แสดงกระทู้
|
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to. |
13081
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / วิศวกร เผย โบสถ์วัดต้นเชือก มีการยกไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดการถล่ม
|
เมื่อ: สิงหาคม 27, 2015, 09:00:24 pm
|
วิศวกร เผย โบสถ์วัดต้นเชือก มีการยกไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดการถล่ม ผู้รับเหมายกโบสถ์ เข้าพบพนักงานสอบสวนให้ปากคำขั้นตอนในการยกโบสถ์ ด้าน ตร. รอปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาผู้รับเหมา รองเลขาธิการสภาวิศวกร ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบไม่ได้มาตราฐาน ไม่มีคานรอง รับน้ำหนักไม่ไหว...
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 58 บรรยากาศการประชุมขั้นตอนการรื้อถอนที่วัดต้นเชือก ม.4 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พระครูเกษม จริยคุณ เจ้าอาวาสวัดต้นเชือก, นายประเสริฐ วัดผลัด นายกเทศบาลตำบลบางใหญ่, พ.ต.ท.บรรเทิง รุ่งมณี สวป.บางแม่นาง จ.นนทบุรี, นายวิชิต อรุณมานะกุล นายช่างใหญ่กรมโยธาธิการและผังเมือง, นายบรรเจิด เพชรรัตน์ วิศวกรโยธา เทศบาลตำบลบางใหญ่, นายจีระศักดิ์ วัฒนะสุวรรณ อดีตกำนัน ต.บางใหญ่ และคณะกรรมการวัดร่วม 30 คน ได้ร่วมประชุมหาทางออกในขั้นตอนการรื้อถอน โครงสร้างพระอุโบสถวัดต้นเชือกให้ปลอดภัย และมีระบบระเบียบ ตามแบบแผน โดยทางคณะกรรมการวัดลงความเห็นว่า ควรให้ทางเทศบาลบางใหญ่ พิจารณาเป็นแม่งานในการรื้อถอน ผ่านทางหน่วยงานโยธาของทางเทศบาล จะถูกขั้นตอนและปลอดภัยกว่าทางวัดที่จะรื้อถอนเอง เพราะตอนนี้ทางเทศบาลออกคำสั่งห้ามรื้อถอน ฉะนั้นจะต้องยื่นขอการรื้อถอนก่อน โดยมีบริษัทผู้รับเหมาที่ถูกต้องตามขั้นตอนในการรื้อถอนการประชุมขั้นตอนการรื้อถอนที่วัดต้นเชือก ด้าน นายประเสริฐ วัดผลัด นายกเทศบาลตำบลบางใหญ่ หลังจากที่ได้ประชุมกัน ได้ความว่า จะทำการล้อมรั้วด้วยสังกะสี เพื่อที่จะไม่ให้เกิดอันตรายแก่ผู้ที่สัญจรไปมาหรือเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ โดยที่ประชุมให้นายจีระศักดิ์ วัฒนะสุวรรณ อดีตกำนัน ต.บางใหญ่ ยื่นเรื่องขอรื้อถอนโบสถ์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ขณะที่ พ.ต.อ.กองสรร ควรระงับกมน ผกก.สภ.บางแม่นาง กล่าวว่า เมื่อเวลา 11.00 น. นายณรงค์ฤิทธิ์ หลักทอง อายุ 31 ปี ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำขั้นตอนการปฏิบัติงานยกโบสถ์ โดยจะนำขั้นตอนการทำงานมาเปรียบเทียบกับวิศวกร ว่าขั้นตอนการทำงานถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องตามขั้นตอนก็จะแจ้งข้อหาต่อไปศ.ดร.อมร พิมานมาศ ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างอาคารคอนกรีต เดินทางมาดูซากโบสถ์ถล่ม ต่อมา เมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน ศ.ดร.อมร พิมานมาศ อายุ 43 ปี นักวิจัย สกว.รองเลขาธิการสภาวิศวกร ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างอาคารคอนกรีต เดินทางมาดูซากโบสถ์ถล่มที่ วัดต้นเชือก ม.4 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี กล่าวว่าจากการตรวจสอบพบว่า อุปกรณ์การยกไม่ได้มาตรฐาน รับน้ำหนักตัวโบสถ์ไม่ไหว และไม่มีอะไรรองรับน้ำหนักตัวโบสถ์ จากการตรวจสอบพบว่า ใช้เพียงดึงขึ้นไว้ลอยๆ อย่างเดียว ทำให้รับน้ำหนักไม่ไหว และไม่มีคานคอยรองจึงทำให้โบสถ์หล่นลงมาทั้งหลัง ต่อไปนี้ถ้ามีการยกโบสถ์ต้องมีวิศวกรควบคุมการยกโบสถ์ คำนวณน้ำหนักและมีขั้นตอนอย่างถูกต้อง
ส่วน ฝั่งชาวบ้านต่างเดินทางมานำอัฐิของบรรพบุรุษ และญาติ ที่อยู่บริเวณรอบโบสถ์ ไปบรรจุในสถานที่แห่งใหม่กันอย่างต่อเนื่อง.ผู้เชี่ยวชาญชี้ การยกทำโดยมีอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน รับน้ำหนักตัวโบสถ์ไม่ไหว จนเป็นเหตุให้ถล่มลงมา ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/521242
|
|
|
13085
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / งัดกุฏิเจ้าคณะอำเภอท้ายเหมือง ยกตู้เซฟได้เงินกว่า 700,000 บาท
|
เมื่อ: สิงหาคม 26, 2015, 08:39:54 pm
|
งัดกุฏิเจ้าคณะอำเภอท้ายเหมือง ยกตู้เซฟได้เงินกว่า 700,000 บาท พ.ต.อ.สมยศ สีหาบัว ผกก.สภ.ท้ายเหมือง ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อมาตรวจสอบเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายเข้างัดแงะ พร้อมยกตู้เซฟที่มีทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นเงินสดจำนวนกว่า 700,000 บาท จากวัดนิคมสโมสร บ้านบางคลี ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา จากภาพในกล้องวงจรปิดพบมีคนร้ายไม่ต่ำกว่าสองคนเป็นวัยรุ่นชายเข้างัดแงะกุฏิของพระครูวิสิฐศาสนการ เจ้าอาวาสวัดนิคมสโมสร และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา จากการตรวจสอบภายในกุฏิเจ้าอาวาส คนร้ายได้มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี โดยอาศัยช่วงเวลาที่เจ้าอาวาสและพระส่วนหนึ่งติดกิจนิมนต์ต่างพื้นที่ จึงถือโอกาสเข้าไปงัดแงะยกเอาตู้เซฟไป
ทางด้านพระครูวิสิฐศาสนการ เจ้าอาวาสวัดนิคมสโมสร และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เปิดเผยว่า อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะปัจจัยที่ถูกขโมยไปนั้น ได้เบิกมาจากธนาคารเพื่อต้องนำมาใช้ในการปรับปรุงก่อสร้างห้องน้ำห้องส้วม และพัฒนาภายในวัด จึงขอฝากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ที่พบเห็นคนร้ายตามภาพจากกล้องวงจรด้วยขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.banmuang.co.th/news/crime/24938
|
|
|
13088
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ′กรมศิลป์-วัดกัลยาฯ′ ยอมถอยคนละก้าว ปมรื้อถอนศาลาราย
|
เมื่อ: สิงหาคม 26, 2015, 08:13:53 pm
|
′กรมศิลป์-วัดกัลยาฯ′ ยอมถอยคนละก้าว ปมรื้อถอนศาลาราย นายชยพล พงษ์สีดา รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า กรณีวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหารขอให้ พศ.เป็นคนกลางเจรจากรมศิลปากร ให้ยุติการรื้อถอนศาลารายที่วัดสร้างขึ้นแทนโบราณสถานอายุกว่า 100 ปี ที่วัดทุบทำลายไปก่อนหน้านี้โดยไม่ได้ขออนุญาตกรมศิลปากรนั้น
จากการหารือกับกรมศิลปากรเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ข้อสรุปว่า กรมศิลปากรจะชะลอการรื้อถอนออกไปก่อน เพื่อหาทางออกในแง่กฎหมายร่วมกับ พศ.ว่ามีข้อกฎหมายใดบ้างที่ดำเนินการได้โดยไม่ต้องรื้ออาคารที่สร้างแล้ว "ล่าสุด พศ.นำข้อสรุปเรียนพระพรหมกวี (ประกอบ ธมฺมเสฎโฐ) เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร ท่านพอใจกับข้อสรุปนี้ และเปรยว่าทางวัดจะไม่รื้อถอนอาคารเพิ่มอีก โดยจากนี้จะทำการใดเกี่ยวกับโบราณสถานภายในวัดจะต้องทำให้ถูกต้อง นักกฎหมาย พศ.และกรมศิลปากร ต้องเริ่มศึกษาจากข้อมูลเดิมไปพร้อมกัน และอาจต้องใช้เวลาพอสมควร เพื่อหารือเกี่ยวกับช่องของกฎหมายในการหาทางออกของเรื่องดังกล่าว"ขอบคุณข่าวจาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1440570194
|
|
|
13089
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / “ในหลวง” พระราชทานเครื่องสักการะ สมเด็จวัดปากน้ำ 90 ปี
|
เมื่อ: สิงหาคม 26, 2015, 08:06:05 pm
|
“ในหลวง” พระราชทาน เครื่องสักการะ สมเด็จวัดปากน้ำ 90 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญเครื่องสักการะถวาย สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในโอกาสอายุวัฒนมงคล 90 ปี 26 สิงหาคม 2558 ขณะที่บุคคลสำคัญ พุทธศาสนิกชนเข้าถวายสักการะอย่างเนืองแน่น
