ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - มะเดื่อ
หน้า: 1 2 [3] 4 5
81  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / หลวงพ่อนวล พระเกจิดังเมืองโคราช มรณภาพ เมื่อ: สิงหาคม 07, 2011, 08:11:22 am
หลวงพ่อนวล พระเกจิดังเมืองโคราช มรณภาพ

 

พระเทพสีมาภรณ์ หรือหลวงพ่อนวล รองเจ้าคณะ จ.นครราชสีมา และเจ้าอาวาสวัดบึง (พระอารามหลวง) มรณภาพแล้ว หลังเข้ารับการรักษาอาการอาพาธด้วยโรคตับอักเสบและมะเร็งตับ พระราชทานน้ำสรงหลวงสรงศพ 6 ส.ค. นี้...

 

เมื่อเวลา 17.30 น. 5 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ศาลาการเปรียญปทุมญาณมุนี วัดบึง (พระอารามหลวง) อ.เมืองจ.นครราชสีมา ภายหลังทราบว่า พระเทพสีมาภรณ์ หรือหลวงพ่อนวล เขมสัจจะวาที  รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา และเจ้าอาวาสวัดบึง (พระอารามหลวง) ได้มรณภาพแล้ว

 

โดยพบพระเมธีรัตโนดม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบึง (พระอารามหลวง) รักษาการเจ้าอาวาสวัดบึง พร้อมด้วยพระภิกษุสามเณร และพุทธศาสนิกชน ต่างกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อใช้ประกอบพิธีพระราชทานน้ำสรงหลวงสรงศพพระเทพสีมาภรณ์ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 6 ส.ค. นี้

หลังจากเมื่อเวลา 07.44 น. คณะแพทย์รพ.มหาราชนครราชสีมา ได้ลงความเห็นว่า พระเทพสีมาภรณ์ มรณภาพด้วยโรคมะเร็งตับและตับอักเสบ หลังจากเข้ารับการรักษาอาการอาพาธดังกล่าวมานานกว่า 1 เดือน โดยทางวัดบึงจะมีการสวดอภิธรรมจนถึงวันที่ 11 ส.ค. และจะมีพิธีบำเพ็ญกุศลเก็บศพในวันที่ 13 ส.ค.นี้

สำหรับพระเทพสีมาภรณ์ (หลวงพ่อนวล) เจ้าอาวาสวัดบึง (พระอารามหลวง) อายุ 73 ปี 53 พรรษา เปรียญธรรม 7 ประโยค, พธ.ม. (กิตติมศักดิ์) ชื่อเดิม นวล เสมสันเทียะ บ้านเดิมอยูเลขที่ 5 ม.4 ต.สายออ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา บรรพชาเมื่อวันที่ 12 ก.ค.2497 ณ วัดโคกสวย ต.สายออ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา มีพระสีหราชสมาจารมุนี (เพ็ง คงคปัญโญ) เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2502 ณ พันธสีมาวัดบึง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา

ส่วนวิทยฐานะ ปี พ.ศ.2495 สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนประชาบาล ต.สายออ อ.โนนไทย ปี พ.ศ.2499 สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก สำนักศาสนศึกษาวัดบึง ปี พ.ศ.2519 สอบไล่ได้เปรียญธรรม 7 ประโยค สำนักศาสนศึกษาวัดบึง ปี พ.ศ.2541 ได้รับการประทานปริญญาพุทศาสตรมหาบัณฑิตกิตตมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

 

การศึกษาพิเศษ สามารถเขียน-อ่านอักษรขอมได้เป็นอย่างดี ความสามารถพิเศษ เป็นพระธรรมกถึก วิทยากรปาฐกถา บรรยายธรรม เป็นพระนักอนุรักษ์โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ

ปี พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระกิตติรามมุนี ปี พ.ศ.2546 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่พระราชสีมาภรณ์ และปี พ.ศ.2552 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศเป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพสีมาภรณ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา, หัวหน้าศูนย์ครูปริยัติเทศก์จังหวัดนครราชสีมา, เจ้าอาวาสวัดบึง, เจ้าสำนักศาสนศึกษาวัดบึง, ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดบึง, ผู้จัดการโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดบึงกิตติวิทยา, ผู้ชำนาญการพิเศษ และที่ปรึกษารองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยวิทยาเขตนครราชสีมา

พระเทพสีมาภรณ์ (หลวงพ่อนวล) ถือเป็นพระเกจิของเมืองโคราช โดยวัตถุมงคลรุ่นท้ายของท่านได้แก่รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ 2 เทพ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ) และพระเทพสีมาภรณ์ (หลวงพ่อนวล) ซึ่งได้มีการประกอบพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ที่สุดในเมืองโคราช เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2553 ที่ผ่านมา ณ พระอุโบสถวัดบึง

 

 

ข่าว : ไทยรัฐ
6 สิงหาคม 2554
82  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.alittlebuddha.com/ อะลิตเติ้ลบุดดา เมื่อ: สิงหาคม 07, 2011, 08:09:10 am




http://www.alittlebuddha.com/

อะลิตเติ้ลบุดดา
83  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: วันนี้เป็นวันครู หลังเข้าพรรษา ( อันที่จริงยังเข้าใจว่าขึ้นกรรมฐาน ใหญ่ วันนี้ ) เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2011, 09:29:44 am
ที่จริงผมก็คิดว่า วันนี้ตามที่เคยอ่านประกาศในเว็บจากเมื่อก่อนเหมือนกันครับ แต่ถึงจะใช่วันนี้ก็ไม่ได้ไปอยู่ดีครับ ก็อนุโมทนาด้วยครับ แม้จะผ่านมาแล้ว หรือเป็นวันนี้ เพราะกรรมฐาน ภาวนาเมื่อไร ก็ได้ผลเมื่อนั้นนะครับ

 อีกอย่าง ที่ วัดราชสิทธาราม คณะ 5 หลวงพ่อพระครูสิทธิสังวร ก็เปิดโอกาส เข้าไปศึกษาขึ้นกรรมฐานได้ทุกวันอยู่แล้วนะครับ

  :49:
84  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ทำอย่างไร ให้ใจวางจาก อคติ ครับ เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 08:58:46 am
หลายครั้ง หลายหน ที่ทำงานแล้ว ก็จะมี อคติ ที่ต่อต้านบ้าง ไม่สนับสนุน ไม่เห็นด้วย ถึงแม้สิ่งที่คนทั้งหลายจะทำเป็นเรื่องถูก แต่ความไม่ชอบใจ ก็เกิดขึ้น รวมถึงการปฏิบัติภาวนาด้วยครับ บางครั้งเห็นเขานั่งกรรมฐาน ไปฟังธรรมจากบุคคลที่เราไม่ชอบใจ ก็จะเกิด อคติ ไม่ชอบ

  แต่ อคติ ที่เกิดก็ไม่ใช่ว่า จะไม่มีเหตุผล นะครับ เพราะบางครั้งผมก็ถูกกลั่นแกล้ง จากบุคคลเหล่านี้ ก็เลยที่จะทำจิตผมไม่มี อคติ นี้ไม่ได้ ผมเห็นว่าโทษของ อคติ ที่มีเกิดขึ้นทำให้สังคมรอบด้านเดือนร้อน เพราะความอคติ ของเราทำให้งานบางอย่าง ถูกเก็บหมกไว้ เพราะอคติ

  ดังนั้น มีการภาวนาใด ๆ บ้าง ที่จะนำ อคติ จากใจผมออกไปได้ จากคนที่เบียดเบียน ผมอยู่ครับ

  ขอบคุณครับ

 :c017:
85  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ชีวิต หลังจากตาย แล้ว มีจริงหรือไม่ เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2011, 03:08:00 pm
เรื่องนี้ผมเชื่อครับ เพราะเคยเจอมากันตนเองแล้ว ครับบอกจริง ๆ ว่า กลัวครับ
แต่เรื่องผ่านไปนานหลายปีแล้ว ครับ พอมาปัจจุบันได้ศึกษาหลักธรรม ก็รู้ว่า จะกลัวไปทำไม เราเองก็ต้องตาย
แล้วก็ต้องเวียนว่ายตายเกิด เช่นกัน

 :hee20hee20hee: :hee20hee20hee: :hee20hee20hee:
86  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ควรนั่งสมาธิ นานเท่าไร ต่อ วัน สำหรับมือใหม่ หัดปฏิบัติ เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2011, 03:05:41 pm
ผมหัดนั่งใหม่ ก็ประมาณ 20 - 30 นาที ครับ
กะว่าพอ เหน็บกินแล้ว ก็เลิก ครับ ทำอยู่อย่างนี้ประจำหลายปี ตั้งแต่ ป6 ครับ

ก็หลายปีมากแล้ว ก็ยังนั่งได้ยังไม่นานเช่นกันครับ

 :34: :13:
87  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / Re: ประสบการณ์สเก็ตชกรรม "นี่เขาหลอกหรือเราโง่" เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 07:56:36 am
ก่อนอื่นสวัสดีทุกๆท่านที่เคยเข้ามาแล้วงงว่าทำไมคนเขียนมันหายหน้าไป...
เพราะว่าอาทิตย์ที่แล้ว wireless router  เสียจึงทำให้เล่นเน็ตไม่ได้ไป 1อาทิตย์แบบลงแดงโคตรๆ...
ช่วงเวลาที่ผ่านมาผมได้นั่งๆนอนๆแบบไม่ต้องเล่นเน็ตก็เลยมีเรื่องรอบตัวที่คันปากอยากแชร์สู่กันฟัง...

ก็เลยจดหัวข้อเอาไว้เผื่อว่าจะได้เอามาเขียนจริงๆจังๆเสียที
โดยเรื่องที่เขียนก็คงเป็นเรื่องรอบตัวของคนที่มีอายุระหว่าง 20 ถึง 30 ปีเนี่ยแหละครับ

เริ่มจากเรื่องแรกกันเลยดีกว่า...

ตามล่าหากรรม~.txt

 

วันก่อนผมมีโอกาสได้ไปเดินตามร้านหนังสือและก็ดูทีวีบ้างพบว่า
เดี๋ยวนี้มีนวัตกรรมใหม่ที่จะทำให้ใครต่อใครได้รู้เรื่องเกี่ยวกับกรรมที่ตัวเองเคยทำไว้เมื่อก่อนหน้านี้
ซึ่งหลังจากที่ดูแล้วก็มานั่งคิดว่า มันกำลังจะกลายเป็นกระแสนี่หว่า
เพราะหลังจากที่สื่อจับอะไรมาสร้างกระแสได้ สื่อก็จะปั่นๆๆๆๆๆๆ...
เรียกว่าถ้าเรื่องติดลมบนก็จะได้หากินกับเรื่องนั้นๆไปนานๆไม่ต้องเสียเวลา
ไปหาเรื่องใหม่ๆ... เช่นเรื่องเด็กชายเคอิโงะเป็นต้น...

