สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 13, 2019, 06:29:03 am



หัวข้อ: พาย้อนรอยประวัติศาสตร์ สักการะเจดีย์วัดภูเขาทอง
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 13, 2019, 06:29:03 am


(https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20190608/news_caOfTtCRpB162939_533.jpg)


พาย้อนรอยประวัติศาสตร์ สักการะเจดีย์วัดภูเขาทอง

สัปดาห์นี้พาย้อนรอยประวัติศาสตร์ เที่ยวที่วัดภูเขาทอง อยุธยา ขอพรกราบสักการะมหาเจดีย์ อดีตที่ตั้งค่ายสู้รบกับพระเจ้าบุเรงนอง ก่อนเสียกรุงให้กับพม่า
 
“วัดภูเขาทอง” ที่เราจะไปเที่ยวกันในคราวนี้ อยู่ที่ทุ่งภูเขาทอง จ.พระนครศรีอยุธยา ทุ่งแห่งประวัติศาสตร์การสู้รบระหว่างไทยกับพม่า ปี พ.ศ. 2112 พระเจ้าบุเรงนอง ชนะศึกเหนือกรุงศรีอยุธยา ได้สร้างพระเจดีย์ขนาดใหญ่แบบมอญไว้ที่วัดภูเขาทอง แต่สร้างได้เพียงเฉพาะฐานของเจดีย์เท่านั้น
 
ปี พ.ศ.2127 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกอบกู้เอกราชไทยคืนจากพม่า จึงโปรดเกล้าให้สร้างเจดีย์แบบไทยไว้เหนือฐานเจดีย์แบบมอญ ที่พระเจ้าบุเรงนองทรงสร้างค้างไว้ ฝีมือช่างแบบมอญเดิมจึงปรากฏเพียงฐานทักษิณส่วนล่างของเจดีย์เท่านั้น เป็นที่มาของสถาปัตยกรรมระหว่างไทยมอญที่ปรากฏในองค์เจดีย์
 
เจดีย์ภูเขาทอง เป็นมหาเจดีย์สำคัญที่มีความสูงถึง 90 ม. ตั้งอยู่นอกเกาะกรุงศรีอยุธยา ด้านตะวันตกเฉียงเหนือ 2 กม. ส่วนเจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคล เป็นมหาเจดีย์ที่สูงกว่าเจดีย์วัดภูเขาทอง 2 ม. ตั้งอยู่นอกเกาะด้านตะวันออกเฉียงใต้

 
(https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20190608/news_UbMQcbwudb162943_533.jpg)

การเดินทางมายัง “วัดภูเขาทอง” เพื่อสักการะพระเจดีย์ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 พอถึงหลักกิโลเมตรที่ 26 จะมีป้ายบอกทาง ให้สังเกตว่าอยู่ด้านซ้ายบอกเส้นทางไปวัดภูเขาทอง
 
มาถึงวัดสภาพแวดล้อมเป็นเหมือนทุ่งกว้างใหญ่ ในอดีตมีการเรียกขานกันว่า ทุ่งภูเขาทอง เป็นที่ทำการเกษตรที่สำคัญในสมัยอยุธยาเป็นเมืองหลวง ทั้งเป็นที่ตั้งค่ายเพื่อสู้รบกับพม่า หรือบางคราวพม่าก็ใช้สถานที่แห่งนี้ตั้งทัพด้วยเหมือนกัน
 
วัดภูเขาทอง ตั้งอยู่บนโคกซึ่งพื้นที่โดยรอบมีน้ำท่วมถึง ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในการเสียกรุงศรีอยุธยาให้กับพม่านั้น มีการขุด “คลองมหานาค” เพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรสำคัญระหว่างพระนครด้านแม่น้ำลพบุรีกับวัดภูเขาทอง ในยามรบระหว่างไทยกับพม่า สถานที่แห่งนี้เรียกว่า “ค่ายมหานาค” ตามชื่อคลองคูน้ำและคันดินรายล้อมรอบทุ่งภูเขาทองที่สร้างขึ้น เพื่อป้องกันกรุงศรีอยุธยา ยังปรากฏให้เห็นจนปัจจุบัน


(https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20190608/news_NhwzEhJskP162944_533.jpg)

เมื่อไทยเสียกรุงศรีอยุธยาให้กับพม่าในปี พ.ศ. 2310 วัดภูเขาทองถูกทิ้งร้าง ส่วนมหาเจดีย์ยังมีคนเดินทางมาเที่ยวชมวัดภูเขาทอง จะได้สักการะพระเจดีย์

...ครั้นรุ่งเช้าเข้าเป็นวันอุโบสถ
เจริญรสธรรมาบูชาฉลอง
ไปเจดีย์ที่ชื่อภูเขาทอง
ดูสูงล่องลอยฟ้านภาลัย
อยู่กลางทุ่งรุ่งโรจน์สันโดษเด่น
เป็นที่เล่นนาวาคงคาใส...


(https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20190608/news_ZTmMJhxwuk162944_533.jpg)

จากนิราศภูเขาทองของ สุนทรภู่ ชี้ชัดว่าแม้จะไม่มีพระภิกษุจำวัด แต่ประเพณีงานบุญเกี่ยวเนื่องด้วยพระเจดีย์ยังคงมีอยู่ ปี พ.ศ. 2500 วัดภูเขาทองจึงมีพระมาจำพรรษา
 
วัดภูเขาทองมีมหาเจดีย์ที่โดดเด่น มีเจดีย์ราย 7 องค์เป็นแบบย่อมุมไม้สิบสอง ตั้งอยู่บนฐานประทักษิณ หอพระอุโบสถยาว 40 ม. กว้าง 11 ม. มี 3 ตอน 2 ประตู ลวดลายบนเสาซุ้มประตูเป็นลายเฟืองไทย ภายในอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาทรายปางสมาธิ ศิลปะสมัยอยุธยา และวิหารมีอยู่ด้วยกัน 2 หลัง หลังแรกกว้าง 6 ม. หลังที่สองกว้าง 8 ม. หอระฆังปรากฏเพียงฐาน
 
มาเที่ยววัดภูเขาทอง จะได้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชด้วย ได้ชมความงามของมหาเจดีย์แห่งกรุงศรีอยุธยาที่สูงล่องลอยฟ้านภาลัย.


คอลัมน์ : ชำเลืองเมือง โดย “แรมทาง”
ขอบคุณที่มา : https://www.dailynews.co.th/article/713683 (https://www.dailynews.co.th/article/713683)
อังคารที่ 11 มิถุนายน 2562 เวลา 11.00 น.