ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อเราโตขึ้นเราจะเข้าใจว่า “การมีเพื่อนเยอะไม่สำคัญเท่ากับการมีเพื่อนดี”  (อ่าน 6617 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



เมื่อเราโตขึ้นเราจะเข้าใจว่า “การมีเพื่อนเยอะไม่สำคัญเท่ากับการมีเพื่อนดี”

“อันเพื่อนดีมีหนึ่งถึงจะน้อย ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา เหมือนเกลือดีมีน้อยด้อยราคา ยังดีกว่าน้ำเค็มเต็มทะเล” วันนี้ขอยกเอาคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ ที่เป็นบทกลอนสอนใจเรื่องเกี่ยวกับ “เพื่อน” ขึ้นมาพูดสักหน่อยนะคะ เพราะด้วยสถานการณ์และผู้คนที่เราต้องพบเจอในแต่ละวัน หรือแม้แต่ปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตทำให้เรากลับมานั่งคิดทบทวนว่า เวลาเรามีเรื่องทุกข์ใจ หรือเศร้าใจ มีใครบ้างที่เหลืออยู่กับเราในเวลานั้น และเขาคนนั้นแม้จะเป็นเพียงคนคนเดียวที่เหลืออยู่ก็ขอให้จงดีใจเอาไว้เถอะค่ะ ว่านั่นแหละคุณได้เจอเพื่อนแท้แล้ว แม้จะมีจำนวนไม่มาก แต่เค้าคือเพื่อน “คุณภาพ” ที่แท้จริของคุณ

ทุกวันนี้ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทันสมัยขึ้นทำให้คนเรามีการสื่อสารกันง่ายมากขึ้น คนเราจึงมีเพื่อนมากมายในสังคมออนไลน์อย่างเฟสบุคเป็นร้อย บางคนนี่มีเพื่อนเป็นพันๆ คน แต่เอาเข้าจริงๆ เราก็จะคุยหรือมีปฏิสัมพันธ์อยู่ด้วยเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ในโลกออนไลน์หากเราพอใจที่จะให้เพื่อนคนไหนอยู่ในชีวิตเราก็แค่เก็บเขาเอาไว้ หรือหากไม่พอใจใครก็แค่ลบหรือบล็อคออกไปจากเฟสบุคก็เท่านั้น แต่ในชีวิตจริงเรามีเพื่อนที่พูดคุยด้วยได้ทุกเรื่องสักกี่คน เรามีคนที่รับฟังปัญหาที่เราเจอมีกี่คน เคยลองนั่งคิดกันบ้างหรือเปล่า ถึงเวลาแล้วค่ะที่เราจะคัดเลือกเพื่อนที่รู้ใจเอาไว้ข้างกายแบบเพื่อนคุณภาพ  แม้ว่าคัดออกมาแล้วจะเหลือจำนวนน้อยมากเพียงไม่กี่คน หรือบางคนอาจจะเหลือแค่คนเดียว แต่จงดีใจเถอะว่าคุณเป็นหนึ่งในคนที่โชคดีเพราะที่เหลือเพื่อนน้อยๆ นั่นแหละ แต่เค้าคือเพื่อนแท้ค่ะ

เวลาที่คนเรามีปัญหา หรือมีเรื่องอยากระบายให้ใครสักคนฟัง เชื่อหรือไม่คะว่าเรามักต้องการเพียงแค่คนคนเดียวเท่านั้นที่รับฟัง ฉะนั้นวันนี้เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าข้อดีของการมีเพื่อนน้อย แต่เป็นเพื่อนคุณภาพนั้นมีอะไรบ้าง แล้วไปดูว่าเมื่อเราเจอคนคนนั้นแล้ว เราควรรักษาเค้าเอาไว้อย่างไร

