ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา  (อ่าน 33319 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

vijitchai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 100
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 :25: :25: :25:

สวัสดีเพื่อนสมาชิก ทุกท่านครับ วันนี้ผมมาด้วยเรื่อง ประสพการณ์ปัญหาชีวิตครับ




ผมก็เป็นปุถุชชนคนหนึ่ง ที่หาเช้ากินค่ำ ทำงานหาเงิน เพื่อเลี้ยงดูปากท้องของครอบครัว
และตนเอง


ผมมีลูกสาวอยู่ 1 คน อายุก็เริ่มจะเป็นรุ่นสาว ชีวิตผมได้หย่ากับแฟนแล้ว เพราะเขาไปแต่งงานใหม่ ด้วยเหตุผลว่าผมเป็นผู้ชายที่ไม่เก่งเรื่องเซ็กซ์ ไม่หล่อ ไม่รวย เอาใจไม่เก่ง เป็นคำพูดที่ผู้หญิงใช้เป็นเหตุผลหย่ากับผมทั้งที่อยู่กันมาถึง 13 ปีด้วยกัน แต่ผมก็ยอมรับว่าผมไม่เก่งเรื่องเซ็กซ์ ไม่หล่อ และไม่รวย แถมไม่ค่อยง้อ ผู้หญิงด้วย
เพราะผมถือคติว่า ชีวิตสร้างตัวมาไม่ไ้ด้ด้วยบนกองมรดก แต่สร้างจากน้ำพักน้ำแรงตนเอง บางครั้งก็จะติดหยิ่ง ๆ อยู่บ้าง

เพราะความที่ผมมีลูกคนเดียว จึงทำให้ผมรักลูกสาวมาก ค่อนข้างจะตามใจ
จนวันนี้เธอติดนิสัย ที่ไม่ดีอยู่หลายอย่างเช่น เป็นคนขาดความมีระเบียบ ถ้าไม่มีคนคอยบอกหรือบังคับ
ก็จะผันชีวิตไปตามที่ตนเองชอบ เช่นถ้าไม่บอกให้นอนก็จะนอนดึก ถ้าไม่บอกให้ตื่นก็จะไม่ตื่นเช้า
ถ้าไม่บอก......ก็ไม่ทำ

2 เดือนช่วงปิดเทอมผมพยายามอบรม บ่มนิสัยให้เธอเป็นคนรับผิดชอบต่อตนเองให้ได้ เพราะผมจะต้องย้าย
ไปทำงานที่จังหวัดอื่น ต้องปล่อยให้เธออยู่กับบ้าน กับย่า กันตามลำพัง

ปกติแม่ผม ( ย่า ) ก็เป็นคนที่มีอารมณ์หงุดหงิด ง่าย ผมจะได้ยินแม่ผมตะโกน ด่าว่าลูกสาวผมเป็นปกติ
เมื่อจะให้สงบผมก็ต้องลงไปทำด้วย แต่ผมก็ทำงานกับมาเหนื่อย ๆ ก็ต้องมาทำ และต้องพูดบ่นว่า เป็นประจำ
เหมือนลูกสาวเป็นเรื่องปกติ เพราะเห็นผมบ่น ผมก็ทำให้อยู่ดี

แต่ไม่มีใครรู้ หรือ จะใส่ใจ ในใจผมว่า ที่ผมต้องทำ ต้องบ่น ต้องเหนื่อย โดยไม่ใส่อารมณ์ออกไปนั้นเพื่อทุกคน
ผมก็มีชีิวิตอยู่อย่างนี้มานาน จนผมได้พบพระอาจารย์ได้สอนพระกรรมฐานให้ทำให้ใจผมสงบลง


ยกตัวอย่าง
เช่นผมจะสั่งลูกสาวเสมอว่า เป็นผู้หญิงนอนแล้วเก็บที่นอน ผ้าห่มก็พับให้เรียบร้อย แต่ทุกวันลูกสาวผมก็ไม่เคยทำ ผมก็โมโห ......คงเข้าใจคำว่า โมโห นะครับ

