ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น......  (อ่าน 9960 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

doremon

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 171
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น......
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 09:20:53 pm »
0



ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ทำให้ผมเก็บประเด็นเข้ามาคิดพิจารณา

คติคำใต้คำฮิต หนึ่งภาษิตว่า

แลหนัง แลคอน ให้ย้อนคิด เหมือนดั่งชีวิตเราทุกสิ่ง

ไม่ทราบเพื่อน ๆ ได้ดูกันหรือยัง
พระเส้าหลิน ทั้งฆ่า ทั้งแสดงอารมณ์ มุ่งมั่นออกไปทางโลกียะ
แต่จุดหนึ่ง ของหนังสะท้อนตอนที่ตัวเอก เปลี่ยนชีวิตเข้าแนวเซ็น แต่หนังเรื่องนี้ก็จบลงที่
พระตายเกือบหมดวัด ฉากระเบิดวัด อย่างมโหฬาร

ขอเปิดประเด็นเลยครับ เรื่องของพระ( อีกแล้ว )

 1.พระจีนฝึกกังฟูได้  พระไทยเราฝึกมวยไทยได้ไหมครับ

 2.วินัยสงฆ์ มีความเห็นอย่างไรกับการให้พระออกกำลังกาย ด้วยการฝึกศิลปะป้องกันตัว

 3.ถ้าฝึกยุทธ ก็ต้องมีประลองยุทธ ใจจะสงบได้จริง หรือ ครับเพราะการฝึกยุทธมุ่งมั่นเพื่ออะไรของวัดเส้าหลิน

 4.คนจีนนับถือ พระ เพียงผู้ถือศีล เท่านั้นใช่ไหมครับ ( เพราะหนังสื่อให้เหมือนอย่างนั้น )

 5.การนับถือ พุทธฝ่าย มหายานไม่สนับสนุนการบรรลุธรรม หรือ ไม่ครับ

 6.ทุกท่านมีความเห็นอย่างไร กับ พระจีน
 :72:

 ( เขินจังไม่ทราบเอาเรื่องนี้มาถามที่เว็บนี้ ถูกเรื่องหรือไม่ครับ )

ขอบคุณภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต
http://www.daradaily.com
http://www.websorb.net
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 09:22:31 pm โดย doremon »
บันทึกการเข้า

สมภพ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 485
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น......
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 08:00:31 am »
0
อ้างถึง
ขอเปิดประเด็นเลยครับ เรื่องของพระ( อีกแล้ว )

 1.พระจีนฝึกกังฟูได้  พระไทยเราฝึกมวยไทยได้ไหมครับ

 2.วินัยสงฆ์ มีความเห็นอย่างไรกับการให้พระออกกำลังกาย ด้วยการฝึกศิลปะป้องกันตัว

1 พระจีนฝึกกังฟู  พระไทยฝึกมวยไทย
 
  ผมว่า หน้าที่ของพระไม่น่าจะเป็นเรื่องการป้องกันตัวนะครับ เพราะหน้าจะเป็นหน้าที่ของศิษย์นะครับ

  สำหรับประเทศไทยเรา นั้นผมว่าคิดว่าไม่เหมาะ เพราะพระสงฆ์ แทนค่าในใจของชาวไทยคือ เมตตาธรรม

  อีกอย่างการปกครองประเทศเรา เอื้อให้พระสงฆ์ ได้เป็นอยู่อย่างนี้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ิพิเศษของไทยครับ

2 วินัยสงฆ์ มีความเห็นอย่างไรกับการให้พระออกกำลังกาย ด้วยการฝึกศิลปะป้องกันตัว


 ผมว่าเรื่องการออกกำลังกาย นั้นไม่น่าที่จะต้องถึงขั้นฝึกยุทธครับ แต่สอดแทรกไปในการทำงานประวจำชีวิตก็

 พอจะได้เหมือนกันนะครับ เช่น กิจวัตร 10 อย่างของพระสงฆ์ ตอนที่ผมบวชอยู่บอกตรง ๆ ครับเหนื่อยกว่า

 ชีวิตฆราวาสอีกครับ

  ยกตัวอย่าง กวาดวิหาร ลานเจดีย์ ครับ

   อยู่ที่บ้าน กวาดถูเต็มที่ก็ 50 ตารางวาครับ แต่ของวัดที่ผมอยู่กวาดลานตั้งแต่ 2 โมง ถึง 4 โมง ยังไม่เสร็จ

  คิดดูสิครับ แค่นี้ก็เหนื่อยมากแล้ว พวกเราเวลาเห็นพระท่านกวาดลาน แล้วไปทิ้งขยะกันให้กวาดอีก

  บาปนะครับ

บันทึกการเข้า

SAWWALUK

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 246
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น......
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 09:12:39 am »
0
หนังเรื่องนี้ ไปดูแล้ว ชอบคะ ซึ้งดี ตอนที่ พี่หลิว กลับใจแล้วเข้าศึกษาหลักธรรมแล้ว ตอนนั้นซึ้งมาก

ยิ่งตอนจบด้วย พี่หลิวตกลงไปตายบนฝ่ามือพระยูไล นั้นหนังสื่อออกไปในแนว คุณธรรม พื้นฐานของคนจีน