>> เชื่อเถอะว่าเพื่อนยิ่งเยอะ ยิ่งมากปัญหา <<

เมื่อตอนที่เรายังเป็นเด็ก หรือเมื่อสมัยยังเป็นวัยรุ่น เราจะมีความรู้สึกว่าถ้าไปไหนแล้วได้ไปกันเป็นกลุ่ม เป็นแก๊งค์ใหญ่ๆ คนเยอะๆ มันช่างเป็นอะไรที่สนุกสนานเหลือเกิน ยิ่งคนเยอะยิ่งมันส์สุดๆ แต่เมื่อเราโตขึ้นด้วยภาระหน้าที่ที่ทุกคนต้องมี การมีเพื่อนเยอะๆ หลายๆ คน การจะรวมกลุ่มกันแต่ละทีนั้นเป็นเรื่องยาก บางครั้งกว่าจะนัดเจอกันได้ คนนั้นติดธุระ คนนี้ติดงาน ไม่ลงตัวสักที นัดกันจนปวดหัว ยิ่งถ้าต้องรวมตัวกันให้ครบจำนวนแก๊งค์ที่เคยมีตอนวัยรุ่นยิ่งยากเลยค่ะ บางทีไม่ได้เจอกันเป็นเดือนๆ ก็เพราะมัวแต่นัดกันนี่แหละ แต่หากเรามีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวหรือสองคน เวลาจะนัดกันก็ง่าย คนหนึ่งไม่ว่างก็รอกันได้ มันต้องมีสักวันที่ว่างตรงกัน การตัดสินใจเลือกสถานที่นัดเจอก็ไม่วุ่นวาย

เห็นหรือยังคะว่าเพื่อนน้อยมันดีแค่ไหน ทางที่ดีที่เราจะเอาเวลามานั่งนัดเพื่อนเยอะๆ เจอคนนั้นคนนี้ ควรหันมาให้ความสำคัญกับคุณภาพของเพื่อนมากกว่าปริมาณค่ะ มีเพื่อนสนิทไม่ต้องมาก แต่พึ่งพาอาศัยได้ทุกคน มีคนที่เราสามารถไว้ใจบอกเล่าความลับได้  ก็เป็นเพื่อนที่ประเสริฐและควรค่าแก่การถนอมรักษาไว้ที่สุด มีเพื่อนไม่มากแต่ดีทุกคน เท่านี้ก็ดีที่สุดแล้วล่ะค่ะ

>> เพื่อนน้อยลง ชีวิต (อาจ) ดีขึ้น <<

การลดจำนวนผู้คนในชีวิตลงอาจนำพาความสงบมาสู่ชีวิตเราได้ เพราะคนจำนวนมากไม่ได้หมายความว่าจะนำพาความสุขมาให้เราได้เสมอไป บางทีคนที่แวดล้อมเราจำนวนมากมายนั้นอาจเข้ามาด้วยความคาดหวัง ในงานเลี้ยงสังสรรค์ที่รวมตัวเพื่อนจำนวนมากอาจเต็มไปด้วยความสนุกสนานเฮฮา แต่ความเฮฮานั้นกลับไม่ได้ทำให้คุณเป็นตัวของตัวเองมากนัก ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของคุณอาจเต็มไปด้วยความอึดอัดใจ เพราะคุณไม่สามารถพูดคุยกับใครได้เลย เพราะต่างคนต่างก็อยากจะเล่าเรื่องของตัวเองกันทั้งนั้นจริงมั้ยคะ

ในทางกลับกันเมื่อไปงานที่ไหนสักที่ที่มีเพียงเพื่อนสนิทที่เป็นกลุ่มสนทนาเล็กๆ ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ในการพูดคุยที่แสดงออกถึงความใส่ใจ ความเห็นอกเห็นใจกันนั่นแหละค่ะจะมีมิตรภาพที่แท้จริงอยู่เสมอ เพราะคนจำนวนน้อยที่นั่งฟังเรานั้นเขาจะมีความตั้งใจ มีการรับฟังความทุกข์ของกันและกันอย่างเข้าใจ มีการปลอบใจ มีกำลังใจเล็กๆ ให้กัน แบบนี้ย่อมดีกว่าคนมากมายแต่ไม่มีใครอยากรับฟังเราพูดเลยแน่ๆ ค่ะ บางทีคำแนะนำดีๆ อาจเกิดขึ้นจากกลุ่มสนทนาเล็กๆ ที่มีเพียงเพื่อนมี่คนนั้นก็ได้