บ๊ะ เรื่องแค่นี้ ยังทำไม่ได้เลย เรียกมาคุยอบรม รับปากแล้วก็ทำไม่ได้อีก
สองเดือนในช่วงปิดเทอมนี้ ผมต้องทำแทนให้ และก็เรียกอบรมทุกครั้้ง รับปากทุกครั้ง แต่ก็ทำไม่ได้

คุณจะหงุดหงิดกับบ้างไหม

แต่เพราะพระธรรม ทำให้ผมมองเข้าไปในส่วนลึกข้างในของตัวที่เกรี้ยวกราดอยู่ภายใน ( ภายนอกสงบ )แล้วก็ตั้งคำถามกับตัวเองเป็นชุดเลยว่า

บ้านก็หลังใหญ่ เด็กไม่เก็บที่นอน ไม่พับผ้าห่มแล้วเป็นเด็กไม่ดีหรือ ? ( คิดได้อย่างไรก็ไม่รู้ )
แล้วตัวเราที่กำลังโกรธ กลุ้มอยู่ภายใน นี้เพราะอะไร

สรุปแล้ว คำตอบมันก็ไปจบตรงที่ว่า ลูกสาว ก็ไม่ได้เป็นเรา ไม่ได้เป็นของเรา ไม่ได้เป็นตัวเป็นตนของเรา
มีแต่เพียงสมมุติ หน้าที่ ๆ ต้องดูแลกันไปจนกว่าจะตาย

อนาคต ของลูกสาวเราจะดีไหม
ผมนั่งคิด แบบพ่อที่เป็นห่วงลูก

ใจก็จะเิริ่มโมโหอีก ว่าลูกสาว ไม่เป็นไปตามที่เราิคิดหรือวางแผนไว้ให้
พออารมณ์เริ่มกรุ่น ก็นึกถึงพระอาจารย์ และพระกรรมฐาน ว่าเรากำลังเดือดร้อนเพราะความคิิด

เสียงพระอาจารย์ เตือนในใจว่า

ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระพุทธเจ้าก็แสดงแค่เหตุ ผมกำลังใช้เหตุ ผล อันอนุมานด้วยใจแล้วให้ทำให้ผมทุกข์ใจ เป็นคนเดือดร้อนเพราะความคิดพะวงถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง

แต่พอจับผลของความคิดแล้ว ใจมันก็สงบ....มองตามความเป็นจริงว่า
เราทำ และ พยายามทำเหตุให้ดีที่สุดในตอนนี้ ดีกว่า ส่วนเรื่องของอนาคตเป็นเรื่องของกรรมที่เขาพอกพูน
ทั้งในปัจจุบัน และ อดีต เลิกพะวงถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง

เพราะความดิดเกิดขึ้นอย่างนี้

ลูกสาวผม จึงพ้นจากการลงโทษ เพราะเดิมทีผมว่าจะใช้ไม้แข็ง คือ ตี ( รักลูกต้องตี ) แต่ตอนที่ผมทำอย่างนั้น
ผมคงต้องใส่อารมณ์ฉุนเฉียวลงไปด้วยแน่ สุดท้ายผมก็ถูกกิเลสเผาก่อน

ลูกสาวผม จึงพ้นจากการโดนบ่น หรือ ว่า เหลือแต่เพียง พ่อ ที่พูดกับลูกสาว แบบซังกะตาย ว่าพ่อจะทำให้ดีที่สุดในหน้าที่ของพ่อ หนูจงหน้าที่ให้สมบูรณ์ในหน้าที่ของลูก

ลูกสาวผม จึงพ้นจากการทำงานที่เขาต้องทำ เพราะกลายเป็นผมทำแทนโดยที่ผมไม่ได้บ่น อะไร



ท่านสมาชิกทุกท่าน อ่านแล้วคงเห็น หัวอกพ่อ และ หัวใจธรรม ที่ต้องคุ่กันไป
ผมไม่รู้ว่าการกระทำของผมนั้น ถูกหรือ ผิด

