ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - ratree
หน้า: [1]
1  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ขอเรียนถาม เรื่อง เจโตวิมุตติ กับ ปัญญาวิมุตติ ต่างกันอย่างไร คะ เมื่อ: มีนาคม 03, 2016, 05:03:34 am
 ask1
 คือ ไม่ค่อยจะเข้าใจ คะ ว่า เจโตวิมุตติ คือ อย่างไร ปัญญาวิมุตติ คือ อย่างไร

  บางท่านก็บอกว่า ปฏิบัติกรรมฐาน เป็น ปัญญาวิมุตติ ถ้าเเข้าฌาน เป็น เจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ ไม่จำเป็นต้องมีสมาธิ แต่ พิจารณา แล้วไม่มี สมาธิ จะสมบูรณ์ ด้วย มรรค ได้อย่างไร

  ยิ่ง พิจารณา ก็ยิ่ง งง


  :58: thk56 st12
2  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ชนิดของผ้า จีวรพระ ควรถวายแบบไหน คะ เมื่อ: ธันวาคม 08, 2011, 02:29:27 am
คือ ได้ถวายผ้าจีวรแก่พระสงฆ์ แต่พระสงฆ์ไม่ได้ใช้ที่ถวายไป ก็เลยถามว่าศิษย์ท่านว่า เป็นเพราะอะไรก็ทราบว่า ท่านจะใช้จีวรชนิดเดียว ซึ่งเป็นผ้าอะไรจำไม่ได้ เข้าใจว่ามีราคามากด้วย แต่ข้อมูลของผ้านั้นสอบถามแล้วก็จำไม่ได้ใครรู้ชนิดผ้า ช่วยบอกทีคะ ว่าผ้าจีวรมีผ้ากี่ชนิดคะ

 :25: :c017:
3  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / อยากทราบความหมายของคำว่า ปุถุชน และ โคตรภู คะ เมื่อ: กันยายน 24, 2011, 08:23:36 am
อยากทราบความหมายของคำว่า ปุถุชน และ โคตรภู คะ

ตามหัวข้อเลยนะคะ เพราะเห็นในเว็บนี้มีศััพท์เช่นนี้ใช้บ่อยมากคะ

 ยังไม่ค่อย จะเข้าใจความหมายเลยนะคะ


  ขอบคุณคะุ

  :25: :25: :25:
4  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / อยากภาวนา เพราะไม่อยากเกิดอีก แต่... ติดเรื่องครอบครัว.. เมื่อ: กันยายน 07, 2011, 07:46:24 am
มีเพื่อน ท่านหนึ่ง มาปรารภให้ฟังว่า

 เหตุจากการชักชวนในการภาวนา กันมาหลายปี จนกระทั่งวันหนึ่ง เพื่อนคนนี้ก็มาขอคำปรึกษาเรื่องการภาวนา

เธอมีความตั้งใจ ที่จะไม่อยากเกิดอีก ( ฟังแล้วอนุโมทนาในใจ ) แต่เธอเล่าให้ฟังถึง

ห่วงที่เธอยังติดอยู่ก็คือเรื่อง ครอบครัว

เพราะทุกครั้งที่เธอเริ่มจะภาวนา คนในครอบครัว ก็จะคัดค้าน หรือ ไม่อยากให้เธอมีการภาวนาที่สูงขึ้น

เช่น เธอขอรักษาศีล 8 ในบ้านก็ลงมติ ว่าไม่ได้ ...... อย่างนี้เป็นต้น

ขอคำปรึกษา เรื่องครอบครัว กับเรา ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร

 ใครมีประสพการณ์ และ วิธีการที่ดี ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย คะ

  :c017:

   
5  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ขอวิธีรับมือความฝัน กับ การภาวนา เมื่อ: สิงหาคม 01, 2011, 07:38:04 am
เนื่องด้วย ในช่วงนี้ ดิฉัน มีความฝัน ว่า ได้ไปเข้ากราบ พระพุทธเจ้า พระสงฆ์ รูปนั้น รูปนี้ บ่อยมากขึ้น
และบางความฝันก็ รู้สึกได้ว่าเป็นจริง เช่นฝันว่ามีคนมาบอกว่า อย่าเดินทางไปกับเขาจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น

ดิฉันก็เลยไม่ไปกับเขา ปรากฏว่า ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น

ความฝันเช่นนี้ ดูเหมือนแม้จะดี แต่ก็มีข้อเสีย ทำให้เรานึก หรือ แยกไม่ออก อันไหนจริง อันไหนเท็จ
ทำให้บางครั้งก็ฝัน แบบระแวง คือกลายเป็นคนเชื่อความฝัน ซึ่งทำให้ผสมกันเป็นเรื่อง ที่จริงบ้างและไม่จริงบ้าง

จึงอยากทราบวิธีการภาวนา ที่จะรับมือกับความฝัน เหล่านี้ด้วยคะ

ขอบคุณคะ

 :25: :c017:
6  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เชิญร่วมงาน"การเจริญสติแบบเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน"ศาลายา 9-10 ก.ค.54 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2011, 10:09:22 pm


