แสดงกระทู้
|
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to. |
Messages - modtanoy
|
หน้า: 1 2 [3] 4 5
|
82
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: มหาเถรฯได้ข้อยุติ "ธมฺมชโย" ไม่ปาราชิก
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2015, 09:37:15 pm
|
ภายหลังการประชุมของมหาเถรสมาคม ที่พุทธมณฑล เพื่อพิจารณาวาระมติของมหาเถรสมาคมเมื่อปี 2549 ในกรณีที่มหาเถรสมาคมมีมติว่าพระธัมมชโย หรือ พระเทพญาณมหามุนี เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย ไม่อาบัติปาราชิก และมีการถวายคืนสมณะศักดิ์ พระพรหมเมธี กรรมการมหาเถรสมาคม โฆษกมหาเถรสมาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้รับทราบเรื่องดังกล่าวและยืนยันว่ามติเมื่อปี 2549 ถูกต้องแล้ว ทั้งนี้เรื่องเดิมคือในปี 2542 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระลิขิตให้พระธัมมชโย หรือ พระเทพญาณมหามุนี เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย ต้องอาบัติปาราชิก เนื่องจากยักยอกทรัพย์ของวัดพระธรรมกาย ซึ่งมหาเถรสมาคมสมัยนั้นได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินการให้เป็นไปตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชฯ แม้มีโจทย์ 2คน คือ นายสมพร เทพสิทธา และนายมานพ พรไพลิน ได้ฟ้องร้องพระธัมมชโยต่อศาล แต่ภายหลังนายมานพได้ถอนฟ้อง เนื่องจากพระธัมมชโยดำเนินการตามพระลิขิต โดยยอมคืนทรัพย์สินแก่วัดพระธรรมกายมูลค่ากว่า 900 ล้านบาท อัยการจึงยกฟ้องคดีดังกล่าว มหาเถรสมาคมเห็นว่า พระธัมมชโย ไม่มีเจตนาขัดพระลิขิต และไม่มีเจตนาฉ้อโกง จึงถือว่าพ้นมลทิน และในปี 2549 ได้มีมติถวายคืนสมณศักดิ์ให้กับพระธัมมชโย อีกทั้งในปี 2554 ยังได้เลื่อนสมมศักดิ์จากยศพระราชภาวนาวิสุทธิ์เป็น พระเทพญาณมหามุนี พระพรหมเมธีอธิบายว่า หลักการพิจารณาทางสงฆ์ว่าความผิดยักยอกทรัพย์สำเร็จหรือไม่นั้น จะดูที่เจตนาเป็นหลัก ซึ่งในกรณีนี้ มีที่มาของทรัพย์สินถูกต้องคือมาจากพุทธศาสนิกชน และเมื่อมีพระลิขิต ก็ได้มีการทยอยคืนทรัพย์สินแก่วัดทันที จึงถือว่ามีเจตนาไม่ฉ้อโกง พระพรหมเมธี กล่าวด้วยว่าเรื่องนี้ผ่านมาแล้วกว่า 17 ปี และประเทศกำลังอยู่ในช่วงสร้างความปรองดอง อีกทั้งเป็นยุคที่ล่อแหลมต่อสื่อ ประเทศไทยถูกจับตามองจากต่างชาติเพราะเปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงไม่อยากให้นำเรื่องเก่ามาพูดถึง https://www.youtube.com/watch?v=08T8gPD7kSEท่านทั้งหลาย โปรดให้ความเคารพ พระผู้ใหญ่ ด้วยนะคะ กรุณา อย่าปรามาส นะคะ เพราะมันเป็นบาป
|
|
|
91
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ‘19 เม.ย.’วันมีฤทธิ์? ‘เสาร์ 5 เพศเมีย’ วันขลัง?‘อมฤตโชค’
|
เมื่อ: เมษายน 20, 2014, 05:02:16 pm