นวัตกรรมที่เล่นกับกรรมนี้อาจนำไปสู่เทคโนโลยีนำสมัยที่จะทำให้คุณ
เข้าถึงกรรมเก่าที่เคยทำไว้ได้ง่ายขึ้นก็ได้ เลยขอแนะนำนวัตกรรมต่อยอดซึ่งมี
คอนเซ็ปต์เดิมของการเล่นกับกรรมดังนี้...

 
เครื่องสแกนกรรม

บ่อยครั้งที่ท่านมีกรรมติดตัวแต่ไม่รู้ว่าเคยมีกรรมเอาไว้มากเท่าไหร่

หรืออยากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของท่านแล้วล่ะก็ขอแนะนำ

เครื่องสแกนกรรม

เพียงติดตั้งไว้ที่ไหนก็ได้แล้วเสียบปลั๊ก
เมื่อเดินผ่านหากท่านมีกรรมมากเท่าไหร่
เครื่องก็จะส่งสัญญาณบอกจำนวนกรรมที่ท่านเคยทำไว้เท่านั้น
เครื่องนี้อาจเหมาะกับสถาณศักดิ์สิทธิ์ต่างๆที่ผู้บริสุทธิ์เท่านั้นจะผ่านไปได้
หากไม่บริสุทธิ๋เครื่องนี้จะสามารถบอกได้ทันที

เรียกว่าสะดวกในการค้นหาำจำนวนกรรมกันเลยทีเดียว

...

...

อะไรนะครับ... เครื่องนี้คิดว่าไม่ละเอียดพอใช่ไหมครับ

แน่นอนว่าเรามีนวัตกรรมใหม่ที่จะมาเสนอท่านอย่างแน่นอนครับ


เครื่องเอ็กซ์-เรย์กรรม

หากเครื่องสแกนกรรมทำงานไม่โดนใจท่านเพราะไม่สามารถระบุกรรมที่แน่นอนได้แล้ว
เราขอแนะนำเครื่องเอ็กซ์-เรย์กรรมที่ทำงานเหมือนเครื่องเอ็กซ์-เรย์ทั่วไป
เพียงท่านผ่านการฉายรังสีเอ็กซ์-เรย์กรรมแล้วเครื่องจะทำงานถ่ายฟิล์มออกมาเป็นภาพให้ท่านเห็น
โดยอาจจะต้องใช้ผู้ชำนาญในการอ่านฟิล์มกรรมของท่านแล้วแจงออกมาว่ามีกรรมอะไรบ้าง
เครื่องนี้ค่อนข้างชัดเจนแทบจะบอกได้เลยว่าส่วนไหนของร่างกาย
ทำกรรมอะไรไว้บ้าง เรียกว่าหลังจากที่เอ็กซ์-เรย์กรรมแล้ว

ท่านสามารถนำฟิล์มเอ็กซ์-เรย์กรรมไปอวดคนที่บ้านหรื่อเพื่อนๆได้อย่างสบายใจเชียว
ว่าท่านนี่ก็มีกรรมมากมายไม่แพ้ชาวบ้านเหมือนกัน

แต่หากท่านคิดว่าเครื่องมือนั้นทำงานไม่สเถียรพอเราอาจจะต้องนำท่านกลับมาสู่
ระบบ Manual ในการสืบหากรรมอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแน่นอนเลยทีเดียวว่าไม่มี
เครื่องมือใดที่จะสามารถสืบหาอะไรที่เป็นสิ่งที่อ่อนไหวได้เท่ากับมนุษย์อีกแล้ว

ดังนั้นเราของแนะนำผู้เชี่ยวชาญเรื่องกรรมอย่างแท้จริงให้ท่าน ณ บัดนี้!!!


คนค้นกรรม!!!

ไม่มีอะไรละเอียดและเจาะลึกได้เท่านี้อีกแล้ว
เพียงท่านติดต่อไปยังรายการคนค้นกรรม
ทางรายการจะทำการสืบเสาะเคาะกรรมเก่าของท่านออกมาเป็นช็อตๆ
พร้อมเหตุการณ์สมมติเหมือนกับเห็นจริงๆ
แถมถ้าท่านคิดว่ากรรมท่านมีไม่พอที่จะหากันในรายการเพียงครั้งเดียว
ทางรายการจะสืบค้นกรรมท่านต่อในตอนที่สอง ตอนที่สาม
จนกว่าสปอนเซอร์จะส่ายหน้ากันเลยทีเดียว

กรรมไหนทำเมื่อไหร่ทีมงานคนค้นกรรมสืบหาได้ละเอียด
ท่านอาจนำหลักฐานจากเครื่องสแกนกรรมและฟิล์มเอ็กซ์-เรย์กรรม
มาประกอบรายการเพื่อช่วยแถลงความละเอียดก็ได้

เรียกว่านอกจากรู้เวลาทำกรรมที่เคยลืมไว้ยังไม่พอยังรู้สถานที่ชัดเจนอีกด้วยว่าเคยทำที่ไหน

ไม่มีอะไรละเีอียดไปกว่านี้อีกแล้ว!!!

นอกจากนี้เรายังขอแนะนำตัวเสริม

หากท่านค้นหากรรมตัวเองไม่พอยังอยากไปหากรรมคนอื่น
ครั้นจะบอกให้ไปเดินผ่านเครื่องสแกนกรรมหรือพาไปเอ็กซ์-เรย์กรรม
ก็คงจะไม่ยอมแน่ๆขอแนะนำ


สุนัขหากรรม!!!

แม้จะเหมือนหมาบางแก้วธรรมดา
แต่นี่ไม่ใช่!!!

นี่เป็นสุนัขหากรรม นวัตกรรมใหม่แห่งกรมตัมมะหรวด

หากมีกรณีคนมีกรรมลอบเข้าประเทศ

ไม่มีอะไรไวกว่าสุนัขหากรรมอีกแล้ว!!!

จมูกที่ไวต่อกรรมเป็นอย่างดีย่อมทำให้เหยื่อที่แบกรับกรรมไว้
ไม่สามารถที่จะปกปิดกรรมไว้ได้ไม่ว่าจะซ่อนเร้นที่ไหนก็ตาม

และเชื่อว่าหากท่านคิดจะัดังด้วยกรรมแล้ว
ควรไปออกรายการที่จะช่วยท่านปั่นกระแสจากกรรมของท่าน
ให้ชาวบ้านดูอย่างยืดเยื้อเป็นเดือนๆได้

ขอแนะนำ!!!


เกมทศกรรม!!!

จะมีแค่ 10 กรรม มากกว่านั้นมาพิสูจน์ว่าท่านมีกรรมมากพอที่จะยืดเยื้อ
ต่อรายการไปถึงสัปดาห์หน้าได้หรือไม่!!!
ท่านจะเอาชนะตำแหน่งแชมป์เกมทศกรรมที่เคยทำกรรมไว้ 219 กรรมได้รึเปล่า???
ขอให้รีบมา!!!

เพียงท่านออกรายการวันละ 2-3 กรรมก็จะช่วยให้รายการยืดเยื้อไปได้เป็นเดือนๆกันเลยทีเดียว...

นอกจากนี้ยังคิดว่ามีธุรกรรมเกี่ยวกับกรรม(โอ๊ย!!! พิมพ์เองงงเอง)
มาเสริมให้สำหรับท่านที่มีกรรมแล้วอยากแก้กรรม

ไม่ว่าจะเป็นบ่อล้างกรรม ฝักบัวล้างกรรม เครื่องล้างกรรม
เพียงท่านเดินผ่านน้ำที่ไว้ล้างกรรมท่านก็จะหายจากกรรมเก่าที่ท่านทำมาได้

หรือจะเป็นเทคโนโลยีเท่ๆ เช่นเครื่องช้อนกรรม เครื่องคีบกรรม กรรมCatcher เพียงท่านหยอดเหรียญ 10 บาท
แล้วบังคับคันโยกให้มาคีบกรรมออกจากท่านหากแม่นพอสามารถคืบได้ทั้งกรรมเล็กกรรมใหญ่เพื่อแลก
ของรางวัลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาเม่นสายไฟฟ้าโซนิค นาฬิกาสุดหรู ไปถึงไอโพนกันเลยทีเดียว

เชื่อว่าเรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นใกล้ตัวท่านเร็วๆนี้!!!

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จากผู้เขียน

ผมไม่อยากเชื่อเลยล่ะว่าคนเรามันจะเอากรรมของคนมาเล่นได้ถึงขนาดนี้
จริงๆแล้วคนเราทำอะไรผิด ส่วนต่างๆของร่างกายมันย่อมฟ้องออกมาอยู่ดี
มีแต่คนที่หลอกตัวเองหรือคนที่ขาดสามัญสำนึกเท่านั้นแหละที่ทำกรรมอะไรไว้แล้วไม่รู้ว่ามีกรรมอะไร
สมองคนเรามันก็ไม่ได้โง่พอที่จะลืมเรื่องเก่าๆที่เคยทำได้หรอก

แต่มันก็เป็นเรื่องของสื่อที่ประโคมกันเข้าไปว่าการค้นหากรรมนั้นเป็นเรื่องที่เป็นอุทาหรณ์สอนคนดู
ให้ระวังไม่ให้ทำกรรม แต่ไอ้กรณีที่เห็นกันปัจจุบันผมว่ามันเป็นกรรมการตลาดมากกว่า
เอากรรมมาแสดงให้เห็นเป็นเรื่องๆเพื่อให้เห็นเป็นเรื่องสนุกของคนดู

อีกหน่อยก็คงบานปลายกลายเป็นเรื่องงมงายอีกแหละ

นี่แหละการเล่นสนุกของสื่อกับกระแสความเชื่อของคนไทย

เฮ้อ~!

----------------------------------------------------------------------------------------------------

ผมอยากลองเขียนเรื่องรอบตัวไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ผ่านๆมาจากประสบการณ์หรือเรื่องที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ผ่านมุมมองของผมเอง เพราะว่าแต่ละเรื่องที่เกิดขึ้นล้วนมีนัยให้ขบคิดอยู่เสมอๆ
ซึ่งตอนนี้ก็มีอยู่หลายๆเรื่องเต็มหัวเลยทีเดียวซึ่งคาดว่าคงจะเป็นประโยชน์ทางความคิด
กับผู้อ่านด้วยอยากให้เอาเรื่องต่างๆที่ผ่านๆมาเอามาแชร์กันเพื่อที่จะทำให้เกิดการพัฒนาตรรกะ
หรือความคิดของทั้งผู้อ่านและผู้เขียนดูสักครั้ง

(ไม่รู้ว่าอย่างตอนนี้ผมเอามาเล่นสนุกแรงไปหรือเปล่า ถ้าแรงไปก็ช่วยบอกกันด้วยนะครับ)

แต่ที่สำคัญ... ตอน Scroll ขึ้นไปนี่ ตูเขียนไปได้ยาวขนาดนี้ได้งัยฟะเนี่ย...