การเจริญสติแบบเคลื่อนไหว

หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ ท่านเป็นบูรพาจารย์สายปฏิบัติที่มุ่งสอนวิปัสสนา การเจริญสติตามแนวสติปัฎฐาน๔ที่เน้นการเคลื่อนไหวอิริยาบถต่างๆเป็นหลัก สำคัญ ท่านสอนการเจริญสติในรูปแบบการเคลื่อนไหวทางกายให้มีการรู้สึกตัวอย่างต่อ เนื่อง รู้สึกตัวกับเวทนาที่ปรากฏ เห็นความคิด รู้ทันความคิดและดับความคิด ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์ทั้งปวงได้ วิธีการดังกล่าว  ถือได้ว่าเป็นแนวปฏิบัติที่สั้น-ตรง-ลัด-เร็ว  เข้าสู่ความเป็นพุทธะ  คือ  ผู้รู้  ผู้ตื่น  ผู้เบิกบาน   อันเป็นแนวทางยกระดับ  มิติทางจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ให้สมบูรณ์แบบตามหลักพุทธธรรม

การ เจริญสติแนวนี้ พูดง่าย ฟังง่าย แต่เข้าใจยาก เพราะความเข้าใจในวิธีการนี้เน้นองค์ความรู้ที่ได้แบบประจักษ์แจ้งผุดขึ้น จากจิต ชนิดที่มันเป็นเอง อันสืบเนื่องมาจากการที่ได้เจริญสติปัฏฐานสี่อย่างจริงจังต่อเนื่องและถูก ต้อง“เฝ้าดูอาการกายแคลื่อนไหว เฝ้าดูอาการใจที่นึกคิด” ฝึกสติให้ทำหน้าที่รู้ทุกข์โดยตรง ให้รู้เท่าทันแบบเป็นธรรมชาติ จนกระทั่งตัวรู้นี้ตื่นโพลง จิตใจสว่างรู้ทุกข์อย่างแจ่มแจ้ง อายตนะเปิดกว้างจิตจะเห็นความจริงในจิต เข้าใจจิตเดิมแท้ของตัวเองที่ไม่ถูกปรุงแต่งว่ามันเป็นอย่างไร ที่มันทุกข์เพราะอะไร ทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้วจะดับอย่างไร จะรู้เห็นเอง.

7  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว แต่ยังรักแฟนเก่าอยู่ อย่างนี้ถือว่านอกใจหรือไม่คะ เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2011, 06:28:39 pm
อยากทราบว่า ถ้าผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ยังรักแฟนเก่าและก็ชื่นชมเขา มากกว่าสามีตนเอง

อย่างนี้จัดว่าผิดศีลข้อ 3 หรือยังคะ

 :67:
8  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / มีใครอธิบาย วิปัสสนาญาณ เนื่องด้วยภาพนี้ได้บ้างคะ เมื่อ: เมษายน 06, 2011, 08:31:00 pm




จากภาพ กับวิปัสสนาญาณ 16 ไม่ทราบมีท่านผู้รู้ท่านใดพอจะอธิบายให้ทราบได้บ้างคะ

ไม่ค่อยจะเข้าใจคะ

9  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ทำไมอาการเป็นเช่นนี้ ต้องแก้อย่างไร คะ เมื่อ: มีนาคม 11, 2011, 05:56:01 pm
ปรกติดิฉันภาวนาทำสมาธิแล้วจิตจะเข้าสู่สมาธิ มีความสุข และสงบ

แต่ 7 วันมานี้นั่งสมาธิแล้ว จิตไม่ดิ่งเข้าสมาูธิเลยคะ

ไม่รู้เพราะสาะเหตุใด รบกวนถามผู้รู้เพื่อหาวิธีแก้ไขด้วยคะ


( ปล. ภาวนาสายวัดป่าอยู่คะ หายใจเข้าพุท หายใจออกโธ คะ )

 :03:
10  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / จัดงานปฏิบัติธรรมบวชชีพราหมณ์เฉลิมพระเกียรติ ฯ ทุกปี ในวันที่ ๓ - ๗ เมษายน ของทุกปี เมื่อ: มีนาคม 10, 2011, 07:50:03 pm
วัดสันทราย หมู่ที่ ๑๒ ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ จัดงานปฏิบัติธรรมบวชชีพราหมณ์เฉลิมพระเกียรติ ฯ ทุกปี ในวันที่ ๓ - ๗ เมษายน ของทุกปี


จึงขอเชิญชวนผู้สนใจใฝ่ในธรรมร่วมปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ด้วย และพร้อมกันนี้ก็ขอเชิญร่วมให้การอุปถัมภ์งานปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ด้วย ตามรายการดังนี้
๑. อาหารมื้อเช้า (ข้าวต้มเจ) ๑,๕๐๐ บาท
๒. อาหารมื้อเพล (อาหารเจ) ๒,๕๐๐ บาท
๓. ปานะ ๕๐๐ บาท
๔. พิมพ์หนังสือสวดมนต์ เล่มละ ๕๐ บาท

หรือจะร่วมอุปถัมภ์งานปฏิบัติธรรมตามจิตศรัทธา
โดย สามารถร่วมบุญผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาไชยปราการ ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี"กองทุนเพื่อการเผยแผ่ศีลธรรมวัดสันทราย" เลขบัญชี ๕๔๕-๐-๑๔๓๔๓-๕ สอบถามรายละเอียดที่..พระครูวรสุตเขต

โทร. ๐๘๙-๘๕๒๓๔๙๘

E-mail .. Prasert372@hotmail.com

http://www.trueplookpanya.com/true/ethic_detail.php?cms_id=6465
11  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / E-Book : ธรรมะ-ครูบาอาจารย์ พระกรรมฐาน, พระสุปฎิปันโน & ปกิณกะธรรม เมื่อ: มีนาคม 05, 2011, 08:32:46 am
E-Book : ธรรมะ-ครูบาอาจารย์ พระกรรมฐาน, พระสุปฎิปันโน & ปกิณกะธรรม

from : http://www.udon108.com/board/index.php?topic=77986.0
_/\_ _/\_ _/\_

---------------------------

รวมหนังสือธรรมะ, พระธรรมเทศนา
ของครูบาอาจารย์พระกรรมฐาน พระสุปฎิปันโน และปกิณกะทางพุทธศานา

ขอเชิญอ่านและ download, E-book ได้ที่นี่ครับ

http://www.scribd.com/Forest_Dharma
http://www.scribd.com/Forest_Dharma/documents

กราบน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และอาจาริยบูชา
_/\_ _/\_ _/\_

---------------------------------------------

อนุโมทนากับทุกท่านทุกแหล่งข้อมูล
อาทิเช่น เวบหลักของครูบาอาจารย์,
http://www.pupasoong.com,
http://www.fungdham.net,
http://www.kanlayanatam.com, etc
บางเอกสารอาจไม่ได้อ้างอิง แหล่งที่มา
เนื่องจากจำไม่ได้ ต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ

---------------------------------------------

บางเล่มถ้าอ่าน online อาจติดปัญหาเรื่อง font ควร download มาเก็บที่เครื่องก่อนครับ

จากคุณ    : sukcharo
12  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 7 เทคนิคทำสมาธิบำบัดโรค เมื่อ: มีนาคม 03, 2011, 10:07:50 am
การ ฝึกสมาธิกำลังกลายเป็นศาสตร์ใหม่ที่ชาวตะวันตกให้ความสนใจนำไปใช้รักษาอาการ ป่วยกายหลายอย่าง โดยไม่ต้องพึ่งยาเคมีปัจจุบัน มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกานำเอาการปฏิบัติสมาธิวิปัสสนาไปรักษาผู้ป่วยอัลไซ เมอร์ อาการซึมเศร้า รวมถึงภาวะทางจิตของผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากเหตุการณ์สะเทือนจิตใจ (พีทีเอสดี)

รศ.ดร.สมพร กันทรดุษฎี เตรียมชัยศรี หัวหน้าภาควิชาการพยาบาลสาธารณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นผู้หนึ่งที่สนใจนำการฝึกสมาธิมาประยุกต์ใช้รักษาโรค หลังจากทำการศึกษาจนค้นพบท่วงท่าการฝึกสมาธิสำหรับบำบัดภาวะเบาหวาน และโรคอื่น

จาก ผลวิจัยในคนไข้ ทำให้ได้เทคนิคบำบัดโรคที่พร้อมนำไปปฏิบัติได้จริงถึง 7 เทคนิค เพื่อประโยชน์ด้านการเยียวยาโรคที่เรื้อรังและการป้องกันการเกิดโรคในระยะ ยาว ที่สามารถประยุกต์ใช้งานได้เองไม่ยาก


ท่าแรกคือ ท่านั่งผ่อนคลาย

ประสาน กายประสานจิต มีผลดีในด้านการลดความดันโลหิต การผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้ดีสามารถฝึก ได้ทั้งท่านั่งด้วยการขัดสมาธิ หงายฝ่ามือทั้งสองข้างวางบนหัวเข่า หรือฝึกท่านอนให้วางแขนหงายมือไว้ข้างลำตัว หรือคว่ำฝ่ามือวางบนหน้าท้องก็ได้ จากนั้นหลับตาลงช้าๆ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ พร้อมนับ 1-5 กลั้นหายใจนับ 1-3 ช้า ช้า เช่นกัน แล้วเป่าลมหายใจออกทางปากช้าๆ พร้อมกับนับ 1-5 เช่นกัน โดยทำซ้ำ 30-40 ครั้งวันละ 3 รอบก่อนหรือหลังอาหารประมาณ 30 นาที


ท่าที่ 2 เป็นท่ายืนผ่อนกายประสานการประสานจิต

ท่า นี้จะช่วยลดความดันโลหิต ลดน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน และควบคุมการทำงานของไขสันหลังให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ วิธีปฏิบัติให้ผู้ฝึกยืนตรงในท่าที่สบายวางฝ่ามือซ้ายทาบที่หน้าอกแล้วนำฝ่า มือขวาวางทาบทับฝ่ามือซ้าย พร้อมกับค่อยๆ หลับตาจากนั้นสูดลมหายใจเข้าและออกเหมือนกับท่าแรก แต่เทคนิคนี้จะทำซ้ำ 120-150ครั้ง จึงลืมตาขึ้นช้าๆ และทำวันละ 3รอบโดยเพิ่มเวลาให้มากกว่าเดิมทุกครั้ง


ท่าที่ 3 การนั่ง เหยียด ผ่อนคลายประสานกาย ประสานจิต

ท่า นี้จะช่วยลดไขมันหน้าท้องลดพุง และลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี การปฏิบัติท่านี้ให้ผู้ฝึกนั่งราบกับพื้นในท่าที่สบาย เหยียดขาและเข่าให้ตึง หลังตึง เท้าชิด คว่ำฝ่ามือบนต้นขาทั้ง 2ข้างค่อยๆ หลับตาลงจากนั้นหายใจเข้าออกและนับเหมือนกับท่าแรก 3 ครั้ง จากนั้นต่อด้วยการหายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ พร้อมกับค่อยๆ โน้มตัวไปข้างหน้าผลักฝ่ามือทั้งสองข้างไปด้านหน้าจนปลายมือจรดนิ้วเท้า หยุดหายใจชั่วครู่ และหายใจออกช้าๆ พร้อมกับค่อยๆ ดึงตัวและแขนเอนไปข้างหลังให้ได้มากที่สุดและนับเป็น 1 รอบ ทำซ้ำ 30 ครั้งแล้วค่อยๆ ลืมตา


ท่าที่ 4 การก้าวย่างอย่างไทย

เจ้า ของท่าบอกว่า ในท่านี้ความยากของการฝึกจะมีมากขึ้น เริ่มจากยืนตรงในท่าที่สบายลืมตา มือสองข้างไขว้หลัง สูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ และทำเหมือนท่าแรก จนครบ 5รอบ จากนั้นให้ยืนตัวตรงมองต่ำไปข้างหน้าหายใจเข้าช้าๆ พร้อมค่อยๆ ยกเท้าขวาสูงจากพื้นเล็กน้อยหายใจออกช้าๆ พร้อมกับก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าจรดปลายเท้าแตะพื้น ตามด้วยส้นเท้าวางลงบนพื้น ส่วนเท้าซ้ายให้วางชิดเท้าขวาในช่วงหายใจออกทำซ้ำให้ได้ 20ครั้ง โดยที่เวลากลับตัวให้หมุนทางขวาโดยขยับเท้าให้เอียง 60องศาและ 90องศาในท่ายืนตรง ทำซ้ำด้วยการเดินกลับไปมา 2เที่ยว จะใช้เวลาประมาณ 45-60นาที หลังการฝึกวิธีดังกล่าวมีผลในเรื่องเพิ่มภูมิต้านทานโรคเรื้อรังทุกประเภท คล้ายกับการเดินจงกรม


ท่าที่ 5 ชื่อว่ายืดเหยียดอย่างไทย

ผู้ ฝึกต้องเคลื่อนไหวอย่างช้า นับเลขอย่างช้าจะได้ประโยชน์สูงที่สุด โดยเริ่มฝึกจากวันละ 60 รอบและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในวันต่อๆ ไป ช่วยป้องกันโรคและเสริมสร้างสุขภาพๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเริ่มจากท่ายืนตรงที่สบาย เข่าตึงและค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ สูดลมหายใจเหมือนกับท่าแรก จนครบ 5 รอบ จากนั้นต่อด้วยการค่อยๆ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะให้ฝ่ามือประกบกัน แขนตึงแนบใบหู หายใจเข้าและออก 1 ครั้ง และค่อยๆ ก้มตัวลง โดยศีรษะ ตัวและแขนก้มลงพร้อมๆ กันอย่างเป็นจังหวะช้าๆ ไปเรื่อยๆ ให้ได้ 30 จังหวะเมื่อปลายนิ้วกลางจรดพื้นพอดี ตามด้วยหายใจเข้าและออกช้าๆ ลึกๆ 1 ครั้งและค่อยๆ ยกตัวกลับ ในท่าเดิมศีรษะตั้งตรงใน 30 จังหวะเช่นกัน


ท่าที่ 6 เป็นเทคนิคการฝึกสมาธิการเยียวยาไทยจินตภาพ

เทคนิค นี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้มีปัญหาระบบไหลเวียนอัมพาต ซึ่งประสาทการรับรู้ทั้งร่างกายไม่สามารถทำงานได้สะดวก แต่ประสาทการได้ยินยังทำงาน ผู้ดูแลจะต้องเป็นผู้ช่วยในการบอกให้เขาได้ยินและคิดตามตั้งแต่เริ่มนอนบน พื้นเรียบ แขนทั้งสองข้างวางแนบลำตัว และให้เขาหลับตาลงช้าๆ สูดลมหายใจเหมือนท่าแรก 3รอบด้วยกัน แล้วให้เขาท่องในใจว่า

"ศีรษะ เรากำลังเริ่มผ่อนคลาย ผ่อนคลายลงเรื่อยๆ" และกำหนดความรู้สึกไปที่อวัยวะที่เราจดจ่อไล่จากศีรษะ หน้าผาก ขมับ หนังตา แก้ม คาง ริมฝีปาก คอ ไหล่ ต้นแขน แขน มือ หน้าอก หลัง หน้าท้อง ก้น ต้นขา เข่า น่อง เท้าและตัวเราทั้งตัว (ขณะที่ไล่มาถึงมือและเท้าให้ท่องว่า มือเรากำลังเริ่มหนักขึ้น หนักขึ้น เท้าเรากำลังเริ่มหนักขึ้น หนักขึ้น) เมื่อทำครบเช่นนี้แล้วให้หายใจเข้า กลั้นใจ หายใจออก เหมือนเริ่มต้นอีก 3 รอบ


ส่วนท่าสุดท้าย เป็นเทคนิคสมาธิการเคลื่อนไหวไทยชี่กง

เริ่ม ด้วยการยืนตัวตรงแยกเท้าทั้งสองข้างพอประมาณ ค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ สูดลมหายใจเหมือนท่าแรกให้ครบ 5 รอบ จากนั้นค่อยๆ ยกมือขึ้น แขน ข้อศอกทั้งสองข้างอยู่ในระดับเอว โดยหันฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าหากัน ขยับฝ่ามือเข้าหากันช้าๆ นับ 1-3 และขยับมือออกช้าๆ นับ 1-3 ทำทั้งหมด 36-40 รอบ และยืนอยู่ในท่าเดิม หายใจเข้าลึกๆ นับ 1-5 ค่อยๆ ยกมือขึ้นเหนือศีรษะ คล้ายกับกำลังประคองหรืออุ้มแจกันใบใหญ่ แล้วค่อยๆ ยกมือลงในท่าประคองแจกันเช่นกันนับเป็น 1รอบ โดยทำซ้ำ 36-40 รอบแล้วยืนในท่าเดิม ท่านี้จะช่วยลดอาการท้องผูก นอนไม่หลับ อาการปวดเรื้อรัง หรือเฉียบพลัน และภูมิแพ้

"การ ฝึกสมาธิเพื่อบำบัดโรค แต่ละท่ามีความยากง่ายต่างกัน สำหรับคนที่ยังไม่เคยฝึกควรเริ่มจากท่าที่ 1เพื่อเตรียมความพร้อมในเรื่องการหายใจให้ร่างกายก่อนที่จะเริ่มฝึกปฏิบัติ ในท่าที่ยาก เพราะหากร่างกายไม่พร้อมแล้วฝืนอาจเกิดผลเสียมากกว่าผลดีได้เช่นกัน" หัวหน้าภาควิชาการพยาบาลสาธารณสุข ม.มหิดล กล่าว
13  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เมื่อน้องสาว มาถามดิัฉันว่า "พี่เราเกิดเป็นคนไทย ชาติต่อไปก็เป็นคนไทยใช่ไหมคะ" เมื่อ: มีนาคม 01, 2011, 08:19:51 pm
เมื่อน้องสาว มาถามดิัฉันว่า "พี่เราเกิดเป็นคนไทย ชาติต่อไปก็เป็นคนไทยใช่ไหมคะ"

ในฐานะี่พี่ก็เป็นผู้ชอบปฏิบัติธรรม มาช่วยตอบให้หายสงสัยหน่อยคะ เถอะว่า เราไม่เคยเกิดเป็นชาวอินเดีย
หรือ เขมร หรือ ลาว ใช่หรือไม่คะ มีพระสูตรบทไหน ที่ระบุว่า เมื่อเราเกิดจะได้ชาติประเทศแบบเดิมทุกครั้้ง
หรือไม่ หรือว่าพอชาติต่อไป เิกิดเป็นคนอเมริกา ชาติต่อมาเป็นญี่ปุ่น

ตอบหน่อยนะคะคุณพี่

ดิฉันก็อึ้ง เพราะไ่ม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเหมือนกัน ก็ยังสงสัยเหมือนกันว่า เราเองได้เกิดเป็นอินเดียมาหรือป่าว หรือเคยเกิดเป็นชาวป่าอยู่แอฟริกา มาบ้างหรือไม่

ใครรู้ช่วยอธิบายหน่อยเถิดคะ

 :c017:
14  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / อยากให้อธิบาย คำว่า สังขาร เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2011, 04:58:31 am
คือสงสัยว่า สังขาร แปลว่า ความคิด ใช่หรือไม่คะ

 จิตว่าง เป็นได้เพราะ สังขารไม่มี ใช่หรือคะ

  จิต กับ สังขาร เป็นอันเดียวกันหรือไม่คะ

 ถ้าหยุด สังขาร ได้จะเป็นอย่างไรคะ

  ธรรมอันใดเป็นเครื่องทำให้เว้นจากสังขาร คะ


 :c017:
15  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / อยากรู้เรื่องมหายาน ลองฟัง พระจีนในไทยพูดบ้างดีไหมคะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 04:55:18 am


ลองศึกษาติดตามดูนะคะ

16  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / มีเคส คนตายแล้วฟื้น ให้อ่านบ้างหรือไม่คะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 11:11:19 pm
มีเคส คนตายแล้วฟื้น ให้อ่านบ้างหรือไม่คะ

 ตามอ่านเรื่อง การตายแล้วฟื้น ส่วนใหญ่จะอ่านเจอแต่ตายแล้วฟื้น ปัจจุบันก็ตายแล้ว
อยากทราบว่า ท่านใดมีข้อมูลของผู้ที่ตายแล้วฟื้น แล้วยังมีชีวิตอยู่ให้อ่านบ้างคะ จะได้ไปสอบถาม
เรื่องหลังการตาย และ ฟื้นนี้มีอะไรที่น่าเชื่อถือได้บ้างคะ

 :13:
17  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / วัดมีความสำคัญอย่างไร สร้างกันเพื่ออะไรคะ กับวัด เมื่อ: มกราคม 27, 2011, 12:07:41 am
วัดมีความสำคัญอย่างไร สร้างกันเพื่ออะไรคะ กับวัด ทำไมพระสงฆ์จึงมุ่งแต่สร้างศาลาใหญ่ ๆ สวย ๆ เพื่ออะไรคะ

ทำไมต้องทำกันมากมาย ซึ่งไม่เห็นจะได้ประโยชน์การใช้งานเลยในปี บางวัดศาลาไม่เคยใช้ เลยสร้างกันเป็นล้าน ๆ

 :34: :bedtime2:
18  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ไอ้โง่ เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 12:50:28 am
ไอ้โง่

หากมีใครเรียกเราว่า ไอ้โง่ เราก็เริ่มคิดว่า 'เค้ามาเรียก
เราว่าไอ้โง่ได้ยังไงนะ? เขาไม่มีสิทธิจะมาเรียกเราว่า
ไอ้โง่ มันช่างหยาบคายนัก ที่มาเรียกเราว่าไอ้โง่ แค้นนี้
ต้องชำระที่ดันมาเรียกเราว่า ไอ้โง่' ทันใดนั้นเราก็สำนึก
ได้ว่า เราปล่อยให้เขาเรียกเราว่า ไอ้โง่ อีกตั้งสี่ครั้ง

ทุกๆครั้งที่เราคิดว่า เขาว่าเรา เท่ากับเราได้ปล่อยให้เขา
ว่าเราว่า ไอ้โง่ ปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละ

แต่ถ้าใครว่าเราว่า ไอ้โง่ และเราปล่อยวางโดยทันใด
มันก็จะไม่มีอะไรรบกวนเราได้ นี่แหละคือทางออก

เรื่องอะไรเราจะปล่อยให้คนอื่นมาบงการความสุขของเราล่ะ

******

"เจตนาของอาจารย์ต้องการเตือนสติให้เรารู้จักปล่อยวาง
เมื่อมีเรื่องหรือเหตุการณ์จะก่อให้เกิด ความโกรธ ความเกลียด




จากหนังสือ"ชวนม่วนชื่น"ธรรมมะบันเทิง
หลายเรื่องเล่า โดยพระอาจารย์พรหม
19  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ไปเข้างานไม่ทัน เลยให้เจ้านายเซ็นชื่อให้ จัดเป็นมุสา หรือป่าว เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 01:05:00 am
ไปเข้างานไม่ทัน เลยให้เจ้านายเซ็นชื่อให้ จัดเป็นมุสา หรือป่าว

  เป็นเทคนิคประจำ ที่ถ้าวันไหนขับรถมาทำงานแล้วเข้างานตามเวลาไม่ทัน เลทสักประมาณ 20 นาทีปกติ
ต้องมีการรูดบัตร แต่ทางแผนกการบุคคลจะแจ้งสอบถามมาว่าอันนี้เกิดจากลืม หรือ อย่างไร ทุกครั้งก็จะ
ตอบว่าลืม แล้วนำใบรายงานไปให้เจ้านายเซ็นรับรอง ซึ่งเจ้านายก็เซ็นให้ทุกครั้ง ด้วยความไว้วางใจแบบ
เข้าใจกัน เพราะถ้าลงว่าเข้างานสาย เกินสามครั้งต้องถูกพักงาน มีผลกับการประเมินงานด้วย

 การทำอย่างนี้ จัดเป็นการมุสาวาท หรือ ป่าว มีผลบาปอย่างไร คะ

 :25:
20  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ทำบุญตักบาตรเป็งปุ๊ด เชียงใหม่ เมื่อ: มกราคม 22, 2011, 01:42:52 am
เชียงใหม่ร่วมตักบาตรเที่ยงคืนพระสงฆ์กว่า300รูปและชาวบ้านร่วมสืบสานประเพณีล้านนา

  วันนี้(19 ม.ค.) เวลา 00.09น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดอุปคุต และวัดสวนดอกพระอารามหลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้จัดพิธีตักบาตรเป็งปุ๊ด หรือตักบาตรเที่ยงคืน ซึ่งถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายในรอบปีขึ้น โดยบรรยากาศรอบๆ วัดมีประชาชนออกมายืนรอตักบาตรกับพระและสามเณรที่เดินเรียงตามกันมาเป็นแถว ยาวเหยียดไม่ต่ำกว่า 300 รูป ทั้งนี้ สำหรับประเพณีใส่บาตรเที่ยงคืน หรือตักบาตรเป็งปุ๊ดนั้น เป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวล้านนา โดยมีความเชื่อว่าพระอุปคุตซึ่งเป็นพระมหาเถรที่ทรงฤทธาภิญญาท่านหนึ่ง บำเพ็ญเพียรอยู่ใต้มหาสมุทร มีอิทธิฤทธิ์ป้องปราบมารและภูติผีปีศาจที่มารังควาญรบกวนผู้ปฏิบัติธรรม จะแปลงกายเป็นสามเณรมารับบาตรของประชาชนในวันเป็งปุ๊ดนี้ ผู้ใดใส่บาตรแก่ท่านจะถือว่าได้โชคมหาศาล และประสบผลสำเร็จตามคำอธิษฐาน มีโชคลาภร่ำรวยไม่อับจน โดยประเพณีวันเป็งปุ๊ดของชาวล้านนานี้ จะจัดขึ้นในวันพระขึ้น 15 ค่ำที่ตรงกับวันพุธของทุกปี และครั้งนี้ก็ถือเป็นครั้งสุดท้ายของปี 54 นี้ด้วย จึงทำให้มีผู้มาใส่บาตรจำนวนมาก .
21  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ‘เสมอภาค’ของ‘สตรี’ ‘ลาปฏิบัติธรรม’ ภิกษุณี-ชี-พราหมณ์? เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 09:25:55 pm
‘เสมอภาค’ของ‘สตรี’ ‘ลาปฏิบัติธรรม’ ภิกษุณี-ชี-พราหมณ์?

เรื่อง ของ “ความเสมอภาคชาย-หญิง” ในประเทศไทย ล่าสุดดำเนินมาถึงจุดที่มีการผลักดันให้เกิดกฎหมายที่ให้ “ข้าราชการหญิงลาปฏิบัติธรรม” ได้นาน ๆ เหมือนที่ “ผู้ชายลาบวช” ได้ 3 เดือน ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้พิจารณากฎหมายนี้แล้ว และอยู่ระหว่างส่งร่างกลับเพื่อรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอีก ครั้งหนึ่งก่อน...

ทั้งนี้ หากจะมาดูกันถึงการ “ปฏิบัติธรรม” ของ “ผู้หญิง” ที่นับถือศาสนาพุทธ ปัจจุบันแม้จะยังไม่สามารถลางานเพื่อการนี้ได้เป็นเดือน ๆ หรือ 3 เดือน ในประเทศไทย-ผู้หญิงไทยก็มีการปฏิบัติกันอยู่บ้างแล้ว จะเข้ม-ไม่เข้มแค่ไหนอย่างไรก็สุดแท้แต่ตัวบุคคล ซึ่งแม้แต่บวชเป็น “ภิกษุณี” สตรีไทยก็มีการบวชแล้ว

กล่าวสำหรับกรณี “ภิกษุณี” จากข้อมูลเกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งพุทธกาลในพรรษาที่ 5 แห่งการบำเพ็ญพุทธกิจของพระพุทธเจ้า แม้ว่าแรกเริ่มเดิมทีพระพุทธเจ้าจะไม่ทรงอนุญาตให้มีภิกษุณี ซึ่งโดยหลักการในยุคหลัง ๆ ผู้ที่จะเป็นภิกษุณีได้นั้นนอกจากต้องมีคุณสมบัติเหมือนภิกษุแล้ว ยังต้องเป็นสิกขมานา ถือศีล 6 ข้อ (ศีล 6 ข้อแรกของศีล 10) ครบ 2 ปี แล้วจึงเข้าพิธีอุปสมบทในภิกษุณีสงฆ์ก่อน จากนั้นต้องเข้าพิธีอุปสมบทในภิกษุสงฆ์อีกครั้งหนึ่งจึงจะสมบูรณ์ ซึ่งภิกษุณีต้องถือศีลมากกว่าภิกษุ คือถือ 311 ข้อ มากกว่าภิกษุซึ่งถือศีล 227 ข้อ

ในเมืองไทยกระแส “ภิกษุณี” ฮือฮามากในช่วงปี 2545 จากกรณี “ภิกษุณีธรรมนันทา” สตรีไทยที่ไปบวชโดยอุปัชฌาย์ปวัตตินี ที่ศรีลังกา อย่างไรก็ตาม ในเมืองขณะนี้ก็ไม่ยังสามารถมีการบวชภิกษุณีได้

“ชี” ที่ก็ใช้คำว่า “บวช” สำหรับสตรีที่โกนผม-ห่มขาว ซึ่งมักถูกเรียกว่า “แม่ชี” ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการปฏิบัติธรรมของผู้หญิง โดยหลักการถือว่าเป็นเพศนักบวชที่มีการปลงผม-คิ้ว นุ่งขาว-ห่มขาว และใช้ชีวิตปฏิบัติตามเพศของนักบวชตามเกณฑ์ที่สถานปฏิบัติธรรมแต่ละแห่งได้ กำหนดเอาไว้ ซึ่งโดยทั่วไปแม่ชีจะถือศีล 10 บางที่แม่ชีก็มีการออกบิณฑบาตคล้ายกับพระภิกษุ

ศีล 10 ที่แม่ชีถือ ก็เพิ่มเติมขึ้นจากศีล 8 เช่นเพิ่มเรื่องของการงดรับเงินทองเด็ดขาด โดยศีล 10 ของแม่ชีนั้นได้แก่... เว้นจากการทำลายชีวิต, เว้นจากการถือเอาของที่เขามิได้ให้, เว้นจากการประพฤติผิดพรหมจรรย์, เว้นจากการพูดเท็จ, เว้นจากการเสพของเมา, เว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล, เว้นจากการฟ้อนรำขับร้อง, เว้นจากการทัดทรงดอกไม้, เว้นจากที่นอนอันสูงใหญ่, เว้นจากการรับทองและเงิน