วันนี้(26 ส.ค.) เวลา 10.30 น.ที่พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญเครื่องสักการะ ประกอบด้วย น้ำสรง ผ้าไตร แจกันดอกไม้ พระราชทานแด่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในโอกาสอายุวัฒนมงคล 90 ปี พรรษา 70 ในการนี้ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ อัญเชิญเครื่องสักการะถวายสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ จากนั้นพระเถระกรรมการมหาเถรสมาคม 17 รูป และพระสงฆ์ 300 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ฉันฉันภัตตาหารเพล เวลา 09.00 น. สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นประธานมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนวิทยาลัยพยาบาลตำรวจ จำนวน 20 ทุน ทุนละ 10,000 บาท โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวสัมโมทนียกถาแก่นักเรียนวิทยาลัยพยาบาลตำรวจที่เข้ารับทุนว่า ทุนนี้ได้มอบให้ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว ขอให้นำทุนนี้ไปใช้ประโยชน์แก่การศึกษา การศึกษานั้นต้องใช้เงินทองมาก ทุนที่มอบให้นี้ได้มาจากความศรัทธาของบุคคลต่าง ๆ ได้มอบให้เป็นกำลังใจในการศึกษาขอให้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนและเป็นตำรวจ เป็นพลเมืองและเป็นเยาวชนที่ดีของประเทศ เพื่อตอบแทนบุญคุณผู้ให้ทุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีพระสงฆ์ บุคคลสำคัญ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และพุทธศาสนิกชน เข้าถวายสักการะ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์อย่างเนื่องแน่น โดยทางวัดปากน้ำ ได้จัดทำหนังสือที่ระลึก 8 เล่มถวายพระสงฆ์ บุคคลสำคัญ พุทธศาสนิกชน จำนวน 5,000 ชุด ประกอบด้วย 1.หนังสือวรปุญโญวาท 2.การพระศาสนาด้านสาธารณูปการ 3.ศีลในชาดก เก็บเพชร ตามรอยธรรม 7 4.โอวาท 20 ปี แม่กองบาลีสนามหลวง 5.ศีล 5 คุณค่าชีวิตและสังคม 6.ธัมมจักกัปปวัตนสูตร 7.อนุสรณ์ 20 ปี ใต้ร่มบารมีวิถีธรรม และ 8.อนุสรณ์ 20 ปีแม่กองบาลีสนามหลวง พร้อมกับวีดิทัศน์ อายุวัฒนมงคล 90 ปี พระอิ่มตลอดกาล นอกจากนี้ ทางสมัชชาสงฆ์ประเทศสิงค์โป ได้ทำพวงกุญแจที่ระลึกงานครบรอบ 90 ปี จำนวน 10,000 ชิ้นแจกแจกให้แก่พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานดังกล่าวด้วย ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/344132
|
|
|
13091
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ตำรวจแจ้งข้อหาผู้รับเหมา ทำอุโบสถวัดต้นเชือกถล่ม
|
เมื่อ: สิงหาคม 26, 2015, 07:55:46 pm
|
ตำรวจแจ้งข้อหาผู้รับเหมา ทำอุโบสถวัดต้นเชือกถล่ม โปลิศบางแม่นาง เตรียมเรียกตัวช่างรับเหมาแจ้งข้อหา หลังทำการประมาท รับงานยกพื้นอุโบสถวัดต้นเชือกให้สูงเพื่อหนีน้ำท่วม แต่เกิดผิดพลาดอุโบสถพังถล่มทับคนงานดับ เผยเจ้าตัวไปรับงานต่อที่ชลบุรีแล้ว
จากกรณีอุโบสถวัดต้นเชือก ซอยกันตนา หมู่ 4 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พังถล่มลงมาทับนายณัฐวุฒิ สุวรรณชัย อายุ 22 ปี คนงานก่อสร้างจนเสียชีวิต หลังจากทางวัดได้ว่าจ้างนายณรงค์ศักดิ์ หลักทอง อายุ 32 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้างให้มายกพื้นอุโบสถให้สูงขึ้นเพื่อหนีน้ำท่วม ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 ส.ค. นายสกุลเกียรติ ศรีสกุลเมฆี โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่และคณะกรรมการวัดลงพื้นที่วัดต้นเชือกอีกครั้ง เพื่อร่วมกันประชุมหาข้อสรุปในการนำองค์พระประธานขนาดใหญ่สมัยกรุงศรีอยุธยาออกมาจากอุโบสถที่พังเสียหาย เนื่องจากหวั่นเกรงว่าหลังคา และผนังส่วนที่เหลือจะพังลงมา โดยได้นำเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ รวมทั้งอุปกรณ์ในการรื้อสิ่งก่อสร้างมาเตรียมพร้อมไว้แล้ว ขณะที่เมื่อช่วงเช้ามืดพระภิกษุสงฆ์ของวัดต้องไปทำวัตรที่วิหารหลังเก่าชั่วคราวก่อน
ส่วนด้านคดีนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแม่นาง เตรียมเรียกนายณรงค์ศักดิ์ ผู้รับเหมาในการยกพื้นอุโบสถให้สูงมารับทราบข้อกล่าวหา ทำการประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หากไม่มาพบก็จะออกหมายเรียกและหมายจับต่อไป เบื้องต้นพบว่าผู้รับเหมารายนี้ได้ไปรับงานอยู่ที่ จ.ชลบุรี แล้วด้วย.ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/regional/344131
|
|
|
13092
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / "หลวงพ่อคูณ" ครบ 100 วัน ยันผิวไม่ได้กลายเป็นสีชมพู
|
เมื่อ: สิงหาคม 26, 2015, 07:49:49 pm
|
"หลวงพ่อคูณ"ครบ 100 วัน ยันผิวไม่ได้กลายเป็นสีชมพู อธิการบดี ม.ขอนแก่น เร่งเตรียมพิธีบำเพ็ญกุศล อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ "หลวงพ่อคูณ" ครบกำหนดเก็บสรีระสังขาร 100 วัน ยันชัด ร่างกายไม่ได่้เปลี่ยนเป็นชมพูตามข่าวลือ
เมื่อวันที่ 26 ส.ค. รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดการประชุมเพื่อเตรียมพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทานสตมวาร (100 วัน) พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
รศ.ดร.กิตติชัย กล่าวว่าในโอกาสครบ 100 วัน การละสังขารของหลวงพ่อคูณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เตรียมจัดการประกอบพิธีดังกล่าวที่อาคารเรียนรวมชั้น 3 คณะแพทยศาสตร์ เพื่อบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทานสตมวาร 100 วัน ถวายหลวงพ่อคูณระหว่างวันที่ 29-30 ส.ค.นี้ โดยบริเวณปะรำพิธีกลางด้านบนเวที จะมีการนำภาพของหลวงพ่อคูณและรูปปั้นมาจัดวางไว้ พร้อมทั้งเครื่องบูชาต่างๆรวมทั้งการถ่ายทอดสัญญาณอ่างดองสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ จากชั้น 7 ลงมาบริเวณงานตลอดทั้งช่วงของการประกอบพิธี นอกจากนี้ยังคงโยงสายสิญจน์จากอาคารเรียนรวมชั้น 7 สถานที่ของการเก็บสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณในช่วงของการดองสรีระสังขารตามขั้นตอนของการเป็นครูใหญ่ มายังจุดที่ประกอบพิธีกรรมและโดยรอบของสถานที่จัดพิธีบำเพ็ญกุศล เพื่อให้พุทธศาสนิกชนและญาติธรรมที่เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆได้ร่วมอนุโมทนา ตั้งจิตอธิษฐานตลอดทั้งช่วงของพิธีกรรมทางศาสนา คาดว่าจะมีผู้มาร่วมอนุโทนาบุญและร่วมในการประกอบพิธี
ซึ่งปกติแล้วถ้าเป็นครูใหญ่ทั่ว ๆไป เมื่อฉีดน้ำยารักษาสภาพร่างกายและผิวเนื้อผิวหนังจะเป็นสีคล้ำหรือสีเขียว แต่หากสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ หลังจากที่ฉีดน้ำยาตามขั้นตอนแล้วผิวหนังจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูก็นับเป็นเรื่องที่อัศจรรย์ และอาจเป็นความเชื่อที่ว่าเป็นบุญบารมีของหลวงพ่อคูณ อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะสรีระสังขารของท่านยังอยู่ในอ่างดองไม่ครบ 1 ปี ตามที่คณะแพทย์กำหนดไว้จึงไม่มีใครทราบว่าสรีระสังขารของท่านออกเป็นโทนสีชมพูหรือไม่.ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/regional/344185
|
|
|
13093
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ทุบหลุมศพช่วยเมียในโลง ผัวได้ยินเสียงร้องขอให้ช่วย
|
เมื่อ: สิงหาคม 26, 2015, 07:40:47 pm
|
ทุบหลุมศพช่วยเมียในโลง ผัวได้ยินเสียงร้องขอให้ช่วย
แห่ทุบหลุมศพ หลังได้ยินเสียงร้องให้ช่วย ไม่ทันการเอาศพออกมาปรากฏว่าสายไปเสียแล้ว ญาติตั้งข้อสังเกตุไม่ได้เสียชีวิตอย่างที่แพทย์คนแรกบอกไว้ แต่ตายอีกครั้งจริง ๆ เนื่องจากขาดอากาศหายใจในโลงศพ
เว็บไซต์ข่าวอังกฤษ “เดอะ มิรเรอร์”รายงานจากเมืองลา เอ็นตราดา ประเทศฮอนดูรัส เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ว่า ญาติ ๆ แห่ใช้ค้อนทุบหลุมฝังศพของนางเนย์ซี เปเรซ วัย 16 ปี ที่กำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน แต่เกิดอาการช็อคหัวใจหยุดเต้นกระทันหัน เมื่อเธอเดินไปเข้าห้องสุขานอกตัวบ้านซึ่งตั้งอยู่ในเมืองลา เอ็นตราดา ทางตะวันตกของประเทศฮอนดูรัส กลางดึกและได้ยินเสียงปืนที่ยิงต่อสู้กัน แม้ครอบครัวพยายามช่วยเธอด้วยการนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่ก็ไม่ทันการ แพทย์เผยว่า เธอเสียชีวิตแล้ว ทำให้ญาติพากันทำพิธีศพ และฝังศพเธอที่แต่งตัวสวยงามในชุดเจ้าสาวไว้ที่สุสานของเมืองดังกล่าว หลังจากนั้นหนึ่งวันนายรูดี กอนซาเลซ ผู้เป็นสามีได้มาเยี่ยมร่างของภรรยาที่สุสาน เมื่อเขาเอามือวางบนหลุมศพเธอก็ได้ยินเสียงร้องเรียกให้ช่วย และเสียงทุบโลงศพ เขากับสัปเหร่อ และญาติ ๆ จึงช่วยกันทุบหลุมศพเพื่อนำนางเปเรซออกมา
ทั้งหมดได้นำตัวเธอส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แต่แพทย์ก็ได้ยืนยันอีกครั้งว่า เธอเสียชีวิตไปแล้ว บริเวณมือ และหน้าผากของเธอมีรอยฟกช้ำ และบาดแผล ทำให้ญาติตั้งข้อสังเกตุว่า นางเปเรซไม่ได้เสียชีวิตอย่างที่แพทย์คนแรกได้กล่าวไว้ แต่เธอเสียชีวิตอีกครั้งจริง ๆ เนื่องจากขาดอากาศหายใจในโลงศพ.ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/foreign/344188
|
|
|
13095
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / "วาจาน่าเอ็นดู" ของมาร เป็นเช่นไร.?
|
เมื่อ: สิงหาคม 26, 2015, 09:57:25 am
|
เสนามาร ๑๐ เหล่า ปธานสูตรที่ ๒ [๓๕๕] มารได้เข้ามาหาเราผู้มีตนส่งไปแล้วเพื่อความเพียร บากบั่นอย่างยิ่ง เพ่งอยู่ ที่ใกล้ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา เพื่อบรรลุนิพพานอันเกษมจากโยคะ กล่าววาจาน่าเอ็นดูว่า "ท่านผู้ซูบผอม มีผิวพรรณเศร้าหมอง ความตายของท่านอยู่ในที่ใกล้ เหตุแห่งความตายของท่านมีตั้งพันส่วน ความเป็นอยู่ของท่านมีส่วนเดียว ชีวิตของท่านผู้ยังเป็นอยู่ประเสริฐกว่า เพราะว่าท่านเป็นอยู่จักกระทำบุญได้ ท่านประพฤติพรหมจรรย์ และบูชาไฟอยู่ ย่อมสั่งสมบุญได้มาก ท่านจักทำประโยชน์อะไรด้วยความเพียร ทางเพื่อความเพียรพึงดำเนินไปได้ยาก กระทำได้ยาก ให้เกิดความยินดีได้ยาก" มารได้ยืนกล่าวคาถาเหล่านี้ในสำนักของพระพุทธเจ้า
พระผู้มีพระภาคตรัสคาถาประพันธ์นี้กะมารผู้กล่าวอย่างนั้นว่า "แน่ะมารผู้มีบาป ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของคนประมาท ท่านมาในที่นี้ด้วยความต้องการอันใด ความต้องการอันนั้นด้วยบุญ แม้มีประมาณน้อย ก็ไม่มีแก่เรา ส่วนผู้ใดมีความต้องการบุญ มารควรจะกล่าวกะผู้นั้น เรามีศรัทธา ตบะ วิริยะ และปัญญา ท่านถามเราแม้ผู้มีตนส่งไปแล้วผู้เป็นอยู่อย่างนี้เพราะเหตุไร ลมนี้พึงพัดกระแสแม่น้ำทั้งหลายให้เหือดแห้งไปได้ เลือดน้อยหนึ่งของเราผู้มีใจเด็ดเดี่ยวไม่พึงเหือดแห้ง เมื่อโลหิตเหือดแห้งไปอยู่ ดีและเสลษม์ย่อมเหือดแห้งไป เมื่อเนื้อสิ้นไปอยู่ จิตย่อมเลื่อมใสโดยยิ่ง สติปัญญาและสมาธิของเราย่อมตั้งมั่นโดยยิ่ง เรานั้นถึงจะได้รับเวทนาอันแรงกล้าอยู่อย่างนี้ จิตย่อมไม่เพ่งเล็งกามทั้งหลาย ท่านจงดูความที่สัตว์เป็นผู้บริสุทธิ์
กามทั้งหลายเรากล่าวว่า เป็นเสนาที่ ๑ ของท่าน ความไม่ยินดีเรากล่าวว่า เป็นเสนาที่ ๒ ของท่าน ความหิวและความระหาย เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๓ ของท่าน ตัณหา เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๔ ของท่าน ถีนมิทธะ เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๕ ของท่าน ความขลาดกลัว เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๖ ของท่าน ความสงสัย เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๗ ของท่าน ความลบหลู่ความหัวดื้อ เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๘ ของท่าน ลาภ สรรเสริญ สักการะ เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๙ ของท่าน และยศที่ได้มาผิด ซึ่งเป็นเหตุให้ บุคคลยกตนและดูหมิ่นผู้อื่น เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๑๐ ของท่าน แน่ะมาร เสนาของท่านนี้มีปกติกำจัดซึ่งคนผู้มีธรรมดำ คนผู้ไม่กล้าย่อมไม่ชนะซึ่งเสนาของท่านนั้น ส่วนคนผู้กล้าย่อมชนะได้ ครั้นชนะแล้วย่อมได้ความสุข ก็เพราะเหตุที่ได้ความสุขนั้น แม้เรานี้ก็พึงรักษาหญ้ามุงกระต่ายไว้ น่าติเตียนชีวิตของเรา เราตายเสียในสงครามประเสริฐกว่า แพ้แล้วเป็นอยู่จะประเสริฐอะไร สมณพราหมณ์บางพวกหยั่งลงแล้วในเสนาของท่านนี้ ย่อมไม่ปรากฏ ส่วนผู้ที่มีวัตรงามย่อมไปโดยหนทางที่ชนทั้งหลายไม่รู้ เราเห็นมารพร้อมด้วยพาหนะยกออกแล้วโดยรอบ จึงมุ่งหน้าไปเพื่อรบ มารอย่าได้ยังเราให้เคลื่อนจากที่ โลกพร้อมด้วยเทวโลกย่อมครอบงำเสนาของท่านไม่ได้ เราจะทำลายเสนาของท่านเสียด้วยปัญญา เหมือนบุคคลทำลายภาชนะดินทั้งดิบทั้งสุก ด้วยก้อนหิน ฉะนั้น เราจักกระทำสัมมาสังกัปปะให้ชำนาญและดำรงสติให้ตั้งมั่นเป็นอันดี แล้วจักเที่ยวจากแคว้นนี้ไปยังแคว้นโน้น แนะนำสาวกเป็นอันมาก สาวกผู้ไม่ประมาทเหล่านั้นมีใจเด็ดเดี่ยว กระทำตามคำสั่งสอนของเราจักถึงที่ซึ่งไม่มีความใคร่ ที่ชนทั้งหลายไปถึงแล้วย่อมไม่เศร้าโศก"
มารกล่าวคาถาว่า "เราได้ติดตามรอยพระบาทของพระผู้มีพระภาคสิ้น ๗ ปี ไม่ได้ประสบช่องของพระสัมพุทธเจ้าผู้มีศิริ" มารได้ไปตามลมรอบๆก้อนหิน ซึ่งมีสีคล้ายก้อนมันข้น ด้วยคิดว่า "เราจะประสบความอ่อนโยนในพระโคดมนี้บ้าง ความสำเร็จประโยชน์พึงมีบ้าง" มารไม่ได้ความพอใจในพระสัมพุทธเจ้าได้ กลายเป็นลมหลีกไป ด้วยคิดว่า "เราถึงพระโคดมแล้ว จะทำให้ทรงเบื่อพระทัยหลีกไป เหมือนกาถึงไสลบรรพตแล้วบินหลีกไป ฉะนั้น" พิณของมารผู้ถูกความโศกครอบงำแล้ว ได้ตกจากรักแร้ ลำดับนั้น มารนั้นเสียใจ ได้หายไปในที่นั้นนั่นแลฯ
จบปธานสูตรที่ ๒อ้างอิง :- พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๘๔๓๖-๘๔๙๘. หน้าที่ ๓๖๙-๓๗๑. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=8436&Z=8498&pagebreak=0ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=355ขอบคุณข่าวจาก http://3.bp.blogspot.com/http://1.bp.blogspot.com/http://0.static-atcloud.com/
ว่าด้วยมารเสนา [๑๓๔] คำว่า บุคคลผู้มีปัญญากว้างขวางดังแผ่นดินนั้น เป็นผู้กำจัดเสนาในธรรมทั้งปวงคือ ในรูปที่เห็น เสียงที่ได้ยิน หรืออารมณ์ที่ทราบอย่างใดอย่างหนึ่ง มีความว่า มารเสนาเรียกว่าเสนา กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ราคะ โทสะ โมหะ โกธะ อุปนาหะ ฯลฯ อภิสังขาร คือ อกุศลกรรมทั้งปวง ชื่อว่า มารเสนา. สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า กิเลสกาม เรากล่าวว่าเป็นมารเสนาที่ ๑ ของท่าน ความไม่ยินดี เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๒ ของท่าน ความหิวกระหาย เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๓ ของท่าน ตัณหา เรากล่าวเป็นเสนาที่ ๔ ของท่าน ความง่วงเพราะหาวนอน เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๕ ของท่าน ความขลาด เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๖ ของท่าน ความลังเลใจ เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๗ ของท่าน ความลบหลู่และความกระด้าง เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๘ ของท่าน ลาภ ความสรรเสริญ สักการะ และยศที่ได้โดยทางผิด เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๙ ของท่าน ความยกตนและข่มผู้อื่น เรากล่าวว่า เป็นเสนาที่ ๑๐ ของท่าน
ดูกรพระยามาร เสนาของท่านเหล่านี้ เป็นผู้มีปกติกำจัดผู้มีธรรมดำ คนไม่กล้าย่อมไม่ชนะเสนานั้นได้ ส่วนคนกล้าย่อมชนะได้ ครั้นชนะแล้วย่อมได้สุข ดังนี้.
