พิมพ์

[raponsan]

อาหาร 11 อย่าง "ที่จะเสียอย่างแน่นอน" หากคุณเก็บไว้ในตู้เย็น

ตู้เย็นและอาหารเป็นของคู่กันในการทำให้อาหารของเรายังคงโภชนาการไว้อย่างครบถ้วนและสดใหม่ โอกาสในการเกิดแบคทีเรียจะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดหากเราเก็บอาหารไว้ที่อุณหภูมิระหว่าง 1-3 องศาเซลเซียส แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกอย่างที่ควรเก็บไว้ในตู้เย็น

บางอย่างอาจจะเสีย สูญเสียรสชาติ หรือแม้แต่คุณค่าทางโภชนาการไป การรู้ว่าอาหารใดที่ควรจะเก็บไว้นอกตู้เย็นเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรรู้

นี่คือเหตุผลที่เราได้เตรียมรายการอาหาร 11 อย่างยอดนิยมที่จะเสียได้หากคุณพลาดไปเก็บไว้ในตู้เย็น บางอย่างคุณอาจจะรู้อยู่แล้ว แต่เชื่อไหมว่าคุณจะต้องประหลาดใจอย่างแน่นอน

@@@@@@

1. มะเขือเทศ
จำได้ไหมที่ผมบอกว่าคุณจะต้องประหลาดใจ? ผมมั่นใจว่าคงมีหลายคนที่เก็บมะเขือเทศไว้ในตู้เย็นทุกวัน! แต่จริง ๆ แล้วคุณกำลังสร้างความเสียหายให้กับผักแสนอร่อยนี้อยู่ รสชาติของมะเขือเทศจะแย่ลงเมื่อแช่ในตู้เย็นเพียงไม่กี่ชั่วโมง เมมเบรนของมะเขือเทศจะพังและเนื้อสัมผัสจะเปลี่ยนไปด้วย ในทางตรงกันข้ามหากคุณเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง มะเขือเทศจะยังสามารถรักษารสชาติที่อร่อยไว้ได้ระยะเวลาหนึ่ง

2. กาแฟ
แม้ว่าจะจริงอยู๋ที่กาแฟต้องการที่เย็น ๆ เพื่อให้มันสดใหม่ แต่อุณหภูมิในตู้เย็นนั้นต่ำเกินไป หลายคนที่รู้ก็จะเลือกเก็บกาแฟไว้ในลิ้นชักในครัวแทน นอกจากนี้กาแฟควรที่จะเก็บในภาชนะที่ปิดสนิทเพื่อรักษาคุณภาพเอาไว้ สำหรับเมล็ดกาแฟก็เช่นกัน คุณเพียงต้องเก็บมันให้ห่างจากแสงสว่าง ความร้อน และความชื้น

3. น้ำผึ้ง
น้ำผึ้งเป็นหนึ่งในอาหารไม่กี่อย่างที่สามารถเก็บรักษาได้ในสภาวะธรรมชาติเป็นเวลานาน ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์เลยที่จะเก็บไว้ในตู้เย็น แม้ว่าคุณจะไม่เคยทำก็ตาม แต่ก็คงมีคนเคยทำแน่ นั่นเป็นความคิดที่แย่มากและนี่คือเหตุผลว่าทำไม เมื่อน้ำผึ้งถูกเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่ำใกล้เคียง 0 องศาเซลเซียส มันจะกลายเป็นเกล็ด ทำให้เทและเกลี่ยยากเนื่องจากเนื้อมันหนามาก และสิ่งที่แย่กว่านั้นคือการเก็บน้ำผึ้งไว้ในตู้เย็นเป็นเวลานานยังทำให้สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย

@@@@@@

4. ช็อกโกแลต
ผมคงไม่ว่าคุณหรอกถ้าคุณเลือกที่จะเก็บช็อกโกแลตไว้ในตู้เย็นในช่วงที่อากาศร้อนแทบไหม้ เพราะมันคงเป็นที่เดียวในบ้านที่คุณสามารถวางใจได้ว่ามันจะไม่ละลายหรือนิ่มเกินไป แต่คุณไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นในช่วงที่สภาพอากาศเป็นปกติ! ช็อกโกแลตได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มาแล้วว่าจะเปลี่ยนแปลงรสชาติไปหลังจากเก็บในที่อุณหภูมิต่ำ สิ่งที่เรียกว่า “Sugar Bloom” จะเกิดขึ้นเมื่อคุณนำช็อกโกแลตออกจาตู้เย็น ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เนื้อสัมผัสของช็อกโกแลตเสีย พร้อมกับทำให้ประสบการณ์ในการรับประทานของคุณแย่ลงด้วย

5. เนยถั่ว
เนยถั่วจะมีเหตุผลที่คล้ายกับน้ำผึ้ง หากคุณต้องการรับประทานเนยถั่วที่เกลี่ยง่าย เป็นครีม (และอร่อย) ผมขอแนะนำให้เก็บในที่อื่นที่ไม่ใช่ตู้เย็น แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นอยู่หนึ่งอย่าง เนยถั่วธรรมชาติ 100% มีพฤติกรรมที่แตกต่างออกไปจากแบรนด์ชื่อดัง มันจะเสียทันทีหากไม่เก็บในตู้เย็น ดังนั้นหากคุณไม่แน่ใจว่าเนยถั่วของคุณเป็นเนยถั่วธรรมชาติหรือไม่ ลองตรวจสอบส่วนประกอบดูเพื่อให้แน่ใจว่าต้องจัดเก็บแบบไหนถึงจะไม่สูญเสียรสชาติไป!