ถ้าท่านสมาชิก มีความเห็นว่าผมควรจะทำอย่างไรเพิ่มเติม ก็ช่วยแสดงความเห็นให้กับผมด้วยนะครับ


อย่างน้อย ตอนนี้ผมก็ได้รับคำตอบว่า

ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา

จากพ่อที่เลิกบ่น

 :'( ;) :) ??? :smiley_confused1: :25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 21, 2010, 10:24:56 am โดย vijitchai »
บันทึกการเข้า
ขอนอบน้อม ครูบาอาจารย์ ผู้สอนกรรมฐาน ทุก ๆ รูป ครับ ข้าพเจ้าขอกล่าวถึง พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ตลอดชีวิต พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

นิรนาม_พุทโธ

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +10/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 48
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2010, 01:21:05 pm »
0
 :25:
บันทึกการเข้า
เมื่อ......แสงธรรม เจิดจรัส สว่างจ้าในใจ เมื่อนั้น ก็จะเห็นพระพุทธองค์
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าเห็นเรา ตถาคต

หลวงพี่เฉย

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *****
  • ผลบุญ: +11/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 88
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2010, 10:22:07 pm »
0
ตอบคุณโยมVijitchai
ให้พิจารณาโดยแยบคายระหว่างคำว่า "ปล่อยวาง  กับ  ปล่อยทิ้ง" 
เพราะพ่อแม่ถือว่าเป็นผู้ใกล้ชิดลูกที่สุด มีอิทธิพลในการหล่อหลอมลูกให้เป็นพลเมืองดีหรือเป็นพ ลเมืองร้ายมากกว่าใครๆ เป็นธรรมดาที่พ่อแม่ทุกคนย่อมปรารถนาให้ลูกของตนเป็น พลเมืองดีของสังคม เป็นคนดีของครอบครัวทั้งสิ้น เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์อันนี้ พ่อแม่จำต้องมีจรรยาบรรณ คือมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติต่อลูกของตน เมื่อพ่อแม่ปฏิบัติหน้าที่อันนี้แล้ว นอกจากจะทำให้ลูกเป็นคนดีดังประสงค์ได้แล้ว ยังเป็นเหตุให้ลูกเกิดความสำนึกและซาบซึ้งในตัวพ่อแม ่ว่าเป็นผู้มีพระคุณแก่ตนอย่างแท้จริง และเป็นเหตุจูงใจให้ลูกสนองตอบพระคุณในโอกาสต่อไปด้ว ย พ่อแม่ที่จะได้ชื่อว่าเป็น "พ่อแก้ว แม่แก้วของลูก" นั้น ก็เพราะได้ทำหน้าที่ทั้ง 5 ประการดังจะกล่าวต่อไปนี้ให้ ครบถ้วน บริบูรณ์แล้ว หน้าที่ดังกล่าวนั้น มีแนวปฏิบัติดังนี้คือ

1. ห้ามมิให้ลูกทำความชั่ว ผู้เป็นพ่อแม่นั้นจะต้องเป็นคนขยันในการดูแลลูก เอาใจใส่ในการชี้โทษถูกผิดให้แก่ลูกๆทราบตลอดเวลา ไม่เฉยเมยหรือปล่อยปละละเลย เมื่อเห็นลูกทำความผิดแม้เพียงเล็กๆ น้อยๆ เพราะจะทำให้เกิดความเคยชินจนติดเป็นนิสัย เช่น นิสัยเล่นการพนัน ติดสิ่งเสพติด การเที่ยวเตร่ การนอนตื่นสาย เป็นต้น การลงโทษลูกที่ทำผิดการแนะนำให้เห็นถึงผลเสียของความ ประพฤติไม่ดีต่างๆ ก่อนที่ลูกจะทำและการห้ามปราม การคาดโทษไว้ล่วงหน้า จัดเป็นหน้าที่ของพ่อแม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