เฮงๆ กันทุกท่านครับ...

edit @ 31 May 2009 23:14:44 by yingheng

ขอบคุณเจ้าของบทความ http://yingheng.exteen.com/
88  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / ประสบการณ์สเก็ตชกรรม "นี่เขาหลอกหรือเราโง่" เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 07:50:03 am
ผมอ่านแล้ว รู้สึกชอบกับเรื่อง ครับ เอามาให้อ่านต่อนะครับขอบคุณผู้เขียนด้วยครับ



เห็นมีคนถามเรื่องเปิดกรรมเราไม่ทราบแต่ทำให้นึกถึง เรื่องนี้ขึ้นมาได้ ทุกวันนี้ยังเป็นเรื่องฮาตลอดกาลในหมู่เพื่อนฝูง พูดถึงเรื่องนี้ทีไรโนล้อทุ๊กที...

  2-3 ปีก่อนช่วงเครียดหนักๆมีเพื่อนแนะนำให้ไหดูหมอสเก็ตช์กรรม เพื่อนก็โทรไปนัดให้ ปรากฏว่าได้คิวดูอีกที 6 เดือนข้างหน้าแล้วก็ต้องโอนเงินให้ก่อน 1000 บาทไม่งั้นไม่รับจองคิว เราก็กะว่าจะไม่ดู จ่ายก่อนตั้งพันได้ดูอีกทีครึ่งปีหน้า ถ้าลืมวันนัดไม่ไปก็ไม่มีชดเชย ปฏิเสธไป อีกวันเพื่อนโทรมาบอกว่าหมอเขาลัดคิวให้ เห็นว่าเดือดร้อนให้มาพรุ่งนี้ 10โมง ห้ามมาสายนะ เพราะหลังจากนี้ไม่มีคิวให้แล้ว เต็มหมดทั้งวัน 

  โอวว...ใจดีจัง ลัดคิวให้ด้วย ก็เลยตกลง แต่ต้องโอนเงินก่อนนะ โอเค  โอนก็โอน

  อีกวันก็ไป ขับรถไปชานเมือง ไกลมาาาก ไปถึงจอดรถหน้าบ้านตอน 9.45 ก็โทรเข้าไปบอกว่าเราไปถึงแล้ว

  "ฮัลโหลครับ ผมถึงหน้าบ้านแล้วครับผม"
  "นัด 10 โมงไม่ใช่เหรอ รอไปก่อน หมอกะลังทานข้าว " แล้วก็วางสายไป

   โอเค...ตอนนั้นคิด กุผิดเองที่เจือกมีมารยาทมาก่อนเวลา
   
   แต่ขอโทษ  คนเปิดประตูมาเปิดให้เข้าไปตอน 10.15

   พอเข้าไป โอ้วว... นึกว่าสวนลุมพินีวัน (มีแต่เก้งกับกวาง)

   ...ตัดมาตอนสเกตชกรรม  เราก็ทำโน่น นี่ นั่น ตามที่เขาบอก  หมอหลับตานิดนึงแล้วลืมตามาบอกเราว่า

   " ไม่เห็นอะไรเลย..."
 
   " ห๊ะ !! ...ยังไงครับ " ไอ่เราก็ถามแบบ งงๆ

   " ไม่เห็นอะไรเลย ไม่เห็นเจ้ากรรมนายเวร ไม่เห็นกรรมเก่า ก็เลยไม่รู้จะบอกให้ไปแก้ที่อะไร" หมอตอบงี้เลย จำได้ว่าตัวเราเองคงทำหน้ามึน อ้าปากค้างอยู่พักนึง หมอเลยบอกว่า

" สวดมนต์ไหว้พระเยอะๆละกัน นั่งสมาธิขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวรด้วยวันละ 15นาทีอย่างน้อย" โอเค คำแนะนำดี  แต่ตะกี้บอกว่าไม่มีเจ้ากรรมนายเวรไม่ใช่เหรอ แล้ว กุจะแผ่จะขออโหสิให้ใครอ่า

" ก็ไม่มีเจ้ากรรมนายเวรไม่ใช่เหรอครับ  แล้วผมจะแผ่ให้ใครอ่า "

หมอเงียบไปพักนึง ไม่ตอบ เขียนกระดาษยิกๆ

" ดวงคุณไม่ดีหมอแนะนำให้คุณสวดมนต์ทุกวันนะ เอาตามนี้ละกัน เดี๋ยวอะไรๆก็ดีขึ้น" หมอตัดบทแบบนี้ แล้วก็พูดโน่น นี่ นั้่น นิดหน่อย มาสรุปที่เขาให้คิวเรา 30 นาที ตอนนั้น 10โมงครึ่งกว่าๆเขาก็ไล่เราน่ะแหละ บอกว่าเดี๋ยวคิวต่อไปจะมาแล้ว

  ขอโทษ...คิวเรา 10.30น. เลขามันมาเปิดให้เราเข้าบ้าน 10.15น. แต่ให้เรากลับออกไปตอน 10.30น.กว่าๆ  เด็กป.1 ยังนับถูกเลยว่ามันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง  แต่เอาเหอะอยู่ไปก็เท่านั้น เจ้ากรรมนายเวรคงไม่โผล่เพิ่มขึ้นมาหรอก  เราโอนเงินไปแล้วนิ  ตอนนั้นเริ่มเซ็งๆเลยเดินออกมาเลย  รู้สึกโง่มากๆ

  พอขับรถออกมาด้วยความโมโห ซักพักเริ่มคิดได้ว่า "นี่เขาหลอกเราหรือเราโง่ เองหว่า"

  จ่ายพันนึง ขับรถไปตั้งไกล เพื่อให้คนแนะนำเราแค่ว่า "สวดมนต์เยอะๆ" 5555

  ถึงวันนี้มองย้อนไปก็ขำตัวเอง หลังจากนั้นไปปฏิบัติธรรมจริงจัง มองเห็นปัญหา แก้ปัญหาได้เยอะ ไม่เห็นจำเป็นต้องรู้เลยว่ากรรมเก่าเจ้ากรรมนายเวรเขาจะเอาอะไรจากเราถึงจะ ไปซะที  แค่ปฏิบัติดี มีความเพียร สติมา ปัญญาเกิด  ก็เห็นเหตุปัจจัยของปัญหาทั้งหลาย แก้ไขได้ อันไหนยังแก้ไม่ตกก็ต้องใช้เวลาหน่อย เท่านั้นเอง ทุกวันนี้กล้าบอกเลย ปัญหาทั้งหมดถูกแก้ด้วย สติของเราเองล้วนๆ

  บทเรียนคราวนั้นทำให้คิดเลยว่าที่เรารู้สึกโง่มากๆ ก็เพราะปัญหาเราเอง กรรมของเราเอง ดันบ้าไปให้คนอื่นดูให้ทั้งๆที่เป็นของๆเรา

  อันนี้เล่าสนุกๆ ไม่ได้แอนตี้ใครเป็นพิเศษนะครับ ใครใคร่ฮา ฮาได้ไม่ว่ากัน เพราะโดนฮาใส่มาเยอะละ

  555

จากคุณ    : goodfriday


89  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ภาษิต จากหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน เมื่อ: มิถุนายน 25, 2011, 07:37:55 pm
เป็นภาษิต เตือน จิตสะกิดใจ ดีมากครับ

 :25:
90  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: หนังอนิเมชั่น "Buddha" เมื่อ: มิถุนายน 13, 2011, 01:53:15 pm
japan สร้างการ์ตูน พระพุทธประวัติ ไม่รู้จะยำประวัติอย่างไรบ้าง ดูตัวอย่างแล้วอย่างกับดูเรื่อง นินจา อยู่เลย
ต้องติดตามต่อครับ

 :s_hi:
91  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ผมชอบง่วง เวลานั่งสมาธิ ครับต้องแก้อย่างไร ครับ เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2011, 10:07:52 am
เวลาปฏิบัติ สมาธิ ผมชอบรู้สึก ง่วง บางครั้งก็หาว ๆ ไปมาก ๆ

อยากจะทราบวิธีแก้ไข ว่าต้องทำอย่างไรครับ
 :smiley_confused1:
92  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: แจ้งข่าว เรือ่ง RDN ตั้งแต่ บ่าย 12.30 น. มา วันนี้งดครับ เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2011, 03:03:03 pm
รับทราบ ครับ

 :c017:
93  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: สำหรับ เพื่อนสมาชิก อะไรเรียกว่า "ประสพความสำเร็จในชีวิต" ครับ เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 08:31:48 am
เป็นคนเก่ง และ ดูแล พ่อแม่ ได้อยู่อย่างสบายครับ

 :13:
94  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: server มีปัญหา ดิสก์แคช 1 ชม. 11.07 - 12.10 น. เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 06:49:59 pm
วันนี้ ตั้งแต่เที่ยง จนถึง สี่โมงเย็น ไม่สามารถเข้าเว็บได้ครับ
และขณะนี้ก็มีอาการอืด ๆ ครับ ช้ามาก

 :s_hi:
95  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / วาง ว่าง วาง ว่าง ... เมื่อ: เมษายน 25, 2011, 08:04:55 am


เห็นอะไร    ได้ยินอะไร
รู้อะไร    ไม่ถูกใจ
หยุดทำ  หยุดพูด  หยุดคิด
หายใจเข้า ลึก ๆ
หายใจออก ยาว ๆ
ใจสงบ  เบา  สบาย

เมื่อเกิดอารมณ์ไม่พอใจ
ไม่ต้องหาว่าใครผิด  ใครถูก
ระงับใจร้อนของตัวเองก่อน
หายใจเข้าลึกๆ
หายใจออกยาวๆ
ใจสงบแล้ว  จึงค่อยคิด
ด้วยสติปัญญาและเหตุผล
ตั้งมั่นอยู่ในคิดดี  พูดดี  ทำดี

เราจะดำเนินชีวิตด้วยสติ
ปัญญาและขันติ
ไม่ว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้น
จะมากขนาดไหน
เราจะไม่ละทิ้ง  ยิ้มน้อยๆ ในใจ
และเตือนใจตัวเองว่า
ทุกข์นี้คือปุ๋ยแห่งชีวิต
เป็นยาบำรุงหัวใจเราให้แข็งแรง
เราจะรักษาสุขภาพใจดี
ทำดีด้วยใจดี  มีความสุขใจ