|
เห็นด้วยกับคำกลอน คะ คือ ไสยศาสตร์ ครองเมือง สุดท้าย ชาวพุทธ ก็เป็นชาวแพะ พึ่งพาสิ่งที่เรียกว่า ไสยศาสตร์ เช่นเดิม แปลกนะ ที่พระพุทธเจ้าท่านสอนให้เชื่อเรื่องดวงดาว แต่ก็เห็นชาวธรรม เรา ก็ผูกพันกับเรื่องพวกนี้ มากมาย พระแทนที่จะเรียนพระธรรม ก็ไปเรียนเป็นหมอดูซินแส ไปซะนี่ สุดท้าย ก็บทขยี้พระธรรม เปลี่ยนพระไตรปิฏกให้เข้ากับความคิดของตัวเอง ใส่กันเปรอะเปื้อน ระบายป้ายสี ในยุคปัจจุบัน ขาดหัวเรือ อย่างหลวงพ่อพุทธทาส และ หลวงพ่อปัญญา แล้ว ไสยศาสตร์ก็เลยมีอิทธิพลกันมากขึ้น
|
|
|
94
|
เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: ปรับเปลี่ยน รายการทาง สถานี บางช่วง
|
เมื่อ: เมษายน 20, 2014, 04:52:35 pm
|
ก็เห็นยังฟังได้อยู่เลย เห็นประกาศว่า เริ่ม 16 เม.ย. 57 แต่นี่เห็นยังฟังได้อยู่เลย ถ้าเหนื่อยนักก็พักยาว ๆ ก็ได้นะคะ การแจกธรรมทางเสียง รายการออนไลน์ ไม่เห็นตามเว็บธรรมะประสบความสำเร็จสักเว็บ ส่วนใหญ่ก็หันไปโปรโมท ด้วยการแจกเสียงภาพ วิีดีโอ ทาง youtube ทั้งนั้น ถ้าที่นี่อยากดัง เด่นละก็ ควรจะไปแจกที่นั่น นะคะ ให้ดาวนโหลดไปเลยไฟล์เสียง ไม่ต้องไปทำเป็น แผ่น ดีวีดีแจก ให้ผู้ฟังตัดสินใจเอาเอง ว่า เทียม หรือ แท้ ก็เท่านั้นก็น่าจะพอ แล้วนะคะ ปล.ไม่เห็นด้วยกับการจัดรายการทางออนไลน์ เพราะบางทีเปิดเว็บขึ้นมาเสียงดังอย่างกระทันหัน
|
|
|
101
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ท่านมั่นใจ ในครูอาจารย์ ที่สอนเรานั้น ไม่มีจิตแอบแฝงเรื่อง โลกียะได้อย่างไร
|
เมื่อ: มกราคม 29, 2013, 04:39:46 am
|
ตอนเด็ก เคยติดตาม พ่อ ไปเที่ยวภาคใต้ มีโอกาสได้ไป "สวนโมกข์" พ่อชอบดูปลา ก็เลยไปยืนขอบบ่อ ดูปลา สักพัก มีพระรูปหนึ่ง ท่วมสวมแว่น เดินมาทักทาย "มาทำอะไรล่ะ" ผมกับพ่อก็ยกมือไหว้ท่าน พ่อตอบว่า "ชอบปลา เลยมานั่งดูเพลินๆ" สนทนากันสักครู่ (จำไม่ได้แล้ว) ก็แยกย้ายกัน
ตอนหลังถึงรู้ว่า หลวงพ่อท่านนั้น คือ "ท่านพุทธทาสภิกขุ" ก็นับว่าเป็นบุญที่มีโอกาสได้พบท่าน
อีกครั้งหนึ่ง ญาติคนหนึ่ง เสียชีวิต แต่ญาติอีกคน เป็นลูกศิษย์ชั้นแนวหน้า บริจาคให้วัดทีนับล้าน (ถ้าบอกต้องใครๆ ก็ต้องรู้จัก) ก็นิมนต์ พระ (ใหญ่ติด 1/10 ของประเทศ) มาเป็นประธานในพิธี พระในวัดนั้นทุกรูป ต้อง กราบพระสงฆ์รุ่นใหญ่ ก่อนสวดศพ แถมมี คณะแม่ชีมาสวดกล่อมประสานเสียงอีกด้วย ก็อดคิดไม่ได้ว่า .... ถ้า ไม่ใช่ ญาติ คนที่เป็น ลูกศิษย์ชั้นแนวหน้า นิมนต์มาเป็นประธาน แต่เป็นญาติคนอื่นเชิญมาล่ะ พระผู้ใหญ่ท่านนั้น ... จะ "ตอบรับ หรือ ปฏิเสธ"