ซึ่งมีการเ่ข่นฆ่า กันมาอย่างไร้เหตุผล เพียงเพื่อ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ โดยที่สุดแล้ว ก็ไม่ได้อะไรสักอย่าง

มีแต่การสูญเสีย เป็นหนังที่ทำออกมาในยุค ที่คนคิดจะฆ่ากัน เหมาะกันจริง ๆ



ถ้าฝึกยุทธ ก็ต้องมีประลองยุทธ ใจจะสงบได้จริง หรือ ครับเพราะการฝึกยุทธมุ่งมั่นเพื่ออะไรของวัดเส้าหลิน

การฝึกยุทธของวัดเส้าหลิน นั้นเมื่อก่อนก็เพื่อขจัดความหนาวโดยตรง เสริมสุขภาพ ในการบำเพ็ญ
โดยปรมาจารย์ ตั๊กม้อ หรือ พระโพธิธรรม จากอินเดีย  แต่ปัจจุบันคงฝึกกันเป็น เพื่ออะไรนั้นพูดลำบากแล้ว
เพราะสมัยนี้ พระเณรเสียวลิ้ม มุ่งฝึกเพื่ออะไร หรือ หลักธรรม ยังต้องการเรื่องนี้อยู่ ต้องคิดกันต่อแล้ว


ส่วนถ้ามามองมุมที่เมืองไทย ถ้าให้พระท่านฝึกมวยไทย คงนึกถึงเรื่อง ต้มยำกุ้ง หรือ องค์บาก ได้ใช่ไหมคะ
ถ้านึกถึงไม่ออกแล้วก็ให้นึก พี่จา พนม ก่อนเลยก็ได้ ลองลึกภาพดู พระต้องโจงกระเบน ร่ายรำ ดูแล้ว คิดแล้ว
โอ๊ย รับไม่ได้แน่เลย เพราะนึกไม่ออกว่าจะให้พระท่านฝึกมวยไว้ทำไม แค่ทุกวันนี้พระเณรออกมาเรียนทางโลก
ก็นึกแทบจะไม่ได้แล้ว ไม่เห็นคุณธรรมอะไรจะเพิ่มเลย เห็นแต่พระออกมาเรียนแล้วก็สึกออกมามีภรรยากัน ออก
มาอยู่ทางโลก ไม่เห็นมีพระอรหันต์เต็มบ้านเต็มเมือง เพราะการศึกษาที่อ้างว่า เพื่อให้ธรรมะทันกับโลก เลย


 :34:

บันทึกการเข้า

SAWWALUK

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 246
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น......
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 09:14:37 am »
0


นำภาพองค์บากมาให้เห็นภาพอีก ลองมอง เฮียหม่ำดู

 :86:
บันทึกการเข้า

นาตยา

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 136
  • ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่านที่เป็นกัลยาณมิตร
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น......
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 09:19:01 am »
0
อ้างถึง
การนับถือ พุทธฝ่าย มหายานไม่สนับสนุนการบรรลุธรรม หรือ ไม่ครับ

น่าจะต้องลองอ่านภาพรวมของมหายานก่อน คะ

 ตัวอย่างเรื่องกาย คะ


 12. กาย

            เถรวาท ยอมรับแต่ธรรมกายและนิรมานกายบางส่วน นอกนั้นไม่ยอมรับมหายาน ถือว่าพระพุทธเจ้ามีกาย 3 คือธรรมกายได้แก่ธรรม สัมโภคกายหรือกายจำลองหรือกายอวตารของ พระพุทธเจ้า แบบนารายณ์อวตารคือที่พระพุทธเจ้าเป็นพระกัสสปสัมพุทธะบ้าง เป็นพระศากยมุนีบ้าง เป็นพระกกุสันธะบ้างเป็นต้นนั้น ล้วนเป็นสัมโภคกายของพระพุทธเจ้าองค์เดิม (อาทิพุทธะ) ทั้งนั้น และนิรมานกาย คือกายที่ต้องอยู่ในสภาพของธรรมดา คือต้องแก่ เจ็บและปรินิพพาน ซึ่งเป็นกายที่พระพุทธเจ้าสร้างขึ้นเพื่อสอนคนให้เห็นความจริงของชีวิต แต่สำหรับพระพุทธองค์ ที่แท้นั้นไม่ต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น แบบเดียวกับ ปรมาตมัน ของพราหมณ์
          สรุป แม้ว่าทั้ง 2 นิกายจะต่างกันบ้าง แต่จุดหมายปลายทางก็รวมกันที่วิมุติเหมือนกัน เช่นกับแม่น้ำหลายสาย บางสายก็ใส บางสายก็ขุ่น แต่ก็รวมลงในทะเลเป็นอันเดียวกัน.....