จากหนังสือยิ้มน้อยๆ ในใจ  โดยพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
96  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เรื่องเล่าจากยายคนหนึ่ง เมื่อ: เมษายน 25, 2011, 08:00:18 am
เอาเรื่องจริง เลยดีหรือไม่ครับ

คนค้นฅน อาลัยพี่เต้ย 1


คนค้นฅน อาลัยพี่เต้ย 2


คนค้นฅน อาลัยพี่เต้ย 3


คนค้นฅน อาลัยพี่เต้ย 4


คนค้นฅน อาลัยพี่เต้ย 5
97  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ญาณทัศนะ กับ สมาธิ เกี่ยวข้องกันอย่างไรครับ เมื่อ: เมษายน 25, 2011, 07:55:56 am
เวลาฝึกสมาธิ  มักจะได้ยินว่า ทำเพื่อให้เกิด ญาณทัศนะ
อยากทราบว่า ญาณทัศนะ คือ อะไร เกี่ยวกับสมาธิอย่างไรครับ

 :c017:
98  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ในโลกนี้ มีใครไม่มีุทุกข์ บ้างครับ เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 08:01:03 am
ในโลกนี้ มีใครไม่มีุทุกข์ บ้างครับ

 แล้วจะสิ้นทุกข์ได้อย่างไร

  ขอบเขตของความทุกข์ กับ การสิ้นทุกข์ในพระพุทธศาสนานั้น มีอย่างไรครับ ผมเองยังไม่ค่อยจะเข้าใจเลยครับ

 :91:
99  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ผู้ที่ชอบสติปัฏฐานควรมาเรียนธาตุวิตกก่อน..แล้วค่อยไปกําหนดรู้แบบสุขวิปัสสกจะมีผล เมื่อ: เมษายน 17, 2011, 07:45:06 am
มหาสติปัฏฐาน พระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสสอนไว้

กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เป็นแนวทงการภาวนาที่พระราหุลพุทธชิโนรส ได้รวบรวมไว้

จะปฏิบัติ แบบไหน เป้าประสงค์ก็น่าจะเป็นแบบเดียวกัน

 :a102:
100  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เชิญอบรมการเจริญสติแนวทางหลวงพ่อเทียน ที่สุวรรณภูมิ 1 เม.ย.54 เมื่อ: มีนาคม 29, 2011, 10:23:53 am
อยากไปเที่ยวสุวรรณภูมิ จังเลย มีโอกาสข้ออ้างไปแล้ว ครับ

สาธุ
 :25:
101  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / แผ่นดินไหว...ภัยใกล้ตัว จับตา "13 รอยเลื่อน"อันตราย เมื่อ: มีนาคม 26, 2011, 12:18:08 pm
เหตุ "ธรณีพิโรธ" ใน "เฮติ" ที่กลืนชีวิตผู้คนไปนับหมื่น นับแสนรายเป็นสิ่งยืนยันได้อย่างดีว่า แม้สัตว์โลกที่ได้ชื่อว่า "มนุษย์" จะชาญฉลาดเพียงใด แต่ก็ไม่มีแม้สักครั้งเลยที่จะต่อ กรกับพลังของธรรมชาติได้
 
เหตุแผ่นดินไหวในประเทศเฮติ สร้างความตื่นตัวให้หลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ให้ต้องลุกขึ้นมาเตรียมรับมือกับภัยธรรมชาติรูปแบบนี้ และคงน่าสนในไม่น้อยหาก "สกู๊ปแนวหน้า" จะนำท่านผู้อ่านไปเรียนรู้ถึงสาเหตุ ตลอดจนวิธีรับมือกับ "แผ่นดินไหว"ที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกที่และทุกเวลา
 
"แผ่นดินไหว" ภัยใกล้ตัว
 
ข้อมูลจาก "กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)" ระบุว่า "แผ่นดินไหว" (Earth quake) นับเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ หรือพยากรณ์ระยะเวลาการเกิดสถานที่เกิด และระดับความแรงได้อย่างแม่นยำและแน่นอน
 
ต้นเหตุของแผ่นดินไหว เกิดจากการเคลื่อนตัวอย่างฉับพลันของเปลือกโลก โดยมักเกิดตรงบริเวณ "ขอบ" ของแผ่นเปลือกโลก การเคลื่อนตัวในลักษณะดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจาก "ชั้นหินหลอมละลาย" ที่อยู่ภายใต้เปลือกโลก ได้รับพลังงานความร้อนจากแกนโลก และลอยตัวผลักดันเปลือกโลกตอนบนตลอดเวลา ส่งผลให้เปลือกโลกแต่ละชิ้น มีการเคลื่อนที่ในทิศทางต่างๆ กัน พร้อมกับสะสมพลังงานไว้ภายใน บริเวณ "ขอบ"แผ่นเปลือกโลกจึงเป็นส่วนที่ชนกัน เสียดสีกัน หรือแยกจากกัน
 
หากบริเวณ "ขอบ" ของชิ้นเปลือกโลกใดๆ ผ่าน หรืออยู่ใกล้กับประเทศใด ประเทศนั้นจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภัยแผ่นดินไหวสูง เช่น ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย นิวซีแลนด์
 
นอกจากนี้ พลังงานที่สะสมในเปลือกโลก ยังถูกส่งผ่านไปยัง บริเวณรอยร้าวของหินใต้พื้นโลก หรือที่เรียกว่า "รอยเลื่อน" เมื่อระนาบรอยร้าว ที่ประกบกันอยู่ได้รับแรงอัดมากๆ จะทำให้รอยเลื่อน มีการเคลื่อนตัวอย่างฉับพลัน เกิดเป็นแผ่นดินไหวได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม กิจกรรมบาง อย่างของมนุษย์ ก็ทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้เช่นกัน เช่น การทำเหมือง สร้างเขื่อน และขุดเจาะบ่อน้ำมัน
 
จากการบันทึกทางประวัติศาสตร์ พบว่า บนผืนแผ่นดินของเมืองไทย เคยเกิดแผ่นดินไหว
 
ครั้งใหญ่ ปานกลาง และ เล็ก หลายครั้ง มีบันทึกประวัติศาสตร์จารึกว่า ในปี พ.ศ.1558 เกิดแผ่น ดินไหวขนาดใหญ่เกิดขึ้นทำให้บริเวณ "โยนกนคร" ยุบจมลงเกิดเป็นหนองน้ำใหญ่ หรือในปี พ.ศ.2088 เกิดแผ่นดินไหวปานกลางที่นครเชียงใหม่ ส่งผลให้ยอดเจดีย์หลวง สูง 86 เมตร หักพังลงมาเหลือ 60 เมตร
 
ในปี พ.ศ. 2478 ที่ จ.น่าน เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.5 ริกเตอร์ ปี พ.ศ. 2518 เกิดแผ่นดิน ไหวขนาด 5.9 ริกเตอร์ ที่ อ. ท่าสองยาง จ.ตาก และในปี พ.ศ. 2537 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.1 ริกเตอร์ ที่ อ.พาน จ.เชียงราย ครั้งนั้นก่อให้เกิดความเสียหายมาก กับโรงพยาบาลอำเภอพาน รวมทั้งวัด และโรงเรียนต่าง ๆ
 
จับตา13รอยเลื่อนอันตราย
 
ข้อมูลจาก"กรมทรัพยากรธรณี"ระบุว่า "ประเทศไทยมีรอยเลื่อน 13 จุด" ที่ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวได้ และยังมีรอยเลื่อนสะแกง ที่เป็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่อยู่ทางฝั่งประเทศพม่า พาดผ่านทะเลอันดามัน ที่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 400 กม. ที่ต้องจับตามอง แต่ไม่สามารถระบุได้ว่า แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นเมื่อใดและที่ใด
 
สำหรับ 13 รอยเลื่อน ในประเทศไทยประกอบด้วย
 
1. "รอยเลื่อนแม่จันและแม่อิง" ครอบคลุม พื้นที่ จ.เชียงราย และเชียงใหม่
 
2. "รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน" ครอบคลุม จ.แม่ฮ่องสอน และตาก
 
3. "รอยเลื่อนเมย" ครอบคลุม จ.ตาก และกำแพงเพชร
 
4. "รอยเลื่อนแม่ทา" ครอบคลุม จ.เชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย
 
5. "รอยเลื่อนเถิน" ครอบคลุม จ.ลำปาง และแพร่
 
6. "รอยเลื่อนพะเยา" ครอบคลุม จ. ลำปาง เชียงราย และพะเยา
 
7. "รอยเลื่อนปัว" ครอบคลุม จ.น่าน
 
8. "รอยเลื่อนอุตรดิตถ์" ครอบคลุม จ.อุตรดิตถ์
 
9. "รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์" ครอบคลุม จ.กาญจนบุรี และราชบุรี
 
10. "รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์" ครอบคลุม จ.กาญจนบุรี และอุทัยธานี
 
11. "รอยเลื่อนท่าแขก" ครอบคลุม จ.หนองคาย และนครพนม
 
12. "รอยเลื่อนระนอง" ครอบคลุม จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา และ
 
13. "รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย" ครอบคลุม จ.สุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา
 
สำรวจพื้นที่เสี่ยงธรณีพิโรธ
 
สำหรับประเทศไทย แหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวส่วนใหญ่ จะตั้งอยู่ใกล้ๆ กับแนวในมหา สมุทรอินเดีย เกาะสุมาตรา และประเทศพม่า ส่วนแนวรอยเลื่อนต่างๆ ในประเทศ ส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคเหนือ และ ภาคตะวันตก และ จากการสำรวจพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวของไทย พบว่า มี 4 จังหวัดที่เสี่ยงภัยแผ่นดิน ไหวมากที่สุด ได้แก่...กาญจนบุรี ตาก แม่ฮ่องสอน และเชียงราย โดยมี ความเสี่ยงประมาณ 7 - 8 เมอร์คัลลี (Mercalli Intensity Scale คือ มาตราความรุนแรง ( Intensity) เพื่ออธิบายผลกระทบที่แตกต่างกันของแผ่นดินไหว) ซึ่งมีผลทำให้อาคารสูงเสียหายได้
 
ส่วนจังหวัดที่เสี่ยง รองลงมา ส่วนใหญ่ ตั้งอยู่ทางภาคเหนือ และภาคใต้ เช่น สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ เชียงใหม่ ลำพูน พะเยา น่าน ลำปาง รวมทั้งกรุงเทพฯ ซึ่งมีความเสี่ยง ประมาณ 5 - 7 เมอร์คัลลี ซึ่งทำให้อาคารเสียหายเล็กน้อย ส่วนพื้นที่ซึ่งปลอดภัยมากที่สุด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
 
