ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงปู่หลิว ปัณณโก อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่แตงทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม  (อ่าน 4940 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

samapol

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 304
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
หลวงปู่หลิว ปัณณโก อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่แตงทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ซึ่งมีของดีรู้จักกันทั่วประเทศ คือ "เหรียญพญาเต่าเรือน" ที่บรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างเสาะแสวงหาอย่างมาก

ย้อนไปในอดีตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ธ.ค.2448 หลวงปู่หลิวได้ถือกำเนิดขึ้น ณ หมู่บ้านหนองอ้อ ต.บ้านสิงห์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดโบสถ์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี มี หลวงพ่อโพธาภิรมย์ แห่งวัดบำรุงเมือง เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่ออินทร์ วัดโบสถ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ห่อ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ท่านได้พัฒนาวัดสนามแย้อย่างยาวนานถึง 36 ปี จึงไปสร้างวัดขึ้นใหม่ที่ ต.จระเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ใช้เวลาถึง 5 ปี ตั้งชื่อว่า "วัดไทรทองพัฒนา" ก่อนไปสร้างวัดไร่แตงทอง ในเขต ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จนเป็นวัดที่ใหญ่โตมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ท่านละสังขารลงเมื่อวันที่ 4 ก.ย.2543 สิริอายุ 95 ปี พรรษา 74 นับถึงปีพ.ศ.2553 นี้ก็จะครบ 10 ปีพอดี
วัตถุมงคลของหลวงปู่หลิว เริ่มสร้างประมาณปีพ.ศ.2500 ที่วัดสนามแย้ ในยุคแรก เป็นพระประเภทเนื้อผงเป็นส่วนใหญ่ โดยเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรกออกที่วัดนี้ในปีพ.ศ.2505 วัตถุมงคลของท่านมีหลายรูปแบบทั้งเหรียญ, รูปหล่อลอยองค์, พระบูชา, พระสังกัจจายน์, พระปิดตา ส่วนเครื่องรางของขลัง เช่น ตะกรุดคาดเอว, จิ้งจกสองหาง, กัณหาชาลี, ล็อกเกต เป็นต้น แต่วัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมากที่สุดคือ "พญาเต่าเรือน" ซึ่งท่านศึกษาวิชานี้มาจากหลวงพ่อย่น วัดบ้านฆ้อง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ทั้งนี้ ท่านได้บอกถึงเหตุผลในการสร้างว่า "เต่าเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนยาว เป็นสัตว์มีศีลธรรม นอกจากนี้ พระพุทธเจ้ายังเคยเสวยพระชาติเป็นเต่ามาแล้ว"

ด้วยคุณงามความดีและเกียรติคุณอันเลื่องลือ ทางวัดไร่แตงทองโดย "พระใบฎีกาสายชล จิตตกาโร" เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันและคณะศิษย์จึงร่วมกันเททองหล่อ "รูปเหมือนหลวงปู่หลิวนั่งประทับพญาเต่าเรือน" องค์ใหญ่ ขนาดสูง 8 เมตร 1 ศอก กว้าง 6 เมตร 1 คืบ และยาว 8 เมตร 1 คืบ ซึ่งถือว่าเป็นรูปหล่อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ การก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่ปลายปี 2548 เหลือแต่ในส่วนของตัววิหารครอบ ซึ่งถึงขณะนี้ก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วประมาณ 95 เปอร์เซนต์

ปัจจุบันมีประชาชนจากหลายจังหวัดเดินทางไปลอดรูปเหมือนองค์ใหญ่นี้ ด้วยความเชื่อที่หลากหลาย เช่น เชื่อว่าลอดแล้วจะมีอายุยืนเหมือนเต่าซึ่งบางชนิดมีอายุถึง 100-130 ปี และอายุยืนเหมือนหลวงปู่หลิวที่มากถึง 94 ปี ขณะที่คนจำนวนไม่น้อยมาลอดเพื่อขอโชคลาภ เนื่องจากกิตติศัพท์วัตถุมงคลหลวงปู่หลิวมีพุทธคุณเด่นด้านทำมาค้าขาย และเมตตามหานิยม

ทุกปีเมื่อถึงวันคล้ายวันมรณภาพจะมีการจัดงานบุญอุทิศถวายให้ท่าน สำหรับปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 4 ก.ย.2553 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันมรณภาพครบปีที่ 10 ทางวัดจะมีการถวายอาหารเพลพระสงฆ์ 1,000 รูป และพิธีเททองหล่อ "พระอานนท์" ขนาดหน้าตักกว้าง 60 นิ้ว เพื่อประดิษฐานให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้บูชา หลังจากเมื่อปีที่แล้วได้มีการหล่อรูปพระอุปคุต

สำหรับมูลเหตุของการจัดสร้างพระอานนท์ สืบเนื่องจาก พระอานนท์ เป็นสหชาติและพุทธอุปัฏฐากของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะผู้เลิศกว่าพระสาวกอื่นถึง 5 ประการ และเป็นพหูสูต เนื่องจากเป็นผู้ทรงจำพระสูตรที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ และเป็นผู้ที่สาธยายพระสูตร จนทำให้ปฐมสังคายนาสำเร็จเรียบร้อย

พระอานนท์นั้นเป็นผู้มีความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็น อย่างยิ่ง ถึงขนาดยอมสละชีพของท่านเพื่อพระพุทธองค์ได้ เกียรติคุณอีกอย่างหนึ่งที่ท่านได้รับยกย่องจากพระพุทธองค์คือ มีฝีมือทางช่าง นอกจากนี้ เป็นตัวอย่างของผู้ว่าง่าย อ่อนน้อมถ่มตน เคารพยำเกรงผู้ใหญ่


ศิษยานุศิษย์และผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญ สอบถามเส้นทางโทร.08-1942-0594, 08-6705-4139

ขอขอบคุณ: ข่าวสด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 14, 2011, 04:45:00 pm โดย samapol »
บันทึกการเข้า