ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ออกเที่ยวไป #สไตล์สายมู @อุบลราชธานี  (อ่าน 541 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28436
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ออกเที่ยวไป #สไตล์สายมู @อุบลราชธานี
« เมื่อ: กันยายน 27, 2020, 06:43:38 am »
0


ออกเที่ยวไป #สไตล์สายมู @อุบลราชธานี   

ทริปสายบุญ ตามเส้นทางมูเตลู คิด...แล้วไปให้ถึง “อุบลราชธานี” ท่องเที่ยวบนเส้นทางสุดศักดิ์สิทธิ์ #สไตล์สายมู

โพสต์ทูเดย์ พาเที่ยวไปพร้อมกับทริปบุญ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดใหญ่จัดเต็ม ชวนผู้โชคดี 50 ท่านไปตะลอนทัวร์ภาคอีสาน ตามคอนเซ็ปต์ “คิด...แล้วไปให้ถึง” #สไตล์สายมู ปลุกกระแสเที่ยวไทย ฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในประเทศให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง




ซึ่งครั้งนี้เป็นการเดินทางท่องเที่ยวสไตล์มูเตลูไปยัง จังหวัดอุบลราชธานี โดยสายการบินแอร์เอเชีย เริ่มออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง เพียงหนึ่งชั่วโมงนักท่องเที่ยวทุกคนก็ถึงจุดหมายปลายทางที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานี พร้อมนั่งรถต่อไปยัง “วัดป่าประชานิมิตร” อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี เข้ากราบนมัสการหลวงพ่อสุพัฒน์ เตชะพะโล เกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองอุบล เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต พร้อมรับวัตถุมงคลเสริมศรัทธาไปบูชาต่อที่บ้าน ทั้งสร้อยตะกรุด ข้อมือ ผ้ายันต์ เพื่อความแคล้วคลาดปลอดภัย ทำมาค้าขึ้น ถูกใจสายมู เรียกรอยยิ้มสุดปลื้มปริ่มไปตามๆ กัน







มื้อเที่ยงเอร็ดอร่อยกับอาหารที่ “ร้านชมจันทร์” ร้านอาหารติดแม่น้ำมูล บรรยากาศดี อาหารอร่อย แถมมี Wawee Coffee คาเฟ่วิวสวยๆ ที่มีมุมถ่ายรูปให้เลือกเพียบ

ช่วงบ่ายนักท่องเที่ยวออกเดินทางกันต่อเพื่อไปยัง “ชุมชนโบราณ บ้านชีทวน” อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ชุมชนโบราณที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมของชุมชนเก่าแก่ไว้อย่างเหนียวแน่น เรียกได้ว่าหากใครอยากใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ต้องมาที่นี่เท่านั้น ส่วนกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวทำร่วมกันที่นี่คือการย้อมผ้าเช็ดหน้าผ้าฝ้ายจากสีธรรมชาติ ที่ครีเอทตามความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง พร้อมเอาติดไม้ติดมือไปใช้กันได้เลย







ไฮไลท์ช่วงบ่ายคือการขึ้นรถอีแต๊ก เพื่อเยี่ยมชมชุมชนวัฒนธรรมแหล่งโบราณล้ำค่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี เริ่มที่ “วัดทุ่งศรีวิไล” ประดิษฐานหลวงพ่อพระพุทธวิเศษ พระพุทธรูปสลักจากศิลาแล ปางสมาธินาคปรก ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวตำบลชีทวน





ต่อกันที่ “ขัวน้อยบ้านชีทวน” สะพานเชื่อมใจและสายใยของชุมชนที่มีอายุกว่า 200 ปี เป็นสะพานข้ามทุ่งนาที่ชาวบ้านยังคงใช้สัญจร เดิมทำจากไม้ ต่อมาในปี 2535 ได้จัดทำผ้าป่าสามัคคีเพื่อซ่อมแซมบูรณะขัวน้อยเป็นสะพานคอนกรีตจุดเด่นของที่นี่คือทัศนียภาพที่สวยงามของท้องทุ่งนา