2. แนะนำให้ลูกตั้งอยู่ในความดี ผู้เป็นพ่อแม่นั้น นอกจากคอยห้ามปรามคอยตักเตือนมิให้ลูกของตนทำความชั่ ว ความผิดแล้ว ยังมีภาระต้องแนะนำ ต้องอบรมสั่งสอน ต้องพร่ำบอกให้ทราบถึงว่าอะไรดีควรทำ ทำแล้วจะได้รับผลดีอย่างไร รวมทั้งว่าจะทำอย่างไรจึงจะเรียกว่า "ดี" ด้วย แม้การที่พ่อแม่ทำความดีให้ดูเป็นตัวอย่าง ก็เป็น หน้าที่เช่นกัน และจะได้ผลดีมากกว่าบอกหรือแนะนำให้ทำด้วยซ้ำไป

3. ให้ลูกศึกษาศิลปะวิทยา ผู้เป็นพ่อแม่ต้องมีความกระตือรือร้น มีความสนใจสนับสนุนให้ลูกได้มีความรู้ ความสามารถในวิชาการ ด้วยการอบรมสั่งสอนเองบ้าง ให้ศึกษาเล่าเรียนตามความสามารถบ้าง แม้ว่าจะต้องลำบาก ในการส่งเสีย ก็จำต้องยอมสละ เพราะเป็นหน้าที่ การปล่อยปละละเลย ไม่เอาใจใส่ในการศึกษาเล่าเรียนของลูกก็ดี การกีดกันมิให้ลูกได้ศึกษาเล่าเรียน ตามสติปัญญาเพียงเพื่อเอาไว้ใช้งานก็ดี ถือว่าเป็นพ่อแม่ที่บกพร่องในหน้าที่ อันจะเป็นผลเสียทั้งแก่ตัวลูกตลอดไป และเป็นผลร้ายต่อพ่อแม่เองโดยทางอ้อมในอนาคตด้วย เพราะลูกที่ขาดวิชาความรู้ย่อมหากินไม่เพียงพอใช้จ่ายจึงมีผลกระทบให้ไม่อาจเลี้ยงดูพ่อแม่ในวัยแก่เฒ่าให ้มีความสุขได้

4. หาคู่ครองที่สมควรให้ลูก ผู้เป็นพ่อแม่ต้องรับภาระในเรื่องคู่ครองของลูก แม้ว่ากาลสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปในการเลือกคู่ โดยให้สิทธิเขาได้เลือกเอง ถึงกระนั้นก็ตามพ่อแม่ก็ยังต้องคอยสอดส่องการคบเพื่อ นต่างเพศของลูกด้วย คอยเป็นพี่เลี้ยงให้ คอยแนะนำให้รู้ว่าชายดีที่เหมาะจะเป็นสามีที่ดีนั้นค ือคนเช่นไรหญิงดีที่เหมาะ จะเป็นศรีภริยานั้นคือคนเช่นไร เป็นต้น การคอยสอดส่องแนะนำและป้องกันมิให้ลูกเลือกคู่ครองตามอำเภอใจ  เพื่อป้องกันความผิดพลาดเช่นนี้ จัดว่าเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ประการหนึ่งที่จะละเว้นมิ ได้

5. มอบทรัพย์ให้แก่ลูกในสมัย ผู้เป็นพ่อแม่ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลประคับประคองบุตร ธิดาด้วยเงินทองจนกว่าเขาจะ รักษาตัวเองได้ คือ ในสมัยที่ลูกยังมิได้แยกครอบครัว ก็ต้องหาทรัพย์ให้จับจ่ายใช้สอย เพื่อหาความรู้หาวิชาใส่ตน ทั้งเพื่อความสนุกบันเทิงเป็นครั้งคราว ในสมัยที่ลูกแต่งงานแยกครอบครัว ก็ต้องมอบทรัพย์สมบัติอันเป็นทุนรอนให้บ้างเพื่อให้ต ั้งตัวได้ ในสมัยที่ตัวเองจะสิ้นชีวิต ก็ต้องมอบทรัพย์มรดกที่มีอยู่แก่ลูกๆตามความเหมาะสม เพื่อเป็นตัวแทนของตนให้ลูกถึงตนอยู่เสมอ การหาทรัพย์แล้วมอบให้ลูกของตนเช่นนี้ จัดเป็นหน้าที่ของพ่อแม่อีกประการหนึ่ง