เมื่อใด มารเสนาทั้งหมดและกิเลสอันทำความเป็นปฏิปักษ์ทั้งหมด อันบุคคลผู้มีปัญญากว้างขวางดังแผ่นดินนั้นชนะแล้ว ให้แพ้แล้ว ทำลายเสีย กำจัดเสีย ทำให้ไม่สู้หน้าแล้วด้วยอริยมรรค ๔ เมื่อนั้นบุคคลผู้มีปัญญากว้างขวางดังแผ่นดินนั้น เรียกว่า เป็นผู้กำจัดเสนา. บุคคลนั้นเป็นผู้กำจัดเสนาในรูปที่เห็น เสียงที่ได้ยิน อารมณ์ที่ทราบ อารมณ์ที่รู้แจ้ง เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า บุคคลผู้มีปัญญากว้างขวางดังแผ่นดินนั้น เป็นผู้กำจัดเสนาในธรรมทั้งปวง คือ ในรูปที่เห็น เสียงที่ได้ยิน หรืออารมณ์ที่ทราบอย่างใดอย่างหนึ่ง.อ้างอิง :- พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๙ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๑ ขุททกนิกาย มหานิทเทส เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๙ บรรทัดที่ ๑๘๒๒-๒๒๓๙. หน้าที่ ๗๗-๙๔. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=29&A=1822&Z=2239&pagebreak=0ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=29&i=109
|
|
|
13097
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นั่งกรรมฐาน แล้ว ง่วง ทำอย่างไร ดีครับ ที่จะแก้ง่วงได้ครับ
|
เมื่อ: สิงหาคม 25, 2015, 10:03:35 pm
|
ดูกรโมคคัลลานะ เธอง่วงหรือ.? ดูกรโมคคัลลานะ เธอง่วงหรือ.? ท่านพระมหาโมคคัลลานะกราบทูลว่า อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
ดูกรโมคคัลลานะ เพราะเหตุนั้นแหละ เมื่อเธอมีสัญญาอย่างไร อยู่ความง่วงนั้นย่อมครอบงำได้ เธอพึงทำไว้ในใจซึ่งสัญญานั้นให้มาก ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้
ถ้าเธอยังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงตรึกตรองพิจารณาถึงธรรมตามที่ตนได้สดับแล้ว ได้เรียนมาแล้วด้วยใจ ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้
ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงสาธยายธรรมตามที่ตนได้สดับมาแล้วได้เรียนมาแล้วโดยพิสดาร ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้
ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงยอนช่องหูทั้งสองข้าง เอามือลูบตัว ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้
ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงลุกขึ้นยืน เอาน้ำล้างตา เหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาวนักษัตรฤกษ์ ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้
ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงทำในใจถึงอาโลกสัญญา ตั้งความสำคัญในกลางวันว่า กลางวันอย่างไร กลางคืนอย่างนั้น กลางคืนอย่างไร กลางวันอย่างนั้น มีใจเปิดเผยอยู่ฉะนี้ ไม่มีอะไรหุ้มห่อ ทำจิตอันมีแสงสว่างให้เกิด ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้
ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงอธิษฐานจงกรม กำหนดหมายเดินกลับไปกลับมา สำรวมอินทรีย์ มีใจไม่คิดไปในภายนอก ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้
ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงสำเร็จสีหไสยา คือนอนตะแคงเบื้องขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมเท้า มีสติสัมปชัญญะ ทำความหมายในอันจะลุกขึ้น พอตื่นแล้วพึงรีบลุกขึ้นด้วยตั้งใจว่า เราจักไม่ประกอบความสุขในการนอน ความสุขในการเอนข้าง ความสุขในการเคลิ้มหลับ
ดูกรโมคคัลลานะเธอพึงศึกษาอย่างนี้แล ฯอ้างอิง :- โมคคัลลานสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=23&A=1873&Z=1938ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=58ขอบคุณภาพจาก http://statics.atcloud.com/fhttp://i.ytimg.com/ ทรงแสดงอุบายแก้ง่วงแก่พระโมคคัลลานะพระมหาโมคคัลลานะ เมื่ออุปสมบทได้ ๗ วัน ได้ไปทำความเพียรอยู่ที่ป่าใกล้บ้านกัลป์ลาวาลมุตตาคาม แขวงมคธ ถูกถีนมิทธารมณ์ คือ ความง่วงเหงาเข้าครอบงำ ไม่สามารถจะทำความเพียรได้ ขณะนั้น พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ ณ สวนเภสกลาวัน ซึ่งเป็นสถานที่ให้เหยื่อแก่เนื้อ ใกล้เมืองสุงสุมารคิรี อันเป็นเมืองหลวงของแคว้นภัคคะ ทรงทราบด้วยพระญาณว่าพระโมคคัลลานะ โงกง่วงอยู่ จึงทรงทำปาฏิหาริย์ให้เห็นปรากฏ ประหนึ่งว่าเสด็จประทับอยู่ตรงหน้าทรงแสดงอุบายสำหรับระงับความง่วงแก่เธอตามลำดับ ดังนี้ :-
๑. โมคคัลลานะ เมื่อเธอมีสัญญาอย่างใดแล้ว เกิดความง่วงขึ้น เธอจงทำไว้ในใจซึ่งสัญญาอย่างนั้นให้มาก จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้ ๒. ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรตรึกตรองถึงธรรมที่ได้เรียนมาแล้วได้ฟังมาแล้วให้มาก จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้ ๓. ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรสาธยายธรรมที่ได้เรียนได้ฟังมาแล้วให้มาก จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้ ๔. ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรยอนช่วงหูทั้งสองข้าง และลูบตัวด้วยฝ่ายมือ จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้ ๕. ถ้ายังละไม่ได้ เธอจงลุกขึ้นแล้วลูบนัยน์ตา ลูบหน้าด้วยน้ำ เหลียวดูทิศทั้งหลายแหงนดูดาว จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้ ๖. ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรทำไว้ในใจถึงอาโลกสัญญา ถือกำหนดความสว่างไว้ในใจเหมือนกัน ทั้งกลางวันและกลางคืน ทำใจให้เปิดให้สว่าง จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้ ๗. ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรเดินจงกรมสำรวมอินทรีย์ มีจิตใจไม่คิดไปภายนอก จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้ ๘. ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรสำเร็จสีหไสยาสน์ นอนตะแคงขวา ซ้อนเท้าให้เลื่อมกัน มีสติสัมปชัญญะ หมายใจว่าจะลุกขึ้นเป็นนิตย์ เมื่อตื่นแล้วควรรีบลุกขึ้นด้วยตั้งใจว่า เราจะไม่ประกอบความสุขในการนอนและการเคลิ้มหลับอีก จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้
พระพุทธองค์ตรัสสอนอุบายเพื่อบรรเทาความง่วงโดยลำดับจนที่สุด ถ้ายังไม่หายง่วงก็ให้นอน แต่ให้นอนอย่างมีสติที่มา http://www.84000.org/one/1/04.html
|
|
|
13098
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นั่งกรรมฐาน แล้ว ง่วง ทำอย่างไร ดีครับ ที่จะแก้ง่วงได้ครับ
|
เมื่อ: สิงหาคม 25, 2015, 09:42:56 pm
|
อาโลกสัญญา มีวิธีปฏิบัติอย่างไร ครับ
ถามโดยคุณ komol
ผมอ่าน เรื่องอานาปานสติ แล้วถึง อาโลกสัญญา นั้นเป็น ธรรมฝ่ายตรงข้าม กับ ถีนมิทธะ
ผมจึงอยากเรียนถามว่า อาโลกสัญญา มีวิธีแนวปฏิบัติอย่างไรก่อน อานาปานสติครับ Re: อาโลกสัญญา มีวิธีปฏิบัติอย่างไร ครับ
ตอบโดย ธัมมะวังโส
เป็นคำถามที่ดีมาก ๆ สำหรับผู้ภาวนาที่ยังไม่ได้ อุปจาระฌาน ขึ้นไป
สิ่งที่เป็นศัตรูร้าย ในองค์กรรมฐาน ตัวหนึ่งก็คือ ความง่วง
เราอยากภาวนา แต่ มันง่วง จะทำอย่างไร ?
พอภาวนาไป ก็นั่งหลับเหมือนตกภวังค์ มารู้อีกทีกว่าหลับแล้ว ก็ตอนตื่น ?
ในองค์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้น ก็คือ กำหนด นิมิต ไม่ครบ 3 อย่าง
คือ 1.ปัคคาหะ นิมิต การกำหนดฐานจิต
2.บริกรรมนิมิต การกำหนดองค์ภาวนา
3.อุเบกขานิมิต คือการกำหนดจิตให้วางต่อนามธรรม
อันนี้เป็นไปในองค์ ภาวนาของพระพุทธานุสสติ ศิษย์กรรมฐานจักมีความเข้าใจ
ที่นี้สำหรับบุคคล ที่ไม่ได้ฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ
คือฝึกกรรมฐาน สันโดด กองใดกองหนี่งนั้น ก็ต้องประสพปัญหาอย่างนี้เช่นเดียวกัน
ดังนั้นเมื่อความง่วง ย่างกราบ เข้ามาหา วิธีการแก้ความง่วงของพระพุทธเจ้าที่ตรัสสอนพระโมคคัลลานะ
นั้นมี 8 ประการ ตั้งแต่ยอนหู ซ้าย ขวา จนกระทั่งไปจบที่ การนอนเสีย
ดังนั้นขอแนะนำผู้ฝึกภาวนามือใหม่ ( มือเก่า )นั้นเมื่อความง่วงเข้ามา วิธีดีที่สุดก็คือ การนอน
นอนเสียเถิดกำหนดสติในการนอนว่า เมื่อมีสติตื่นขึ้น ข้าพเจ้าจะไม่นอนต่ออีก แล้วลุกไปเดินจงกรมออก
กำลังกายให้กระชับก่อน
จากนั้นมากำหนด ลมหายใจเข้า้ออก อัดนิ่ง ไว้
เมื่อสภาพจิตพร้อมแล้วก็กำหนดในกรรมฐาน ต่อไป
วิธีนี้เป็นวิีธีที่ได้ผลมากที่สุด
ส่วนการกำหนด อาโลกสัญญา นั้นต้องมีพลังจิตแล้วจึงจักทำได้ บุคคลธรรมดานั้นไม่สามารถกำหนด
อาโลกสัญญาได้ อาโลกสัญญา นั้น เป็นแสงสว่าง เป็นนิมิต เป็นรัศมี เป็นโอภาส
ดังนั้นคนที่ง่วงอยู่ แล้วกำหนดว่า นี้คือกลางวัน ๆ ๆ ๆ อยู่แล้วภาวนาต่อนั้น ผลก็คือ ง่วงเหมือนเดิม