สังเกตลางร้ายธรณีพิบัติ
 
ที่ผ่านมา หลายประเทศ มีความพยายามศึกษา ค้นคว้า ทำความเข้าใจถึงกลไกการเกิดแผ่น ดินไหว เพื่อการพยากรณ์ล่วงหน้า แต่ยังไม่ ประสบ ความสำเร็จ ทำให้ในปัจจุบัน ยังไม่สามารถพยากรณ์การเกิดแผ่นดินไหวได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง ขนาด และช่วงเวลาการเกิด แต่ก็มักมีการสันนิษฐานกันว่า หากสัตว์มีพฤติกรรมที่ผิดปกติ ถือเป็นสัญญาณเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้าได้ เช่น...แมลงสาบ สุนัข เป็ด ไก่ หมู หมี ตื่นตระหนกตกใจ หนู งู หนีตายออกมาจากรู หรือปลากระโดดขึ้นจากผิวน้ำ
 
นอกจากนี้ การเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กๆ ในบริเวณเดียวกันหลายสิบครั้ง หรือหลายร้อยครั้งในระยะเวลาอันสั้น อาจเป็นสิ่งบอกเหตุได้ว่าจะเกิดเหตุธรณีพิบัติตามมาได้ในไม่ช้า หรือในบางพื้นที่ ที่เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในอดีต สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าว่าอาจเกิดแผ่นดิน ไหวขนาดเท่าเทียมกันในอนาคตได้ หากบริเวณนั้นว่างเว้นช่วงเวลาการเกิดแผ่นดินไหวเป็นระยะ เวลายาวนานหลายสิบปี หรือ หลายร้อยปี ยิ่งมีการสะสมพลังงานที่เปลือกโลกในระยะ เวลายาว นานเท่าใด การเคลื่อนตัวโดยฉับพลันเป็นแผ่นดินไหว ก็จะยิ่งรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
 
เปิดตำรา"รับมือแผ่นดินไหว"
 
ทั้งนี้ในคู่มือ "รับมือแผ่นดินไหว" ที่จัดทำโดย กรุงเทพมหานคร ได้แนะนำวิธีเตรียมรับมือแผ่นดินไหว เช่น ต้องเตรียมไฟฉาย นกหวีด กระเป๋ายาประจำบ้าน น้ำดื่ม อาหารสำเร็จรูป เครื่องนอนสนาม พร้อมเสื้อผ้า 2-3 ชุด ไว้ในบ้านในจุดที่หยิบฉวยได้ง่าย เพื่อเตรียมพร้อมยามฉุกเฉิน อย่าวางสิ่ง ของที่แตกหักง่าย เช่น เครื่องแก้ว สิ่งของหนัก ๆ บนหิ้งหรือชั้นสูง ๆ ควรวางไว้ชั้นต่ำสุด ตรึงเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ติดโครงสร้างอาคาร ติดเครื่องดับเพลิงไว้ประจำจุดเสี่ยง ซักซ้อมสมาชิกในครอบครัวเพื่อกำหนดวิธีปฏิบัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหว และจุดนัดพบที่ปลอดภัยนอกบ้าน
 
อยู่ห่างจากบริเวณที่อาจมีวัสดุหล่นใส่ หลบลงใต้โต๊ะหรือมุมห้อง ถ้าอยู่ในที่โล่งแจ้งให้อยู่ห่างจากป้ายโฆษณา เสาไฟ อาคาร และต้นไม้ใหญ่ ระวังเศษอิฐ กระจกแตก และชิ้นส่วนอาคารหล่นใส่
 
สำหรับผู้อยู่ตึกสูง ถ้าอาคารมั่นคงแข็งแรงให้หลบในอาคารนั้น ถ้าอาคารเก่าไม่มั่นคงแข็งแรงให้หลบออกจากอาคารเร็วที่สุด หลังการสั่นสะเทือนให้รีบออกจากอาคาร ถ้าไม่อยู่ใกล้ทางออกให้หมอบลงกับพื้น หาทางหลบใต้โต๊ะหรือมุมห้อง ป้องกันตนเองโดยใช้แขนปกป้องศีรษะและคอ ยึดเกาะโต๊ะให้แน่นและเคลื่อนตัวไปพร้อมโต๊ะ รอจนความสั่นไหวหยุดลง หรือปลอดภัยแล้วจึงไปหาที่ปลอดภัย ห้ามใช้ ลิฟต์เด็ดขาด หลังเกิดแผ่นดินไหว รีบออกจากอาคารที่เสียหาย ตรวจสายไฟ ท่อน้ำ ท่อแก๊ส ถ้าแก๊สรั่ว ให้ปิดวาล์วถังแก๊ส เปิดประตูทุกบานระบาย ยกสะพานไฟ อย่าจุดไม้ขีดไฟหรือก่อไฟออกจากที่สาย ไฟขาด หรือสายไฟพาดถึง อย่าเป็นไทยมุงเข้าไปในเขตที่เสียหาย หรือปรักหักพัง ฯ
 
ภัยธรรมชาติ เป็นสิ่งที่มนุษย์ตัวเล็กๆ มิอาจเอาชนะ...สิ่งที่พึ่งกระทำคือการเฝ้าระวังและเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด ก่อนที่พิบัติภัยจะมาถึงตัว

http://www.kingdomplaza.com/scoop/newsforprint.php?nid=4023
102  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: รายการ RDN ช่วงนี้ไม่ได้ยินเสียงครับ เมื่อ: มีนาคม 25, 2011, 04:55:49 pm
ชอบครับ เปิดเว็บมาเดี๋ยวนี้ไม่มีเสียง ชาดก นิทานธรรม ฟังแบบเมื่อก่อน

 :banghead: :13:
103  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ไม่อยากให้ลูกชายกลายเป็นลูกสาว เมื่อ: มีนาคม 21, 2011, 11:07:25 am


ภาพอย่างนี้ นะครับ ผมเห็นบ่อยครับ ที่ลำปาง และ เชียงใหม่ เจอจริง ๆ จะๆ

ไม่ทราบว่า พวกกระเทย ตุ๊ดบวชเณร ได้ด้วยหรือครับ

 :smiley_confused1:
104  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: เทียบเชิญ สมัคร ดาวน์โหลดอัพโหลดเว็บบิท เมื่อ: มีนาคม 20, 2011, 09:17:12 am
เจตนาของ จขกท. ผมว่าต้องการให้ใช้บริการบอร์ดธรรมะ นะครับ
ส่วนท่านใดจะตีความ ไปเป็น เรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้

 :s_good:
105  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: งานคอมมาร์ทไทยแลนด์ (COMMART THAILAND 2011) เมื่อ: มีนาคม 17, 2011, 09:09:44 am
งานนี้น่าสนใจครับ ช่วงปิดเทอม กะว่าจะหาที่ไปอยู่พอดีครับ

ขอบคุณครับ
 :c017:
106  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: การที่หญิงชาย มีอะไรกันแล้ว ถือว่าเป็นสามีภรรยากันหรือไม่ เมื่อ: มีนาคม 17, 2011, 09:07:10 am
ผมว่า ทั้ง 4 คน กำลังพยายามชนะ อยู่ นะครับ ดี ไม่ดี ฝ่ายชายอาจจะกำลังเพิ่มคนที่ 4 ก็ได้นะครับ

สถานการณ์ ของพวกไม่อิ่มในราคะ นี้จะเข้าใจยากครับ

  ทางที่ดี ผมว่าปล่อยให้ทั้ง 4 หาทางออกกันเบื้องต้นก่อน ดีกว่าครับเพราะอ่านแล้ว ยังไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายครับ อีกอย่างยังไม่มีฝ่ายใด ลงมือ ตบตีกัน อย่างกับละคร นะครับ

 ให้กำลังใจ ตอนที่ต้องเผชิญปัญหาครับ กรรมใดใครก่อ แล้วจะมาหนีกรรม ที่ก่อไว้ เป็นไปได้ยากครับ

   :93:
107  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: รายการ RDN ช่วงนี้ไม่ได้ยินเสียงครับ เมื่อ: มีนาคม 14, 2011, 07:39:38 pm
จริงด้วยครับ ไม่ได้ยินเสียงเลยครับ

 :73:
108  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: พื้นที่ชีวิต - เด็กวัดชื่อ สิงห์ 10Mar11 เมื่อ: มีนาคม 11, 2011, 10:36:48 am
ผู้หมวดจาก อีนทรีแดง ไปศึกษาชีวิตชาวธรรม น่าแปลกใจ จัง

ชื่นชมกับพี่ แกจริง ๆ ครับ

 :13:
109  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: คน 3 คน ในตัวคนเรา เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 12:20:01 pm
มาตามอ่านแล้วครับ เจ๊หมวย
 :s_hi:
110  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ซีรี่ย์ พระปริตร ตอน"โพชฌงคปริตร"(ภาคพิสดาร) เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 11:18:06 am
ถ้าพิจารณาตามที่พระอาจารย์ แนะนำท่านเน้น เหตุคือ 3 องค์

  คือ 1. สติสัมโพชฌงค์

      2. ธัมมะวิจยะสัมโพชฌงค์

      3. วิริยะสัมโพชฌงค์


    :25:
111  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: จิตปภัสสร เป็นเช่นไร เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 02:00:01 pm
เรื่องนี้จำได้ว่า มีการชี้แจงกันในกระทู้นี้ครับ

แปลผิดอีกแล้ว จึงให้ความหมายผิด วิสัชชนา จิตประภัสสร ไม่ใช่ จิตนิพพาน
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1351.msg5331#msg5331

จากที่ลุงปุ้มนำมาโพสต์ให้อ่าน ก็เป็นการตีความของ อรรถกถาคือคำอธิบาย
โดยส่วนตัวผมยังเห็นด้วยว่า จิตผุดผ่อง เพราะ อุปกิเลสจรเข้ามา แต่ไม่ได้ความว่า จิตนี้เป็นนิพพาน
เพราะช่วงที่กิเลสไม่จรเข้ามา จิตผุดผ่อง นั้นตายเกิด ในสังสารวัฏอยู่เหมือนเดิม

 :25:
112  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เริ่มแล้วมาตราการเข้ม ห้ามเด็กออกจากบ้านหลัง 4ทุ่ม เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 10:47:59 am


16 ม.ค. 54  รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ที่ สน.หัวหมาก  พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. ได้ออกมาเปิดเผยถึงการดำเนินงานตามนโยบายกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ที่ห้ามเด็กซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี ออกจากบ้านหลังเวลา 22.00 น. โดยไม่มีเหตุอันควร ผ่านผู้สื่อข่าวมติชนออนไลน์ว่า
ทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเข้าตรวจสอบ แหล่งเสี่ยงที่เป็นที่มั่วสุมต่างๆ ที่อยู่รอบบชน. อาทิ เช่น ร้านยาดอง ร้านเกม รวมไปถึงร้านอินเทอร์เน็ต ซึ่งจากการลงพื้นที่ดังกล่าวสามารถจับกุมร้านยาดองทที่ทำผิดกฎหมาย พร้อมของกลางได้เกือบ 100 แห่ง
ส่วนพื้นที่เสี่ยงที่เป็นร้านเกมนั้น ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ในท้องที่ต่างๆ เข้มงวดกวดขันทำความเข้าใจให้ดำเนินการป้องกันไม่ให้มีเยาวชนหลงเหลืออยู่ใน ร้านหลังเวลา 22.00 น. เพราะเด็กเยาวชนอาจถูกทำร้าย เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
“เหตุที่ทางตำรวจเริ่มกวาดล้างร้านยาดองก่อนนั้น  เนื่องจากเหล้ายาดองหาซื้อดื่มกินได้ง่าย ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีเยาวชนหันมาซื้อเหล้ายาดองมากขึ้น เมื่อมีการหาซื้อได้ง่ายมีการดื่มกินจนมึนเมาสิ่งที่ตามมาคือการทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย ทำให้บาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต ถือว่าเป็นปัญหาอาชญากรรม ทำให้สังคมไม่มีความสงบสุข และเชื่อการตรวจสอบดังกล่าวเป็นอีกทางที่จะช่วยลดปัญหาอาชญากรรมลงได้”
นอกจากนี้ รอง ผบช.น. ยังได้กล่าวต่ออีกว่า แม้การกวาดล้างร้านยาดองครั้งนี้  ไม่พบมีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี มาใช้บริการก็ตาม แต่ต่อไปจะซุ่มตรวจสถานที่สุ่มเสี่ยง อาทิ โต๊ะสนุ๊กเกอร์ ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านเกม  และสถานบริการต่างๆ กันไปต่อเนื่อง
ซึ่งหลังจากมีมาตราการดังกล่าวออกมา ก็มีเสียงตอบรับในทางที่ดีจากผู้ปกครองจำนวนมาก เพราะบางครั้งผู้ปกครองก็ไม่สามารถบังคับบุตรหลานได้ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปช่วยก็ทำได้ง่ายขึ้น พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าว

FWD mail


113  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ต่อไปนี้คุณผู้ชายที่ชอบ "ไข่แล้วทิ้ง" ผิดกฏหมาย คร้า..... เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 02:43:30 pm
อยากให้กฏหมายนี้ออกมาไว ๆ ครับ พวกเจ้าชู้จะได้น้อยลง

 :91:
114  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 10 วิธีเพื่อลดความเครียด และเพิ่มพลังใจให้กับตัวเองภายในห้านาทีมาฝาก เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 01:40:56 pm

ใน แต่ละวันเรามีภาระหน้าที่มากมายจนบางครั้งไม่มีเวลามากพอที่จะทำทุกสิ่ง ทุกอย่างให้เสร็จภายในวันเดียว แต่อย่ากังวลใจไปเลย วันนี้เรามี 10 วิธีเพื่อลดความเครียด และเพิ่มพลังใจให้กับตัวเองภายในห้านาทีมาฝาก

1. จัดเตียง การเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการทำอะไรที่เป็นพิธีการเล็กน้อย จะสามาถรช่วยให้เราเกิดความสงบใจจิตใจ

2. หยิบขนมติดตัวก่อนออกไปทำงาน อาจ จะเป็นผลไม้ เช่นกล้วย แอปเปิ้ล หรือองุ่น หรืออาจจะเป็นของว่างเพื่อสุขภาพ เช่น ถั่ว ด้วยวิธีการนี้ทำให้ยามบ่ายที่น่าเบื่อ เราไม่จำเป็นต้องไปหาของว่างไม่มีประโยชน์ในร้านค้าต่าง ๆ เพราะเรามีอาหารสุขภาพดีติดตัวมาแล้ว

3. ทำความสะอาดโต๊ะ เราอาจไม่สามารถทำความสะอาดให้เสร็จภายในห้านาที แต่การจัดเก็บสิ่งของบนโต๊ะเล็ก ๆ น้อย ๆให้เป็นที่เป็นทาง เราก็จะรู้สึกได้ถึงความเบาสบายภายในจิตใจ อีกทั้งช่วยกระตุ้นให้เกิดสมาธิในงานที่กำลังทำอีกด้วย

4. ฟังเพลง หลาย ๆ งานวิจัยสนับสนุนว่า การฟังเพลงช่วยให้ลดความเความดันโลหิต ลดความเครียด และช่วยให้อารมณ์ดี และการฟังเพลงที่ดีก็ยังสามารถช่วยเปลี่ยนทัศนะคติเราได้อีกด้วย

5. สูดกลิ่นมะนาว นัก วิจัยญี่ปุ่นพบว่า ลินาลูล ซึ่งเป็นสารประกอบที่พบในมะนาว สามารถช่วยต่อต้านเชื้อโรค และช่วยลดความเครียดได้ นอกจากมะนาวแล้วยังมี ใบกะเพรา สน และลาเวนเดอร์ ที่สามารถช่วยลดความเครียดได้เช่นกัน

6. ยืดเส้นยืดสาย แม้ว่าเราจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะ แต่แค่เพียงบิดขี้เกียจหน้าโต๊ะทำงาน หรืออาจจะลุกเดินไปมาก็จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และเพิ่มการยืดหยุ่นของร่างกาย

7. นั่งสมาธิ การนั่งสมาธิ และการหายใจลึก ๆ จะช่วยให้ผ่อนคลายและช่วยให้จิตใจสงบ การนั่งสมาธิเพียงสองสามนาทีต่อวันก็ช่วยลดความเครียดได้

8. เขียนบันทึกของทุกวัน ใช้เวลาหนึ่งนาทีของทุกวันเขียนของคุณสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เป็นวิธีการง่าย ๆ เพื่อระบายความเครียดจากสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ การจราจร หรือแม้แต่ปัญหาในห้นาที่การงาน การต่อว่าให้กับสิ่งต่างๆ จะทำให้เกิดความรู้สึกลบ แต่การกล่าวขอบคุณสิ่งต่าง ๆ จะทำให้เรามีทัศนคติทางบวกต่อชีวิต

9. ปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคเสียบ้าง การมีชีวิตอยู่บนโลกไร้สายนี้ ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องติดต่อกับคนอื่นๆ อยู่ตลอดเวลา การอยู่หน้าคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ตลอดทั้งวันสามารถทำให้ทำลายพลังงานในตนเรา และปลุกเร้าความเฉื่อยได้ ดังนั้นการปิดการติดต่อทั้งจากโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เนต เสีบบ้างจะช่วยให้ผ่อนคลาย ไม่ล่อยลอยไปกับสิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะเวลาก่อนที่จะเข้านอน

10. จัดลำดับความสำคัญของงาน เราอาจรู้สึกดีที่มีงานมากมายให้เราคิด แต่การสร้างรายการ ลำดับงานก่อนหลังจะช่วยให้ลดความกดดัน และหลีกเลี่ยงการผลัดวันประกันพรุ่ง การจัดลำดับงานที่จะต้องทำให้เสร็จ จะช่วยให้เรามองเห็นลำดับการพัฒนาของงานที่เรากำลังทำ

ชอบวิธีไหนก็ลองเอาไปปรับใช้ หากเลือกวิธีไหนไม่ถูกก็ลองวันละวิธี ได้ผลอย่างไรเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
115  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เก๋งซีวิคซิ่งชนท้ายรถตู้เสียหลักบนโทลล์เวย์ ดับสยอง 8 ศพ บาดเัจ็บอีก 7 ราย เมื่อ: มกราคม 11, 2011, 12:18:03 pm
http://video.nationchannel.com/data/6/2011/01/05/jh7bfdc9bedef87bbjba5.flv


ความคืบหน้าของคดีครับ
116  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / หลวงพ่อกลั่น ธมฺมโชติ แห่งวัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อ: มกราคม 08, 2011, 06:40:21 pm
ประวัติ หลวงพ่อกลั่น


ยุคต้นรัตนโกสินทร์ ราวพุทธศักราช 2390 ปีมะแม ณ ต.อรัญญิก อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ครอบครัวหนึ่งซึ่งมีฐานะยากจนได้ให้กำเนิดเด็กชายผู้มีบุญมาเกิด นามว่า "กลั่น" ซึ่งอนาคตกาลท่านคือพระเถระผู้เลื่องชื่อในบุญญาภินิหาร และเมตตาจิตที่มีต่อสรรพสัตว์นานัปการ

หลวงพ่อกลั่น ธมฺมโชติ แห่งวัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา ในสมัยเด็กท่านต้องทำงานเลี้ยงพ่อแม่ด้วยการรับจ้างทั่วไป และต้องต่อสู้เพียงลำพังคนเดียว ทำให้ท่านเป็นคนเข้มแข็งเด็กเดี่ยว จนกระทั่งมีอายุได้ 27 ปี ท่านจึงตัดสินใจบวชเป็นพระ ณ วัดประดู่ทรงธรรม ได้ฉายาว่า "ธมฺมโชติ"

เมื่อจำพรรษาอยู่ที่วัดประดู่ทรงธรรม หลวงพ่อกลั่นได้ศึกษาพระธรรมวินัย และเรียนรู้เรื่องวิชาคาถาอาคม ตลอดจนสมุนไพร การแพทย์แผนโบราณจนแตกฉาน เมื่อฝึกฝนวิชาต่าง ๆ จนเชี่ยวชาญแล้ว จึงได้ออกธุดงค์ไปทั่วป่าเขาลำเนาไพรเผชิญสัตว์ร้ายนานาชนิด คราวหนึ่งท่านได้เดินทางกลับจากออกธุดงค์ มาถึงวัดพระญาติการามในเวลาค่ำ ท่านพิจารณาว่า วัดนี้เงียบสงบดี เหมาะแก่การบำเพ็ญสมณธรรม สามารถเจริญสมาธิและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานได้สะดวก ท่านจึงได้ปักกลดพักอยู่ที่บริเวณวัดในคืนนั้น