เนื้อหาเต็ม ๆ อ่านย่อ ได้ที่นี่คะ

http://www.yanavarodom.mbu.ac.th/index.php?option=com_content&task=view&id=28&Itemid=39&limit=1&limitstart=1
บันทึกการเข้า

แมนแมน

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 86
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น......
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 09:22:54 am »
0

ตัดตอนมาจากเว็บนี้นะครับ เพราะที่เหลืออ่านไม่ได้ครับตัวหนังสือดูไม่ได้

http://board.dserver.org/w/wisuttipom/00000012.html



เถรวาท - มหายาน แตกต่างกันอย่างไร
ข้อความ : ผมอยากรู้ว่าพุทธศาสนาแบบ เถรวาท กับ มหายาน นั้นแตกต่างกันที่ตรงไหน แบบไหนดีกว่ากันครับ แล้วความเป็นมาอย่างไรพุทธศาสนาจึงแยกออกเป็นสองสายได้ครับ ผมอยากรู้จริงๆ

จาก : สมเกียรติ - 05/04/2001 09:53 


ข้อความ : ดีใจครับที่มีผู้ตั้งกระทู้นี้...เพราะผมก็ไม่ค่อยแน่ใจว่า ผมจะเข้าใจถูกหรือเปล่า....เมื่อก่อนยังไม่มี มหายาน มีแต่หินยาน ( ซึ่งต่อมาเรียกว่าเถรวาท ) เนื่องจาก หินยาน มีความยากที่จะเข้าใจและปฏิบัติ ( ชื่อก็บอกแล้วว่า หิน ) จึงได้มีพระสงฆ์กลุ่มหนึ่ง แยกตัวออกมาและนำเอาคำสอนของหินยานมาประยุกต์ (ย่อย ) ให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจและปฏิบัติได้ง่ายขึ้น...จากการประยุกต์นี้เองทำให้ มหายานมีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากหินยาน ดังนี้....ของหินยานจะเน้นในเรื่องการปฏิบัติ (ทางจิต )เพื่อให้หลุดพ้นจากทุกข์....ส่วนมหายานจะเน้นในเรื่อง การปฏิบัติ (ตัวตน ) ให้เป็นคนดีเพื่อจะได้ขึ้นสวรรค์ ได้พบพระพุทธองค์...และถ้าจะว่าในรายละเอียดแล้ว ทั้งสองอย่างจะแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะเรื่องพิธีกรรม...ประเทศในแถบเอเซีย ( ไทย ,พม่า , ลาว ,เขมร ) จะนับถือหินยาน ( แต่ปัจุบันเรายังเข้าใจและปฏิบัติกันผิดๆอยู่มาก..เรามักจะนำเอาพิธีกรรมและความเชื่อของมหายานเข้ามาปน ) ส่วนประเทศจีน , เวียดนาม จะนับถือมหายาน...

จาก : ว.สุวัจ - - bteerasak@hotmail.com - 10/04/2001 10:08 


ข้อความ : จริงๆแล้วทั้งสองนิกายก็ดีกันไปคนละแบบ อยู่ที่ผู้ศรัทธาครับ จะเลือกนับถือแบบไหน...ผมเข้าใจว่าจุดสูงสุดของมหายาน ก็อยู่ที่การพ้นทุกข์เหมือนกัน...แต่แนวทางปฏิบัติจะแตกต่างจากหินยาน ( อย่างมากๆ)
ที่ผมอธิบายไปก่อนหน้านั้น ถ้าผู้รู้ท่านใด เห็นว่ายังไม่ถูก ยังไงก็ขอความกรุณาชี้แนะให้ด้วยครับ......

จาก : ว.สุวัจ - - ิbteerasak@hotmail.com - 10/04/2001 10:40 


ข้อความ : แล้วใครเป็นผู้ตั้งชื่อว่าปฏิบัติอย่างนี้ควรเรียกว่า หินยาน แบบนี้ควรเรียกว่า มหายาน

จาก : สมเกียรติ - 11/04/2001 08:19 


ข้อความ : เรื่องใครเป็นคนตั้งชื่อนี่ ผมเองก็จนด้วยเกล้า เหมือนกันครับ....คงต้องรบกวนผู้รู้....ให้ท่านช่วยอธิบายเพิ่มเติมแล้วล่ะครับ....

จาก : ว.สุวัจ - - bteerasak@hotmail.com - 11/04/2001 10:26 


ข้อความ : เมื่อพระพุทธองค์เสด็จปรินิพพานใหม่ๆ พระฉันนะเป็นพระที่บวชเมื่อแก่ หัวเราะดีใจว่าจะได้ไม่มีใครมาจู้จี้จุกจิกว่าไอ้นี่ควรทำ ไอ้นี่ไม่ควรทำ ขนาดพระพุทธองค์เพิ่งปรินิพพานไม่นานยังมีคนจาบจ้วงขนาดนี้ พระมหากัสสปะจึงได้ริเริ่มรวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้า เรียกว่ากระทำสังคายนาที่เขาสัตตบรรพต มีพระอรหันต์เข้าร่วมสังคายนาจำนวนหนึ่ง มีพระอีกจำนวนหนึ่งแยกออกไปทำสังคายนาอีกที่นึง เรียกว่ากระทำมหาสังฆิกะ จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของมหายาน พวกมหายานเขาว่าเขาเป็นยานใหญ่ เขาจะขนเหล่าสัตว์ให้หมดก่อนถึงจะตามไป จะช่วยคนอื่นให้หมดโลกก่อนแล้วค่อยช่วยตัวเอง พวกนี้จึงยกตัวเองว่ายิ่งกว่าพวกเถรวาท เรียกเถรวาทอีกชื่อนึงว่าหินยาน ยานต่ำกว่า มหายานว่าเถรวาทว่าเป็นยานเล็ก เพราะเห็นแก่ตัว เอาตัวรอดก่อนช่วยผู้อื่น การเผยแพร่ของ 2 สายนี้ไปกันคนละเส้นทาง เถรวาทนี่จะลงมาทางใต้ ส่วนมหายานขึ้นเหนือไปทางเส้นทางสายไหม ไปจีน ไปไต้หวัน ญี่ปุ่น มหายานเหมือนจิ้งจกมีการพัฒนาให้เข้ากับชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนที่เข้าไปเผยแพร่เพื่อให้สามารถอยู่ได้ คำสอนจะพัฒนาไปเรื่อยๆ ต่างจากเถรวาทที่ไม่เคยเปลี่ยนมา 2, 544 ปีแล้ว มหายานจึงปรับไปเรื่อยๆ จากจีวรไม่สะดวกเพื่อความสะดวกจึงเปลี่ยนเป็นกางเกง เห็นฆราวาสมีภรรยาก็ปรับว่าเป็นพระก็มีภรรยาได้ เห็นฆราวาสกินข้าวเย็นก็ปรับว่ากินข้าวเย็นได้ พัฒนาจนไม่เหลือเค้าเดิมแล้วมังคะ

จาก : MaiY - 19/05/2001 14:00 


ข้อความ : ขอบคุณ คุณMaiY มากครับสำหรับคำอธิบายเพิ่มเติม ในเรื่องชื่อ
ว. สุวัจ

จาก : ว . สุวัจ - - wsuwaj@hotmail.com - 21/05/2001 10:09 


ข้อความ : มหายานหรือหินยาน ไม่แตกต่างกัน ด้วยเหตุที่มีจุดหมายเหมือนกันคือ นิพพาน (เข้าใจอย่างง่ายๆว่า ผู้ที่เป็นชาวพุทธนั้น ควรจะมีศีลห้าเป็นพื้นฐาน) พยายามปฏิบัติธรรมให้หลุดพ้นจะโลกสงสารนี้
"พระพุทธศาสนานั้นมิได้สอนให้ วอนขอ แต่สอนให้ปฏิบัติ"

จาก : ศิษย์มหายาน - 26/03/2003 19:55 


ข้อความ : พระมหายานนั้น ไม่สามารถที่จะมีภรรยาได้นะครับ และเหตุที่ใส่เสื้อและกางเกงนั้น เนื่องจากว่าภูมิประเทศมีอากาศหนาวเย็น และ พระภิกษุต้องทำไร่นาเองด้วยครับ

จาก : ศิษย์มหายาน - 26/03/2003 20:08 


ข้อความ : พระมหายานไม่สามารถมีภรรยาได้นะครับ ด้วยเหตุที่มีศีลในพระพุทธศาสานาเหมือนกับทางเถรวาททุกประการ
การที่พระภิกษุในมหายานนั้นใส่เสื้อ และ กางเกง เนื่องจากภูมิประเทศมีอากาศหนาวเย็น และวัดบางแห่งก็อยู่บนเทือกเขานะครับ

จาก : ศิษย์มหายาน - 26/03/2003 20:16 


ข้อความ : บุคคลหนึ่งคน สามารถนับถือสองนิกายได้หรือเปล่า

จาก : TUK - - www.chonda_4754112124.hotmail.com - 26/12/2004 12:40 


ข้อความ : เถรวาทกับมหายานก็คงไม่แตกต่างกันมากนะคะ เพราะว่าก็คงสอนให้ปฏิบัติดีเหมือนกัน ปฏิบัติให้บรรลุนิพพานเหมือนกันก็แล้วแต่ความเชื่อของคนที่จะเลือกนับถือแต่อยากรู้ว่าการเปลี่ยนนิกายไปนับถือนิกายอื่นจะทำได้ไหมคะ แล้วการนับถือศาสนาพุทธในต่างประเทศจะมีกี่นิกายคะ แล้วปฏิบัติกันอย่างไรคะ

จาก : นางสาว กนกวรรณ เรื่องฤทธิ์ - - www.d@khggo.com - 24/05/2005 12:07 

บันทึกการเข้า

รีบอร์น

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 81
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น......
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 09:25:37 am »
0
อาวุธที่ป้องกันตัว ป้องกันตนได้ดีที่สุด คือ ตัวสติ ตัวปัญญา

สมัยที่หลวงปู่มั่นภูริฑัตโต ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำสาริกา เจอยักษ์มุ่งหมายจะฆ่าให้ตายเสีย

ยักษ์ นั้นกล่าววว่า "เราจะทุบตีท่านให้จมลงไปในดิน ถ้าไม่หนีจะฆ่าให้ตายในบัดเดี๋ยวนี้ ท่านรู้ไหมว่า ตะบองเหล็กของเรานี้ ตีช้างสารใหญ่ตัวหนึ่งเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ช้างใหญ่นั้นจมมิดลงไปในดิน โดยไม่ต้องตีซ้ำอีก"

หลวงปู่มั่นกำหนดจิตถามยักษ์ว่า "จะมาตีมาฆ่าอาตมา ทำไม อาตมามีความผิดอะไรบ้างถึงจะต้องถูกตีถูกฆ่า การมาอยู่ที่นี่ไม่ได้มากดขี้ข่มเหงหรือเบียดเบียนใครให้เดือนร้อน ใส่กรรมทำโทษให้ต้องถึงตีต้องฆ๋าเช่นนี้

ยักษ์บอกว่า "เราเป็นผู้มีอำนาจ อยู่ครองภูเขาลูกนี้อยู่นานแล้ว ไม่ยอมให้ใครมามีอำนาจเหนือตนไปได้ เราต้องปราบปรามและกำจัดทันที"

ก็ อาตมาไม่ได้มาครองอำนาจบนหัวใจของใคร นอกเสียจากมาปฏิบัติบำเพ็ญศีลธรรมอันดีงาม และครองอำนาจเหนือกิเลสและบาปกรรมในหัวใจของตนเท่านั้น จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่ท่านจะมาเบียดเบียนและทำลายคนเช่นอาตมา ซึ่งเป็นยักบวช ทรงศีลและเป็นศิษย์ของพระพุทธเจ้า ผู้มีใจอันบริสุทธิ์และมีอำนาจในทางเมตตา ครอบไตรโลกธาตุนี้โดยไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน ท่าท่านมีอำนาจเก่งจริงแล้วท่านมีอำนาจเหนือกรรมเหนือธรรมหรือเปล่า

"เปล่า" ยักษ์ตอบ

หลวง ปู่ว่า "พระพุทธเจ้าท่านเก่งกล้าสามารถปราบกิเลสตวที่คอบอวดอำนาจว่า ตัวดีตัวเก่งอยู่ภายใน ที่คิดอยากตีอยากฆ่าคนอื่น สัตว์อื่นให้หมดสิ้นไปจากใจ ส่วนท่านที่ว่าเก่งนั้น ได้คิดปราบกิเลสตัวดังกล่าวให้หมดสิ้นไปบ้างหรือยัง

"ยังเลยท่าน" ยักษ์ตอบ

ถ้า เช่นนั้นท่านก็มีอำนาจไปในทางทำตนให้เป็นผู้มืดหนาป่าเถื่อนต่างหาก แต่ไม่มีอำนาจปราบความชั่วโฉดของตัวเองที่กำลังเผลงฤทธิ์แก่ผู้อื่นโดยไม่ รู้สึกตัว เพราะท่านกำลังหลงอำนาจ อำนาจอันใดบ้างที่มีอยู๋ในตัวท่าน อำนาจนั้นสามารถต้านทานบาปกรรมอันหนักที่ท่านกำลังจะก่อขึ้น เผาผลาญตัวเองอยู๋ในเวลานี้ได้หรือไม่ ถ้าท่านมีอำนาจมีฤทธิ์เหนือกรรมเหนือธรรมแล้ว ท่านก็ทุบตีหรือฆ่าอาตมาได้เลย สำหรับอาตมาเองไม่กลัวความตาย แม้ท่านไม่ฆ๋าอาตมาก็จักต้องตายอยู่โดยดี เพราะโลกนี้ เป็นที่อยู่ของมวลสัตว์ที่เกิดแล้วต้องตายถ้วนหน้ากันแม้ตัวท่านเองที่อวด ตัวว่าเก่งมีอำนาจจนกลายเป็นผู้มืดบอดอยู๋ในขณะนี้ แต่ท่านก็มิได้เก่งไปกว่าความตายและกฏแห่งกรรมที่ครอบงำสัตว์โลกไปได้เลย"

หลัง จากนั้นยักษ์ตนนั้นก็หมดพยศและสารภาพหลวงปู้มั่นว่า ที่ทำไปนั้น ความจริงแล้วแสดงออกไปอย่างนั้นเป็นเพราะเป็นหลงในอำนาจและกลัวหลวงปู่มั่น จึงขออโหสิกรรมต่อหลวงปู่มั่น

ถอดความจากเพลงประวัติปลวงปู่มั่น ร้อง-ประพันธ์โดย เพลินพรหมแดน
----------------------------------------------------------------------------------------

จากเรื่องนี้ครูบาอาจารย์ของเราได้ฝึกวิทยายุทธิ์อะไรเพื่อสืบต่อพระศาสนากันหนอ

ครูบาอาจารย์บางองค์ตัวเล็กๆ เดินธุดงในป่าในเขา เจอช้าง เสือ หรือผีป่าอะไรเท่าไหร่

ท่าน ก็ยังคงผ่านไปได้ ท่านใช้วิชาอะไรหรือ แล้วคนที่ว่ามีวิทยายุทธิ์ เก่งกล้าทั้งหลายนั้น ท่านคิดว่า ท่านจะสู้สัตว์ป่าเหล่านั้นได้แน่หรือ

พระพุทธเจ้าตอนพบองคุลีมาร ท่านเคยเป็นนักวิ่งละหรือ องคุลีมารถึงตามไม่ทัน แถมยังหอบหมดแรงขนาดนั้น