มีครั้งหนึ่ง.... ญาติคนรวยคนนี้ ไปดูดวงชะตา กับ เจ้าอาวาส วัดหนึ่ง ย่านฝั่งธน ที่ขึ้นชื่อว่า ดูดวงแม่น ถึงขนาดระดับแถวหน้าของประเทศก็ยังมาใช้บริการ ต้องจองตั้งแต่ตี 3 ตี 4 ค่าบริการดู ขั้นต่ำ 500 บาท ญาติคนนี้ ก็เข้าไปดู ... เจอท่านเจ้าอาวาส กระซิบบอก โยม พอหาใครช่วยบริจาคสัก 1 ล้านได้ไหม? จะสร้างหรือซ่อมอะไรสักอย่างนี้แหละ ญาติหน้าใหญ่ใจโตบอก ไม่ต้องดอก ฉันเองก็ได้ หลังจากนั้น ก็เซ็นเช็ค 1 ล้าน ส่งให้วัดไป
ครั้งที่สอง... ย้อนเวลากลับมาปัจจุบัน เมื่อปีที่แล้ว ได้มีโอกาสไป เที่ยวแถวพัทยา ก็ติดถังสังฆทานไปด้วย กะจะไม่เจาะจงวัด แล้วเข้าไปถวาย ก็เจอวัดหนึ่งทางผ่าน ก็เลี้ยวเข้าไป ตรงช่วงทางโค้งๆ เส้นตัดกับ สาย motor way กับสุขุมวิท เจอพระเจ้าอาวาส บอก น่าจะถวายเป็นปัจจัย เพราะสามารถเอาไปทำอะไรก็ได้ ไปซื้อทำไม ถังสังฆทาน ดูสิ เต็มกุฏิไปหมดแล้ว !! ผมก็ไหว้ๆ สวดๆ แล้วก็ลาจากวัด พร้อมกับ งง
ครั้งที่สาม... มาแถวบ้าน ใกล้ตลาด เจอ พระสงฆ์ ออกมาบิณฑบาตร ทุกวัน สังเกตเห็น ถ้าใครทำบุญตักบาตร มี ซองแนบ ก็จะรีบเดินเข้าไปรับบาตรกัน สวดเสียงดัง แต่ถ้าเป็นอาหารคาวหวาน ก็รับบาตรตามหน้าที่
ครั้งที่สี่... tshunami ก็ลงไปช่วยเคลียร์ศพ หลายวัน ที่วัดย่านยาว จ. พังงา ... อยู่ท่ามกลางกองศพ กองโรงศพ ของบริจาค มหาศาล กลิ่นหึ่ง กลับมาแล้วหลายวัน หายใจออกก็ยังมีกลิ่นศพติดอยู่เลย .... อาสาสมัครทั่วสารทิศต่างลงไปช่วยอย่างเต็มที่ ผู้คนวุ่นวายมาก แต่ที่เห็นคือ พระสงฆ์จำนวนหนึ่ง เดินสวนออกมานอกวัด บอกว่า กลิ่นเหม็นเหลือเกิน อยู่ไม่ได้ดอก ...
ครั้งที่ห้า... อีกแห่ง ตลาดใกล้กัน เจอ พระสงฆ์ นั่งรถปิคอัพ ควงคู่กับ พระประธาน เขียนป้ายว่า มาจาก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ผมเห็นมาหลายเป็นเดือนล่ะ ตระเวน พรมน้ำมนต์ รอญาติโยมถวายปัจจัย ก็ไม่รู้ว่าพระจริงพระแท้
ครั้งที่หก... มีคนแถวบ้านเป็นผู้หญิง ไม่สบายเหม่อลอย ทุกคนลงความเห็นว่าถูกผีเข้า ก็แนะนำ พระปราบผี ผู้มีคาถาอาคม ให้ วัดแถวราชบูรณะ ก็เลยจูงลากขึ้นรถไปหาพระ พอไปถึง พระ ก็อวดว่าตนเองมีสมณะศักดิ์ ผ่านพิธีกรรมสงฆ์ ระดับประเทศมาแล้ว มีรูปถ่ายเป็นหลักฐาน (เรื่องจริง) หลังจากนั้น ก็มอง หญิง แล้วเอาน้ำว่าน (ลักษณะเหมือนน้ำผสมผงธูป) ในตู้เย็นมาให้ดื่ม 1 แก้ว มีเด็กอายุ 5 ขวบ ติดตามไปด้วยคน หญิงคนนั้นก็บอกว่า ไม่ดื่ม ฝ่ายสามีก็บอกดื่มเถิดแล้วดีขึ้น หญิงก็ตะโกนบอก งั้น ต้นช่วยดื่มครึ่งแก้ว เด็กตกใจบอก เฮ้ยหนูสบายดี แม่ไม่สบายก็ดื่มสิ จะได้หาย ยังไงหญิงก็ไม่ดื่ม จนพระถือแก้วน้ำแล้วกรอกเข้าไปในปากของผู้หญิงจนได้ เท่านั้นไม่พอ พระ สั่งให้พาหญิงคนนั้นไปที่ลานกลางแจ้ง แล้วก็กระชากผม ตักน้ำมนต์ (มีดอกไม้อยู่ในนั้น) ราดที่ตัวผู้หญิง สุดท้ายพระบอก ทำได้เท่านี้ ลองพาไปหาหมอสักหน่อยก็ดีนะ ... สุดท้ายพออกจากวัดก็เลี้ยวไปหาหมอ รพ.จิตเวช ถูกรักษาด้วยไฟฟ้า+ยา อาการก็ดีขึ้น หมอวินิจฉัยว่า "ซึมเศร้ารุนแรง" ตอนนี้อาการดีขึ้นพูดคุยได้ปกติ ใช้ชีวิตได้ปกติ