6. กล้วย
อย่างที่คุณรู้ว่ากล้วยเป็นผลไม้หน้าร้อน นี่คือเหตุผลว่าทำไมมันจึงยังคงรักษารสชาติและคุณค่าทางโภชนาการเอาไว้ได้ที่อุณหภูมิห้อง แล้วทำไมทุกคน (หรือบางคน) ถึงชอบเอาไปเก็บในตู้เย็นกันนะ? หลายคนให้เหตุผลว่าที่ทำแบบนี้เพราะพวกเขาต้องการให้กล้วยสุกงอมช้าลง ปัญหาก็คือกระบวนการนั้นนี่แหละที่ทำให้กล้วยมีรสชาติที่นุ่มละมุนและนิ่ม เซลล์ในกล้วยจะได้รับความเสียหายเมื่อถูกเก็บในตู้เย็นมากกว่า 5 วันติดต่อกัน ดังนั้นโปรดระวังและอย่ากลัวที่จะเก็บกล้วยไว้นอกตู้เย็น!

@@@@@@

7. เครื่องเทศทุกชนิด
ไม่มีเหตุผลใดที่คุณต้องเก็บเครื่องเทศไว้ในตู้เย็น ไม่มีเลย! เครื่องเทศสามารถอยู่ได้เป็นระยะเวลาหลายปีโดยเก็บไว้นอกตู้เย็น ไม่เพียงแค่นั้น มีบางคนเคยพูดว่าเครื่องเทศจะเสียรสชาติถ้าหากเก็บในที่อุณหภูมิต่ำ! เรามีวิธีง่าย ๆ ในการขจัดความกลัวที่จะเก็บเครื่องเทศไว้นอกตู้เย็น หากคุณเก็บไว้นานแล้ว คุณเพียงแค่ต้องดมเพื่อดูว่าเสียหรือยัง หากคุณได้กลิ่นแปลก ๆ ก็ทิ้งไปได้เลยโดยไม่ต้องกังวล ปัญหาเดียวก็คือเครื่องเทศจะไม่มีประสิทธิภาพเท่าเดิม

8. มะเขือยาว
ถึงเวลาสำหรับผักชนิดที่สองในรายการของเราแล้ว! มะเขือยาวเป็นหนึ่งในผักที่ไวต่อการเปลี่ยนอุณหภูมิที่สุด มันไม่ชอบอากาศที่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป! การแช่อยู่ในตู้เย็นเป็นเวลานานจะสร้างความเสียหายให้กับมะเขือยาว การเก็บมะเขือยาวไว้ในที่อุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียสมีผลต่อทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัส นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณควรเก็บมะเขือยาวไว้ที่อุณหภูมิห้องและแยกออกจากผักและผลไม้อื่น ๆ

9. หัวหอม
หัวหอมถือเป็นหนึ่งในผักที่จะอยู่ได้นานขึ้นหากเก็บไว้นอกตู้เย็น ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องแช่เลย เนื่องจากหัวหอมมีโอกาสที่จะขึ้นราเมื่อเก็บที่อุณหภูมิต่ำ แต่ระวัง หัวหอมจำเป็นต้องเก็บในที่ที่มีการหมุนเวียนของอากาศ นี่คือเหตุผลว่าทำไมร้านที่ขายหัวหอมจึงให้มาพร้อมกับถุงตาข่ายเมื่อเราซื้อหัวหอม ดังนั้นหากไม่มีความจำเป็นที่ต้องเก็บที่อื่น พยายามเก็บในถุงนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

@@@@@@

10. ซอสมะเขือเทศ
ผมรู้ว่าคุณคงนึกไม่ถึงแน่ ๆ คุณคงจะคิดว่า “ใคร ๆ ก็รู้ว่าต้องเก็บซอสมะเขือเทศไว้ในตู้เย็น” และแน่นอน ที่ข้างขวดซอสมะเขือเทศส่วนใหญ่มักจะเขียนไว้ว่าให้เก็บไว้ในตู้เย็นหลังจากเปิด แต่เหตุผลเดียวที่พวกเขาเขียนไว้เช่นนั้นก็เพราะต้องการทำให้แน่ใจว่าจะไม่เสียแน่ ๆ โดยทั่วไปแล้ว ซอสมะเขือเทศมีสารกันบูดมากมายเพื่อช่วยให้มันยังสดใหม่ที่อุณหภูมิห้อง นี่คือเหตุผลว่าทำไมเวลาคุณไปร้านอาหารจึงเห็นขวดมะเขือเทศตั้งอยู่บนโต๊ะได้เป็นเวลานาน

11. น้ำมันมะกอก
สุดท้ายคือน้ำมันมะกอกของโปรดเรานั่นเอง! น้ำมันที่ใช้ปรุงอาหารจะต้องเก็บไว้ในสภาพอากาศดังนี้: ในที่มืดและเย็น (ประมาณ 10 องศาเซลเซียส) พร้อมกับต้องเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท การใส่น้ำมันมะกอกเข้าไปในตู้เย็นเป็นเวลานาน เมื่อเอาออกมาคุณจะเห็นมันจับตัวกันคล้ายเนย! สิ่งที่คุณควรรู้คือ มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าสารต้านอนุมูลอิสระจะหายไปหลังจากผ่านไป 6 เดือน


ขอบคุณที่มา :-
https://www.crunchposts.com/th/อาหาร-11-อย่างที่จะเสียอย/?utm_source=taboola&utm_medium=khaosod-khaosod&utm_campaign=4970213&utm_content=2905982435#tblciGiBdlveR261aOvbxI4Zd_T7qpwxBtIMxBiCzeg7yTy8-tyCDrUw