พ่อแม่ผู้ปฏิบัติตามหน้าที่ทั้ง 5 ประการนี้ ถือว่าได้ประพฤติตามจรรยาบรรณที่ท่านกำหนดไว้เป็นหลั ก และจัดว่าได้ประพฤติเป็นธรรม และประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีโดยแท้ ผลที่ได้รับ นอกจากจะทำให้บิดามารดาได้รับความรักนับถือจากบุตรธิ ดาแล้ว ยังเป็นเหตุให้สังคมส่วนรวมพลอยสงบสุขและเรียบร้อยไป ด้วย

ข้อคิด 12 ประการสำหรับการเป็นพ่อแม่ที่ดี

1) ฉันจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเขา

2) ฉันจะสร้างให้เขาภูมิใจ ในคุณค่าของตัวเองให้มากๆ

3) ฉันจะเลิกเปรียบเทียบเขากับพี่น้องคนอื่น

4) ฉันจะชมเขามากกว่าวิจารณ์ด่าทอเขา

5) ฉันจะให้กำลังใจเขา ไม่ซ้ำเติม เมื่อเขาผิดพลาด

6) ฉันจะมีเวลาให้เขามากขึ้น ลดงานและข้ออ้างต่างๆ ให้น้อยลง

7) ฉันจะกอดเขา จะบอกให้เขารู้ว่าฉันรักเขาทุกวัน

8) ฉันจะพูดกับเขา แทนการใช้อำนาจกับเขา

9) ฉันจะมองเขา รับฟังเขาให้มากขึ้น

10) ฉันจะไม่ผลักดัน คาดหวังให้เขาต้องมาเติมความความฝันที่ฉันเอาเติมให้ กับตัวเองไม่ได้

11) ฉันจะไม่นำความต้องการของฉัน มาเป็นเงื่อนไขบีบบังคับให้เขามาเป็นบุคคลที่ฉันต้องการ

12) ฉันจะบอกให้เขารู้ว่า ไม่ว่าเขาจะเป็นเช่นไรเขาคือคนที่ฉันรักและภูมิใจมาก ที่สุด

เชื่อว่าหากคุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ดังนี้ปัญหาวัยรุ ่นในสังคมจะหมดไป และอนาคตของลูกหลานไทยก็จะสดใส ประเทศก็จะก้าวหน้ารุ่งเรืองและเข้มแข็ง

1. เพื่อให้บิดามารดาสำนึกในหน้าที่ของการเป็นพ่อแม่ที่ ดี

2. เพื่อรักษาคุณภาพความเป็นมนุษย์ไว้ในฐานะผู้ให้

3. เพื่อแก้ปัญหาสังคมเรื่องบิดามารดาทอดทิ้งบุตรธิดา

4. เพื่อสร้างหลักประกันให้แก่สังคมระหว่างบิดามารดากับ บุตรธิดา

5. เพื่อจรรโลงคุณธรรมของบิดามารดาไว้ในสำนึกของบุตรธิด า

6. เพื่อป้องกันมิให้บุตรธิดาประพฤติเสียหาย เพราะไม่มีผู้ดูแลเอาใจใส่

7. เพื่อให้บุตรธิดาได้เห็นแบบอย่างและแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตัวที่ดีในสังคม

8. เพื่อให้บิดามารดาคอยประคับประคอง เป็นพี่เลี้ยงบุตรธิดาจนกว่าจะช่วยตัวเองได้ ไม่เป็นภาระแก่สังคม

หากพ่อแม่ได้ปฏิบัติตามหน้าที่ของท่านมาเป็นอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง ไม่กลัวต่อความยากลำบากอย่างครบถ้วน บริบูรณ์แล้ว เชื่อเหลือเกินว่าคนแรกที่อยู่ในหัวใจลูกๆ คือพ่อแม่ ...ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่โยมด้วยเถิด..
บันทึกการเข้า
"ขอให้รวยโดยฉับพลัน!!!...ทุกท่านเทอญ"   วรธมฺโมภิกฺขุ (หลวงพี่เฉย)

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 23, 2010, 08:14:35 am »
0

    พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ในพระสูตรหนึ่ง ชื่อว่า ปุพพังคสูตร ปรากฏอยู่ในพระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ว่า...
 