ครั้งที่เจ็ด... ไปไหว้พระหลายที่ เช่น วัดย่าน จ.ฉะเชิงเทรา วัดย่านฝั่งธนบุรี กทม. วัดย่านภาษีเจริญ กทม. วัดย่าน จ.นครปฐม หรือวัดดังๆ ทั่วสารทิศ ก็จะเห็นภายในพระอุโบสถ์ศาลาใหญ่ มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ พื้นที่่ด้านข้าง ขนาบด้วย เครื่องรางของขลัง วัตถุองค์เสมือน ที่มีบริการเช่า/จำหน่าย โดยพระสงฆ์
ที่กล่าวมาทั้งหมด ผมมีประสบการณ์กับพระหลากหลายรูปแบบมาก็เยอะ ตั้งแต่เล็กจนโต รู้สึกว่า เจอแค่องค์เดียว คือ หลวงพ่อ พุทธทาสภิกขุ ตอนนั้นเมื่อ 25-30 ปี ที่แล้ว และนับตั้งแต่นั้นมา ก็รู้สึกว่ายังไม่เคยเจอ "พระสงฆ์ เนื้อนาบุญ ทายาทของพระพุทธศาสนา" อีกเลยจนถึงปัจจุบัน.....
http://pantip.com/topic/30091373
|
|
|
107
|
ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ค้นหาพระในใจ ( ก. เขาสวนหลวง )
|
เมื่อ: สิงหาคม 19, 2012, 02:47:24 pm
|
เราจะต้องรู้จักพระข้างในกันเสียที ที่ไปหลงบูชาพระข้างนอกมาแขวนคอนั่นยังเป็นเด็กอยู่ ก็ต้องอาศัยเครื่องเล่นไปอย่างนั้น ที่รู้จักพระในใจนี่ต้องปฏิบัติกันจริงๆ รู้จักดับทุกข์ดับกิเลสของตัวเองได้ แล้วนั่นแหละจะได้เดินตามรอยของพระ กวาดกิเลสให้เกลี้ยงหมดจดบริสุทธิ์ แล้วก็เป็นพระเสียเอง การเป็นพระหรือมีธรรมะขึ้นมาภายในจิตในใจมันคุ้มครองอันตรายได้รอบด้านหมด แม้ว่าชีวิตนี้จะแตกดับแต่ว่าสิ่งนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างอื่น มันเป็นความคงที่ ไม่มีการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย ไม่มีกิเลสที่เป็นเหตุให้เกิดอีก ไม่มีตัณหามาปรุงจิตให้ไปเกิดอีก นั่นแหละจึงจะพบเข้ากับพระนิพาน เป็นการดับกิเลสตัณหาอุปาทานเด็ดขาดสิ้นเชิง แต่นี่มันยังอยู่กับกองทุกข์กองกิเลส
จึงต้องปฏิบัติอยู่ทุกเวลานาทีของชีวิตทีเดียว การปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องสำคัญของตัวเองด้วยกันทุกคน การถูกกิเลสเผาจิตร้อนเร่าเศร้าหมองไปอย่างไร ก็ต้องสอบได้ ถ้าเป็นฝ่ายเผากิเลสได้ ดับกิเลสได้ จิตใจก็สงบได้ สะอาดได้ ว่างได้ แล้วอย่างนี้จะไม่น่าปฏิบัติกันอย่างไรได้ จะไปทอดธุระ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันก็ทุกข์อยู่ในตัว เพราะฉะนั้นต้องพยายามก้าวหน้าเรื่อยไปทีเดียว ถอยหลังไม่ได้เป็นอันขาด เพราะทุกข์มันจะเกิดใหญ่ กิเลสจะเผาใหญ่ ต้องก้าวหน้าเรื่อยไป ทวนกระแสของกิเลสเรื่อยไป แม้จะผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะก็ต้องพยายามไป การปฏิบัติธรรมก็ไม่ใช่ของง่าย ที่จะไม่ให้มีการพ่ายแพ้นั่นก็ไม่ได้ เพราะกิเลสในสันดานมันยังเสนอหน้าเข้ามาอยู่เรื่อย ฉะนั้นต้องพยายามมองเข้าด้านในตะพึดไปจึงจะได้มีเครื่องมือที่คมเฉียบขึ้นมา เพื่อฝ่าฟันกิเลสตัณหาซึ่งมันก็อยู่ภายในนั่นแหละ มันเป็นข้าศึกลึกลับ ต้องพยายามดับทำลายมันให้ว่างเปล่าไปจากจิตใจให้ได้ ที่เราได้มีโอกาสมาประพฤติปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ดับกิเลสอย่างนี้เป็นของดีที่สุดแล้ว ถ้าเราไม่ปฏิบัติให้ถูกทางแล้วมันจะหลง มันหลงไปชักใยพันตัวเองให้วุ่นวายไปต่างๆ นานา ซึ่งก็มีตัวอย่างอยู่แล้ว เราเองก็หลงมาแย่แล้ว ทีนี้จะต้องออกจากดงหลงเสียที ทีนี้เราได้รู้สึกตัวทั่วถึงกันแล้วว่า ต้องอดทนต่อสู้ศัตรูหมู่มารข้างใน ให้มันพ่ายแพ้ยับเยินไปให้ได้ เราเคยพ่ายแพ้มันมามากแล้ว ต่อไปนี้ต้องพยายามแล้วพยายามอีก ตั้งหน้าฝ่าฟันป่ากิเลสให้เตียนโล่งไปให้ได้ แล้วทุกข์โทษทั้งปวงมันจะลดน้อยลงไป เราขุดมันมาเผาเสียเรื่อยๆ การเผาก็หมายถึงการพิจารณานั่นเอง ให้เห็นว่ามันเป็นความว่างจากตัวตนเอาไว้ เพราะว่าจะเผาอย่างอื่นมันก็ไม่ตรง มันยังงอกได้ ตัวกูของกูมันยังงอกได้ เพราะฉะนั้นต้องตรงเข้าขุดรากแก้วตัวตนนี่ให้มันดับทำลายไปเรื่อยๆ มันงอกขึ้นมาทีไรเราต้องสับมันลงไปทันที หรือขุดมันขึ้นมาเผาเสีย พิจารณาแล้วพิจารณาอีก จนเห็นความเป็นธาตุได้นั่นแหละจึงเป็นการเผาได้ ถ้าเห็นเป็นตัวเป็นตนอยู่ มันจะงอกขึ้นมา ทุกข์โทษมากมายนักหนาทีเดียว เราเพียรพิจารณาอยู่เรื่อย เผามันเรื่อยทีเดียว มันก็ตายไปเตียนไป อย่างนี้ข้อปฏิบัติก็ใกล้มรรคผลนิพพานแล้ว หรือว่าเป็นมรรคผลนิพพานน้อยๆ เรื่อยไปก็ได้ เพราะเราไม่ต้องไปพึ่งพาอาศัยสิ่งภายนอก แต่เราจะปฏิบัติให้ถูกตรงตามแนวทางของพระพุทธเจ้า ที่ให้เราปฏิบัติด้วยการพิจารณาให้เห็นรูปนามขันธ์ 5 ว่างจากตัวตน เท่านี้ เราต้องพยายามอย่างนี้อย่างเดียว กิเลสตัณหาอุปาทานภายในสันดานมันมีหลายชั้น ขั้นหยาบ ขั้นกลาง ขั้นละเอียด สำหรับขั้นหยาบที่พอจะรู้ได้ จับได้ ละได้ ก็เห็นผลกันอยู่แล้ว ส่วนขั้นกลางหรือขั้นละเอียดมันเป็นของลึกซึ้งมาก มันหลอกให้รวนเรเถลไถลไป เพราะมันเห็นว่าเป็นสุขแล้ว การปฏิบัตินี่จะต้องไม่หลงความสุข จะต้องพิจารณาให้เห็นความทุกข์โดยส่วนเดียว และทุกข์นี่มันก็เป็นทุกข์ของธรรมชาติ ไม่ใช่ทุกข์ของเรา ข้อนี้เป็นข้อที่จะต้องพิจารณาซ้ำซาก ให้เห็นชัดๆ ลงไปให้ได้ มันเป็นธรรมชาติจริงๆ ไม่มีตัวเรา ไม่ใช่ของของเราจริงๆ แล้วจิตนี่จะได้ไม่เข้าไปยึดมั่นถือมั่น มันจะได้ปล่อยได้วางออกไป แล้วมันจะได้ว่างจากตัวตน ว่างจากตัวตนให้มากเป็นพิเศษทีเดียว การปฏิบัติเป็นเรื่องกวาดทิ้ง ถ้าพื้นความรู้มีแนวของการพิจารณาประกอบอยู่ด้วยแล้ว การกวาดทิ้งจะเป็นไปได้ง่ายๆ คือจิตจะว่างจากตัวตนได้ง่ายเหมือนกัน แต่ถ้าไม่รู้แล้วมันจะยึดมั่นถือมั่นขึ้นมา มันจะวุ่น มันจะวิ่ง ต้องพิจารณาให้เห็นทุกข์โทษทั้งหลายที่มันวุ่นวายอยู่กับอะไร มันยึดมั่น ถือมั่นอยู่กับอะไร ต้องเพียรเพ่งพิจารณาให้เห็นประจักษ์ชัดให้จงได้ ให้มันรู้จริงขึ้นมาว่า