"วัดพระญาติการาม" เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีราว พ.ศ. 2100 เดิมเรียกว่า "วัดพบญาติ" ซึ่งมีตำนานเล่าว่า สมัยกรุงศรีอยุธยามีหมู่บ้านด้านทิศตะวันออกของเมืองหมู่บ้านหนึ่ง ที่ลูกสาวชาวบ้านของที่นี่มักมีผิวพรรณดี หน้าตาสวยงาม ความเรื่องนี้ทราบไปถึงพระกรรณของพระเจ้าแผ่นดิน พระองค์จึงเสด็จประพาสมายังหมู่บ้านแห่งนี้ พร้อมด้วยข้าราชบริพาร และทรงพอพระทัยบุตรสาวของชาวบ้านคนหนึ่ง จึงเอ่ยพระโอษฐ์ขอรับอุปถัมภ์ค้ำชูหญิงสาวคนนั้น ผู้เป็นพ่อแม่ก็ยินดียกบุตรสาวถวายให้

เมื่อพระเจ้าแผ่นดินเสด็จฯ กลับพระราชวังแล้ว จึงมอบให้อำมาตย์นำคานหามมารับหญิงสาวคนนั้น เมื่อนางจะไปก็ได้สั่งบอกพ่อและแม่ไม่ให้มีความห่วงใย อีกไม่นานจะกลับมาเยี่ยม ขณะขบวนคานหามเดินทางกลับ พวกญาติของหญิงสาวได้ไปดักรอพบเพื่อล่ำลา นางจึงได้พบญาติตรงบริเวณนั้น จนเมื่อนางได้ตำแหน่งมเหสีแล้ว จึงเสด็จฯ มาเยี่ยมญาติในหมู่บ้านเดิม และโปรดฯ ให้สร้างวัดขึ้นตรงบริเวณที่ญาติ ๆ มารอดักพบ ตั้งชื่อว่า "วัดพบญาติ" ต่อมาจึงกลายเป็น "วัดพระญาติการาม" ในเวลาต่อมา

ย้อนกลับไปถึง "หลวงพ่อกลั่น" เมื่อธุดงค์มาพักที่วัดพระญาติฯ รุ่งเช้าก็มีชาวบ้านมาตักบาตร ขณะรับบาตรอยู่หลวงพ่อกลั่นมองไปทั่วบริเวณวัด เห็นมีสุนัข แมว และนก กา อาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งสัตว์พวกนี้คล้ายมารอคอยอาหารด้วยความหิวโหย หลวงพ่อกลั่นเป็นพระที่มีเมตตาจิตสูง ท่านจึงนำข้าวที่ชาวบ้านใส่บาตรให้มาแบ่งโปรยให้ทานสัตว์เหล่านั้นได้กินจน อิ่ม จากนั้นท่านจึงฉันเช้า ท่านปฏิบัติเช่นนี้ทุกวันเป็นประจำ ทำให้ชาวบ้านที่มาตักบาตรเห็นวัตรปฏิบัติของท่านน่าเลื่อมใส ศรัทธา จึงนิมนต์ให้อยู่จำพรรษาที่วัดพระญาติฯ ซึ่งหลวงพ่อกลั่นก็ยินดี เพราะท่านพิจารณาแล้วว่า วัดแห่งนี้สงบไม่มีคนพลุกพล่าน มีพระจำพรรษาเพียงไม่กี่รูป บริเวณวัดร่มครึ้ม เป็นป่าสะแก มีต้นไม้ใหญ่เยอะ เหมาะแก่การจำศีลภาวนา ประกอบกับท่านเป็นพระที่ชอบสันโดษ ชอบอยู่อย่างง่าย ๆ เล่ากันว่า ท่านไม่ค่อยพิถีพิถันยึดติดกับอะไรมากนัก ในกุฏิของท่านจึงไม่มีสมบัติพัสถานที่มีค่า มีเพียงสื่อผืนหมอนใบ แถมอัฏฐบริขาร เครื่องนุ่งห่มก็มีอยู่ชุดเดียว ซึ่งเก่าคร่ำคร่า

มีเรื่องเล่าถึงหลวงพ่อกลั่นอีกว่า ทุกเช้าหลังจากบิณฑบาตกลับมาแล้ว ท่านจะต้องโปรยข้าวส่วนหนึ่งให้นก กา หมา ไก่ และลิง ที่ออกมาคอย ให้ได้กินจนอิ่มทั่ว ชาวบ้านละแวกวัดจะได้เห็นหลวงพ่อกลั่นเดินอยู่ท่ามกลางฝูงสัตว์อยู่เป็น ประจำทุกวัน ชาวบ้านและเณรในวัดจึงพากันสงสัยว่าทำไมสัตว์จึงชอบเดินตามท่าน เมื่อสงสัยจึงมีการทดลอง สอบหาความจริง โดยในวันหนึ่งเมื่อหลวงพ่อกลั่นไม่อยู่ ได้มีพระรูปหนึ่งแอบนำผ้าเหลืองของหลวงพ่อกลั่นมาปลอมเป็นหลวงพ่อทุกอย่าง แล้วทำเป็นเดินขึ้นมาจากเรือคล้ายว่าเพิ่งกลับจากวัด เมื่อเดินผ่านสัตว์ต่าง ๆ ที่เคยได้ข้าวและอาหารจากหลวงพ่อ สัตว์เหล่านั้นก็เฉย ๆ เพราะจำได้ว่าไม่ใช่หลวงพ่อ เป็นเพราะความเมตตาที่แผ่ออกมา ทำให้สัตว์เหล่านั้นจดจำหลวงพ่อได้เป็นอย่างดี เพราะพวกมันสัมผัสรู้ได้

หลวงพ่อกลั่นเมื่อได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดพระญาติฯ ทุก ๆ เช้าเมื่อออกบิณฑบาต พระสงฆ์ในวัดจะต้องพายเรือไปตามลำน้ำ ซึ่งจะมีชาวบ้านมารอตักบาตรทั้ง 2 ฝั่ง และชาวบ้านจะรู้ว่าเรือลำไหนเป็นของหลวงพ่อกลั่น เพราะจะมีจุดสังเกตคือ เรือของหลวงพ่อจะมีสีดำสนิท ปกคลุมตั้งแต่หัวเรือไปจรดกลางลำเรือ สีดำเหล่านั้นก็คือ "อีกา" นับสิบ ๆ ตัวที่มาเกาะเรือของหลวงพ่อ แล้วเวลาชาวบ้านมาลงตักบาตรแก่หลวงพ่อ "อีกา" ทั้งฝูงจะบินวนรอบ ๆ เรือไม่ไปไหน พอชาวบ้านตักบาตรเสร็จมันก็บินกลับมาเกาะเรือเหมือนเดิม ส่วนอาหารที่ชาวบ้านนำมาถวายหลวงพ่อเต็มลำเรือนั้น เหล่าอีกาไม่แตะต้องเลย

และพอเรือมาถึงวัด หลวงพ่อจะให้ลูกศิษย์ขนสำรับขึ้นไปก่อน ตัวท่านจะอุ้มบาตรมาทีหลัง และจะมีอีกาอีกฝูงหนึ่งคอยรอรับท่านอยู่หน้าวัด มันจะบินรุมล้อมหน้าล้อมหลังเป็นกลุ่ม แทบไม่เห็นองค์หลวงพ่อ เมื่อได้เวลาฉันหลวงพ่อจะจัดแบ่งอาหารเป็นหมวดหมู่ เตรียมให้อีกา หมา และแมว อีกาฝูงใหญ่จะคอยรอท่าอยู่ห่าง ๆ พอหลวงพ่อนั่งเรียบร้อย เมื่อเปิดฝาบาตรจะลงมือฉัน อีกาทั้งฝูงก็จะกระโดดไปที่กองอาหารแล้วลงมือจิกกินทันที

หลวงพ่อกลั่นท่านสื่อภาษาสัตว์กับอีกาเหล่านั้นได้ เพราะบางครั้งที่มันแย่งอาหารจิกตีกัน หลวงพ่อจะพูดด้วยเสียงเบา ๆ อีกาก็หยุดตีกันทันทีแล้วค่อย ๆ กินอย่างสงบ

.เรื่องราวของหลวงพ่อกลั่น ธมฺมโชติ ภิกษุผู้มีความมหัศจรรย์อันประกอบไปด้วยเมตตาธรรม สามารถสื่อภาษาสัตว์ได้เข้าใจ หลวงพ่อท่านนี้เมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ท่านมักแสดงอภินิหารให้ใครหลายคน ได้ประจักษ์หลายต่อหลายเรื่อง เช่นว่ามีอยู่คราวหนึ่งอยู่ในช่วงออกพรรษา ซึ่งพระสงฆ์ตามวัดต่างๆนิยมออกธุดงค์เพื่อแสวงหาความสงบวิเวก และเพื่อโปรดพุทธบริษัทที่อยู่ในชนบทห่างไกลในถิ่นกันดาร หลวงพ่อกลั่นพร้อมด้วยคณะลูกศิษย์ท่านก็ออกธุดงค์เช่นกัน โดยตั้งใจจะไปนมัสการพระเจดีย์ในเมืองพม่า เมื่อคณะของหลวงพ่อรอนแรมเดินทางมาถึงแม่น้ำสะโตง ซึ่งกว้างใหญ่มาก แต่หาเรือแพข้ามฟากไม่ได้ หลวงพ่อกลั่นจึงต้องหาทางข้ามด้วยตัวเอง

หลวงพ่อกลั่นจึงสั่งให้พระภิกษุที่ร่วมธุดงค์กับท่านเอาผ้าผูกตาให้หมดแล้ว เกาะจีวรตามท่านเป็นแถวเรียงหนึ่ง มีข้อห้ามคือไม่ให้พูดจากัน พอถึงฝั่งแม่น้ำฟากนั้นจึงบอกให้เอาผ้าผูกตาออก และน่าอัศจรรย์ที่พระแต่ละรูปไม่มีใครที่จีวรเปียกน้ำเลย และยังไม่มีใครรู้อีกว่า หลวงพ่อท่านพามาโดยวิธีใด อีกครั้งหนึ่งคือเมื่อคราวที่หลวงพ่อและพระลูกวัดพระญาติฯ รับกิจนิมนต์ไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ครั้นใกล้เวลาที่เขานิมนต์ปรากฏว่าฝนตั้งเค้าทำท่าจะตก พระที่เดินทางไปกับหลวงพ่อเตือนให้ท่านรีบไปจะได้กันฝน แต่หลวงพ่อกลับบอกให้พระเหล่านั้นไปก่อนล่วงหน้า ส่วนท่านจะตามไปทีหลัง และพอท่านออกจากวัดฝนก็ตกไล่หลังท่านเรื่อยไปจนถึงบ้านงาน แต่ตัวท่านกลับไม่เปียกฝนเลย

