ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: “วัดปากน้ำ” ปัดโทรเคลียร์ “พุทธอิสระ”  (อ่าน 602 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
“วัดปากน้ำ” ปัดโทรเคลียร์ “พุทธอิสระ”
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 09:26:56 am »
0


“วัดปากน้ำ” ปัดโทรเคลียร์ “พุทธอิสระ”

"พระพรหมโมลี" เผย ไม่มีใครโทรหาพุทธอิสระให้ยุติเคลื่อนไหวแลกตำแหน่ง ด้าน องค์กรสงฆ์รุ่นใหม่ ออกแถลงการณ์ผ่านโซเชียล ให้คณะกรรมการปฎิรูปฯยุติการคุกคามพระพุทธศาสนา พร้อมคืนความสุขสู่พระศาสนาอย่างแท้จริง

จากกรณีพระพุทธอิสระ ออกมาแฉว่า ทางวัดปากน้ำ ภาษีเจริญให้คนโทรมาเสนอ “ตำแหน่ง” พร้อมทั้งพระพุทธอิสระจะไปยื่นหนังสือต่อรัฐบาล และสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) เพื่อให้ตรวจสอบทรัพย์สินของกรรมการมหาเถรสมาคม(มส.)ทั้งหมด รวมถึงตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่ง เนื่องจากทราบว่าใช้งบประมาณในปีหนึ่งๆดูงานต่างประเทศหลายสิบล้านบาท นั้น


 :96: :96: :96: :96:

วันนี้(23 ก.พ.) พระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรรมการ มส. กล่าวว่า ขอยืนยันว่าไม่มีใครจากวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ โทรหาพระพุทธอิสระ โดยเฉพาะการเสนอตำแหน่งให้มีการหยุดเคลื่อนไหว ซึ่งทางวัดปากน้ำ ขอปฏิเสธว่า ไม่มีการทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน ในขณะเดียวกันมีการกล่าวพาดพิงในการหารือเมื่อวันที่ 21 ก.พ.หลายเรื่อง แต่ทำไมพระพุทธอิสระไม่พูดให้สังคมได้ทราบกันบ้างว่า

ตนและพระพุทธอิสระ ได้พูดคุยถึงเรื่องความคิดเห็นสองฝ่ายอาจจะมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่มีเป้าหมายเดียวกัน คือ ปรารถนาดีต่อพระพุทธศาสนา มีพระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน มีหลักพระธรรมวินัยหลักเดียวกัน ซึ่งความเห็นเบื้องต้นอาจจะตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง แต่ทุกคนมีเจตนายกย่องเชิดชูพระพุทธศาสนา

ซึ่งตนยังบอกไปอีกว่าความเห็นส่วนตัวส่วนบุคคลอยู่แค่เพียงชั่วคราว ความเห็นของพระพุทธอิสระ และความเห็นของตน อยู่ไม่ถึง 100 ปีก็ไปแล้ว แต่พระศาสนายังอยู่ถึงปัจจุบันมีหลักธรรมสั่งสอนให้อบรมแสดงว่า คนโบราณเขารักษาพระศาสนา รักษาคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ได้นำคำสอนของบุคคลหนึ่งมาเอ่ยมาอ้าง ที่เราได้เรียนหลักคำสอนทุกวันนี้ ก็เพราะเราร่วมกันรักษาพระพุทธศาสนา

 :41: :41: :41: :41:

พระเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) กล่าวว่า มจร.จัดตั้งขึ้นตามพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ.2540 เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ โดยรายได้มหาวิทยาลัยมาจาก 3 ส่วน ได้แก่
    1.รัฐจัดสรรให้
    2.ผู้มีจิตศรัทธา และ
    3.รายได้อื่นๆ เช่น ค่าเทอม เป็นต้น

ซึ่งเมื่อรัฐจัดสรรงบประมาณมาให้แล้ว ทางมหาวิทยาลัยก็จะถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ตรวจสอบทั้งส่วนกลางและวิทยาเขตอย่างละเอียดทุกปี ไม่เพียงเท่านั้น สตง.ไม่ตรวจเฉพาะงบฯอุดหนุนของรัฐ แต่ยังได้ตรวจรายได้อื่นๆของมหาวิทยาลัยด้วย ไม่ว่าจะเป็น ใบอนุโมทนาบัตรเงินบริจาค มอบไปที่ไหนบ้าง ใครบริจาคบ้าง ตู้บริจาคของมหาวิทยาลัยก็ต้องมีคณะกรรมการตรวจสอบด้วย