>> หันไปจะเจอคนที่คอยอยู่ข้างเราเวลาสุข และเศร้าใจแน่ๆ <<

เมื่อคุณอายุมากขึ้น คุณไม่ได้เหลือเพื่อนน้อยลง เพียงแค่คุณชัดเจนขึ้นว่าใครคือเพื่อนของคุณจริงๆ มีคนมากมาย ที่อยากได้ประโยชน์จากเรา แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่อยากให้ประโยชน์กับเรา อยากให้เราได้ดี มีความสุข มีความสำเร็จในชีวิต เพื่อนแบบนี้ต่างหากที่เราควรแคร์ และ ต้องรักษาไว้ให้ดีค่ะ ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบที่ว่าเมื่อถึงเวลาเดือดร้อน จะหันหน้าไปพึ่งใครก็ไม่เจอสักคน ตอนแรกเราก็ว่าเพื่อนเรามีหลายคน แต่คนนั้นก็หาย คนนี้ก็ไม่ว่างที่จะมาช่วย นั่นแหละค่ะเมื่อเราถึงเวลาเดือดร้อนจริงๆ ไม่ต้องไปนึกถึงเพื่อนหลายๆ คนหรอกว่าจะมาช่วย เพราะจะมีเพียงคนเดียวหรือคนสองคนเท่านั้นที่ยังคงทำให้เราเห็นว่าเรามีกันและกัน จะมีคนที่คอยช่วยคิดหาหนทางแก้ไข เพื่อนที่เข้าใจจำนวนไม่กี่คน หรือแม้แต่คนเดียวนั้น ต่อให้ไม่ได้เอ่ยปากบอกเรื่องทุกข์ร้อนในใจแต่เพื่อนก็ยังรับรู้ได้จากความใกล้ชิด ดังนั้น เพื่อนจึงเป็นสิ่งที่มีค่า และควรที่จะรักษามิตรภาพดี ๆ ไว้ให้นานที่สุดค่ะ



>> มีคนที่คอยห่วงใยเราจากใจ <<

การมีเพื่อนแท้สักคนนนั้นเชื่อเถอะค่ะว่าทั้งเราและเพื่อนจะมีความสำนึกถึงความรับผิดชอบ ความรับผิดชอบที่ว่าก็คือต่างฝ่ายต่างจะต้องมีความรับผิดชอบในตัวของกันและกัน จะมีความห่วงใยกันจริงๆ แน่นอนว่าทั้งสองฝ่ายต้องรู้สึกแบบเดียวกัน ต่างฝ่ายจะทุ่มเทและเสียสะ ลองถามตัวเองดูสิคะว่าเรามักจะคิดถึงเพื่อนคนนี้อยู่ตลอดเมื่อทำอะไร อยากให้เขาได้มาอยู่ตรงนี้ อยากเล่าสิ่งที่เจอให้ฟัง และเชื่อเถอะว่าเพื่อนคนนั้นของคุณก็ต้องรู้สึกไม่ต่างกับคุณแน่นอน

ถ้าอยากให้มิตรภาพงอกงามก็ต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่และให้เวลามาก ๆ เหมือนกับการดูแลต้นไม้ในสวนให้สวยงาม เริ่มจากทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีก่อน ทำให้เพื่อนเห็นเสมอว่าคุณรักและสนใจพวกเขา และเต็มใจสละเวลาให้เพื่อนตอนที่เขาต้องการคุณ สังคมทุกวันนี้สอนให้คนคิดถึงแต่ตัวเองแทนที่จะสนใจคนอื่น ดังนั้น ถ้ามีใครสนใจและเป็นห่วงเราจริง ๆ โดยไม่หวังผลตอบแทน มันจึงมีความหมายและทำให้เรารู้สึกดีมาก ๆ

>> พร้อมเปิดใจพูด และเต็มใจฟัง <<

คนที่เป็นเพื่อนแท้ของเราที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดคนนั้น สังเกตสิคะว่าเขาคิดอย่างไรเขาก็จะพูดอย่างนั้นกับเราตรงๆ เพราะเราต่างรู้ใจกันดีว่าคนนั้นชอบอะไร คนนี้ไม่ชอบอะไร เพื่อนแท้คนนั้นจะพูดความจริงกับคุณแม้ว่าสิ่งนั้นมันอาจทำให้คุณเจ็บ แต่เชื่อเถอะว่าเขาหวังดีกับคุณจริงๆ อย่าลืมว่ามิตรภาพแท้จะงอกงามได้ถ้าขาดการพูดคุยกันอยู่เสมอ คุณและเพื่อนคนนั้นจะมีการพูดคุยกันบ่อย มีการหยิบยกเรื่องราวต่างๆ ที่พบเจอมาเล่าสู่กันฟัง รู้เรื่องของกันแทบจะทุกเรื่อง เวลาคุยกันสองคนจะตั้งใจฟังกันมากกว่าคนหลายๆ คน บางครั้งคนใดคนหนึ่งทำอะไรบางอย่างไม่ถูกไม่ควร ถ้าคุณเป็นเพื่อนที่ดี และเขาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจะกล้าเตือนและบอกให้อีกฝ่ายปรับปรุงตัว เพื่อนที่รักกันจริงจะไม่พูดให้เพื่อนเสียใจ และหวังดีกันเสมอ