และยังมีเรื่องเล่าถึงอภินิหารของหลวงพ่อกลั่นกันปากต่อปากว่า ในครั้งหนึ่งเมื่อสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นที่คลองข้างวัดของท่านมีปลา ปักเป้าชุกชุม ลูกศิษย์วัดมาลงอาบน้ำจะถูกปลาปักเป้ากัดบ่อยๆ เดือดร้อนหลวงพ่อต้องหายามารักษา อยู่มาวันหนึ่งหลวงพ่อได้สั่งให้เด็กลงเล่นน้ำ เพื่อล่อให้ปลาปักเป้ากัด ปลาปักเป้าก็กัดติดเนื้อเด็กอย่างไม่ปล่อย แต่เด็กที่เป็นเหยื่อล่อปลากลับไม่มีบาทแผลซักคน จากนั้นหลวงพ่อจึงเอาปลาเหล่านั้นใส่ลงไปในถังน้ำ แล้วเอามือจุ่มลงไปในถัง คนอยู่พักเดียวก็เอาปลาไปปล่อยริมคลองหน้าวัดเหมือนเดิม และเป็นที่อัศจรรย์คือตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีเด็กวัดถูกปลาปักเป้ากัดอีกเลย

หลวงพ่อกลั่นท่านเชี่ยวชาญวิชาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นวิชาฟันดาบหรือต่อสู้ ด้วยเพลงอาวุธแบบโบราณ และยังมีวิชาด้านอื่นที่ขลังและศักดิ์สิทธิ์อีกมาก จนบางครั้งมีคนมาขอพบเพื่อลองวิชา ซึ่งหลวงพ่อท่านก็รู้ด้วยญาณของท่านว่าคนๆนี้มาลองดีกับท่าน เพราะอยากรู้ว่าหลวงพ่อกลั่นจะแน่จริง

เหมือนกิตติมศักดิ์ที่ร่ำลือกันหรือไม่ คราวหนึ่งได้มีนักเลงคนหนึ่งมาขอลองวิชากับหลวงพ่อด้วยปืนยาว หลวงพ่อก็ยินดีให้ทดสอบโดยโยนผ้าให้ยิง นักเลงผู้นั้นก็เหนี่ยวไกปืนยิงไม่ยั้ง แต่สิ่งที่ได้ยินมีเพียงเสียงไกปืนกระทบกับลูกกระสุนเท่านั้น ไม่มีเสียงระเบิดแต่อย่างใด คนลองดีถึงกับตะลึง แปลกใจแล้วพอหันกระบอกปืนยิงขึ้นฟ้า ลูกปืนกลับระเบิดเสียงดังสนั่น หลวงพ่อกลั่นบอกให้นักเลงผู้นั้นลองยิงอีกครั้ง ท่านก็โยนผ้าขึ้นฟ้า พอนักเลงผู้นั้นลั่นกระสุนออกไปก็ได้ยินเสียง "แชะ ๆ ๆ" เช่นเดิม ลูกปืนไม่ระเบิด

นักเลงต่างถิ่นถึงกับก้มกราบหลวงพ่อกลั่นด้วยความศรัทธา และเป็นที่โจษขานกันทั่วอยุธยา

หลวงพ่อกลั่นท่านยังมีวิชาลูกเบา หรือวิชาชาตรี ซึ่งเป็นวิชาอยู่ยงคงกระพันวิชาหนึ่งขอท่าน วิชาลูกเบาหรือวิชาชาตรีไม่มีการสักอักขระยันต์ แต่มีการชักยันต์ซึ่งมีบทคาถาแขกภาวนา ในขณะที่ศิษย์ได้รับการถ่ายทอดจากครู อาจารย์ จะโดนทุ่มด้วยของหนัก เช่น ก้อนหินที่มีน้ำหนักมากๆ อย่างหินลับมีด แต่ผู้ที่ได้รับการครอบวิชาจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเหมือนโดนทุ่มด้วยของเบาๆ แต่ถ้าไม่ได้เรียนวิชานี้มา ถ้าโดนทุ่มขนาดนี้อาจจะคอหักตาย ผู้ที่มาขอฝากตัวเป็นศิษย์จึงโดนทุ่มด้วยก้อนหินเป็นการขึ้นครูทุกคน

อำนาจจิตของหลวงพ่อกลั่นนั้นมากมาย เรื่องนี้หลวงพ่ออั้นอุปัฏฐาก หลวงพ่อกลั่นได้เล่าให้ลูกศิษย์ฟังถึงครั้งที่เรียนวิปัสสนากรรมฐานกับหลวง พ่อกลั่นว่า ขณะที่เรียนกรรมฐานนั้นหลวงพ่อกลั่นได้ให้หลวงพ่ออั้นไปนั่งปฏิบัติในโบสถ์ ขณะนั่งอยู่หลวงพ่ออั้นมองเห็นหลวงพ่อกลั่นจากในนิมิตว่า เห็นท่านเดินจากกุฏิมานั่งอยู่ตรงหน้า คอยสั่งสอนว่าผิดตรงไหนควรทำอะไร อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องแปลกเพราะหลวงพ่ออั้นท่านก็รู้ว่า หลวงพ่อกลั่นท่านอยู่บนกุฏิ กำลังคุยเรื่องธุระกับญาติโยมที่มาหาท่าน แต่ท่านก็ยังแบ่งร่างมาสอนหลวงพ่ออั้นในโบสถ์ได้

หลวงพ่อกลั่นมรณภาพเมื่อ พ.ศ.2477 เล่ากันว่าในวันที่หลวงพ่อจะมรณภาพ อีกานับร้อยพันตัวมาออกันทั่ววัด ส่งเสียงระเบ็งเซ็งแซ่ พอหลวงพ่อสิ้นลม อีกาเหล่านั้นเงียบเสียงเป็นปลิดทิ้ง แล้วโผบินจากไปเป็นกลุ่มๆ ครั้นพอถึงวันฌาปนกิจร่างหลวงพ่อกลั่นรุ่งขึ้นมีการทำบุญอัฐิ อีกาของหลวงพ่อก็กลับมาอีกครั้ง เป็นครั้งสุดท้าย พวกมันบินมาเกาะที่เชิงตะกอน และบริเวณลานวัด จากนั้นก็พากันบินวนไปรอบๆอยู่ 3 รอบ และตั้งแต่วันนั้นก็ไม่มีใครได้เห็นอีกาที่วัดพระญาติการามอีกเลย

ขอบคุณที่มา

http://www.khwunchai.is.in.th/?md=content&ma=show&id=4
117  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: "ผู้ถูกนินทาพึงมีเหตุผล" เมื่อ: มกราคม 07, 2011, 05:23:38 pm
ผู้นินทาคือผู้ทำกรรม ซึ่งเป็นกรรมไม่ดี
ผลของกรรมไม่ดีนั้นแหละได้ตอบแทนเขาผู้นินทาแล้ว
ผู้ใดทำกรรมไว้จักได้รับผลของกรรมนั้น
118  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / น้ำใบบัวบก ทำตาใสปิ๊งงงงงงงง เมื่อ: มกราคม 05, 2011, 02:21:51 pm
น้ำใบบัวบก ทำตาใสปิ๊งงงงงงงง       

อย่าเข้าใจว่า ใบบัวบก มีไว้ แก้ช้ำใน อย่างเดียว เพราะสรรพคุณทางยาตัวอื่น ๆ ที่อยู่ในผักใบเขียว ใบบัวบก ยังมีอีกเพียบ อาทิ บำรุงสายตา บำรุงสมอง ควบคุมระดับแรงดันโลหิตให้เป็นปกติ ลดภาวะความเป็นหมัน ช่วยชะลอความแก่

   อย่าเข้าใจว่า ใบบัวบก มีไว้ แก้ช้ำใน อย่างเดียว เพราะสรรพคุณทางยาตัวอื่น ๆ ที่อยู่ในผักใบเขียว ใบบัวบก ยังมีอีกเพียบ อาทิ บำรุงสายตา บำรุงสมอง ควบคุมระดับแรงดันโลหิตให้เป็นปกติ ลดภาวะความเป็นหมัน ช่วยชะลอความแก่ ช่วยป้องกันร่างกายด้วยการกำจัดสารพิษตกค้างในร่างกาย แก้ช้ำใน บำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย เมื่อยล้า ขับปัสสาวะ แก้อาการเริ่มเป็นบิด ท้องร่วง เป็นยาขจัดเลือดเสีย แก้โรคผิวหนัง แก้พิษงูกัด ระดูขาว ดับพิษไข้ แก้อาเจียนเป็นเลือด และดีซ่าน เป็นต้น
 
      บัวบก เป็นพืชปลูกง่าย มีประวัติการใช้ประโยชน์ทางยามานาน มีใช้ทั้งในตำราอายุรเวทของประเทศจีนและแพทย์แผนไทย พบมากในประเทศแถบยุโรป แอฟริกา อินเดีย ปากีสถาน และศรีลังกา พบว่า ส่วนสำคัญที่มีคุณสมบัติพิเศษอยู่ที่ ส่วนของใบและราก
 
     เมนูสุขภาพทำได้ไม่ยากมาให้ลอง เมนูที่ว่าคือ น้ำใบบัวบก เตรียมส่วนผสม 3 อย่างคือ ใบบัวบก 10 กรัม, น้ำเปล่าต้มสุก 240 กรัม และน้ำเชื่อม 15 กรัม น้ำเชื่อมจะใส่มากใส่น้อย หรือไม่ใส่ก็ตามชอบ
 
 มาถึงวิธีทำ ล้างใบบัวบกให้สะอาด นำใส่เครื่องปั่นเติมน้ำต้มสุกเล็กน้อย แล้วปั่นจนละเอียด คั้นกรองเอาแต่น้ำ เติมน้ำเชื่อมปรุงรสตามใจชอบ

เมนูอร่อยเพื่อสุขภาพ ท้าให้ลอง...

(ที่มาข้อมูล...นสพ.เดลินิวส์)
119  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ปีใหม่ วันนี้ 1 ม.ค.2554 ทำอะไรดีคร้า.... เมื่อ: มกราคม 01, 2011, 08:05:32 pm
พวกเราอยู่ไกล สระบุรี ครับแต่อาศัยมาฟังการสอนกรรมฐาน ในเวลา 20.00 น.ทาง RDN

ครับวันนี้จะได้นั่งกรรมฐาน ร่วมกันเป็นวันแรกของปี รวบรวมกันมาได้ 20 กว่าคนครับ

ไม่จำเป็นต้องไปที่วัดครับ

 :25:
120  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / Re: หลวงปู่ไข่ อินฺทสโรภิกฺขุ เมื่อ: ธันวาคม 31, 2010, 10:57:41 am
หลวงปู่ไข่ มีความเกี่ยวข้องกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ด้วยใช่หรือป่าว คะ
เพราะเห็นวัตถุมงคลของหลวงปู่ จะมีคำว่า อรหัง ด้วย

 :25:
หน้า: 1 2 [3] 4 5