    “ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะส่องสว่างเหนือโลกหล้า ย่อมมีแสงเงินแสงทองจับขึ้นที่ขอบฟ้า เป็นนิมิตเบื้องต้นให้เห็นก่อน ฉันใด ก่อนที่กุศลธรรมทั้งหลายจะบังเกิดขึ้น ย่อมมีสัมมาทิฐิเป็นนิมิตเบื้องต้นให้เห็นก่อน ฉันนั้น"
 
สัมมาทิฐิที่เป็นเบื้อง ต้นของกุศลธรรมนั้น มี ๑๐ประการ ได้แก่

 
๑.ทาน ที่ให้แล้วมีผล
 
๒.การสงเคราะห์กันมีผล
 
๓.การยกย่องบูชาบุคคลที่ควร บูชามีผล
 
๔.ผลแห่งกรรมดีและกรรมชั่วมี จริง
 
๕.โลกนี้มี (ที่มา)
 
๖.โลกหน้ามี (ที่ไป)
 
๗.คุณของมารดามี
 
๘.คุณของบิดามี
 
๙.สัตว์ที่เกิดแบบโอปปาติกะมี
 
๑๐.พระอรหันต์ผู้หมดกิเลสแล้ว มี

 
        สัมมาทิฐิทั้ง ๑๐ประการนี้ โดยเนื้อแท้คือเรื่องของกฎแห่งกรรม
ซึ่งการที่พระพุทธองค์ตรัสสอนเรื่องสัมมาทิฐิ ๑๐ ประการนี้ก่อนอย่างอื่น
ก็เพราะว่าสัมมาทิฐิทั้ง ๑๐ประการนี้ เป็นเบื้องต้นของความดีทุกประการของคนเรา
การประพฤติกรรมดีหรือชั่ว หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งว่า
การกระทำความดีและความชั่วของคนเรานั้น ทำได้ ๓ทาง คือ

 
ทาง กาย (กายกรรม)
ทาง วาจา (วจีกรรม)
ทาง ใจ (มโนกรรม)

 
    ไม่ว่าเราทำอะไรไว้ทั้งกรรมดีและชั่วก็ตาม เราจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้นเสมอ จะให้ใครมารับผลกรรมแทนเราไม่ได้

ที่มา  http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=577.msg2414;topicseen#new
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

vijitchai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 100
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 23, 2010, 02:22:50 pm »
0
กราบขอบคุณ นมัสการพระอาจารย์ หลวงพี่เฉย ครับ

ผมอ่านคติที่ท่าน ลงให้คติกับผม ทำให้ผมตาสว่าง กับ ข้อคิด 12 ประการ ครับ

อ่านแล้ว บอกตรง ๆ เลยครับว่า น้ำตาไหลเลย ครับ


 :25:
บันทึกการเข้า
ขอนอบน้อม ครูบาอาจารย์ ผู้สอนกรรมฐาน ทุก ๆ รูป ครับ ข้าพเจ้าขอกล่าวถึง พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ตลอดชีวิต พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2010, 12:43:27 am »
0

    พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ในพระสูตรหนึ่ง ชื่อว่า ปุพพังคสูตร ปรากฏอยู่ในพระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ว่า...
 
