ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: จี้นายกฯ เลิกตั้งกรรมการปฏิรูปศาสนา  (อ่าน 721 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28431
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
จี้นายกฯ เลิกตั้งกรรมการปฏิรูปศาสนา
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 10:11:29 am »
0


จี้นายกฯ เลิกตั้งกรรมการปฏิรูปศาสนา

องค์กรพุทธ สนพ. เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ–ประธานสปช.ยกเลิกกรรมการปฏิรูปศาสนาสุดโต่งการเมือง ย้ำคณะสงฆ์ไม่เคยกลัวการตรวจสอบ แต่ควรให้เกียรติพระเถระชั้นผู้ใหญ่

เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ พระเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) กล่าวก่อนการประชุมกรรมการสนพ.ว่า ขณะนี้องค์กรพุทธ และสนพ.ได้ประชุมหารือกันแล้ว โดยในเบื้องต้นวันที่ 24 ก.พ.นี้ องค์กรพุทธ และสนพ.จะส่งผู้แทนไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประธานคสช. รวมถึง นายเทียนฉาย กีระนันท์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ให้ยกเลิกการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา

โดยองค์กรพุทธ และสนพ.ขอโต้แย้งว่า คณะสงฆ์ไม่ได้ปิดกั้นการตรวจสอบหรือช่วยกันปรับปรุงโครงสร้างต่าง ๆ ให้ดีขึ้น แต่บุคคลที่เข้ามาทำหน้าที่ควรเป็นบุคคลที่เป็นกลาง ไม่ใช่พวกสุดโต่ง ซึ่งเป็นเรื่องยากที่คณะสงฆ์จะยอมรับได้ ขณะเดียวกันก็มีการประกาศตรวจสอบการทำงานของมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากใน มส.นั้น เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ที่ทางคณะกรรมการฯ ควรจะให้เกียรติบ้าง

ทั้งนี้คณะสงฆ์ไม่เคยปิดกั้นเกี่ยวกับเรื่องการปฏิรูปพระพุทธศาสนา เพราะคณะสงฆ์ก็อยากเห็นพระพุทธศาสนามั่นคงงดงามเช่นกัน แต่อยากให้ทางคณะกรรมการฯ มาอย่างเหมาะสม และให้เกียรติพระเถระชั้นผู้ใหญ่ด้วยสัมมาทิฏฐิ และไม่เคยมีรัฐบาลไหนมีการตั้งฆราวาสมาปกครองคณะสงฆ์ ซึ่งพระไม่ได้กลัว แต่คนที่เข้ามาไม่ควรเป็นคนที่มีมิจฉาทิฏฐิ



    “สิ่งที่องค์กรพุทธอยากให้ สปช.ทบทวนใน 2 เรื่องใหญ่ คือ
    1.วิธีการแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา ได้มีการคัดเลือกบุคคลที่สุดโต่งทางการเมืองและศาสนาเข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดปัญหาความแตกแยกขึ้นมาอีกได้
    2.เหตุผลของการตั้งคณะกรรมการ โดยตั้งสมมุติฐานว่า คณะสงฆ์บริหารงานมีแต่ปัญหา มีแต่ความแตกแยก เกิดจากพ.ร.บ.คณะสงฆ์พ.ศ.2505 และประชาชนไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารกิจการพระพุทธศาสนา เป็นสมมุติฐานที่ผิด

    ดังนั้นจึงอยากให้ทบทวนหรือยกเลิกคณะกรรมการชุดดังกล่าว หากตั้งใจจริงที่จะมาปฎิรูปพระพุทธศาสนา ก็ควรมาหารือกับคณะสงฆ์ โดยเฉพาะมส.ว่า คิดเห็นอย่างไร มีปัญหาการทำงานจุดไหน ที่ทางฝ่ายบ้านเมืองจะช่วยแก้ไขได้จะเป็นประโยชน์มากกว่า ซึ่งการแก้ไขปัญหาพระพุทธศาสนาทั้งฝ่ายบ้านเมือง และคณะสงฆ์ต้องช่วยกัน แต่การประกาศตัวว่าจะตรวจสอบเล่นงานพระรูปนั้นรูปนี้ ถือว่าไม่เคารพวัฒนธรรมองค์กรสงฆ์ และพระสงฆ์เลย อย่างนี้จะมาเขียนกฏหมายที่จะปรับปรุงกิจการพระพุทธศาสนาได้อย่างไร
    นอกจากนี้ตนจะประสานผู้บริหารกับสมาคมศิษย์เก่าและองค์กรนิสิตมจร. ว่าจะมีความเคลื่อนไหวออกมาอย่างไรด้วย” พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าว



พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่พระพุทธอิสระทำ พระสงฆ์ส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วย พร้อมจะปกป้องคณะสงฆ์ และสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช รวมทั้งอยากเรียกร้องฝ่ายรัฐว่าสิ่งที่พระพุทธอิสระทำเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมาเป็นการละเมิดกฎอัยการศึกหรือไม่ และขอเรียกร้องฝ่ายผู้มีอำนาจ ที่มีการติดอาวุธเข้าไปในวัด ซึ่งเป็นวัดของผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชว่า เหมาะสมหรือไม่ และอย่านำการเมืองมาเล่นกับพระพุทธศาสนา รวมทั้งหากจะมีการตรวจทรัพย์สินของพระมหาเถระ ทางคณะสงฆ์ก็ไม่ได้กลัวที่จะถูกตรวจสอบ



ดร.เมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ เลขาธิการสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา กล่าวว่า การที่พระพุทธอิสระปลุกปั่นผ่านสื่อออนไลน์หรือปลุกระดมคนไปชุมนุมกันที่วัดปากน้ำ จึงอยากฝากถามรัฐบาลว่า เป็นการละเมิดกฎอัยการศึกหรือไม่ ขณะเดียวกันมีการส่งทหารติดอาวุธครบมือไปอารักขาพระพุทธอิสระ ภายในวัดปากน้ำ ประหนึ่งสำคัญกว่า ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช

จึงอยากฝากคำถามว่า เป็นการไม่เคารพประมุขสงฆ์เป็นการทำที่ถูกต้องหรือไม่ด้วยและอย่าให้เกิด 2 มาตรฐาน อย่างไรก็ตามการไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี หรือ ประธานสปช. ทางคณะจะไม่ละเมิดต่อกฎอัยการศึก การกล่าวพาดพิง มส.สามารถทำได้ แต่การทำงานของ มส.ก็อิงพระธรรมวินัยและพ.ร.บ.คณะสงฆ์ซึ่งมีสิทธิและหน้าที่ในการดำเนินงาน ขณะที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นแนวร่วมเดียวกับพระพุทธอิสระ ซึ่งมีความเห็นตรงกันว่า มส.อ่อนแอ

จึงอยากให้มีการตั้งองค์กรที่มาปฏิรูปมส.โดยคณะกรรมการปฏิรูปเกือบทั้งชุดล้วนเกี่ยวข้องทางการเมือง อาจจะมองคณะสงฆ์เป็นฝ่ายตรงข้ามเป็นอีกสีเสื้อหนึ่ง และเชื่อมโยงกับธรรมกาย ทำให้เห็นว่า เป็นการนำการเมืองมาครอบนำคณะสงฆ์ โดยตนเชื่อว่าคณะสงฆ์ไม่ได้เลือกฝ่าย ทำให้ทุกฝ่ายไม่สบายใจเรื่องที่เกิดขึ้นที่จะทำให้พระพุทธศาสนาเกิดความแตกแยก



ผศ.ดร.เสถียรวิพรมหา นายกสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา กล่าวว่า จากการตรวจสอบรายชื่อคณะกรรมการปฏิรูปฯ พบว่า มี 1 คน เป็นเลขาของพระพุทธอิสระ ซึ่งคณะกรรมการส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเมืองอีกฝ่ายทั้งที่ต้องการปฏิรูปคณะสงฆ์แต่กลับไม่มีการตั้งคณะกรรมการที่มาจากฝ่ายสงฆ์เลย จึงขอคัดค้านการแต่งตั้งกรรมการชุดดังกล่าว

ขณะที่ พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย กล่าวว่า ขณะนี้ทางวัดพระธรรมกายจะยังไม่มีการแถลงข่าวหรือชี้แจงแต่อย่างใด และไม่ขอแสดงความคิดเห็น หรือให้สัมภาษณ์กรณีใด ๆ ทั้งสิ้น ทางตนและทางวัดขออยู่อย่างสงบ.


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/education/302949/จี้นายกฯ+เลิกตั้งกรรมการปฏิรูปศาสนา
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