หัวข้อ: ผู้สร้างกุศล ย่อม ถูกอกุศล ครอบงำ ได้ เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ พฤษภาคม 09, 2015, 08:42:16 am (https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xat1/v/t1.0-9/11218503_818307934917329_3561645890174024522_n.jpg?oh=beba256789507880242cfad7f7c135a9&oe=55D4F2B8&__gda__=1439072615_de5fb3fbd87eb9db9dc3ca8ce8e631a0)
"เมื่อบุคคลใดมีความปรารถนา จะสร้างกุศล สิ่งที่ต้องระมัดระวัง ก็คือการถูกครอบงำของ อกุศล มีหลายอย่าง หลายเหตุการณ์ แต่ล้วนแล้ว ก็คือ การถูกครอบงำอกุศล นั่นเอง สมมุติสักเรื่องในที่นี้ เวลาท่านปรารถนา รักษาศีล การปรารถนา และการเข้าไปรักษา นั้น เรียกว่า กุศล แต่ในระหว่าง ที่ปรารถนา และ การเข้าไปรักษา นั้น อกุศลย่อมครอบงำในรูปแบบต่าง ๆ เช่น มีแรงจูงใจให้ทำผิดศีล เช่นเดินไป เจอ กระเป๋าเงินตกอยู่ เปิดขึ้นมามีเงินหลายบาท อกุศลก็จะครอบงำ ได้ทำให้ผิดศีล ถ้าเกิดความละอายต่อบาป และความเกรงกลัวต่อบาป มีน้อย ก็จะต้องผิดศีลอย่างแน่นอน นี่เรียกว่า การถูกอกุศลครอบงำ มันเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ ระหว่าง กุศล และ อกุศล เพราะสองอย่างนี้ไม่เกิดขึ้นเดี่ยว ๆ ยามใดที่มีกุศล อกุศลก็อยู่ตรงนั้น เหมือนสว่าง กับ มืด ขาว กับ ดำ ถูก กับ ผิด ดังนั้นสิ่งที่พระโยคาวจร ต้องทบทวน สม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้ อกุศลเข้ามาครอบงำ นั้น ก็คือ สติ นั่นเอง อปฺปมาโท อมตํ ปทํ ความไม่ประมาทเป็นแห่งความไม่ตาย ความไม่ตายในที่นี้ ก็หมายถึงพระนิพพาน นั่นเอง ซึ่งเป็นอมตบท ไม่ใช่ไม่ตายจากกายเนื้อ ท่านจะประมาท หรือ ไม่ประมาท กายเนื้อนี้ก็ต้องตายเช่นเดิม ดังนั้น ความไม่ตายในที่ ก็คือ พระนิพพาน ดังนั้น สติ อาศัย ไม่ประมาท เป็นตัวเริ่ม ตราบใดที่ท่านไม่ประมาท ตราบนั้น สติ มหาสติ และ อมตบท ก็จะยังคงมี อยู่ตราบนั้น ดังนั้นพระโยคาวจร ผู้มีความเพียร เพื่อการสร้างกุศล ก็ต้องไม่ประมาท ถูกครอบงำจากอกุศล เสียได้ จึงสมควร ที่นี้การเพิ่มพูนความไม่ประมาท...." ข้อความบางส่วน จากหนังสือเพียงหยดหนึ่งแห่งพระธรรม บันทึกการภาวนา และการเดินทาง ของธัมมะวังโส หัวข้อ: วิธีการสร้างกุศล ของ ฆราวาส เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ พฤษภาคม 09, 2015, 09:19:05 am (https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xta1/v/t1.0-9/11258068_818317054916417_4924583558186060064_n.jpg?oh=3676e5f5ea3a9c299da1544be67d8dd0&oe=5609C20F&__gda__=1438723462_a63644e19606a60211178a7ed8f47c46)
"การสร้างกุศล นั้น พระพุทธเจ้าได้บัญญัติ วิธีการไว้ สำหรับ ฆราวาส ให้ถือ บาทธรรม ทั้ง 4 คือ 1.สัจจะ ความจริงใจ ซื่อตรง ไม่กลับคำ 2.ทมะ ความข่มกลั้น ต่อ อกุศล เพื่อรักษา สัจจะ 3.ขันติ ความอดทน เพื่อทำสัจจะให้เป็น สัจจะ 4.จาคะ การสละแบ่งปัน ด้วย อำนาจของสัจจะ จะเห็นได้ ว่า คุณธรรมของ ฆราวาส จะเริ่ม ด้วย สัจจะ สัจจะ ก็คล้ายการอธิษฐาน ต่างกันตรงที่ว่า การอธิษฐาน ยังมองเห็นส่วนความเป็นจริงได้ยากในปัจจุบัน แต่สัจจะ มองเห็นส่วนความเป็นจริงได้ ในปัจจุบัน คือ รู้ว่า ถ้าทำก็สำเร็จ แต่การกระทำไป ด้วยสัจจะอย่างเดียวไม่ได้ ต้อง อาศัยคุณธรรม อีกสามประการ สานเสริม ส่งให้ สัจจะเป็นจริงได้ ผู้ใดทำสัจจะในกุศลได้หนึ่ง ครั้ง ครูอาจารย์ ท่านกล่าวว่า ลดวิบากกรรมที่ทำผิดมาได้ 49 ขณะ แห่งวิบากที่ต้องเกิด ดังนั้นคุณธรรม ส่วนนี้ จึงมีความสำคัญ ลูกศิษย์ ธัมมะวังโส ส่วนใหญ่ ขาด สัจจะ ดังนั้น ปลาย ๆ จึงไม่สามารถเข้าใจธรรมขั้นสูงได้ เพียงเจอธรรมขั้น ต้น ก็เตลิดเปิดเปิง บอกว่า ทำไม่ได้ ภาวนาไม่ได้ เพราะความเป็นผู้มีสัจจะ น้อย สัจจะ ยัง ต้องอาศัย ธรรม 3 อย่างคู่กันไปด้วย ดังนั้น ท่านที่เป็น ฆราวาส จงรักษา สัจจะ ของท่าน เพื่อไปสู่ ประตู อันพระโลกนาถ ไม่ได้ปิดเสียเถิด ธรรมใด ๆ ที่สมควรแก่ท่าน คงไม่มี นอกจากท่านต้องมาเริ่มต้น ที่ สัจจะ นี้เถิด" ข้อความบางส่วน จากหนังสือ เพียงหยดหนึ่งแห่งพระธรรม บันทึกการภาวนา และ การเดินทาง ของ ธัมมะวังโส หัวข้อ: Re: ผู้สร้างกุศล ย่อม ถูกอกุศล ครอบงำ ได้ เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ พฤษภาคม 09, 2015, 11:18:36 am รับทราบเปิดตาเพิ่มสติ ขออนุโมทนาสาธุครับ หัวข้อ: Re: ผู้สร้างกุศล ย่อม ถูกอกุศล ครอบงำ ได้ เริ่มหัวข้อโดย: Akira ที่ พฤษภาคม 13, 2015, 08:59:12 am เรื่องนี้ แสดงให้เห็น Sense ของพระอาจารย์ ที่เห็นธรรม แบบ สูงมาก เรื่องอย่างนี้บางทีอยู่ใกล้ตัว แต่ก็คิดไม่ค่อยออก เหมือนเส้นผมบังภูเขา จริง ๆ
thk56 thk56 thk56 :25: :25: :25: |