เจริญพรแต่เพียงเท่านี้ก่อนนะ ที่มา :- อาโลกสัญญา มีวิธีปฏิบัติอย่างไร ครับ http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1278.0#quickreply
|
|
|
13100
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สืบชะตาหลวง ถวายสมเด็จวัดปากน้ำ ครบ 90 ปี
|
เมื่อ: สิงหาคม 25, 2015, 07:30:51 pm
|
สืบชะตาหลวง ถวายสมเด็จวัดปากน้ำ ครบ 90 ปี คณะสงฆ์จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ สืบชะตาหลวง ตามประเพณีล้านนา ถวายสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ครบรอบอายุวัฒนมงคล 90 ปี ขณะที่พุทธศาสนิกชน เข้ากราบสักการะและร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
วันนี้( 25 ส.ค.)ที่พระอุโบสถวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนจัดพิธีสืบชะตาหลวง ตามประเพณีล้านนา ถวายสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วงวรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เนื่องในงานอายุวัฒนมงคล 90 ปี พรรษา 70 วันที่ 26 สิงหาคม2558 โดยตั้งแต่เวลา 09.00 น.สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ประกอบพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พร้อมจุดธูปเทียนบูชานพเคราะห์พิธีสืบชะตาหลวงตามประเพณีล้านนา โดยมีพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตภาวนาแผ่เมตตาจากนั้นในเวลา 14.00 น.คณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร จำนวน 800 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ณ พระอุโบสถ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ในเวลา 17.00น. คณะสงฆ์วัดปากน้ำ ประกอบพิธีสวดมาติกา บังสุกุล บริเวณหอสังเวชนียมงคลเทพนิรมิต สำหรับในวันที่ 26 ส.ค. ซึ่งครบรอบอายุวัฒนมงคล สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ 90 ปี พรรษา 70 ในเวลา 09.00 น.สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นประธานมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนวิทยาลัยตำรวจบริเวณพระอุโบสถ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ จากนั้นในเวลา10.30 น.ที่พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล ผู้แทนพระองค์อัญเชิญเครื่องสักการะ น้ำสรงถวายแด่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ จากนั้นพระมหาเถระ กรรมการมส. 17 รูป และพระสงฆ์ 300 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ฉันภัตตาหารเพลในเวลา 17.00 น.สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นประธานในพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปณ โรงหล่อสัตตบงกช พุทธมณฑลสาย 4 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางวัดปากน้ำ ได้จัดทำหนังสือจำนวน 8 เล่มงานที่ระลึกครบรอบ 90 ปีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ประกอบด้วย หนังสือวรปุญโญวาท การพระศาสนาด้านสาธารณูปการ ศีลในชาดก เก็บเพชรตามรอยธรรม 7 โอวาท 20 ปี แม่กองบาลีสนามหลวง ศีล 5คุณค่าชีวิตและสังคม ธัมมจักกัปปวัตนสูตร อนุสรณ์ 20 ปี ใต้ร่มบารมีวิถีธรรม พร้อมกับวีดิทัศน์ อายุวัฒนมงคล 90ปี พระอิ่มตลอดกาล จำนวน 5,000 ชุดแจกพระสงฆ์และญาติโยมที่มาร่วมพิธี นอกจากนี้ ทางสมัชชาสงฆ์ประเทศสิงค์โปได้ทำพวงกุญแจที่ระลึกงานครบรอบ 90 ปี จำนวน 10,000 ชิ้นแจกแจกให้แก่พุทธศาสนิกชนด้วย ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/343860
|
|
|
13103
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ม.ขอนแก่น เชิญร่วมบุญ ทักษิณานุประทานสตมวาร 100 วัน 'หลวงพ่อคูณ'
|
เมื่อ: สิงหาคม 25, 2015, 07:15:52 pm
|
มข.เชิญร่วมบุญ ทักษิณานุประทานสตมวาร 100 วัน 'หลวงพ่อคูณ' คณะแพทย์ศาสตร์ ม.ขอนแก่น เตรียมทำบุญ 100 วัน ‘หลวงพ่อคูณ’ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทานสตมวาร ในวันที่ 29-30 ส.ค.นี้ เผยจัดเตรียมทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว กำหนดจุดจอดรถรับ-ส่ง 5 จุด คาดคนทะลักร่วมบุญกว่า 3 หมื่นคน...
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ส.ค. 58 ที่ห้องประชุมชั้น 5 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วย รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล ประชุมคณะผู้บริหารโรงพยาบาลศรีนครินทร์ และคณะแพทยศาสตร์ เพื่อตรวจสอบความพร้อมและการเตรียมการจัดพิธีบำเพ็ญทักษิณานุประทานสตมวาร 100 วัน พระเทพวิยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า มข.และคณะแพทยศาสตร์ กำหนดจัดการประกอบพิธีดังกล่าวขึ้นที่ ห้องประชุมมิตรภาพ อาคารเรียนรวม ชั้น 3 คณะแพทยศาสตร์ มข. โดยพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทานสตมวาร 100 วัน เพื่อถวายแด่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ นั้น จะจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 29-30 ส.ค. กำหนดใช้สถานที่ภายในห้องประชุมมิตรภาพ อาคารเรียนรวมชั้น 3 ของคณะแพทยศาสตร์เป็นสถานที่ในการประกอบพิธีทั้งหมด โดยบริเวณปะรำพิธีกลางด้านบนเวที จะมีการนำภาพของหลวงพ่อคูณ และรูปปั้นมาจัดวางไว้พร้อมทั้งเครื่องบูชาต่างๆ รวมทั้งการถ่ายทอดสัญญาณอ่างดองสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ จากชั้น 7 ลงมาบริเวณงานตลอดทั้งช่วงของการประกอบพิธี
นอกจากนี้ ยังคงโยงสายสิญจน์จากอาคารเรียนรวมชั้น 7 สถานที่ของการเก็บสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ ในช่วงของการดองสรีระสังขารตามขั้นตอนของการเป็นครูใหญ่ มายังจุดที่ประกอบพิธีกรรม และโดยรอบของสถานที่จัดพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อให้พุทธศาสนิกชนและญาติธรรมที่เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ ได้ร่วมอนุโมทนา ตั้งจิตอธิษฐานตลอดทั้งช่วงของพิธีกรรมทางศาสนาโดยวันที่ 29 ส.ค. จะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.30 น. ส่วนวันที่ 30 ส.ค. จะเริ่มพิธีตั้งแต่เวลา 09.45 น.อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น แถลงเตรียมจัดพิธีบำเพ็ญทักษิณานุประทานสตมวาร 100 วัน หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ด้าน รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. กล่าวว่า การประกอบพิธีตลอดทั้ง 2 วันนั้น มีการจัดเตรียมสถานที่ออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย อาคารเรียนรวม เป็นสถานที่หลักของการจัดพิธีบำเพ็ญกุศล สถานที่สำหรับการจัดทำโรงทานของญาติธรรม และสถานที่จอดรถที่สามารถรองรับรถยนต์ของญาติโยมได้มากกว่า 1,000 คัน ซึ่งจากการประมาณการ คาดว่าตลอดทั้ง 2 วันของการจัดพิธีจะมีผู้มาร่วมอนุโทนาบุญและร่วมในการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลไม่น้อยกว่า 30,000 คน การจัดเตรียมสถานที่ และป้ายบอกเส้นทางขณะนี้พร้อมแล้วทั้งหมด
ขณะเดียวกัน คณะศิษยานุศิษย์จาก วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ก็จะเดินทางมาร่วมในการประกอบพิธีทางศาสนา ตามวันและเวลาดังกล่าวด้วย รวมทั้งพระภิกษุ สามเณรที่ได้มีการบรรพชาเพื่ออุทิศส่วนกุศลถวายแด่หลวงพ่อคูณ ก็จะเดินทางมาร่วมในการถวายภัตตาหารเพลและถวายผ้าอาบน้ำฝนเนื่องในวันเข้าพรรษา แด่หลวงพ่อคูณด้วยเช่นกัน
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการจะร่วมจัดทำโรงทาน หรือการร่วมเป็นเจ้าภาพในงานบุญครั้งนี้สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดต่างๆ กับฝ่ายเลขานุการฯ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 4336 3173 ในวันและเวลาราชการ นอกจากนี้ทางคณะแพทยศาสตร์ฯ ยังได้จัดเตรียมรถรับ-ส่ง ให้กับญาติธรรมที่จะเดินทางมาร่วมในงานตามวันและเวลาดังกล่าวไว้ทั้งหมด 5 จุด โดยเฉพาะจุดจอดรถหลักที่อุทยานเทคโนโลยีเกษตร และลานจอดรถหนองแวง 1 และ 2 ที่ได้เตรียมรถบัสไว้สำหรับการรับส่งญาติธรรม ตลอดทั้งช่วงพิธีกรรมเช่นกัน.ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/520678
|
|
|
13105
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / โบสถ์วัดดังเมืองนนท์ถล่ม ทับร่างคนงานเคราะห์ร้าย ดับ 1
|
เมื่อ: สิงหาคม 25, 2015, 07:09:27 pm
|
โบสถ์วัดดังเมืองนนท์ถล่ม ทับร่างคนงานเคราะห์ร้าย ดับ 1 โบสถ์วัดดังเมืองนนท์โบสถ์วัดต้นเชือก ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เกิดถล่ม ขณะกำลังดีดตัวอาคาร คนงานถูกทับเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บเล็กน้อยอีก 1 รายจนท.เร่งตรวจสอบ...
เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วันที่ 25 ส.ค. 58 พ.ต.ต.สัญญา อุทุมพร สว.สส.สภ.บางแม่นาง เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่า รับแจ้งมีเหตุโบสถ์พังถล่มทับคนงานเสียชีวิต เหตุเกิดภายในวัดต้นเชือก ต.บ้านใหม่ จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวร และเจ้าหน้าที่กู้ภัย
ในที่เกิดเหตุพบว่า พระอุโบสถซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างได้พังถล่ม ทับร่างของคนงาน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างช่วยนำศพถูกที่ทับอยู่ใต้ซากปูนออกมา ทราบชื่อคือ นายณัฐวุธ สุวรรณชัยรบ อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี ตรวจสอบพบมีคนงานชายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาล
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุที่วัดดังกล่าวกำลังทำการดีดโบสถ์ คนงานทั้ง 9 คน ซึ่งเป็นช่างปูนทำงานอยู่รอบบริเวณ แต่ปรากฏว่าระหว่างนั้นหลังคาเกิดการยุบตัว ทำให้โบสถ์พังถล่มลงมาทับร่างคนงานเคราะห์ร้ายจนเสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
สำหรับวัดต้นเชือก สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2324 แต่เพิ่งจะมาเจริญรุ่งเรืองประมาณ พ.ศ. 2490 มีหลวงพ่อวิหาร พระประธานในวิหาร ซึ่งสร้างในสมัยอยุธยาเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านนับถือสักการะกันเป็นประจำ และอยู่ในระหว่างบูรณะศาสนสถาน แต่มาเกิดเหตุสลดดังกล่าวล่่าลุด ผู้สุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชมน์ชื่น บุญญานุสาสน์ ผวจ.นนทบุรี ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่เพื่อตรวจโบสถ์ที่เกิดเหตุ พบบริเวณหลังคายุบตัวลงมาด้านล่าง และจากการดูสัญญาว่าจ้าง พบว่าผู้ว่าจ้างคือนายมานิตย์ บุญเขียว อายุ 50 ปี กรรมการวัดต้นเชือก ส่วนผู้รับจ้างชื่อนายฤรงค์ฤทธิ์ หลักทอง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 ม. 2 ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ทำการยกหรือดีดโบสถ์วัดต้นเชือก ในราคา3,200,00 บาท ตั้งแต่ว้ันที่27 พ.ย.57 กำหนดแล้วเสร็จ วันที่ 30 ส.ค. 58 รวมเวลา 240 วัน
แต่วันนี้ ขณะที่คนงานกำลังทำงานอยู่ที่บริเวณโบสถ์ ปรากฏว่าหลังคาได้ทรุดลงมา คนงานหนีออกมาได้ 8 คน ส่วนคนตายหนีออมาไม่ทัน จึงถูกซากโบสถ์ทับจนเสียชีวิต ส่วนผู้บาดเจ็บชื่อนายวีรพล แก้วลืมไพร อายุ 43 ปี ศีรษะแตก ถูกนำส่งรพ.บางใหญ่.ถล่ม ทับร่างคนงานเคราะห์ร้าย ดับ 1ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/520736
|
|
|
13106
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / แฮกเกอร์ป่วนเว็บไซต์ สพป.4 อุบลฯแพร่เนื้อหาสู้รบ สังหารคนบริสุทธิ์
|
เมื่อ: สิงหาคม 24, 2015, 09:58:52 pm
|
แฮกเกอร์ป่วนเว็บไซต์ สพป.4 อุบลฯแพร่เนื้อหาสู้รบ สังหารคนบริสุทธิ์ อุบลราชธานี - มือดีแฮกข้อมูลเว็บไซต์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 4 อุบลราชธานี เผยเปิดเว็บไซต์กลายเป็นเว็บของกลุ่มไอเอสให้รายละเอียดการสู้รบและสังหารผู้บริสุทธิ์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไอซีทีแก้ไขให้ใช้งานได้ แต่ยังไม่ 100% ขณะที่เว็บไซต์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีซึ่งตกเป็นเป้าหมายด้วยแต่ไม่ได้รับผลกระทบ เหตุเตรียมป้องกันล่วงหน้า วันนี้ (24 ส.ค.) รายงานข่าวจากจังหวัดอุบลราชธานีแจ้งว่ามีแฮกเกอร์เข้าเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 4 อุบลราชธานี เมื่อเปิดเข้าไปแทนจะเป็นหน้าเว็บปกติที่มีการเขียนเป็นภาษาไทย ขึ้นภาพและรายงานข้อมูลงานประชาสัมพันธ์ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 4 อุบลราชธานี แต่กลับเขียนเป็นภาษาอารบิกและอังกฤษ มีภาพการสู้รบและการสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เป็นตัวประกันของกลุ่มนักรบไอเอสในตะวันออกกลางแทน สำหรับจุดประสงค์ที่คนร้ายทำการแฮกเกอร์เปลี่ยนแปลงข้อมูลครั้งนี้ ยังไม่ทราบจุดประสงค์ที่ชัดเจน นายชัยวัฒน์ ผูกมั่น เจ้าหน้าที่ไอซีที สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 4 อุบลราชธานี กล่าวว่า ตรวจพบเว็บไซต์ของสำนักงานเขตถูกแฮกเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา จึงพยายามแก้ไขให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ เบื้องต้นผู้ที่เข้าใช้บริการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ต้องพิมพ์ข้อมูลเพิ่มจากปกติ http://www.ubn4.go.th เป็นสแลชเมน(/main) ต่อท้ายก็สามารถเข้าได้ตามปกติ การแก้ไขให้เว็บไซต์กลับมาเป็นปกติคาดอาจต้องใช้เวลานานเป็นสัปดาห์ ด้าน ผศ.ดร.มงคล ปุษยตานนท์ ผู้อำนวยการสำนักคอมพิวเตอร์และเครือข่ายมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวว่า มีข่าวเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีตกเป็นเป้าหมายอาจถูกแฮกเกอร์สร้างความปั่นป่วนมาตั้งแต่ปลายเดือนที่ผ่านมาจึงได้เตรียมป้องกันระบบไม่ให้ถูกแฮกเกอร์เข้ามาทำความเสียหายกับเว็บไซต์ ขณะนี้เว็บไซต์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานียังทำงานเป็นปกติ ทั้งฐานข้อมูลและทะเบียนของนักศึกษายังสามารถใช้การได้ จึงขอแจ้งประชาสัมพันธ์ถึงนักศึกษาและประชาชนทั่วไปยังคงเข้าไปใช้บริการผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยได้ตากปกติเช่นเดิม ขอบคุณภาพข่าวจาก http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000096046
|
|
|
13108
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 28วัดกทม.ติดป้ายคัดค้านกรมศิลป์รื้อถอนศาลารายวัดกัลยาณมิตร
|
เมื่อ: สิงหาคม 24, 2015, 09:46:05 pm
|
28 วัด กทม. ติดป้ายคัดค้าน กรมศิลป์รื้อถอนศาลารายวัดกัลยาณมิตร นายประกิจ ประชาศรัทธาชาติ ผู้ประสานงานองค์กรเครือข่ายชาวพุทธแห่งประเทศไทย (อพท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้วัด 28 แห่งในกรุงเทพฯ ที่ขึ้นทะเบียนโบราณสถานกับกรมศิลปากร สมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) ที่วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร รวมถึงหน่วยงานเจ้าคณะพระสังฆาธิการในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ได้ขึ้นป้ายผ้าข้อความต่างๆ เพื่อเตือนสติสังคมให้หันหน้ามาพูดคุยกัน
ภายหลังจากที่นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร นำช่างไปรื้อถอนศาลาราย 2 หลังภายในวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ภายหลังจากวัดทุบทำลายโบราณสถานอายุกว่า 100 ปีภายในวัด 22 รายการ ชาวพุทธก็ได้เริ่มทำป้ายผ้าดังกล่าว 300-400 ชุด แต่ยืนยันว่าที่ทำป้ายไม่ได้เป็นการกล่าวโทษอธิบดีกรมศิลปากร แต่อยากให้สังคมมีสติและหันมาพูดคุยกัน "ไม่อยากให้ใช้แค่หลักกฎหมาย แต่อยากให้ใช้หลักรัฐศาสตร์ด้วย ซึ่งเมื่อมีการสร้างสิ่งก่อสร้างมาทดแทนของเก่าที่เก่าทรุดโทรมแล้วจะมีวิธีการไหนที่จะทำให้สิ่งที่สร้างมาแล้วทำให้ถูกต้องโดยไม่ต้องทุบทำลายบ้างอยากให้หันมาแก้ไขและเยียวยาร่วมกัน"
ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1440307955
|
|
|
13110
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ศิษยานุศิษย์เรือนหมื่น แห่ทำบุญครบ 100 วัน 'หลวงพ่อคูณ'
|
เมื่อ: สิงหาคม 24, 2015, 09:35:19 pm
|
ศิษยานุศิษย์เรือนหมื่น แห่ทำบุญครบ 100 วัน 'หลวงพ่อคูณ' ศิษยานุศิษย์แห่ทำบุญบำเพ็ญกุศลครบ 100 วัน "หลวงพ่อคูณ" นับหมื่นคน เจ้าคณะภาค 7 วัดปทุมคงคา เป็น ปธ.ฝ่ายสงฆ์ ขณะน้องสาวดีใจ เห็นคนร่วมงานจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 58 ที่ศาลาการเปรียญวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมานอ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้มีการจัดพิธีแสดงมุทิตา การทำบุญทักษิณานุประทาน แสดงความอาลัยแด่พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 และอดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ในโอกาสครบ 100 วัน การมรณภาพ โดยมี พระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ญาณวีโร ป.ธ.7) เจ้าคณะภาค 7 วัดปทุมคงคา กรุงเทพมหานคร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาสพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ญาณวีโร ป.ธ.7) เจ้าคณะภาค 7 วัดปทุมคงคา กรุงเทพมหานคร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ทั้งนี้ มีพระเถระชั้นผู้ใหญ่มาร่วมงาน อาทิ พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา พระเทพปริยัติเมธี เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ พระราชสีมาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา พระราชปริยัติวิธาน รองเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ หลวงปู่ฤๅษีเกตุแก้ว จาก จ.บึงกาฬ พระศรีปริยัติวิสุทธิ์ เจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล เจ้าอาวาสวัด พระสงฆ์สามเณร กว่า 400 รูป รวมถึงผู้มีชื่อเสียง เช่น นายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมา นายวินัย วิทยานุกูล รอง ผวจ.นครราชสีมา ร.ท.วสันต์ สุขสมบูรณ์ นอภ.ด่านขุนทด อีกทั้งอดีตนักการเมือง อาทิ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ นายจำลอง ครุฑขุนทด นายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายวัชรพล โตมรศักดิ์ พร้อมด้วยข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักการเมืองท้องถิ่น ผู้นำชุมชน พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ร่วมหมื่นคน เข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่งศิษยานุศิษย์แห่ทำบุญบำเพ็ญกุศลครบ 100 วัน "หลวงพ่อคูณ" นับหมื่นคน ขณะที่ นางคำมั่น วงศ์กาญจนรัตน์ น้องสาวที่เหลือเพียงคนเดียวของ หลวงพ่อคูณ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่เห็นคณะศิษยานุศิษย์เดินทางมาร่วมในพิธีครั้งนี้เป็นจำนวนมาก มีทั้งในและต่างประเทศที่ให้ความเคารพหลวงพ่อคูณ ซึ่ง นางคำมั่น เผยอีกว่า คงจะเดินทางมาร่วมในพิธีได้แค่นี้ เพราะอายุมากแล้ว ส่วนที่ จ.ขอนแก่น ที่จะมีสามเณรบวชใหม่ 152 รูป และชาวบ้านไร่เหมารถบัสไปร่วมพิธีวันที่ 25 ส.ค. นี้ จะให้ลูกหลานไปร่วมในพิธีขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/520490
|
|
|
13113
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / "พระธาตุ" วัดเสนาสน์ ไม่ไหม้ไฟแถมเพิ่มขึ้น!