อยากถามว่าท่านใช้ "วิชาอะไร"

ในศาสนาพุทธเรานั้น การปกป้องพระศาสนาต้องไม่กระทบหลักปฏิบัติที่พระพุทธเจ้านั้นได้ทรงสอนไว้

บางคนอาจเห็นว่าจะต้องต่อสู้เพื่อรักษาศาสนาต่อไป

แต่ ความเป็นจริงแล้ว การปฏิบัติในศาสนาพุทธมีแนวทางการสืบต่อพระศาสนาต่อการปฏิบัติทางจิตทางใจ เป็นหลัก สิ่งทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่มีใจเป็นประธาน สำเร็จด้วยใจ ขอท่านอย่าไปได้ลืมกัน

ไม่ใช่การต่อสู้ทางเนื้อหนังร่างกาย

ดั่งพระพุทธพจน์ที่ว่า

"พึงสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ พึงสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต พึงสละชีวิตเพื่อรักษาธรรม"

จากคุณ    : สายลมเหงาแห่งขุนเขา

ที่มาคำวิจารณ์ เรื่อง คล้าย ๆ กันครับ

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10199465/Y10199465.html
บันทึกการเข้า

พรทิพย์

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 76
  • มีธรรมนำจิต ชีวิตสุขสบาย
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น......
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 09:28:14 am »
0
อ้างถึง
ขอเปิดประเด็นเลยครับ เรื่องของพระ( อีกแล้ว )

 1.พระจีนฝึกกังฟูได้  พระไทยเราฝึกมวยไทยได้ไหมครับ

 2.วินัยสงฆ์ มีความเห็นอย่างไรกับการให้พระออกกำลังกาย ด้วยการฝึกศิลปะป้องกันตัว

 3.ถ้าฝึกยุทธ ก็ต้องมีประลองยุทธ ใจจะสงบได้จริง หรือ ครับเพราะการฝึกยุทธมุ่งมั่นเพื่ออะไรของวัดเส้าหลิน

 4.คนจีนนับถือ พระ เพียงผู้ถือศีล เท่านั้นใช่ไหมครับ ( เพราะหนังสื่อให้เหมือนอย่างนั้น )

 5.การนับถือ พุทธฝ่าย มหายานไม่สนับสนุนการบรรลุธรรม หรือ ไม่ครับ

 6.ทุกท่านมีความเห็นอย่างไร กับ พระจีน

อย่าลืมประเด็นทั้ง 6 ที่ จขกท. นำเสนอ แนวิจารณ์ นะจ๊ะ เพราะยังวิจารณ์กันไม่ครบทั้ง 6 เีรื่องเลยคะ
บันทึกการเข้า

The-ring

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 116
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น......
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 09:35:48 am »
0
 
 1.พระจีนฝึกกังฟูได้  พระไทยเราฝึกมวยไทยได้ไหมครับ

  ตอบ ไม่เข้าท่าครับ ถ้าพระไทยจะต้องฝึกแบบพระจีน เพราะว่าพระไทยทรงความเป็นอยู่แบบพระพุทธเจ้าไว้ครับ
        ด้วยนิกาย เถรวาท

 2.วินัยสงฆ์ มีความเห็นอย่างไรกับการให้พระออกกำลังกาย ด้วยการฝึกศิลปะป้องกันตัว

  ตอบ ถ้าพระฝึกยุทธได้ ก็ต้องแตะบอลได้ เล่นปิงปองได้ เล่นเทนนิสได้ อาจจะแทงสนุ๊กเกอร์ได้อีก ผมลองคิด

        เล่น ๆ ดู นาน ๆ ไปก็ต้องมีการแข่งแบบกีฬาสีโรงเรียน ยิ่งคิด ก็ยิ่งบ้าไปใหญ่เลยครับ

 3.ถ้าฝึกยุทธ ก็ต้องมีประลองยุทธ ใจจะสงบได้จริง หรือ ครับเพราะการฝึกยุทธมุ่งมั่นเพื่ออะไรของวัดเส้าหลิน

  ตอบ นี่แหละที่ผมว่านาน ๆ ไปต้องมีกีฬาสี กีฬาสถาบัน จุดประสงค์การฝึก คงจะหาสาระทางธรรมได้ยากมาก

        ครับ นึกแล้วถ้าหลวงพี่ ต้องวาดหางจรเข้ ด้วยแล้ว ต้องใส่ กกน. หรือ กุงเกง จะเหมาะครับ

 4.คนจีนนับถือ พระ เพียงผู้ถือศีล เท่านั้นใช่ไหมครับ ( เพราะหนังสื่อให้เหมือนอย่างนั้น )

   ตอบ ได้ยินมาว่า คนจีนนับถือพระก็เหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่งไม่ได้ให้ความสำคัญเหมือนคนไทย ที่ต้องกราบ

        ต้องไหว้ และ นับถือ เกรงใจ เหมือนคนไทยครับ การนับถือพระสงฆ์ของคนไทยนับว่าสุดยอดกว่า

        นานาประเทศ ครับ เพราะฉะนั้น เมืองไทยจึงเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลกในขณะนี้

