'โรคปากเสีย' คือ 'โรคชอบต่อกรรม' : หลวงพ่อฤาษีลิงดำหลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี สอนวิธีแก้ปากเสีย (วจีกรรม 4) โดยให้หลักไว้ดังนี้...
โรคปากเสีย คือ โรคชอบต่อกรรม เมื่อถูกกระทบทางทวารทั้ง 6 (ประตูทั้ง 6, อายตนะ 6) (ประตูทั้ง 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ อายตนะสัมผัส 6 คือ รูป เสียง กลิ่น รส สิ่งที่มากระทบผิวกายและธรรมารมณ์) เพราะอุเบกขาหรือวางเฉย ไม่เป็น เบรกจึงแตกอยู่เป็นปกติ มีผลทำให้กรรมบถ 10 หมวดวาจา 4 ไม่เต็มสักที (กรรมบถ 10 หมวดวาจา 4 มี ไม่พูดโกหก, ไม่พูดคำหยาบ, ไม่พูดส่อเสียดหรือพูดนินทาผู้อื่น และไม่พูดเรื่องไร้สาระไม่เกิดประโยชน์)
@@@@@@
วิธีปฏิบัติ
ก) พยายามคิดเสียก่อนจึงค่อยพูด
ข) พยายามคิดอยู่ตลอดเวลาที่ฟังคนอื่นเขาพูด
ค) พยายามดึงจิตอย่าให้ไหวไปตามคำพูดของผู้อื่น (โดยฟังอย่างเดียว ห้ามปรุงแต่งธรรมนั้น ๆ)
ง) พยายามฟังแล้วกรองเอาสาระจากคำพูดนั้น ๆ ของเขาว่ามีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ (ด้วยปัญญา)
จ) เวลาคนอื่นเขาพูด จะยาวหรือสั้นปล่อยให้เขาพูดให้จบก่อน เราใช้ความคิดฟังไปแล้วจะรู้ว่า คำพูดนั้น ๆ มีสาระหรือไม่มีสาระ ควรพูดหรือไม่ควรพูดต่อ หรือควรวาง ควรตัด ก็รู้ได้ด้วยความคิด ไม่ใช่ประโยคไหนมากระทบหูแล้วอยากจะพูดก็ว่าไปเรื่อย ๆ โดยไร้ความคิดพิจารณา
ฉ) หากทำตาม 5 ข้อแรกแล้ว คิดอยากจะพูดบ้าง ก็ให้พิจารณาว่าพูดแล้วเป็นคุณหรือเป็นโทษ, มีสาระหรือไม่มีสาระ, ยิ่งเป็นสาระธรรมในพระพุทธศาสนายิ่งสำคัญ จะต้องมั่นใจเสียก่อนว่าเป็นความจริง ไม่ผิดศีล-ไม่ผิดพระวินัย-ไม่ผิดพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ผิดก็พูดได้
สรุปว่าต้อง นิสสัมมะ กรณัง เสยโย หรือใคร่ครวญด้วยปัญญาเสียก่อนจึงค่อยพูด เพราะแม้จะเป็นความจริง แต่พูดแล้วคนฟังไม่เชื่อ-ไม่ศรัทธา ก็ไร้ประโยชน์ที่จะพูดขอบคุณที่มา :-
https://www.naewna.com/likesara/435440?fb_comment_id=2918782211529537_2920366661371092รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน เพจ คำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง