ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
หน้า: [1] 2 3 ... 10
 1 
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 09:15:08 am 
เริ่มโดย raponsan - กระทู้ล่าสุด โดย raponsan
.



อานิสงส์การ "สวดมนต์" ดีต่อชีวิต อย่างไร.?

ไม่ว่าจะเหตุผลใดที่ "สวดมนต์" แต่เรื่องนี้มีอานิสงส์ทั้งทางโลกและทางธรรม จะเรียกว่า ดีต่อใจ ดีต่อชีวิต และดีต่อสัตว์โลกก็ว่าได้

การสวดมนต์ มีมาตั้งแต่ก่อนพุทธกาลจนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ สำหรับชาวพุทธถือว่าเป็นเรื่องสำคัญของชีวิต โดยเฉพาะพระภิกษุสงฆ์ สามเณร นักบวช นักบุญทั้งหลาย จะขาดข้อวัตร กิจวัตรส่วนนี้ไม่ได้เลย

โดยเฉพาะบทสวดตามวิถีพุทธ โดยมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นองค์ศาสดา ได้กลั่นกรองคำสาธยายที่มีแต่ความเป็นสิริมงคล พร้อมด้วยพลานุภาพแห่งบุญกุศลในทุกถ้อยคำผ่านภาษาบาลี มีอานิสงส์พาชีวิตไปสู่ที่สูง ห่างไกลโรคภัย ป้องกันอุปสรรคอันตราย และสูงสุดคือตัดกิเลสให้ขาดสะบั้น จนมีดวงตาเห็นธรรม


@@@@@@@

บทสวดมนต์อันประเสริฐ

การสวดมนต์ จึงเป็นการทำสมาธิ ระหว่างการสวดมนต์ ใจจะจดจ่ออยู่กับบทสวดนั้นๆ หากเป็นบทสวดมนต์แปลจากภาษาบาลีเป็นไทย ยิ่งทำให้เข้าใจความหมายมากขึ้น ก็จะเข้าใจธรรมะอันลึกซึ้งได้ง่ายขึ้น

บทสวดแต่ละบทจะเรียกว่า พระปริตร แปลว่า เครื่องคุ้มครองอันประเสริฐ ประกอบด้วยบทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า มีทั้งบทสรรเสริญคุณแห่งพระรัตนตรัย, บทอวยชัยให้พร บางบทนำมาจากพระไตรปิฎก บางบทเป็นบทที่แต่งขึ้นใหม่ในภายหลัง ในแต่ละบท แต่ละบาท ล้วนแล้วแต่มาจากพระโอษฐ์ อันประกอบด้วยพระมหากรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ พระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้า

สวดมนต์เสมือนเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า

พระเทพโพธิวิเทศ (ท่านเจ้าคุณวีรยุทธ์ วีรยุทโธ) เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย กล่าวถึงการสวดมนต์ว่า พลังของการสวดมนต์ในพุทธสังเวชนียสถาน เสมือนเรานั่งอยู่แวดล้อมด้วยองค์พระอรหันต์และเทวดา

   “การนำพระธรรมที่เป็นคำสอนจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้ามาสวด และสาธยายเป็นกิจวัตร ก็ขึ้นชื่อว่าปฏิบัติต่อพระบรมพระศาสดาด้วยการเข้าเฝ้าพระองค์ด้วยทุกประการ ขอท่านทั้งหลายจงสวดมนต์เสมือนหนึ่งเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าทุกวัน”

@@@@@@@

ดร.พระมหาอ้าย ธีรปัญโญ วัดนาคปรก กล่าวถึงอานิสงส์ของการสวดมนต์ในทางธรรมไว้ว่า "ผลประโยชน์ของการสวดมนต์นั้นมีมากมาย แต่สรุปง่ายๆ ตามที่ครูบาอาจารย์บอกตรงกัน ก็คือ
    1. ไล่ความขี้เกียจ
    2. ได้รู้ความหมาย
    3. จิตเป็นสมาธิ
    4. ได้ปัญญา เข้าใจแก่นสาระของธรรม และ
    5. เปรียบเสมือนได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า

    “สำหรับผู้เริ่มต้น ก็ให้เริ่มจากนะโม 3 จบให้ได้ก่อน แล้วค่อยต่อพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ แล้วต่อด้วยบทพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ 3 บทนี้ จำให้ติดปาก ไม่ใช่การอ่านมนต์ เพราะถ้าอ่าน มันไม่มีอะไรเคลื่อนไหว สมองก็อยู่ที่เดิม ส่วนสถานที่นั้น สวดมนต์ที่ไหนก็ได้ ขอให้สวดด้วยใจก็พอแล้ว”


@@@@@@@

นายแพทย์วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการสายงานแพทย์ โรงพยาบาลนครธน ผู้นำเอาธรรมปฏิบัติมาประยุกต์ใช้ในการรักษาผู้ป่วยในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เคยเล่าถึงอานิสงส์การสวดมนต์ในทางการแพทย์ว่า

ปัจจุบันมีผลวิจัยออกมามากมายเกี่ยวกับการสวดมนต์ที่มีผลต่อสมองและร่างกาย ในวงการแพทย์ การสวดมนต์ ทำสมาธิ เจริญอานาปานสติ จะได้ผลอยู่ 3 อย่างหลักๆ คือ
    1. เกิดภูมิต้านทานโรค โดยสร้างมาจากเซลล์สมองตัวหนึ่ง
    2. ระบบฮอร์โมน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในสมองจะสร้างสมดุลให้กับร่างกาย
    3. หัวใจและหลอดเลือด ความดันลดลง เป็นโรคหัวใจลดน้อยลง

    “เพียงแค่สวดมนต์และทำสมาธิ วันละ 12 นาที นาน 8 สัปดาห์ จะมีเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นต่อเซลล์สมองของเราทันที”





สวดมนต์เพื่ออะไร.?

    • สวดเพื่อสรรเสริญคุณพระพุทธเจ้า
      บทสวดบางบทที่ใช้สวดนั้น เช่น บทอิติปิ โส ฯลฯ ภควาติฯ ชาวพุทธในสมัยพุทธกาล ผู้ที่มีจิตเลื่อมใสต่อพระพุทธเจ้านิยมใช้สวดเพื่อสรรเสริญคุณพระพุทธเจ้า

    • สวดเพื่อเป็นต้นทุนเจริญศรัทธา
      การสวดมนต์ก็เพื่อเพิ่มพูน พอกพูน เติมเต็มพลังแห่งศรัทธา ความเชื่อ ความเลื่อมใสที่มีต่อคุณพระรัตนตรัย ที่นับถือเคารพบูชาเป็นสรณะ

    • สวดเพื่อแผ่จิตเมตตา
      บทสวดมนต์แต่ละบทเป็นเสมือนตัวเชื่อมต่อส่งสัญญาณ แปรสภาพให้เป็นพลังงานพิเศษ เหมือนพลังงานทั่วไป ผ่านกระแสเสียงกระแสจิตจากจิตสู่จิต ก่อให้เกิดเป็นบุญเป็นกุศล เป็นความรักความปรารถนาดี ความเมตตาปรานี ความสุข ความปลอดภัยส่งให้ มอบให้ อุทิศให้ แผ่ให้ เพื่อนร่วมโลกร่วมแผ่นดินทั้งมิตรและศัตรู ไม่เลือกชนชั้นวรรณะภาษา ขอให้อยู่ดีมีสุข

    • การสวดมนต์เป็นการทำสมาธิ
      ขณะสวดมนต์ จิตย่อมจดจ่อในบทสวด หรือที่จำไม่ได้ก็ใช้สายตาเพ่งมองตัวหนังสืออ่านบทสวดแต่ละอักขระ แต่ละวรรค แต่ละบท แต่ละตอน จิตในขณะนั้นย่อมรวมตัว ดับความฟุ้งซ่านลง เกิดเป็นสมาธิได้

    • เพื่อฝึกความอดทน
      เวลาที่สวดมนต์ ต้องใช้เวลานานพอสมควร ผู้สวดจึงต้องมีความอดทนอดกลั้นสูง ข่มทุกขเวทนาที่เกิดขึ้นในขณะสวดไปจนจบ ไม่ใช่เป็นเรื่องธรรมดา การฝืนกาย ฝืนใจ บังคับกาย บังคับใจในขณะนั้น ย่อมทำให้ขันติธรรม

    • เพื่อรักษาพระธรรม
      บทสวดมนต์บางบท เป็นพระพุทธพจน์ที่สำคัญ เช่น บทพระธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เป็นต้น เป็นหลักธรรมสำคัญ ที่จะต้องจดจำให้ได้ เพื่อรักษาไว้ โดยปกติแล้ว บทสวดมนต์แต่ละบท ที่จะนำมาสวดนั้นผู้สวดจะต้องท่องจำให้ได้ขึ้นใจ แล้วนำมาสวดสาธยาย เพื่อเป็นการทบทวนอยู่เป็นประจำ เพื่อกันลืม

    • เพื่อกำจัดบาปอกุศล
      ในการสวดมนต์แต่ละครั้ง ต้องข่มซึ่งนิวรณ์ธรรม มีกามฉันทะ ความติดในสุข พยาบาทความหงุดหงิดไม่พอใจ ความฟุ้งซ่านรำคาญ ความง่วงซึม หดหู่ ความลังเลสงสัย และกำจัดอกุศลธรรมต่างๆ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความเห็นผิด ความถือตัวถือตน ความเกียจคร้านให้เบาบางจางหายหมดไปได้

    • เพื่อเป็นมงคลแก่ชีวิต
      ขณะสวดมนต์ จิตเป็นสมาธิตั้งมั่น ตั้งใจสวด สวดด้วยความสงบ เรียกว่า สมาธิ ขณะสวดจิตน้อมนึกพิจารณาไปตาม เห็นความเป็นจริงของชีวิต

    • สวดมนต์ช่วยเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ
      ตามหลักวิทยาศาสตร์และทางการแพทย์ มีข้อควรสังเกตว่า คนที่ชอบสวดมนต์อยู่เป็นประจำ เวลามีทุกข์ ประสบปัญหาชีวิต มักทุกข์ไม่นานนัก แก้ไข หาทางออกได้รวดเร็ว ต่างจากคนที่ไม่ชอบสวดมนต์ ทุกข์ก็จะทุกข์อยู่นานหาทางออกไม่ได้.






ขอขอบคุณ :-
ข้อมูลบางส่วนจาก : https://www.watphramahajanaka.org/
website : https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/985468
By ป้อมยาม | จุดประกาย | 30 ม.ค. 2022 เวลา 16:00 น.

 2 
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 08:57:57 am 
เริ่มโดย aventure1 - กระทู้ล่าสุด โดย aventure1
ดันกระทู้ 

 3 
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 07:03:23 am 
เริ่มโดย raponsan - กระทู้ล่าสุด โดย raponsan
.



13 บทสวดและคาถา | ท่องไว้ ใช้ในชีวิตประจำวัน และโอกาสพิเศษ

ชีวิตบางทีก็ต้องการที่พึ่งทางใจ ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน สังคมไทยเราก็มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์นี่แหละเป็นที่พึ่ง คนไทยอย่างเรา ยกมือไหว้ซักหน่อย ท่องคาถาสักนิด ยังไงของแบบนี้ก็ขอเชื่อไว้ก่อนแล้วกัน

แม้ว่าเราจะก้าวเข้าสู่โลกสมัยใหม่แล้ว แต่ความเชื่อทั้งหลายก็ยังดำรงอยู่ ไม่ว่าโลกจะทันสมัยและก้าวไกลไปแค่ไหน เรา – มนุษย์ตัวเล็กๆ – ต่างเผชิญชะตาชีวิตไปอย่างยากลำบาก การจะมีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ ความเป็นมงคลบางอย่างที่เราสมาทานไว้เพื่อช่วยนำพาเราผ่านความยากลำบากและเหตุการณ์ที่อาจไม่คาดฝันในแต่ละวันไป ไม่แน่ใจว่าพลังเหนือธรรมชาติมีจริงแค่ไหน แต่ด้วยความเชื่อแบบโบราณก็มองว่า คาถา บทสวดอันประกอบด้วยคำ และความอันเป็นมงคล อ้างอิงตกทอดมาจากครั้งโบราณอย่างน้อยก็ทำให้จิตใจสงบ เป็นขวัญและกำลังใจ ช่วยเพิ่มพูนสติพร้อมรับมือกับสิ่งที่กำลังจะมาถึง

The MATTER ชวนไปสำรวจและรวบรวมคาถาต่างๆ ที่มีจุดหมายเพื่อการเฉพาะ เหมาะกับเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันร่วมสมัย เรามีคาถาที่เหมาะกับมนุษย์เงินเดือน คาถาเจ้านายรัก คาถาสมัครงาน หรือบางวันเดินตามท้องถนนเราก็มีคาถาใช้ป้องกันสุนัข ป้องกันงู เดินทางไกลๆ เราก็มีคาถาป้องกันไฟไหม้ คาถาเพื่อความปลอดภัยเวลาเดินทางทางน้ำ เรื่อยไปจนถึงเรื่องสุขภาพ ครอบคลุมทุกความต้องการและทุกเหตุการณ์ในชีวิต

@@@@@@@

คาถาเจ้านายเมตตา




มนุษย์เงินเดือนฟังทางนี้ ใครรู้สึกไม่มั่นใจว่าเจ้านายโอเคกับเราไหม หรืออยากให้เจ้านายรักต้องบริกรรมคาถาดังกล่าวก่อนออกจากบ้าน ตามตำราบอกว่าให้ภาวนาท่องคาถาข้างต้นสามจบก่อนออกจากบ้านให้คุณเจ้านายเมตตา แต่ในขณะสวดมนต์ก่อนออกจากบ้านก็ถือโอกาสตั้งสติก่อนสตาร์ท ว่าไปทำงานวันนี้จะพูดจาสื่อสารยังไงให้มีประสิทธิภาพ ถ้าบุญยังมี เจ้านายก็น่าจะโอเคตามสภาพการทำงานของเราเนอะ

คาถาสมัครงาน




ทำนองเดียวกันกับคาถาก่อนหน้า เวลาเราจะออกไปสมัครงานเราก็ตื่นเต้นและตื่นกลัว การที่เรามีที่พึ่งสักหน่อย เชื่อโชคลางซักนิดก็ถือว่าไม่ผิด ดังนั้นเชิญสวดบทก่อนหน้า ถือเป็นกุศโลบายเพื่อเพิ่มกำลังใจ รวบรวมสติสมาธิก่อนออกไปสร้างความประทับใจครั้งแรกเพื่อรับเข้าทำงาน

คาถาขับรถ




ตั้งสติก่อนสตาร์ทที่แท้จริง การขับรถเป็นกิจกรรมที่เราทำทุกวัน และเป็นกิจกรรมที่ต้องการสติและความใจเย็น การปริ๊นต์คาถาภาษาบาลีไว้ที่รถก็อาจจะพอช่วยให้จิตใจเราสงบร่มเย็นขึ้น นึกภาพถ้าหงุดหงิดมากๆ เวลามีคนขับรถแย่ๆ อยากจะแซง อยากจะปาด หันไปเห็นคาถาขับรถก็ถือโอกาสบริกรรมให้ใจเย็น ให้มีสติ ขับขี่ปลอดภัยเนอะ แต่ถ้าบริกรรมไปแล้วเสียสมาธิจากพวงมาลัย ก็อย่าดีกว่าเนอะ สวดก่อนขึ้นรถพอ

คาถาใจอ่อน




ทีเด็ดลูกหนี้ หรือใครที่กำลังจะออกไปเจอคนที่อยากให้ใจอ่อน อ่อนใจ ตามตำราบอกว่าคาถานี้ใช้สำหรับท่องก่อนที่เราจะไปต่อรองกับเจ้าหนี้ อานุภาพของคาถาจะช่วยให้อีกฝ่ายใจอ่อน ยอมผ่อนปรนให้เรา แต่เรื่องเงินเรื่องใหญ่ มีหนี้ต้องใช้ ไม่แน่ใจว่าคาถาจะมีพลังมากกว่าเรื่องเงินและผลประโยชน์ได้แค่ไหน

คาถาป้องกันงูและสัตว์ร้าย – ขันธปริตร




ขันธปริตรเป็นส่วนหนึ่งของพระสูตรที่พูดถึงและเป็นการแผ่เมตตาถึงพญางูสี่ตระกูลตามความเชื่อแบบพุทธ ในพระสูตรพูดถึงพระภิกษุรูปหนึ่งที่ถูกงูกัด พระพุทธเจ้าไขว่าที่ถูกกัดเพราะไม่ได้แผ่เมตตาให้พญางูทั้งสี่ตระกูลคือ ตระกูลวิรูปักษ์ ตระกูลเอราปถ ตระกูลฉัพยาบุตร และตระกูลกัณหาโคมดม คาถาที่ใช้แผ่เมตตาก็คือคาถาขันธปริตรนี้ คนไทยจึงเชื่อว่าอานิสงส์ของการสวดคาถานี้ให้ผลเรื่องป้องกันงูและสัตว์ร้าย นิยมสวดขึ้นที่ท่อนอัปปะมาโณเพราะเชื่อว่าถ้าขึ้นแต่ต้นจะทำให้ผีมาอาละวาด แต่ถ้าเกิดเจองูขึ้นมาจริงๆ ก็ถอยให้ห่าง แล้วเรียกผู้เชี่ยวชาญมาจัดการ …ติดต่อศูนย์เอราวัณโทร 1646

คาถากันสุนัข




หมาจรจัดเป็นปัญหาที่เราเจอได้ตลอด เราเดินตามตรอกซอกซอย หรือบางทีอยากจะไปออกกำลัง ไปวิ่งไปขี่จักรยานตามท้องถนน เวลาเจอหมาก็กลัวๆ นอกจากคาถาแล้ว ข้อแนะนำเบื้องต้นของสัตวแพทย์บอกว่าถ้าเจอหมาดุทำท่าจะเล่นงานเรา สิ่งที่ควรทำคืออย่าตกใจ อย่ากระโตกกระตาก อย่าวิ่ง พยายามเบนความสนใจด้วยสิ่งอื่น ถ้าโดนจู่โจมจริงๆ ก็เก็บคองอเข่า ถ้าถูกกัดก็ไปพบแพทย์เพื่อรับวัคซีนต่อไป

คาถาป้องกันไฟ – วัฏฏกปริตร




วัฏฏกปริตร อ้างอิงนิทานชาดกวัฏฏกชาดก ชาดกหมายถึงพระชาติที่บำเพ็ญพรตเป็นพระโพธิสัตว์ มีพระชาติหนึ่งเสวยพระชาติเป็นนกคุ่ม แล้วเจอปัญหาไฟป่าจึงมีการทำพระปริตรเพื่อปกป้องตัวเองจากไฟป่า เนื้อความของคาถาเป็นการอาราธนาคุณของพระพุทธเจ้าในมาปกป้องตัวเองจากไฟป่า ดังนั้นจึงเชื่อว่าคาถานี้เป็นคาถาที่ให้คุณเรื่องการป้องกันไฟ

คาถาต้านคลื่น (พระเจ้าห้ามสมุทร)




ขึ้นรถ ลงเรือก็ต้องไปด้วยความระมัดระวัง บางคนกลัวเรือ เราก็มีคาถาเพื่อการเดินทางทางน้ำ ตามตำราบอกว่าให้สวดสามจบและเสกออกไประหว่างเดินทางเพื่อให้เดินทางอย่างปลอดภัย รอดพ้นจากคลื่นลมมรสุมต่างๆ หลังจากสวดครบสามจบแล้ว ก็มองหาเสื้อชูชีพ ทางออกฉุกเฉิน และตรวจสอบสภาพอากาศไปพร้อมๆ กัน