 5.การนับถือ พุทธฝ่าย มหายานไม่สนับสนุนการบรรลุธรรม หรือ ไม่ครับ

   ตอบ การบรรลุธรรม จะเป็นนิกายไหน ผมว่าก็บรรลุธรรมได้ครับ ถ้าเรียนธรรมที่ถูกต้อง

        หรือ ปฏิบัติภาวนาตามหลัก อริยะมรรค ครับ

 6.ทุกท่านมีความเห็นอย่างไร กับ พระจีน

   ตอบ กับพระจีนไม่มีความเห็น ความนับถือของผม น้อยกว่า พระไทย ครับ


  วิจารณ์ครบคนแรก แล้วครับ
 :13: :13: :13:

บันทึกการเข้า

PISSAMAI

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 84
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น......
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 09:37:35 am »
0
ก่อนจะวิจารณ์ คงต้อง....
จะให้ดี ต้องไปดูหนังเรื่องนี้ก่อน มีให้ดูในเน็ตหรือไม่ นี่

 :67: ;)
บันทึกการเข้า

เจมส์บอนด์

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 186
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น......
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 09:39:32 am »
0
ก่อนจะวิจารณ์ คงต้อง....
จะให้ดี ต้องไปดูหนังเรื่องนี้ก่อน มีให้ดูในเน็ตหรือไม่ นี่

 :67: ;)

มีครับ หาโหลดดูได้จากเว็บ บิท ครับแต่หนังยังอยู่ในโรงอยู่เลยนะครับ ดาวน์โหลด ละเมิดลิขสิทธิ์นะครับ
พวกเว็บบิท ต้องเป็นสมาชิก ถึงจะโหลดได้ครับ

 :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า
ps2 psx nds n64 rom nes play1 play2 gamepc xbox wii castlevania finalfantasy nds ps1 sega
ผมชอบเล่นเกมส์ แต่ ก็แบ่งเวลานั่ง กรรมฐาน ครับ คนรุ่นใหม่ไม่กลัวกรรมฐาน

เมตตา

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 91
  • ขอให้ทุกชีวิต จงเป็นแต่ผู้มีความสุข เถิด
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น......
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 09:44:44 am »
0
หลักธรรม ในทางพระพุทธศาสนา ที่เรานับถือกันในเมืองไทย ส่วนใหญ่ก็เป็นแนวเถรวาท

นึกภาพออกแล้ว จะเห็นพระพุทธเจ้า มากกว่า เพราะพระสงฆ์จะเน้นธรรมวินัย เหมือนครั้ง

พุทธกาล อยู่จึงทำให้ภาพพระสงฆ์ ในเมืองไทยนั้นเป็นที่เคารพศรัทธา มาก ๆ ของชาวต่างชาติ

 หากแต่ว่า เราพูดถึงวัดเส้าหลิน ทุกคนไม่มีใครพูดถึงหลักธรรม กับ นึกออกแต่ วิทยายุทธของพระจีนมากกว่า

 ดังนั้นจะเห็นว่า สื่อ และ เสียงที่กระจายออกไปของวัดเส้าหลิน นั้นคือวิทยายุทธ


แต่ถ้ามาเปรียบกับ วัดราชสิทธาราม แล้ว เราคงจะนึกถึง กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ หรือ สมเด็จปู่

พระสังฆราชสุก ไก่เถื่อน เห็นไหมคะว่า เราจะนึกภาพทางออกเลยว่าเรานึกถึงธรรม หรือคุณของพระสงฆ์ได้

ก่อน ไม่ได้นึกถึงวิทยายุทธ อะไร
 :08:
บันทึกการเข้า

นัยนา

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 191
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น......
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 09:49:35 am »
0

ถ้าพูดถึงคุณของพระสงฆ์ แล้ว ต้องนึกถึง สังฆคุณ 9

สังฆคุณ คุณของพระสงฆ์ (หมายถึงสาวกสงฆ์ หรือ อริยสงฆ์) มี ๙ คือ
๑.สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ พระสงฆ์ สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติดี
๒. อุชุปฏิปนฺโน เป็นผู้ปฏิบัติตรง
๓. ญายปฏิปนฺโน เป็นผู้ปฏิบัติถูกทาง
๔. สามีจิปฏิปนฺโน เป็นผู้ปฏิบัติสมควร (ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺฐ ปุริสปุคฺคลา ได้แก่ คู่บุรุษ ๔ ตัวบุคคล ๘ เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคนี้)
๕. อาหุเนยฺโย เป็นผู้ควรแก่ของคำนับคือควรรับของที่เขา นำมาถวาย
๖. ปาหุเนยฺโย เป็นผู้ควรแก่การต้อนรับ ๗.ทกฺขิเณยฺโย เป็นผู้ควรแก่ทักษิณา คือควรแก่ของทำบุญ
๘. อญฺ ชลีกรณีโย เป็นผู้ควรแก่การทำอัญชลี คือควรแก่การกราบไหว้
๙. อนุตฺตรํ ปุญฺญกฺเขตตํ โลกสฺส เป็นนาบุญอันยอด เยี่ยมของโลก คือเป็นแหล่งเพาะปลูกและเผยแพร่ความดีที่ยอดเยี่ยมของโลก