ลดความเข้มลงมาอีกระดับ คือบวชเป็น “ชีพราหมณ์” การบวชชีพราหมณ์นั้นก็จะคล้าย ๆ กับการปฏิบัติธรรมโดยทั่วไปที่ถือศีล 8 ซึ่งแหล่ง ปฏิบัติธรรมมีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นวัด สำนักสงฆ์ หรือแค่สถานที่ปฏิบัติธรรม

การบวชชีพราหมณ์ ก็จะมีระยะเวลาที่เข้าไปปฏิบัติ 3 วันบ้าง 5 วันบ้าง 7 วันบ้าง หรือนานกว่านั้น ตามแต่บุคคลหรือสถานที่ โดยส่วนใหญ่ต้องถือศีล 8 โดยตรง กล่าวคือ... การเว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป, การเว้นจากการถือเอาของที่เขามิได้ให้ด้วยอาการแห่งขโมย, การเว้นจากการประพฤติผิดพรหมจรรย์คือร่วมประเวณี, การเว้นจากการพูดเท็จ, การเว้นจากน้ำเมา, การเว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล คือตั้งแต่เที่ยงแล้วไปจนถึงรุ่งอรุณของวันใหม่, การเว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง บรรเลงดนตรี ดูการละเล่นอันเป็นข้าศึกต่อพรหมจรรย์ การทัดทรงดอกไม้ ของหอม และเครื่องลูบไล้ ซึ่งใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่ง, การเว้นจากที่นอนอันสูงใหญ่หรูหราฟุ่มเฟือย

รูปแบบการปฏิบัติธรรมแบบชีพราหมณ์ของแต่ละสถานที่ก็จะแตกต่างกันไป อย่างเช่นรูปแบบของ “เสถียรธรรมสถาน” นอกจากถือศีลแล้วก็จะต้อง “สวมชุดขาว” หรือบางที่อาจต้อง “ใส่สไบ” ด้วย

ส่วนวิถีชีวิตที่จะต้องปฏิบัติของชีพราหมณ์ในแต่ละวัน ก็เช่น... 04.00 น. ตื่นนอน, 05.00 น. ทำวัตรเช้า, 06.00 น. ปฏิบัติธรรม อาทิ นั่งสมาธิ, 08.00 น. อาหารเช้า, 09.00 น. ภาวนากับการทำงาน, 09.30 น. ธรรมบรรยายกับสมาธิภาวนา, 11.30 น. อาหารกลางวัน, 12.00 น. ว่างในปัจจุบันขณะ, 13.30 น. สมาธิกับการตอบคำถาม, 16.00 น. น้ำปานะ, 18.00 น. ทำวัตรเย็น, 19.00 น. ธรรมบรรยาย-สมาธิภาวนา, 21.00 น. ทำความเพียรโดยส่วนตัว

นอกจาก 3 รูปแบบที่ว่ามาข้างต้น “ผู้หญิง” หรือแม้แต่ผู้ชายที่ใฝ่ทางธรรมตามแนวทางศาสนาพุทธแบบทั่ว ๆ ไปโดย “ไม่ต้องมีคำว่า...บวช...เข้ามาเกี่ยวข้อง” ก็ยังมีวิธีการที่ปฏิบัติได้โดยไม่ยากให้เลือก ซึ่งก็คือการ “ทำบุญ-ทำกุศลรูปแบบต่าง ๆ” ซึ่งก็ทำได้หลากหลาย แยกได้หลายรูปแบบ

เช่น... การเข้าวัดในวันพระ ซึ่งแต่ละเดือนจะมี 4-5 วัน อาจจะเข้าไปสวดมนตร์ทำวัตรเช้า ถวายสังฆทานแด่ภิกษุสงฆ์ ทำบุญเลี้ยงพระ หรืออาจถือศีล 8 เฉพาะในวันพระ ซึ่งก็สามารถยืดหยุ่นได้ด้วยการพักค้างอยู่ที่บ้าน หรือบางคนอาจจะไปถือศีล 8 ที่วัด โดยบางวัดจะเตรียมสถานที่ไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าไปปฏิบัติและพักค้างที่ วัดได้ และในตอนเย็นบางวัดก็เปิดให้มีการทำวัตรเย็น และนั่งสมาธิเป็นประจำ

นี่ก็เป็นรูปแบบ-เป็นตัวอย่าง “การปฏิบัติธรรมของผู้หญิง”

“เป็นเรื่องที่ดีหากจะออกกฎที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้ปฏิบัติธรรมจริงจัง บ้าง เพราะเป็นการแสวงหาคุณค่าภายในจิตใจ เพื่อจะให้ได้เข้าใจว่าความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงคืออะไร และเมื่อออกจากการปฏิบัติธรรมแล้ว ไม่ใช่เพียงผู้ปฏิบัติจะได้สิ่งที่ดีเท่านั้น สังคมรอบข้างก็จะได้รับสิ่งที่ดีตามไปด้วย ซึ่งหากเรื่องนี้เป็นจริงได้ก็เป็นที่อนุโมทนาไปด้วย”...เป็นความเห็นของแม่ ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถาน

ก็รอดูกันว่าเรื่องนี้ที่สุดแล้วจะอย่างไร-แบบไหนแน่ ??.

ที่มา: เดลินิวส์
http://www.dailynews.co.th/dailynews...e=2&Template=1
หน้า: [1]