มันเป็นสักแต่ว่าธาตุตามธรรมชาติเท่านั่น ไม่ใช่เป็นตัวเรา ไม่ใช่เป็นของเราแน่นอนลงไปให้ชัดใจให้ได้ เราต้องย้ำแล้วย้ำอีก เพราะเรื่องการพิจารณาที่จะให้เห็นแจ้ง ไม่ใช่เป็นของง่าย ต้องเพียรพิจารณาอยู่ซ้ำซากจนรู้เห็นขึ้นมาจริงๆ ถ้าว่ายังไม่รู้จริงก็ต้องพยายามพิจารณาให้มันรู้จริงขึ้นมาให้ได้ มันจึงจะปล่อยวางว่างเปล่าจากตัวตนไปได้ แล้วมันจะได้โล่งอกโล่งใจขึ้นมา http://www.watphramahajanaka.org/web/?page_id=1721
|
|
|
109
|
ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / อานาปานสติสมบูรณ์แบบ_ท่านพุทธทาส.mp4
|
เมื่อ: สิงหาคม 08, 2012, 03:55:44 pm
|
อานาปานสติสมบูรณ์แบบ_ท่านพุทธทาส.mp4
อัปโหลดโดย somchai153 เมื่อ 30 ธ.ค. 2010 Shortnote จากหนังสือ "อานาปานสติสมบูรณ์แบบ" ของท่านพุทธทาส เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับการฝึกฝนปฏิบัติธรรม อานาปานสติภาวนา ตอนที่ ๑
อัปโหลดโดย Buddhadharm เมื่อ 25 ก.ย. 2011 "อานาปานสติภาวนา ๑." การทำความเข้าใจให้ถูกต้อง จนเกิดกำลังใจในการปฏิบัติ อบรมการปฏิบัติสมาธิภาวนนา รุ่นที่ ๑. พุทธทาสภิกขุ-สวนโมกขพลาราม ๑๙ -๒๑ กันยายน ๒๕๓๒
|
|
|
110
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ความศรัทธา มีผลต่อการปฏิบัติ ภาวนาเป็นอย่างมาก
|
เมื่อ: สิงหาคม 03, 2012, 12:50:34 pm
|
อย่าเชื่อ 10 ประการ (กาลามสูตร)
กาลามสูตรกังขานิยฐาน 10
หมายถึง วิธีปฎิบัติในเรื่องที่ควรสงสัย หรือหลักความเชื่อ ที่ตรัสไว้ในกาลามสูตร
1.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา (มา อนุสฺสเวน)
2.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสีบๆกันมา (มา ปรมฺปราย)
3.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ (มา อิติกิราย)
4.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน)
5.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก (มา ตกฺกเหตุ)
6.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน (มา นยเหตุ)
7.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน)
8.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา)
9.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย)
10.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ)
ต่อเมื่อใด รู้เข้าใจด้วยตนว่า ธรรมเหล่านั้น เป็นอกุศล เป็นกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ เป็นต้นแล้ว จึงควรละหรือถือปฏิบัติตามนั้น
สูตรนี้ในบาลีเรียกว่า เกสปุตติสูตร ที่ชื่อกาลามสูตร เพราะทรงแสดงแก่ชนเผ่ากาละมะ แห่งวรรณะกษัตริย์ ที่ชื่อเกสปุตติยสูตร เพราะพวกกาละมะนั้นเป็นชาวเกสปุตตะนิคม ในแคว้นโกศล ไม่ให้เชื่องมงายไร้เหตุผลตามหลัก 10 ข้อ
ตัวอย่าง