 :91: :91: :91: :91:

รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ มจร. กล่าวต่อไปว่า ในส่วนเรื่องที่มหาวิทยาลัยใช้งบประมาณหลายสิบล้านบาทไปต่างประเทศนั้น มหาวิทยาลัยมีสถาบันสมทบในต่างประเทศถึง 7 แห่ง อาทิ ศรีลังกา ฮังการี สิงคโปร์ เกาหลี เป็นต้น โดยแต่ละปีผู้ที่จบปริญญาตรีจากสถาบันสมทบ จะต้องมารับปริญญาในประเทศไทย ในส่วนของผู้บริหาร อาจารย์และนักวิชาการของมหาวิทยาลัย ก็ต้องเดินทางไปประชุมร่วมกับสถาบันสมทบในต่างประเทศ ในขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยก็มีความสัมพันธ์กับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ เนื่องจากมหาวิทยาลัยมีวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ ก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวิชาการกับมหาวิทยาลัย

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยก็มีสมาคมวิสาขบูชานานาชาติ ซึ่งมีสมาชิกทั่วโลก ก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งตนมองว่า การไปแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวิชาการกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ก็จะเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาทางวิชาการ

 :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi:

“เวลาผู้บริหาร อาจารย์ เดินทางไปแลกเปลี่ยนทางวิชาการ นอกจากจะมีงบประมาณของมหาวิทยาลัยแล้ว เรายังมีเจ้าภาพร่วมสมทบด้วย ซึ่งพุทธอิสระไม่ทราบในเรื่องนี้ การที่พูดไปเพื่อให้สังคมมองมหาวิทยาลัยในภาพลบเท่านั้นเอง”พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์กรสงฆ์รุ่นใหม่ ประกอบด้วย องค์กรเครือข่ายพระนิสิต พระนักศึกษา สงฆ์อาสาพระวิทยากร พระธรรมทูตทั่วประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ผ่านโซเชียลมีเดีย ให้ยุติการคุกคามพระพุทธศาสนา ฉบับที่ 1 ความตอนหนึ่งว่า ด้วยองค์กรสงฆ์รุ่นใหม่ ได้เฝ้าติดตามการทำงานของคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา

    แต่กรรมการชุดดังกล่าวได้แสดงทัศนคติ อันเป็นการข่มขู่คุกคามต่อพระมหาเถระ นำศาสนามาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ล้มล้างจารีตสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรและศาสนจักร สร้างความไม่สบายใจแก่พระสงฆ์ทั่วสังฆมณฑล

ดังนั้น จึงเรียกร้องให้สปช.สั่งให้คณะกรรมการปฏิรูปชุดดังกล่าวยุติการคุกคามพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ไทย เพื่อนำความสงบสุขคืนสู่พระพุทธศาสนา ธำรงไว้ ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์สืบไป


 :32: :32: :32: :32:

ด้านนายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา(ศน.) กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า เรื่องศาสนาไม่ได้เกิดจากความขัดแย้ง แต่บางครั้งอาจจะเป็นเพราะแต่ละฝ่ายไปยึดติดกับความรู้สึกส่วนตัวมากเกินไป คงต้องย้อนกลับไปมองที่ต้นเหตุ ซึ่งแต่ละคนควรกลับไปย้อนดูตัวเองว่ามีอะไรที่ต้องทำความเข้าใจกันบ้าง ทั้งนี้ เห็นว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องหาหน่วยงานกลางเข้ามาไกล่เกลี่ยเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะหน่วยงานกลางไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหาเสมอไป ต่างฝ่ายต่างต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อน พร้อมทั้งหาทางเจรจากัน ถ้าตั้งหน้าตั้งตาโจมตีกัน ปัญหาก็จะแก้ไขไม่ได้ และไม่มีทางจบสิ้น

อย่างไรก็ตาม ศน.อยากขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ร่วมกัน ยึดหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรื่องโอวาทปาติโมกข์เป็นหลักปฏิบัติ ยุติการขุดคุ้ย เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยใช้โอกาสในช่วงเทศกาลวันมาฆบูชานี้ สงบจิตสงบใจ เพื่อช่วงจรรโลงพระพุทธศาสนา


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/education/303136/“วัดปากน้ำ”+ปัดโทรเคลียร์+“พุทธอิสระ”
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