“วัดอัมพวันนาราม” เป็นวัดที่จัดแสดงเรือไม้โบราณอายุกว่า 150 ปี  และ “วัดพระธาตุสวนตาล” ที่สร้างขึ้นในยุคสมัยการสร้างพระธาตุพนม เป็นที่ประดิษฐานพระธรรมเทโว พระอายุกว่า 250 ปี เรือโบราณอายุ 300 ปี และสัตภัณฑ์เชิงเทียนอายุ 150 ปี ปิดท้ายที่ “วัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์” ประดิษฐานธรรมมาสสิงห์เทินบุษบก โบราณสถานที่สำคัญ ศิลปะที่ผสมผสานระหว่างไทยอีสานและญวนแห่งเดียวในโลก







อาทิตย์ตกดินเยือน “วัดสิรินธรภูพร้าว” ดินแดนเรืองแสงใน อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานีชื่นชมความงดงามของวัดที่สร้างบนภูเขาสูงโดยจำลองสภาพแวดล้อมดุจวัดป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศพลาดไม่ได้กับการถ่ายรูปพระอุโบสถสีทองและพุทธศิลป์รูปต้นกัลปพฤษ์หลังอุโบสถที่ค่อยๆเรืองแสงสวยงามยามค่ำคืน



มื้อค่ำดื่มด่ำกับอาหารคำแบบพาแลงขันโตก พร้อมชมการแสดงศิลปะพื้นบ้าน อีสานโปงลางจากนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และการพักผ่อนแสนสบายที่ “โรงแรมทอแสง โขงเจียมรีสอร์ท” ซึ่งตกแต่งห้องพักด้วยสถาปัตยกรรมร่วมสมัย 3 ประเทศด้วยกันคือไทยขอมและบาหลี





เช้าวันรุ่งขึ้น แม้พายุโซนร้อนโนอึลจะทำให้เหล่านักท่องเที่ยวพลาดชมแสงแรกและความสวยงามตามธรรมชาติของ “อุทยานแห่งชาติผาแต้ม” แต่บรรดาสาวกมูเตลูก็ไม่พลาดที่จะไปเที่ยวชม  “วัดถ้ำคูหาสวรรค์” อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ชมความอลังการของ "ฆ้องใหญ่ที่สุดในโลก” พร้อมติดธงประเทศอาเซียนด้วยกนกลายไทยด้วยความสวยงาม ใกล้กันมีพระธรรมเจดีย์ศรีไตรภูมิ เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม กราบสักการะหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ที่มรณภาพแล้วแต่ร่างกายไม่เน่าเปื่อย บรรดาศิษย์จึงได้จัดทำโลงแก้วประดับด้วยเพชรเทียมเป็นที่เก็บรักษาร่างของท่านไว้ให้ผู้เลื่อมใสศรัทธาได้เคารพสักการะ








ต่อกันที่ “วัดพระธาตุหนองบัว” อ.เมือง จ.อุบลราชธานี  วัดที่มีชื่อเสียงและมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม ไฮไลท์คือ พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ พระธาตุประจำปีเกิดปีมะเส็ง สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนาในปี พ.ศ. 2500  โดยจำลองแบบมาจากเจดีย์ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และรูปปั้นพญานาคราช 2 องค์ขนาดใหญ่งดงามที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าพระเจดีย์






ก่อนเดินทางกลับบ้าน นักท่องเที่ยวทุกคนยังได้แวะซื้อของฝากจากชุมชนที่กลุ่มพัฒนาสตรีผ้าไทยอุบลราชธานี ช็อปเสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าขาวม้า ปิดท้ายทริปนี้ด้วยของฝากสุดอร่อย ทั้งหมูยอ ก๋วยจั๊บ และแหนมซี่โครง




...เรียกว่าทริปเที่ยว #สไตล์สายมู ในครั้งนี้ ทุกคนได้กิน เที่ยว ช้อป พร้อมไหว้พระทำบุญ รับความสุขไปเต็มๆ










ขอบคุณ : https://www.posttoday.com/life/travel/634017
ไลฟ์สไตล์ กิน-เที่ยว, วันที่ 26 ก.ย. 2563 เวลา 12:10 น ,.เรื่องและภาพ : วารุณี มณีคำ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