1.อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา ประเภท "เขาว่า" "ได้ยินมาว่า" ทั้งหลาย
2.อย่าได้ยึดถือถ้อยคำสืบๆกันมา ประเภท "ใครๆว่า" "โบราณว่า" ตามกระแส
3.อย่าได้ยึดถือโดยความตื่นข่าวว่า เข่าว่าอย่างนี้ ประเภทข่าวลือ ข่าวโคมลอย ทั้งหลาย
4.อย่าได้ยึดถือโดยอ้างตำรา อย่าไปตามตำรามากนัก ตำราว่าอย่างนั้น ต้องออกมาเป็นอย่างนั้น เท่านั้น เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะอย่าลืมว่า ตำราบางเล่ม คนแต่งก็มั่วมาบ้าง เขียนไม่ครบบ้าง ใส่ไข่เอาเองบ้าง คนมีกิเลสไปแก้ไขตำรา คนมีผลประโยขน์ ไม่แก้ไขตำราเท่ากับเราโดนหลอก
5.อย่าได้ยึดถือโดยนึกเดาเอาเอง เช่น เข้าใจเอาเอง หรือข้อมูลไม่พอ ใจร้อนเดาสุ่มเอา มั่วๆ เอา
6.อย่าได้ยึดถือโดยการคาดคะเน การคาดการณ์ตามประวัติศาสตร์ ตามสถิติ ความน่าจะเป็น ซึ่งอาจจะผิดก็ได้ เพราะเห็นแค่ร้อย อย่าเหมาว่าที่ร้อยเอ็ดจะเป็นไปด้วย
7.อย่าได้ยึดถือตรึงตามอาการ อย่าเห็นว่าอาการแบบนี้ น่าจะเป็นแบบนี้ ให้คิดเผื่อๆไว้ด้วย เช่น เห็นคนไข้เป็นแบบที่เคยรักษาคนอื่นๆมาก่อน อย่าไปตรึกเอาเองว่าเป็นแบบนั้น เห็นเงาก็จ่ายยาได้ เพราะเหนือฟ้ายังมีฟ้า อย่าเข้าข้างตนเอง นั่งสมาธิเห็นโน่น เห็นนี้ อย่านึกว่าเป็นจริง เพราะอาจจะเป็นจิตหลอกจิต
8.อย่าได้ยึดถือโดยชอบใจว่า ต้องกันกับทิฐิของตัว อย่าเอาความเห็นของตนเป็นใหญ่ อะไรที่ตรงกับที่ตนคิดไว้เท่านั้นที่เชื่อได้ คนคิดแบบนี้ ดื้อตายชัก 9.อย่าได้ยึดถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้ ระวังจะโดนหลอก อย่าลืมว่า สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
10.อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา การยึดอาจารย์ของตนเองมากไป ก็ไม่ดี ควรทำตาม ทดสอบดู ถ้าผิดพลาดก็ไม่ต้องเชื่อ ถ้าทำแล้วดีขึ้นก็แสดงว่าเชื่อได้
ที่มา : http://www.easyinsurance4u.com/buddha4u/kalamasutta.htm การใช้ความศรัทธา อาจจะทำให้เสีย มรรค ผล ได้คะ เพราะชาวพุทธที่ดี ควรใคร่ครวญด้วยปัญญาคะ
|
|
|
114
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ขอความอนุเคราะห์พระอาจารย์ช่วยสอนมัชฌิมากรรมฐานตั้งแต่เริ่มต้น
|
เมื่อ: สิงหาคม 03, 2012, 12:33:01 pm
|
อันที่จริง ไม่เห็นด้วยกับการต้องขึ้นกรรมฐาน คะ เพราะส่วนตัวคิดว่า พระธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้นั้น เป็นธรรมที่ควรให้ฟรีคะ การขึ้นกรรมฐานเหมือนผูกรัด ให้ผู้รับกรรมฐาน กระดิกไปตามใจไม่ได้ นอกจากตามใจครูอาจารย์ และการขึ้นกรรมฐานนั้น ทำให้เราต้องพบครูอาจารย์เป็นระยะด้วย ซึ่งส่วนตัวคิดว่า การได้เรียนกรรมฐาน ปฏิบัติตามอิสสระ น่าจะดีกว่าคะ ไม่ต้องผูกพันกับครูอาจารย์มากคะ เพราะการผูกพันกับครูอาจารย์มาก ส่วนตัวมองว่า เป็น สีลัพพตปรามาส คือ ติดครูอาจารย์กันได้คะ ดังนั้นคิดว่า ครูอาจารย์ที่ดี ควรจะสอนกรรมฐานให้แก่ผู้สนใจ โดยไม่ต้องหวงห่วงวิชา ซึ่งผู้เรียนมีสติปัญญารับได้เท่าไหน ก็แล้วแต่เขาคะ จึงอยากให้ช่วยเปิดเผยกรรมฐาน อย่างไม่ต้องหวงวิชาด้วยคะ จะได้เป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจศึกษาธรรมต่อไปคะ
