เปลี่ยนความคิดเท่ากับเปลี่ยนกรรม ธรรมะไขข้อข้องใจเรื่องกฎแห่งกรรม
“กรรมฉันเอง กรรมฉันเอง” บทสรุปสุดท้ายที่คนพูดให้ได้ยิน เมื่อประสบปัญหาชีวิตที่หนักสุด ๆ การเปลี่ยนความคิดช่วย เปลี่ยนกรรม ได้จริงหรือไม่ ท่าน ส.ชิโนรส จะอธิบายเรื่องนี้ให้กระจ่าง
กรรม แปลสั้น ๆ ว่า การกระทำ การกระทำที่คนแสดงออกทางกาย พฤติกรรม บุคลิกลักษณะ ท่าทาง และอากัปกิริยาต่าง ๆ เรียกว่า “กายกรรม” ส่วนการกระทำที่คนแสดงออกทางคำพูด น้ำเสียง ทำนองการพูด ภาษาที่พูด เรียกว่า “วจีกรรม”
ทำ และ พูด หรือกายกรรมและวจีกรรมคือความหมายอย่างหนึ่งของกรรม คนทั่วไปจะวัดว่าความเป็นคน หรือความเป็นมนุษย์ที่คำพูด และการกระทำ หลายคนเชื่อว่า คำพูดและการกระทำ คือหน้าต่างหัวใจ ตัวบ่งชี้บุคลิกและตัวตนของบุคคลผู้นั้น
แม้คำพูดและการกระทำจะวัดค่าคนแต่ละคนได้ก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะยังมีสิ่งที่ลึกไปกว่าสิ่งที่เราเห็นด้วยตา และได้ยินด้วยหู คือความคิดในใจของแต่ละบุคคล
@@@@@@
พุทธศาสนาให้ความสำคัญกับความคิดมากกว่าคำพูดและการกระทำ พระพุทธองค์ตรัสไว้ในมงคลสูตรว่า
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราไม่เห็นธรรมะแม้แต่ข้อเดียวที่จะมีโทษรุนแรงมากเท่ากับการคิดผิด”
คิดผิดเสียตั้งแต่ต้น คำพูดและการกระทำทั้งหมดก็ผิด แก้ไขได้ยากที่สุด คิดถูกเสียตั้งแต่ต้น คำพูดและการกระทำก็ถูกไปทั้งหมด ชีวิตก็ราบรื่น
พระพุทธองค์จึงให้ความสำคัญกับความคิดมากที่สุด ความคิดเป็นจุดเริ่มต้นของคำพูดและการแสดงออก เปรียบเหมือนเข็มทิศชี้ทางให้คนเดินหรือเป้าหมายชีวิต
@@@@@@
หากเข็มทิศชี้ผิด การเดินทางก็ผิดไปทั้งหมด แต่หากเข็มทิศชี้ถูก การเดินทางก็ถูกทั้งหมด พระพุทธองค์จึงตรัสว่า…
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าความคิด เป็นกรรม บุคคลคิดแล้วจึงแสดงออกทางคำพูด พฤติกรรม และจิตวิญญาณ”
นั่นคือ ความคิดนั่นแหละคือตัวกรรม ตัวตนที่แท้จริงของกรรม หรือแก่นแท้ของกรรม ส่วนคำพูดและการแสดงออกเป็นเพียงผลที่เกิดจากความคิดเท่านั้น
ในพระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต พระพุทธองค์ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความคิดว่า หากคิดผิด หรือคิดไม่ถูกกับความเป็นจริงแล้วจะมีโทษร้ายแรงมากที่สุด มากกว่าอนันตริยกรรม คือ ฆ่ามารดา ฆ่าบิดา ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธองค์จนห้อพระโลหิต และทำสงฆ์ให้แตกสามัคคีเสียอีก
@@@@@@
อนันตริยกรรม แปลว่า กรรมที่ผู้ทำได้รับผลอย่างต่อเนื่อง หรือ กรรมที่แก้ให้หนักเป็นเบาไม่ได้ ถือเป็นกรรมหนักที่สุดในบรรดากรรมต่าง ๆ ปิดกั้นไม่ให้ผู้ทำไปสวรรค์หรือนิพพาน ผู้ทำอนันตริยกรรมจะต้องเสวยผลกรรมในนรกนานเป็นกัปเป็นกัลป์ แต่กระนั้นก็ยังมีเวลาพ้น
ส่วนคนคิดผิดหรือคนมีมิจฉาทัศน์ไม่มีเวลากำหนดพ้นนรก ตราบใดที่เขายังคงยึดถือความคิดนั้นอยู่อย่างเดิม ฉะนั้น แก่นแท้ของกรรม หรือตัวตนที่แท้จริงของกรรมจึงไม่ใช่คำพูดและการกระทำ แต่คือความคิดของมนุษย์ทุกคนนั่นเอง ที่มา : กรรม รหัสลับที่แก้ได้ โดย ส.ชิโนรส
ภาพ :
https://pixabay.comขอบคุณ :
https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/163212.htmlBy nintara1991 ,9 July 2019