มาวิจัยธรรม ในสังฆคุณต่อกันดีกว่านะครับ แล้วจะเข้าใจว่าเรานับถือพระสงฆ์ กันเพราะเหตุใด

บันทึกการเข้า

RATCHANEE

  • ผู้อุปถัมภ์
  • กำลังแหวกกระแส
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 100
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น......
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 10:39:17 pm »
0
อ้างถึง
๑.สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ พระสงฆ์ สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติดี
๒. อุชุปฏิปนฺโน เป็นผู้ปฏิบัติตรง
๓. ญายปฏิปนฺโน เป็นผู้ปฏิบัติถูกทาง
๔. สามีจิปฏิปนฺโน เป็นผู้ปฏิบัติสมควร

เอาแค่ 4 พวกนี้ 8 ประเภท ก็น่าจะคิดแล้วนะคะ

 ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ หมายถึง พระโสดาบัน

 ผู้ปฏิบัติตรง หมายถึง พระสกทาคามี ไม่รู้่ว่า สกิทาคามี ( อันไหนถูกก็ไม่รู้ )

 ผู้ปฏิบัตเพื่อความรู้ยิ่ง หมายถึง พระอนาคามี

 ผู้ปฏิบัติสมควรแล้ว หมายถึง พระอรหันต์ ผู้จบกิจในพระศาสนา


  ที่นี้การจำแนกอย่างนี้ กับฝ่ายมหายาน ตำนานที่สืบทอด และต่อกันมานั้น มีพระอรหันต์แยกตัวไปเป็นฝ่าย

มหายานกี่รูป แต่ที่แน่ ๆ ฝ่ายอัครสาวกทั้งสองคือ พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ นั้นศิษย์รวมตัวกันเป็นกลุ่ม

กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ในปัจจุบัน นี้ ( ผิดถูกอย่างไร ก็ว่าไปตามตำนานที่อ่านมานะคะ )


  ดังนั้น พระจีน กับ พระไทย โดยส่วนตัวก็นับถือว่าเป็นพระคะ แต่ถ้าจะให้กราบไหว้ นับถือ ได้สนิทใจมากกว่า

ก็ต้องพระไทย คะถึงแม้จะอ่อนเรื่องการภาวนาลงในยุคนี้ แต่พระที่เป็นฝ่ายปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เช่นสายวัดป่านั้น

มีปฏิปทาเป็นที่เราเคารพและมีบทบาทในเมืองไทยอย่างมาก

  เหมือนอย่าง หลวงตามหาบัว ซึ่งท่านจะเป็นพระอรหันต์หรือไม่ นั้นสำหรับดิฉันไม่ได้มองมุมนั้น แต่จากการที่

ได้พบท่านปฏิบัติตามคำสอนท่าน และมองเห็นกิจกรรมที่ท่านทำออกมานั้นล้วนแล้วน่านับถือ ท่านเป็นพระที่เรียบ

ง่ายทรงวินัยปฏิบัติ และที่สำคัญท่านช่วยชาติในยามที่ พระแต่ละรูปแต่ละองค์นั้น ไม่คิดจะช่วยอะไรเลย

  ทองคำ 10 ตัน เงิน 1,000,000 ดอลล่าร์ ก็เป็นที่ประจักษ์พยานในความพยายามที่ท่านช่วยชาติ เพราะท่าน

พาคนไทยช่วยชาติอย่างนี้ เศรษฐกิจไทยถึงได้ราบรื่นขึ้นมา ไม่เป็นหนี้ IMF ไม่เหมือนคนมีเงินเป็น หมื่นล้าน

พ้นล้าน ที่โกงได้ตลอดศก ไม่รู้จะช่วยชาติอย่างไร หนี้สินที่ท่านปลดให้กับเมืองไทยนั้นถือได้ว่า ทำให้น้ำตา

ของคนไทยในปี 2540 หยุดหายไปถึงไม่มากก็น้อยที่อานิสงค์

  ถ้านำมาเีทียบกับพระจีน ที่ร่ายรำกังฟู ออกรายการที่วี กับ พระหลวงตามหาบัว แล้ว ภาพที่ออกมาทุกท่านก็

คงจะมองออกถึงความแตกต่างของพระสงฆ์ไทย กับ พระสงฆ์จีน นะคะ

 :58: :25:
บันทึกการเข้า

prachabeodee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 135
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ควันหลงจากการไปดูหนัง เรื่องนี้ เห็น......
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2011, 03:41:54 pm »
0
ไปได้เรื่อยๆ......ตั้งแต่หนังจีน ไปถึงนิกายมหายานหินยาน.......ไปจาพนมแล้วก็ไปเป็นลิขสิทธิ์หนัง....โยนไปที่ ผ้าป่าช่วยชาติของหลวงตามหาบัว.... เดี๋ยวจะไปภาวะโลกร้อนด้วยมั๊ยเนี่ยะ....
เหมือน กับว่า...ขึ้นรถ...ลงเรือ...นั่งเครื่องบิน ขี่เรือเห่าะ......ลงแพน้ำโจน.....แล้วไปปั่นจักยาน ยังไงยังงั้นเลยอ่ะ..... :d030: :d030: :85: :85:
บันทึกการเข้า