แสดงกระทู้
|
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to. |
Messages - meditation
|
หน้า: [1] 2 3
|
16
|
เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://saengsantisuk.com ธรรมสถานแสงธรรม สันติสุข ( กทม และ บางไทร )
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2013, 05:50:28 pm
|

http://saengsantisuk.com ธรรมสถานแสงธรรม สันติสุข ( กทม และ บางไทร )

ขอต้อนรับทุกท่านเ้ข้าสู่ ธรรมะสถานแสงสันติสุข ที่เน้นการปฏิบัติธรรมแบบสั้น ง่าย ได้ผลไว ไม่ต้องหลับตา ไม่ต้องค้าง ไม่มากพิธี ไม่มีเงื่อนไข ฝึกได้ทุกอิริยาบท ด้วยการฝึกจิตภาวนา "ยิ้มไว้ ไม่ทุกข์ สนุกดี" หรือ "จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด ยิ้มไว้ ไม่ทุกข์ สนุกดี" กับ พระครูปลัดสมบูรณ์ สันติกะโร หรือที่ญาติธรรมเรียกติดปากว่า พระอาจารย์สันติกะโร ภิกขุ ที่นำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา มาประยุกต์ใช้เป็นคติธรรมะที่สามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตประวัน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ ทุกสถานที่ ทุกเวลา และทุกสถานการณ์ ซึ่งการณ์ฝึกจิตภาวนา ยิ้มไว้ ไม่ทุกข์ สนุกดี สามารถทำให้ผู้ที่นำไปปฏิบัติใช้ได้ผลดี และประสบความสำเร็จ มานับไม่ถ้วน สามารถยิ้มกันได้อย่างมีความสุขทุกคน ทั้งด้านครอบครัว การงาน การเงิน ความรัก และโรคภัยไข้เจ็บ สามารถยืนยันได้จากปากของผู้ที่ประสบผลสำเร็จจริง และผู้ปฏิบัติธรรม 1,000 กว่าคน/อาทิตย์
จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น คุณมาลินี เทียมทัน พิธีการคนสำคัญของธรรมสถาน ได้กล่าวไว้ "จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด ยิ้มไว้ ไม่ทุกข์ สนุกดี เป็นการภาวนาเพื่อให้จิตเกิดสมาธิ เมื่อจิตมีสมาธิก็จะเกิดปัญญา เมื่อปัญญาเกิดก็สามารถหาทางออก เมื่อปัญญาเกิดก็สามารถคิดทำในสิ่งที่ดีและผลที่เกิดก็มีแต่สิ่งที่ดี
สำหรับข้้อท้ายสุด มีผู้ปฏิบัติธรรมหลายท่านปฏิบัติธรรมด้วยการภาวนา "ยิ้มไว้ ไม่ทุกข์ สนุกดี" ท่องไปยิ้มไปแล้วสามารถทำให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บอย่างน่าอัศจรรย์ ผู้เขียนขออธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ด้วยการหยิบยก มาเพื่อเป็นการอธิบายว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้าสามารถอธิบายได้สอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์
ศาสตร์ของการยิ้ม นอกจากเพื่อสังคมแล้ว การยิ้มคือยาขนานหนึ่งที่จะบรรเทาปัญหาสุขภาพ มายิ้มกันเถอะ...
|
|
|
18
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ไปวัดแล้วได้อะไร กันกลับมา บ้างคะ นอกจากคำว่า ได้บุญ
|
เมื่อ: มกราคม 15, 2013, 01:55:55 am
|
บุญ เป็นสิ่งที่เราพยายามทำกันมาตลอดคะ ซึ่งมีรูปแบบของ บุญ ถึง 10 ประการ ตามบุญกิริยาวัตถุ 10 ประการ ดังนั้น ก็อดจะสงสัยไม่ได้ว่า บุญ ที่เราทำนั้นสามารถวัดออกมาเป็นปริมาณ ได้หรือไม่คะ ว่า เต็มพร่อง อย่างไร คือสมมุติ ไปวัด 10 ครั้งได้บุญ 1 แต้ม ถ้าไปนิพพานนั้น ต้องทำบุญ กันกี่แต้ม คะ ถึงจะเรียกว่า บุญบารมี เต็ม...  ขอให้คนที่ตอบคนแรก ถึง คนที่ 5 ได้บารมี มาก ๆ คะ 
|
|
|
22
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นิมิต มี 2 ส่วน
|
เมื่อ: สิงหาคม 29, 2012, 12:18:20 am
|
จำได้ว่า พระอาจารย์ เคยอธิบาย เรื่องนิมิต ไว้ 2 ประการ คะ อยู่ใน Email แต่ค้นไม่พบ แต่พอจะย่อไว้ ก่อนที่พระอาจารย์ จะมาอธิบาย นะคะ
1.นิมิต ที่เป็น เหตุ มี 3 นิมิต 2.นิมิต ที่เป็นผล มี 2 นิมิต
ที่เหลือ รอพระอาจารย์ มาอธิบาย นะคะ