|
|
|
115
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เหตุผลใด ที่เราต้องการมาปฏิบัติธรรม กันครับ ???????????
|
เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2012, 01:26:13 pm
|
ถ้า ภาวนา ต้องมีเหตุผล อะไร คะ ยิ่งใส่เหตุผล ก็ยิ่งหาเหตุผลได้ยากคะ เพราะมีแต่เหตุผลที่เข้าข้างตัวเอง คำตอบง่าย ๆ ก็คือ ภาวนาแล้วทำให้ใจเป็นสุข ก็จะภาวนาคะ บางครั้งและหลายเวลา ใจเราบริสุทธิ์อยู่หมดจดจากเครื่องเศร้าหมอง เพราะกิเลสไม่ได้จรเข้ามา ในช่วงนั้นก็ไม่ได้ภาวนาอะไรเลย จึงไม่รู้ว่าแก่นสารของการภาวนาอยู่ที่อะไรกันแน่ ถ้าเรามีจิตที่ไม่เศร้าหมอง ดังนั้นเวลาที่เราภาวนา ก็จะเป็นยามที่เรา มีจิตเศร้าหมองไม่ผ่องใส คะ
|
|
|
120
|
เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ไปไหว้พระบาทพลวง และ กิจกรรมท่องเที่ยวทั่วไทย ประจำเดือน มกราคม 2555
|
เมื่อ: มกราคม 27, 2012, 01:39:37 pm
|
รวม กิจกรรมท่องเที่ยวทั่วไทย ประจำเดือน มกราคม 2555 ตามข่าวกิจกรรมในระยองเรื่อยๆได้ที่ http://www.thairayong.com/webboard/index.php?board=63.0ปิดทอง ฝังลูกนิมิต ผูกสีมา ในระยอง และใกล้เคียง ปี 2555 ระยอง #วัดศาลาน้ำลึก 21-29 มกราคม 2555 ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง #วัดเนินสว่าง 21-29 มกราคม 2555 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง #วัดเขากระโดน 21-29 มกราคม 2555 ต.ซากโดน อ.แกลง จ.ระยอง #วัดถนนกะเพรา 21-29 มกราคม 2555 ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง จันทบุรี #วัดคลองซาก 21-29 มกราคม 2555 ต.นายายอาม อ.นายายอาม จ.จันทบุรี #วัดวังแจง 21-29 มกราคม 2555 ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี #วัดช่องกะพัด 21-29 มกราคม 2555 ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี #วัดบ้านโคก 21-29 มกราคม 2555 ต.แก่งหางแมว อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ชลบุรี #วัดมาบฟักทอง 21-29 มกราคม 2555 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี #วัดแหลมทอง ตรุษจีน ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราช จ.ชลบุรี #วัดเขาดินญาณนิมิต 20-26 มกราคม 2555 ต.หัวถนน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี #วัดมาบสามเกลียว 21 - 29 มกราคม 2555 ต.หัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี
|
|
|
|