|
เมื่อ: สิงหาคม 24, 2015, 09:22:45 pm
|
"พระธาตุ" วัดเสนาสน์ ไม่ไหม้ไฟแถมเพิ่มขึ้น! ชาวบ้านเมืองสองแคว ต่างดีใจแห่กราบไหว้ "พระธาตุ" วัดเสนาสน์ หลังพบว่าไม่ถูกไฟไหม้ ตามบุษบกไม้สักทองที่บรรจุ กลับเพิ่มขึ้นเป็น 42 องค์ ในกองเถ้าถ่าน
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบ ที่วัดเสนาสน์ หมู่ 1 ต.ท่างาม อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจาก นายอาทิตย์ สุขแจ่ม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ว่า หลังจากที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ภายในมณฑปพระบรมสารีริกธาตุ จนลุกลามไหม้บุษบกที่ทำด้วยไม้สักทอง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 39 องค์ ที่อันเชิญมาจากประเทศอินเดีย อายุเก่าแก่กว่า 1,120 ปี และภาพวาดจิตรกรรมเพดาน ฝาพนัง ที่เพิ่งบูรณะซ่อมแซม ได้รับความเสียหายไปเมื่อวานนี้ ( 23 ส.ค.) นั้น ทางคณะกรรมการวัด และชาวบ้านในพื้นที่ ได้ร่วมกันตรวจสอบบริเวณดังกล่าว แล้วพบว่า พระบรมสารีริกธาตุทั้ง 39 องค์ ยังอยู่รวมกันเป็นกลุ่มปะปน รวมกับกองขี้เถ้า และไม่ถูกเปลวไฟลุกไหม้เสียหายแต่อย่างใด มีเพียงสีของพระธาตุ ที่เปลี่ยนจากสีขาวขุ่นเป็นสีดำเข้ม และเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจ เมื่อมีพระธาตุเพิ่มขึ้นมาอีก 3 องค์ รวมเป็น 42 องค์ ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างดีใจแห่มากราบไหว้ นายอาทิตย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ทางคณะกรรมการวัดยังได้นำไหบรรจุวัตถุมงคล และพระเครื่องรุ่นต่างๆ จำนวน 6 ไห ที่ทางวัดเคยบรรจุไว้ใต้ฐานบุษบก ที่ถูกไฟไหม้ไปเก็บรักษาไว้ภายในโบสถ์ เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาขโมย ซึ่งทางวัดยังไม่ได้เปิดให้ประชาชนเช่าบูชา โดยอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือ ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ก่อน เพราะคาดว่าน่าจะต้องใช้เงินในการบูรณะซ่อมแซมมณฑปไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท
ด้านพระสมศักดิ์ กตสาโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดเสนาสน์ เปิดเผยว่า พระบรมสารีริกธาตุที่พบทั้งหมด 42 องค์ ในกองเถ้าถ่านนั้น ค่อยๆ กลับกลายจากสีดำเป็นสีขาวขุ่นอย่างน่าอัศจรรย์ โดยทางวัดจะได้ทำพิธีขอขมา พระบรมสารีริกธาตุ เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจ ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ทางวัดได้นำพระบรมสารีริกธาตุ ไปเก็บรักษาไว้ที่หอพระธาตุหลังเก่า พร้อมเก็บไว้ในตู้นิรภัยโบราณ อย่างแน่นหนาอย่างดี ถ้าหากถึงวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ของทุกๆ ปี ทางวัดจะนำออกมาให้ประชาชนได้สรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลอีกครั้งหนึ่ง.. ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/regional/343778
|
|
|
13114
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / มส. เลื่อนสวดมนต์ แยกราชประสงค์ ยันไม่ยกเลิก
|
เมื่อ: สิงหาคม 24, 2015, 11:41:10 am
|
มส. เลื่อนสวดมนต์ แยกราชประสงค์ ยันไม่ยกเลิก โฆษกมหาเถรสมาคม แจงเลื่อนสวดมนต์ แยกราชประสงค์ 24 ส.ค. ระบุ ผบ.ตร. หวั่นดูแลความปลอดภัยไม่ทั่วถึง ยันไม่ยกเลิก จัดขึ้นเมื่อใดจะแจ้งให้ทราบ ...
จากกรณีที่ มหาเถรสมาคม (มส.) ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กรมการศาสนา (ศน.) และมูลนิธิไทยพึ่งไทย จะมีการจัดงาน “รวมพลังคนไทย รวมหัวใจเพื่อประเทศไทย” โดยจะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตภาวนา อุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์ และสร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชนชาวไทย โดยงานนี้ จะจัดขึ้นบริเวณหน้า อัมรินทร์พลาซ่า และบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ ตั้งแต่เวลา 17.30 น. ในวันที่ 24 ส.ค.นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ในฐานะกรรมการและโฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้เข้ากราบนมัสการสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ขอให้เลื่อนการจัดงานไปก่อน เนื่องจากเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัย เกรงจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง เพราะคาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการหารือกับคณะผู้จัดงานและเห็นตรงกัน จะเลื่อนการจัดงานออกไปก่อน แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการยกเลิก ส่วนจะจัดขึ้นเมื่อใดนั้นจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง.ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/520359
|
|
|
13115
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / มือมืดอ้างตัวเป็นแฮกเกอร์มุสลิม แฮกเว็บจังหวัดลำพูน ต้องสั่งปิดตั้งแต่ตี 3
|
เมื่อ: สิงหาคม 24, 2015, 10:08:17 am
|
เว็บไซต์จังหวัดลำพูนยังไม่สามารถเข้าชมได้ มือมืดอ้างตัวเป็นแฮกเกอร์มุสลิม แฮกเว็บจังหวัดลำพูน ต้องสั่งปิดตั้งแต่ตี 3 ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เมืองเจ้าแม่จามเทวีสั่งปิดเว็บไซต์จังหวัดกะทันหันตั้งแต่ตี 3 เป็นต้นมาจนถึงขณะนี้ หลังถูกมือมืดแฮกกลางดึก สะพัดคนลงมืออ้างตัวเป็นแฮกเกอร์มุสลิม โพสต์ภาพโรฮิงญาถูกทารุณหรา พร้อมคำขู่ วันนี้ (24 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.เศษที่ผ่านมา นายณรงค์ อ่อนสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ต้องสั่งให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปิดระบบเว็บไซต์ http://www.lamphun.go.th ทั้งหมดจนถึงขณะนี้ หลังจากถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีแฮกเว็บไซต์ของจังหวัด เบื้องต้นมีรายงานว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ลงมือแฮกเว็บไซต์ของจังหวัดลำพูนครั้งนี้ อ้างว่าเป็นกลุ่มมุสลิม ที่ชื่อว่า Fallag Gassrini จากตูนิเซีย โดยมีการโพสต์ภาพชาวโรฮิงญา ที่ถูกกระทำโดยรัฐบาลพม่า, ภาพชาวโรฮิงญาที่พยายามจะหนีมาทางเรือ เเละเด็กชาวมุสลิมที่โดนระเบิด พร้อมข้อความว่า “เพจคุณถูกเเฮ็คหน่วยรบ Cyber Fallag Gassrini เเละ DR Lamochi จากตูนิเซีย, ให้เกียรติคนของเรา ไม่งั้นจะเจอการต่อต้านจากเรา, พวกเราคือ Fallaga พวกเราคือชาวมุสลิม, พวกเรารักสันติ” ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า นอกจากเว็บไซต์ของจังหวัดลำพูนแล้ว ยังมีเว็บไซต์ของหน่วยราชการอีกหลายจังหวัด เช่น เว็บไซต์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เว็บไซต์โรงพยาบาลลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เว็บไซต์จังหวัดตาก เว็บไซต์สิงห์บุรี และเว็บไซต์จังหวัดสระแก้ว เป็นต้น ที่ถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีลงมือแฮกในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ขอบคุณภาพข่าวจาก http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000095762
|
|
|
13116
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ไม่สนอาถรรพ์! มอดไม้ลำปางตัดเหี้ยนไม่เว้น “ตะเคียนทอง 200 ปี” กลางป่าฯ แม่งาว
|
เมื่อ: สิงหาคม 24, 2015, 10:04:25 am
|
ไม่สนอาถรรพ์! มอดไม้ลำปางตัดเหี้ยนไม่เว้น “ตะเคียนทอง 200 ปี” กลางป่าฯ แม่งาว ลำปาง - มอดไม้ลำปางไม่สนอาถรรพ์ โค่น “ตะเคียนทอง 200 ปี” กลางป่าสงวนฯ แม่งาวฝั่งขวา พร้อมแปรรูปเสร็จสรรพ คาดมีออเดอร์จากนายทุนนอกพื้นที่ วันนี้ (24 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ สายที่ 1 สำนักจัดการฯ ที่ 3 (ลำปาง), หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.28 บ้านทาน, ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษภูธรจังหวัดลำปาง, ตำรวจ กก.4 บก.ปทส., เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปทส.ภ.5, กก.ตชด.33 เชียงใหม่, กอ.รมน.ลำปาง ได้เข้าตรวจวัดและตรวจสอบไม้ตะเคียนทองที่แปรรูปเป็นแผ่นหลี่ยม ขนาดเส้นรอบวง 80 เซนติเมตร หนา 20 เซนติเมตร ยาว 3.50 เมตร รวม 12 แผ่น/เหลี่ยม ที่บริเวณสำนักงานหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.28 (บ้านทาน) ต.จางเหนือ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เพื่อหาทางขยายผลติดตามจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป หลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง จ.แพร่ พร้อมด้วยกำลังป่าไม้ จ.ลำปาง ออกลาดตระเวนปกป้องผืนป่าในพื้นที่เขตรอยต่อ จ.แพร่-ลำปาง จนกระทั่งเข้ามาในป่าห้วยน้ำขุ่น เขตป่าสงวนแห่งชาติแม่งาว ฝั่งขวา บ้านทาน หมู่ 4 ต.จางเหนือ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ก็พบว่ามีการลักลอบแปรรูปไม้ตะเคียนทองไว้กลางป่า จึงเฝ้าคอยกลุ่มมอดไม้จะมาลักลอบขนย้ายนานกว่า 2 วันแต่ก็ไม่พบการเคลื่อนไหว จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ เพื่อสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นได้แจ้งดำเนินคดีว่าด้วยการกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 ข้อหา “มีไม้กระยาเลยแปรรูปไว้ในครอบครองปริมาณเกิน 0.02 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีความผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ข้อหา “ทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต” สำหรับไม้ตะเคียนทองที่ถูกตัดนี้คาดว่าจะมีอายุมากกว่าสองร้อยปี และน่าจะมีออเดอร์มาจากนอกพื้นที่เพื่อนำไปตกแต่งหรือทำอย่างอื่น เนื่องจากปกติชาวบ้านทั่วไปจะไม่นิยมนำไม้ตะเคียนทองมาสร้างบ้านอยู่อาศัยเพราะหวั่นเกรงอาถรรพ์ที่จะเกิดขึ้น ขอบคุณภาพข่าวจาก http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000095767
