่าชักจะไม่ดี สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ ต้องได้สติตั้งหลัก และรู้ตัวขึ้นมาเลยว่า นี่... ทำไมเอาตัวของเราลงไปเป็นผู้ถูกกระทำเสียล่ะ อย่าทำตัวเองอย่างนั้น หยุด..แล้วตั้งตัวขึ้นมาเป็นผู้กระทำซะ พอเริ่มเป็นผู้กระทำ เราก็เข้มแข็ง มีกำลังขึ้นมาทันที

ถ้าเป็นผู้ถูกกระทำ เราก็ยอบแยบ อ่อนแอ ป้อแป้ ปวก เปียก แล้วก็มีแต่จะถอย จะแพ้ จะสูญเสีย และจะหมด จะสิ้น เราจึงต้องเป็นผู้กระทำต่อปัญหาให้ได้

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต)

๑.๓ พอเหลียวดูเห็นคนอื่นที่เขาทุกข์กว่า ทุกข์ของเราก็เล็กลงมาทันใด
ขอแทรกนิดหนึ่ง เดี๋ยวจะลืมไป วิธีคิด วิธีมอง ก็เป็นเรื่องสำคัญ คนที่เป็นโรคภัยไข้เจ็บ บางทีก็ไปหมกมุ่นครุ่นคิดอยู่กับเรื่องตัวเองว่า เราแย่แล้ว นี่เราจะเป็นอย่างไรต่อไป เราจะไม่มีชีวิตที่ดี เราจะมีแต่ความทุกข์ เราจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ นี่ก็คือมัวไปหวาดกลัว มัวแต่ท้อแท้ มัวหมดหวัง มัวแต่เสียใจ ก็เลยมองเห็นแต่เรื่องทุกข์และเรื่องร้าย แล้วก็จมอยู่ในนั้น

แต่ความจริง ถ้ามองให้ดี เหลียวดูทางอื่นบ้าง มองให้กว้างออกไป ก็จะเห็นว่า ที่เราเป็นโรคนี้นั้น เรามีฐานะอย่างนี้ อยู่ในภาวะอย่างนี้ ยังขนาดนี้ แล้วคนอื่นอีกไม่น้อยเลยก็เป็นโรคอย่างเรานี้ หลายคนก็ยิ่งกว่านี้ แล้วคนที่เขายากจนแร้นแค้น ไม่มีเงินจะใช้จ่ายในยามจำเป็น ไม่มีญาติมิตรดูแล เขาเจ็บป่วยเจอเคราะห์อย่างนี้ จะยิ่งแย่ขนาดไหน

พอมองดูให้ทั่วๆ ออกไป กลายเป็นว่า ความเจ็บป่วยของเรานี่เรื่องเล็กแล้ว คนอื่นที่เขาทุกข์ยิ่งกว่าเรามีเยอะแยะ ทีนี้ ก็คิดสงสารคนอื่น กลายเป็นว่าโรคภัยมาเตือนเรา ให้เราคิดสงสารเห็นใจเพื่อนมนุษย์ ให้รู้จักมอง รู้จักเหลียวแลดูทุกข์ภัยของมนุษย์ทั้งหลาย นอกจากว่าเราจะได้ไม่ประมาทแล้ว ก็คิดหาทางว่าจะช่วยเหลือเขาอย่างไรต่อไป

เมื่อไรหายโรค เราจะต้องไปช่วยคนอื่นเป็นการใหญ่คิดอย่างนี้ก็เลยกลายเป็นบุญเป็นกุศล บางทีก็เลยหายโรคไปแทบไม่รู้ตัวอย่างน้อย ถึงแม้ตัวเองจะมีโรคภัยมาก ยากจน ไม่มีทรัพย์ ไม่มีฐานะอะไร ก็ยังมองเห็นได้ว่า คนที่อยู่ในภาวะที่แย่กว่าเรายังมีอีก เพราะฉะนั้น อย่ามัวครุ่นคิดจับเจ่าจมอยู่กับเรื่องเศร้าของตัวเอง การปล่อยใจอย่างนั้น มีแต่จะทำให้ยิ่งทุกข์ ยิ่งเลวร้ายไปกันใหญ่


เมื่อใจไม่มัวทุกข์มัวเศร้า ก็เอาปัญญามาใช้แก้ปัญหา บำบัดเยียวยาให้หายโรค และบำรุงรักษาร่างกายให้ดีที่สุดที่จะทำได้ถึงสังคมจะเลวร้าย บ้านเมืองไทยยามนี้จะวิกฤต ก็ยังไม่ร้ายเท่าที่อื่นหลายประเทศ ยังไม่หมดสิ้นอย่างครั้งเผากรุงเก่า อยู่ที่เราคนไทยจะใช้ปัญญาค้นหาเหตุปัจจัยของปัญหา และรวมกำลังกันแก้ไขป้องกันไม่ให้มีอันเป็นไปอย่างในบทเรียนแห่งความวิบัติเช่นนั้น

- จบตอนที่ ๑ -


บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: กรรมของคนไทย ทำกันไว้เอง ตอนที่ ๑.
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 14, 2010, 03:57:16 pm »
0
แล้วตอนต่อไปละ อยู่ไหนอะ  จะอ่านต่อ
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28362
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: กรรมของคนไทย ทำกันไว้เอง ตอนที่ ๑.
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 09:34:08 pm »
0

ตอนที่ ๒. คลิกลิงค์นี้ครับ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2782.msg9689#msg9689
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