    “ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะส่องสว่างเหนือโลกหล้า ย่อมมีแสงเงินแสงทองจับขึ้นที่ขอบฟ้า เป็นนิมิตเบื้องต้นให้เห็นก่อน ฉันใด ก่อนที่กุศลธรรมทั้งหลายจะบังเกิดขึ้น ย่อมมีสัมมาทิฐิเป็นนิมิตเบื้องต้นให้เห็นก่อน ฉันนั้น"
 
สัมมาทิฐิที่เป็นเบื้อง ต้นของกุศลธรรมนั้น มี ๑๐ประการ ได้แก่

 
๑.ทาน ที่ให้แล้วมีผล
 
๒.การสงเคราะห์กันมีผล
 
๓.การยกย่องบูชาบุคคลที่ควร บูชามีผล
 
๔.ผลแห่งกรรมดีและกรรมชั่วมี จริง
 
๕.โลกนี้มี (ที่มา)
 
๖.โลกหน้ามี (ที่ไป)
 
๗.คุณของมารดามี
 
๘.คุณของบิดามี
 
๙.สัตว์ที่เกิดแบบโอปปาติกะมี
 
๑๐.พระอรหันต์ผู้หมดกิเลสแล้ว มี

 
        สัมมาทิฐิทั้ง ๑๐ประการนี้ โดยเนื้อแท้คือเรื่องของกฎแห่งกรรม
ซึ่งการที่พระพุทธองค์ตรัสสอนเรื่องสัมมาทิฐิ ๑๐ ประการนี้ก่อนอย่างอื่น
ก็เพราะว่าสัมมาทิฐิทั้ง ๑๐ประการนี้ เป็นเบื้องต้นของความดีทุกประการของคนเรา
การประพฤติกรรมดีหรือชั่ว หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งว่า
การกระทำความดีและความชั่วของคนเรานั้น ทำได้ ๓ทาง คือ

 
ทาง กาย (กายกรรม)
ทาง วาจา (วจีกรรม)
ทาง ใจ (มโนกรรม)

 
    ไม่ว่าเราทำอะไรไว้ทั้งกรรมดีและชั่วก็ตาม เราจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้นเสมอ จะให้ใครมารับผลกรรมแทนเราไม่ได้

ที่มา  http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=577.msg2414;topicseen#new

 :13:  ;)  :13: :043:กฏแห่งกรรมสิบประการโดยเนื้อแท้         นับเริ่มแต่ทานการให้นั้นมีผล
สองสงเคราะห์เกื้อกูลกันในบันดล                   สามบุคคลควรแก่กาลน้อมบูชา
สี่นั้นไซร้เชื่อในผลกรรมนั้นมี                          ห้าโลกนี้ล้วนมีผลเหตุเนื่องมา
หกกุศลอานิสงส์อย่ากังขา                              เจ็ดมารดาท่านมีคุณค้ำจุนเรา
แปดบิดาคุณอนันต์เฉกเช่นกัน                        เก้าสัตว์นั้นผุดเกิดมีอย่าดูเบา
อรหันต์ผู้หมดจดด้วยขัดเกลา                        จิตพ้นเศร้าอย่าลบหลู่มีอยู่จริง.

                                                                                          :coffee2:ธรรมธวัช..!            



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 15, 2010, 05:28:23 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

นิรนาม_พุทโธ

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +10/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 48
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2010, 09:53:33 am »
0
 :25: :25: :25:

สาธุ กับ หลวงพี่เฉย ที่มีข้อคิดดี ๆ มาฝากเพื่อนสหธรรม

 :25:
บันทึกการเข้า
เมื่อ......แสงธรรม เจิดจรัส สว่างจ้าในใจ เมื่อนั้น ก็จะเห็นพระพุทธองค์
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าเห็นเรา ตถาคต

ปักษาวายุ

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 96
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2010, 11:45:07 pm »
0
 :c017:

เรื่องนี้โดนใจ จริง ๆ ครับ

 :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

มานพ

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 86
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2010, 02:50:42 pm »
0
อยากให้เพื่อน ๆ อ่านกันมาก ๆ เรื่องนี้

จะได้ไม่ทำให้ พ่อ แม่ ทุกข์ใจ เพราะการกระทำของเรา


 :08: :25: :88:
บันทึกการเข้า

wiriya

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 53
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2010, 10:27:27 pm »
0
หัวข้อนี้ โดนใจผมมากที่สุด ตั้งแต่อ่านมา