|
|
|
13117
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พระ-เณรเชียงใหม่สอบเปรียญธรรม 1-8 ผ่าน 170 รูป แต่ปีนี้ไม่มีเปรียญ 9
|
เมื่อ: สิงหาคม 24, 2015, 10:01:51 am
|
พระ-เณรเชียงใหม่สอบเปรียญธรรม 1-8 ผ่าน 170 รูป แต่ปีนี้ไม่มีเปรียญ 9 เชียงใหม่ - พระภิกษุ สามเณรเชียงใหม่สอบผ่านได้เปรียญธรรม 1- 8 ได้มากถึง 170 รูป แต่ไม่มีรูปใดสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค พระวิสุทธิวงศาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ สัมโมทนียกถาย้ำ “ภาษาบาลี เป็นกุญแจเปิดตู้พระไตรปิฎก” วันนี้ (24 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พระวิหารหลวง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก อ.เมืองเชียงใหม่ พระวิสุทธิวงศาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร กรรมการมหาเถรสมาคม ได้เป็นประธานมอบทุนการศึกษาแก่พระภิกษุ สามเณรในจังหวัดเชียงใหม่ ที่สอบผ่านเปรียญธรรม เป็นเงินกว่า 5 แสนบาท โดยปีนี้มีพระภิกษุ สามเณร สอบผ่านภาษาบาลี หรือเปรียญธรรม 1-8 จำนวน 170 รูป ในจำนวนนี้สอบผ่านเปรียญธรรม 8 เพียง 6 รูป, เปรียญธรรม 7 สอบได้จำนวน 5 รูป, เปรียญธรรม 6 สอบผ่านจำนวน 11 รูป, เปรียญธรรม 5 สอบได้จำนวน 15 รูป, เปรียญธรรม 4 สอบผ่าน 16 รูป, เปรียญธรรม 1-3 อีกจำนวน 117 รูป แต่ไม่มีรูปใดสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ขณะที่มีแม่ชีสอบผ่านบาลีศึกษาจำนวน 10 รูป ทั้งนี้ เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ 88 พรรษา และเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสเจริญพระชนมพรรษา 83 พรรษา พระวิสุทธิวงศาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ กล่าวสัมโมทนียกถาว่า ภาษาบาลีเป็นภาษาที่ใช้จารึกพระพุทธพจน์ คือหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลักธรรมคำสอนทั้งมวลจึงถูกบันทึกไว้ด้วยภาษาบาลี การนำหลักคำสอนมาใช้ประโยชน์ได้จึงต้องผ่านบุคคลที่มีความรู้ในภาษาบาลีอย่างแตกฉาน หากไม่เข้าใจภาษาบาลีแล้ว หลักพุทธธรรม แม้จะมีคุณค่าสามารถสร้างประโยชน์สุขแก่ชาวโลกได้ก็จริง แต่ก็ยากที่จะนำมาใช้ประโยชน์ตามพุทธปณิธานได้ “ภาษาบาลีจึงเป็นเหมือนวิธีการค้นหารหัส หรือกุญแจเปิดตู้พระไตรปิฎก เพื่อจะได้นำคำสอน อันล้ำค่า มาชี้แจงแก่ชาวโลก และนำไปปฏิบัติจนเกิดผลแก่ตนเองและสังคม จึงนับว่าภาษาบาลีเป็นความมั่นคงของพระพุทธศาสนา จึงต้องมีการศึกษาแผนกนี้” ขอบคุณภาพข่าวจาก http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000095773
|
|
|
13119
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / คนหลายพัน สุดทึ่ง! แห่ทำพิธีไหว้ครู "ของขึ้น" ที่ปทุมฯ
|
เมื่อ: สิงหาคม 24, 2015, 09:28:25 am
|
คนหลายพัน สุดทึ่ง! แห่ทำพิธีไหว้ครู "ของขึ้น" ที่ปทุมฯ คนหลายพัน เชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ แห่ร่วมพิธีไหว้ครู"วัดสุทธาวาส"ปทุมธานี ของขึ้น จำนวนมาก จนพระสงฆ์ต้องนำน้ำมนต์มาปะพรมสร้างความแตกตื่นให้ผู้มาร่วมงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 23 ส.ค. 58 ที่วัดสุทธาวาส ตั้งอยู่เลขที่ 56 หมู่ 4 ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี พระครูสุทธาภิรมณ์ (พระอาจารย์สุนทร ฐานวโร) เจ้าอาวาสวัดสุทธาวาส ได้มีการจัดงานพิธีไหว้ครู ครอบเศียรบรมครู ประจำปี2558 พร้อมกับทำพิธีเป่าพระยันต์มหาโสฬสมงคล ตามตำราหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง เป่ายันต์เกาะเพชร และพุทธาภิเษก พระมเหศวร รุ่น“มหาเพชรกลับ” และจัดสร้าง“พระชัยวัฒน์อะระหัง”มอบเป็นที่ระลึกให้แก่ผู้มาร่วมงานฟรี โดยมีประชาชนและบรรดาศิษย์ยานุศิษย์ มาร่วมงานจำนวนหลายพันคน เพื่อความเป็นมหาสิริมงคลแก่ชีวิตประชาชนจำนวนมาก แห่ร่วมพิธีไหว้ครู"วัดสุทธาวาส"ปทุมธานี พระสงฆ์ ที่ทำพิธีที่วัด โดยหลังจากที่ในช่วงเช้า ได้มีพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพิธีเททองหล่อหลวงพ่อเสริม หลวงพ่อสุข หลวงพ่อใส แล้ว พระสงฆ์ทรงสมณะศักดิ์เจริญพระพุทธมนต์ และพระอาจารย์สุนทร นั่งอธิฐานจิต จากนั้นในช่วงบ่าย ก็เริ่มเข้าพิธีสวดเป่ายันต์ โดยพระอาจารย์สุนทร ฯ เป็นผู้ทำพิธี และในขณะที่ทำพิธีท่องพระคาถา ปรากฏว่า ผู้ที่เข้าร่วมพิธีทั้งชายและหญิงจำนวนมาก ต่างมีองค์ได้แสดงอาการออกมา ตามที่เชื่อกันว่า “ของขึ้น” จำนวนมาก สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้ที่มาร่วมงานครั้งแรก ทำให้พระอาจารย์ที่มานั่งอธิฐานจิตต้องนำน้ำมนต์มาปะพรม จนทุกคนที่ของขึ้นสงบเป็นเป็นปกติ จากนั้น ก็ได้มอบวัตถุมงคลให้กับผู้ร่วมงานทุกคนขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/520289
|
|
|
13120
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พระตัดไม้พะยูง ร้องขอเป็นธรรม ถูกจับเข้าคุก ตร. ยันทำตามหน้าที่
|
เมื่อ: สิงหาคม 24, 2015, 09:24:31 am
|
พระตัดไม้พะยูง ร้องขอเป็นธรรม ถูกจับเข้าคุก ตร. ยันทำตามหน้าที่ พระวัดถ้ำพระคำเม็ก ร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกคุมตัวเข้าซังเต เหตุตัดโค่นไม้พะยูงในวัด ด้าน ตร. ยันทำตามหน้าที่ ไม่มีกลั่นแกล้ง เพราะมีผู้แจ้งความ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 ส.ค. 58 พระกมล กะมะโร หรือ นายกมล อายุ 35 ปี พระลูกวัด วัดถ้ำพระคำเม็ก บ้านพระพุทธบาท ม.11 ต.นาคำ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ได้เขียนหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน จากห้องขัง สภ.อุบลรัตน์ โดยขอให้ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ ภายหลังเมื่อวันที่ 21 ส.ค. มีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายประชุมหารือเรื่องการออกโฉนดที่ดินของวัดถ้ำพระคำเม็ก และมาสำรวจภายในวัด
จากนั้นเช้าวันที่ 22 ส.ค. เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้ามาวัด และขนไม้พะยูง ตัดไม้พะยูงที่ล้มอยู่ภายในวัดขึ้นรถ และแจ้งตำรวจ สภ.อุบลรัตน์ ให้มาจับ โดยแจ้งข้อหาว่ามีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครอง ซึ่งได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ไม้อยู่ในเขตวัดแต่หักทับทางเดินของพระสงฆ์ มีการโค่นล้มเมื่อเดือนพฤษภาคม จำนวน 1 ต้น เดือนกรกฎาคม 1 ต้น ขวางทางเดินในวัด จึงได้ตัดเป็นท่อนและกองไว้ในวัด แต่ไม่มีใครฟัง เมื่อถึงโรงพักยังถูกบังคับให้ถอดจีวร แล้วให้สวมชุดธรรมดา ก่อนคุมตัวเข้าห้องขังพระกมล กะมะโร พระลูกวัด วัดถ้ำพระคำเม็ก ถูกร้องเรียนตัดไม้พะยูง ถูกตร.จับ ตร.ยันทำตามหน้าที่ ทั้งนี้ เมื่อสอบถามไปยัง พ.ต.ท.รุ่งศักดิ์ จงกลรัตน์ รอง ผกก.สส.สภ.อุบลรัตน์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนทำตามหน้าที่ เมื่อมีผู้เสียหายแจ้งความ ก็ต้องควบคุมผู้ต้องหาไว้ และหากมีความผิดตามกฎหมาย ก็ต้องควบคุมตัวไว้ในห้องขังเพื่อทำการสอบสวน ก่อนนำตัวส่งฟ้องศาลตามขั้นตอนของกฎหมาย ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามหน้าที่ และให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ไม่มีกลั่นแกล้ง มีพยานหลักฐานไปว่ากันที่ศาล หากจะขอความเป็นธรรม ก็ไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมได้ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/520262
|
|
|
|