อย่างนี้ ก็เป็นศิษย์เดียวกั นพูดแบบเดียวกัน สินะคะ 1. นิมิติที่เป็นเหตุ มี 3 นิมิต คือ ปัคคาหะนิมิต บริกรรมนิมิต อุเบกขานิมิต 2.นิมิตที่เป็นผล มี 2 นิมิต คือ อุคคหนิมิต และ ปฏฺิภาคนิมิต 3.นิมิตวิปัสนา มี 2 ประการ คือ นิมิตภายใน นิมิตภายนอก ลมหายใจ เป็นทั้งนิมิตภายใน และ ภายนอก เป็นไปเพื่อความเห็นความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เคยจำมาจากเมล เหมือนกันคำถามนี้เคยถามไปในจดหมายนานแล้ว นะคะ
|
|
|
23
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: การเห็น นามรูป ใน สมถะ กับ ในวิปัสสนา ต่างกันอย่างไร ครับ
|
เมื่อ: สิงหาคม 29, 2012, 12:15:00 am
|
การเห็น นามรูป ใน สมถะ กับ ในวิปัสสนา ต่างกันอย่างไร ครับ ด้วยความสงสัยครับ ในการเห็นนามรูป ด้วยอำนาจจิต ที่เป็น สมาธิ กับด้วย อำนาจจิตที่ประกอบด้วย สติ แตกต่างกันอย่างไร ไปสู่จุดหมายปลายทางเดียวกันหรือไม่ครับ

การเห็นนามรูป ใน สมถะ มีเพียง การเห็น อนิจจัง กับ ทุกขัง สองประการ ถ้าจำไม่ผิดตามที่พระอาจารย์เคยแนะนำไว้ นะคะ การเห็นนามรูป ในวิปัสสนา มี ไตรลักษณ์ ครบทั้งสามประการ คือ การเห็น อนิจจัง ทุกขัง และ อนัตตา การเห็น ในส่วนสมถะ เห็น ความเกิดขึ้น เห็นความตั้งอยู่ เห็นความดับไป แต่ไม่เห็นความว่างเปล่า จากความหมายแห่งความเป็นตัว เป็นตน พอจะวิเคราะห์เบื้องต้นได้เท่านี้นะคะ 
|
|
|
29
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / อยากทราบขั้นตอนการออกกรรมฐาน ที่ถูกต้องทำอย่างไร คะ
|
เมื่อ: มิถุนายน 10, 2012, 08:17:56 pm
|
อยากทราบขั้นตอนการออกกรรมฐาน ที่ถูกต้องทำอย่างไร คะ คือปกติฝึกปฏิบัติมาก็ไม่เคยกำหนดอะไรในการออกกรรมฐาน เลยคะ คือจะออกก็หยุดไปธรรมดา ปกติทุกครั้ง แต่เคยได้ยินผู้รู้กล่าวว่า ถ้าเราไม่กำหนดออกจากกรรรมฐาน จะทำให้อารมณ์กรรมฐานค้างคะ เลยอยากให้ช่วยแนะนำขั้นตอนการออกกรรมฐาน ที่ทำได้ง่าย ๆ ด้วยคะ สาธุ ขอบคุณทุกท่านที่แนะนำนะคะ ( หมายเหตุ ประสบกับปัญหาคือถามไปทางเมล แล้วพระอาจารย์ยังไม่ได้ตอบคำถามคะ นานมากแล้วคะ ) 
|
|
|
40
|
ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / คัดค้านธรรมบรรยายมหาจัตตารีสกะนี้ การกล่าวก่อนและการกล่าว ตามกัน ๑๐ ประการ
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2011, 08:41:54 am
|
[๒๘๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์ ผู้ใดผู้หนึ่งพึงสำคัญ ที่จะติเตียน คัดค้านธรรมบรรยายมหาจัตตารีสกะนี้ การกล่าวก่อนและการกล่าว ตามกัน ๑๐ ประการ อันชอบด้วยเหตุของสมณะหรือพราหมณ์ผู้นั้น ย่อมถึง ฐานะน่าตำหนิในปัจจุบันเทียว ถ้าใครติเตียนสัมมาทิฐิ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญ ท่านสมณพราหมณ์ผู้มีทิฐิผิด ถ้าใครติเตียนสัมมาสังกัปปะ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มีสังกัปปะผิด ถ้าใครติเตียนสัมมาวาจา เขาก็ต้อง บูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มีวาจาผิด ถ้าใครติเตียนสัมมากัมมันตะ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มีการงานผิด ถ้าใครติเตียนสัมมา- *อาชีวะ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มีอาชีวะผิด ถ้าใครติเตียน สัมมาวายามะ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มีความพยายามผิด ถ้าใครติเตียนสัมมาสติ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มีสติผิด ถ้าใครติเตียนสัมมาสมาธิ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มีสมาธิผิด ถ้าใครติเตียนสัมมาญาณะ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มีญาณผิด ถ้าใครติเตียนสัมมาวิมุตติ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มี วิมุตติผิด ฯ
มหาจัตตารีสกสูตร (๑๑๗)
|
|
|
|