>> คบคนเช่นไรเป็นคนเช่นนั้น <<

ยอมรับกันตรง ๆ เลยว่าสังคมทุกวันนี้ตัดสินกันที่รูปลักษณ์ภายนอกเป็นส่วนใหญ่ คบคนเช่นใด เราจะถูกเหมารวมไปว่าเป็นคนแบบนั้นโดยปริยาย เพราะคนที่มีความสนใจเหมือนกันจะถูกดึงดูดเข้าหากัน นอกจากนี้การที่รอบตัวเราแวดล้อมไปด้วยคนที่มีทัศนคติกว้างไกล คิดดีคิดบวก มีความมุ่งมั่นทะเยอทะยานในด้านดีๆ ก็จะทำให้เราซึมซับเอาความคิด ทัศนคติแบบนั้นมาด้วย ทำให้สามารถพัฒนาตัวเองได้จนประสบความสำเร็จ และมีความสุขในชีวิตได้เช่นกัน

บางครั้งคนอื่นที่ไม่รู้จักตัวตนของเราจริงๆ ถ้าเรามีเพื่อนกลุ่มใหญ่คนนั้นนิสัยแบบหนึ่ง อีกคนนิสัยแบบหนึ่ง สิบคนก็สิบแบบ แต่ถ้าเรามีเพื่อนสนิทที่นิสัยเหมือนกับเรา เราไม่จำเป็นต้องอธิบายตัวตนของเราให้ใครรับรู้มากนักเลยค่ะ คนภายนอกจะมองเราออกจากเพื่อนของเรานี่แหละ เพราะคนที่จะคบกันได้มักจะต้องมีอะไรที่คล้ายๆ กัน เช่น อุปนิสัย หรือแนวคิด เพราะฉะนั้นการมีเพื่อนน้อยทำให้คนมองเราง่ายขึ้นกว่าการไปไหนเป็นกลุ่มใหญ่ๆ แน่นอน เพราะในกลุ่มใหญ่นั้นเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเพื่อนคนไหนเคยไปทำพฤติกรรมไม่ดีใส่คนอื่นเอาไว้ จนทำให้เราถูกมองว่าร้ายไปด้วย แบบนี้ไม่ดีแน่ คนเยอะเรื่องแยะ คนน้อนสบายใจกว่าเชื่อเถอะค่ะ

มีเพื่อนน้อยแต่จริงใจถึงจะมีไม่มากก็ไม่เป็นไร เพราะคำว่าเพื่อนเขาวัดกันที่คุณภาพไม่ใช่ปริมาณ เพื่อนแท้เขาจะอยู่กับคุณเสมอ เวลาที่คุณลำบากเขาจะไม่ทิ้งคุณไว้ลำพัง เขามักเสียสละแบ่งปัน มอบสิ่งดีๆ ให้คุณ เขาจะชื่นชมและยินดีกับทุกเรื่องราวของคุณอย่าลืมนะคะว่าการมีเพื่อนมากหรือน้อยไม่สำคัญเท่ามี “เพื่อนแท้” นะคะ แต่ก็นั่นแหละค่ะ เอาเป็นว่าคบกับใครแล้วสบายใจก็คบไป ถ้าคบแล้วไม่สบายใจก็กันตัวเองออกมา อยากประสบความสำเร็จก็เลือกคบเพื่อนที่เขามีความมุ่งมั่น มีความเพียร ชี้นำเป็นตัวอย่างในทางที่ดี จำไว้ว่าเพื่อนดีจะไม่ทิ้งให้คุณหลงทางอยู่ในปัญหาที่มืดมิด เพื่อน   ดีๆ จะไม่มีความสุขเมื่อเห็นคุณทำสิ่งผิด เพื่อนดีๆ จะคอยผลักดันให้คุณไปสู่ความสำเร็จ ในวันที่ทุกข์ยากลำบากใจ เพื่อนคนไหนที่ยังไม่ปล่อยมือหรือเดินหนีไปจากคุณ คนนั้นแหละเพื่อนแท้ แม้จะน้อยก็คือเพื่อนแท้ค่ะ


ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/lifestyle/knowledge-work-inspiration/161440.html
By pant ,1 July 2019
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