คาถาต่อสู้




เรามีตำนานเหล่าเสือ มีนักสู้นักรบที่มีการใช้พลังอาคมเข้าร่วมเพื่อปลุกขวัญและกำลังใจ สำหรับใครที่อาจจะต้องเผชิญหนาการต่อยตีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราก็มีคาถาต่อสู้ ใช้ภาวนาตอนที่เผชิญหน้ากับศัตรู ให้รอดพ้นจากภัยอันตราย

คาถาหมัดหนัก




คาถานี้เป็นคาถาเฉพาะ ใช้เพื่อเพิ่มพลังการต่อยของเราให้หมัดเราหนักมากขึ้น คาถานี้ไม่จำกัดว่าต้องเป็นนักมวยแต่อย่างไร แต่ถ้าอยากหมัดหนักก็อาจจะต้องมีการฝึกซ้อมและฝึกฝนกล้ามเนื้อประกอบด้วย

คาถารักษาไข้




เวลาป่วยๆ อยากหายเร็วๆ คาถารักษาไข้เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่คาถานี้ระบุว่าเป็นการรักษาร่วม คือใช้ร่วมกับยาที่กินอยู่อาจช่วยฟื้นพลังใจให้หายเร็วขึ้น อย่าดูถูกพลังของจิตใจและพลังของ Placebo effect ใช้ภาวนาเมื่อเวลาที่ไม่สบายกับยาที่ใช้ทานอยู่จะช่วยให้หายป่วย หายเจ็บไข้ ได้เร็วขึ้น

บทสวดสำหรับคุณแม่ให้คลอดลูกง่าย – อังคุลิมาละปะริตตัง




อังคุลิมาละปะริตตัง แปลตรงตัวคือปริตรของพระองคุลิมาล ก็เป็นประวัติของพระองคุลิมาลที่หลังจากกลับใจบวช ขณะที่เป็นภิกษุก็ได้ไปเจอหญิงท้องแก่ที่คลอดลูกไม่ได้ ในพระสูตรพระองคุลิมาลจึงตั้งจิตตามคาถามีเนื้อความอำนวยพรให้หญิงท้องแก่นั้นคลอดได้โดยง่าย มนต์บทนี้จึงเชื่อกันว่ามีคุณด้านเกี่ยวกับการคลอด ป้องกันการแท้งลูก ก็เป็นกำลังใจให้คุณแม่ๆ เนอะ
 
คาถาครอบจักรวาล




คาถาข้างต้นเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่ถ้ารู้สึกว่าเลือกไม่ถูก คาถาครอบจักรวาล เป็นคาถามงคลรวมครบจบในคาถาเดียว

 




Thank to : https://thematter.co/social/13-pray-for-specific-purpose/38788
Posted On 8 November 2017 , vanat putnark

อ้างอิงข้อมูลจาก :-
- myhora.com
- wikihow.com
- watpamahachai.net
- wattongnai.com
- theasianparent.com

 4 
 เมื่อ: มีนาคม 28, 2024, 07:43:32 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
เลื่อนกระทู้

 5 
 เมื่อ: มีนาคม 28, 2024, 05:23:11 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
เลื่อนกระทู้

 6 
 เมื่อ: มีนาคม 28, 2024, 02:42:29 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
เลื่อนกระทู้

 7 
 เมื่อ: มีนาคม 28, 2024, 12:32:42 pm 
เริ่มโดย aventure1 - กระทู้ล่าสุด โดย aventure1
ดันกระทู้ 

 8 
 เมื่อ: มีนาคม 28, 2024, 11:30:26 am 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
เลื่อนกระทู้

 9 
 เมื่อ: มีนาคม 28, 2024, 09:12:46 am 
เริ่มโดย aventure1 - กระทู้ล่าสุด โดย aventure1
ดันกระทู้ 

 10 
 เมื่อ: มีนาคม 27, 2024, 08:57:40 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
เลื่อนกระทู้

หน้า: [1] 2 3 ... 10