โดยเฉพาะการแนะนำของพระคุณเจ้า ผมคาดว่าท่านน่าจะยังไม่มีบุตร คำแนะนำของท่านก็ยังคมคายได้กินใจมากครับ

ส่วนคำถามนั้น ผมว่าผู้ที่ถามนั้นค่อนข้างจะระวัง มาก เพราะต้องทำงานคนเดียว ( หัวอกเดียวกันครับ )
ทำให้ผมได้คิด อะไร หลาย ๆ อย่าง


บางครั้ง เรายอมเสียเวลา เพื่อลูก... นี้มากครับ บางครั้งผลตอบแทน....ก็ไม่ใช่เป็นความเข้าใจของลูก ที่มีต่อเรา

 :25: :25:
บันทึกการเข้า
รักครอบครัว ห่วงลูกหลาน ต้องช่วยต้าน ภัยยาเสพติด
รักตนเอง หนีสงสาร ต้องภาวนาให้ มาก ๆๆๆๆๆ

kallaya

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 112
  • ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ถ้ามองเห็นทุกข์.........
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
Re: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2010, 07:53:48 am »
0
คำถามเรื่องนี้ ดีจริง ๆ สำหรับคนที่มี ลูก ไม่ว่าจะเป็น หญิง หรือ ชาย

หัวอก พ่อ แม่  นะ

คุณลูก ๆ ทั้งหลาย นำใส่ใจกันบ้างก็ดีนะ

หนี้บุญ  หนี้กรรม

การดูแล บุตรธิดา ภรรยาสามี พ่อแม่ ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ คนรับใช้ เพื่อน สมณพราหมณ์ ล้วนแล้วมีคติอยู่ในเรื่อง ทิศ 6

ปุพเพกตปุญญตา  การบำรุงเลี้ยงมารดาบิดา เป็นอุดมมงคล นะจ๊ะ
บันทึกการเข้า
ปัจจุบันสำคัญที่สุด อดีตก็ช่างมัน อนาคตก็ช่างมัน ถ้าเราทำปัจจุบันไว้ดี

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิถุนายน 24, 2010, 01:39:44 am »
0
ขอมอบเพลงนี้ ให้คุณ vijitchai คร้า


บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

lastman

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +10/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 158
  • สระบุรี มีอรอยพระพุทธบาทมากที่สุด.................
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2010, 07:22:18 am »
0
 :25: :25:

คุณ หมวย นำเพลงมาใส่ เพิ่มบรรยากาศ ได้ดีจริง ๆ ครับ
 :25:
บันทึกการเข้า
อนันตริยกรรม ๖ พึงงดเว้น
มีเพื่อนบอกว่าคุณจะเลวอย่างไรก็ได้ แต่อย่าทำผิดศีล ๕

ทิด...คนหนึ่งที่นับถืออาจารย์

hictoria

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 3
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: เมษายน 05, 2011, 09:50:58 am »
0
ทำให้พ่อแม่ ต้องเสียน้ำตา นี่บาปสุดๆเลย
บันทึกการเข้า
Monavieธุรกิจมาแรงที่สุด
หน้าขาวใส ด้วย ครีมหน้าขาว ขายดีอันดับ 1 ขาวใสมากๆ
รับทำ SEO ราคาถูก เพื่อทำอันดับการค้นหาติด Google

omgassist

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 5
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2011, 04:19:02 pm »
0
บทความมีประโยชน์และให้ข้อคิดที่ดีจ้า

mkt2555

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2011, 06:44:02 pm »
0
ลูกของเรา ถ้าเราไม่ทุกข์ได้ ก็ถือว่าสุดยอดเหมือนกัน

เอาเป็นว่าทุกข์พองามดีไหมครับ
บันทึกการเข้า

darkrise001

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 9
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทุกข์ใจเพราะลูก หรือ ทุกข์ใจเพราะเรา
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กันยายน 19, 2013, 08:14:35 pm »
0
บันทึกการเข้า