แสดงกระทู้
|
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to. |
Messages - nithi
|
หน้า: [1] 2
|
5
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: มารไม่มี บารมีไม่เกิด
|
เมื่อ: สิงหาคม 30, 2015, 11:35:05 am
|
ศาสนาพุทธ จะมีข้อเสียตรงนี้ ( และร้ายแรงมาก ) คือ ถูกเขาไม่เบียดเบียน ไม่ว่าอย่างไร ก็ไม่ควรจะโต้ตอบ ถึงแม้ตัวเองจะถูก ก็ต้องระงับอารมณ์ของกิเลสไม่ให้โกรธ ประทุษร้าย อาฆาต ประมาณนี้เลย ซึ่งการที่คนมีศีล ไปอยู่ กับคนที่ไม่มี ศีล พูดอย่างไงก็ตาม ไม่มีทางได้เปรียบ หรือ เสมอตัว หรอกครับ เป็นไปไม่ได้ เขาโกงกินกันหมดทั้งแผนก คุณจะมาขาวสะอาดอยู่คนเดียว ไม่ได้หรอกครับ ตาย เท่านั้น หรือไม่ก็ต้องร่ำลาแผนกนั้นกันไป ดังนั้น ทางที่ดี ก็เป็น ลุกเต่หดหัว หดหาง หดตีน ไป เหล่าผู้ทุศีล ทั้งหลายจะได้ไม่ราวี แต่ก็มิใช่ เพราะบรรดาผู้รอเขมือบ เขามีวิธีรอนะครับ โผล่หัว โผล่ขา โผล่หางเมื่อไหร่ ตายเมื่อนั้น 
|
|
|
12
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ทำไมพระสงฆ์ เถรวาท หินยาน ไม่รับไหว้ คฤหัสถ์
|
เมื่อ: มกราคม 27, 2013, 01:07:49 pm
|
ทำไมพระสงฆ์ เถรวาท หินยาน ไม่รับไหว้ คฤหัสถ์ ผมได้ไปทำบุญ ที่วัดเล่งเน่ยยี่ เยาวราช พบพระสงฆ์จีน ผมยกมือไหว้ ท่านก็ยกมือไหว้รับตอบ ผมสงสัยก็เลยถามว่า ทำไมถึงต้องรับไหว้ด้วยการไหว้ ท่านตอบว่า ในกลุ่มมหายาน นั้น ถือว่า พุทธบริษัทท้้งสี่ เสมอกัน และสามารถเป็นพระอริยะบุคคลได้เสมอกัน ดังนั้นการไหว้ตอบ คือการให้ความเคารพ ต่อตนเอง และเป็นการลดความถือตนด้วย ผมก็มาเอะใจ ว่าทำไมพระสงฆ์ไทย ฝ่ายเถรวาท ทำไมจึงไม่รับไหว้ ตอบ หรือมีเหตุเรื่องอื่น เรื่องใด ที่สมควรมิสมควร โปรดช่วยอธิบายให้เข้าใจด้วยครับ ด้วยความเคารพในทุกท่านที่ช่วยตอบคำถามครับ  ล่วงหน้าด้วยครับ
|
|
|
14
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เรียนถามว่า พระสงฆ์ไป รพ. รักษาฟรี หรือไม่ ครับ ทำไมต้องมาบอกขอค่ายาด้วยครับ
|
เมื่อ: มกราคม 24, 2013, 08:07:40 pm
|
เป็นไปตามที่ คุณ nathaponson ตอบไปตามลำดับ ครับ พระ ที่บวชแล้ว ก็ได้รับการเยียวยา รักษา อย่างนั้น ครับ ปัจจุบันนี้มียานอกบัญชี สิทธิ์ อยู่จำนวนมากครับ ขนาดเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลก็ยังต้องจ่าย เลยนะครับ เท่าที่ทราบ เขาเรียกว่าค่าใช้จ่ายยานอกระบบ เป็นยาขั้นสูง เกินยาสามัญ ทั่วไป สั่งนำเข้ามาให้กับผู้ที่ อันจะกิน และ รักษาได้หายขาด ครับ เป็นยาที่คุณภาพสูง แต่ส่วนใหญ่ โรงพยาบาล ก็จะดูแลไปตามระดับ เริ่มตั้งแต่เบื้องต้น ปวดหัว ก็พารา เจ็บคอ ก็ อะม็อก หนักขึ้นไปก็เป็นให้น้ำเกลือ สูงขึ้นมาก็เป็นยาฉีด ส่วนมากเวลาเราไปคลีนิก คุณหมอไม่ค่อยให้ยากิน จับฉีดยาทั้งนั้นครับ เพราะยาฉีดจะออกฤกธิ์ได้ไว กว่ายาทาน สำหรับเรื่องอุปัชฌาย์ สมัยปัจจุบันนี้ อุปัชฌาย์มีหน้าที่บวช การดูเแลเป็นหน้าที่ของเจ้าอาวาสที่รับพระนั้นอยู่ครับ ถึงจะระเบียบส่งฆ์ว่า มีเหตุกรณีใดๆ ก็ให้อุปัชฌาย์ออกหน้า แต่ความเป็นจริง ไม่ใช่อย่างนั้นครับ เดี๋ยวนี้การบวชอย่างใน กทม. ต้องมีการแจ้งความ ขอใบรับรองประวัติจาก สถานีตำรวจแล้วนะครับ เพราะว่าใน กทม. จะมีการกลั่นกรอง รับรองความประพฤติ เ้พิ่มรู้สึกว่าเป็นระเบียบบังคับแล้ว 1.ใบรับรองแพทย์ ว่าไม่มีโรคติดต่อ 2.ใบรับรองความประพฤติ ไม่ต้องคดี ใด ๆ จาก สถานีตำรวจ 3.ใบรับรองประวัติจาก บิดา มารดา ภรรยา
|
|
|
19
|
เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ทำให้พ่อแม่ เสียชีิวิต ด้วยอุบัติเหตุ เป็น อนันตริยกรรม หรือไม่ครับ
|
เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 03:00:31 pm
|
มีเพื่อน คนหนึ่งเขาเป็นทุกข์ มาก เพราะว่า เขาบอกว่า เขาต้องตกนรกเป็นอย่างมาก เพราะฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ตอนแรกผมฟังก็นึกว่า เขาพูดเล่น แต่พอฟังเขาพูดแล้ว รู้สึกขนลุกครับ และนึกในใจว่า คนที่ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ได้ อย่างนี้เราจะคบด้วยดีหรือไม่ ? แต่ก็เพราะยังไม่ค่อยจะเข้าใจ เท่าไหร่ ..... สรุปตรงที่ ว่า เพื่อน คนนี้ได้ขับรถ พาพ่อแม่ ไปเที่ยว แต่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่ง พ่อแม่ และญาติเสียชีวิต ไปหลายคน มีเพียงเขารอด เพียงคนเดียว คือรอดเพียงคนขับ แต่ก็ได้บาดเจ็บ สาหัสเช่นกัน เขาจะมีความคิด และ โทษตัวเอง ที่เป็นสาเหตุให้พ่อแม่เสียชีิวิต ซึ่งทุกวันนี้เขากํยังคิดว่าเขาเป็นผู้นำอนันตริยกรรม คือ ฆ่าพ่อแม่ อยู่ ความเป็นจริง ในกรณีอย่างนี้จัดเป็น อนันตริยกรรม หรือไม่ครับ 
|
|
|
24
|
เรื่องทั่วไป / ประกาศ โฆษณา ธุรกิจชาวธรรม / โปรแกรมสังเวชนียสถาน 4 ตำบล+พุทธสถานครบทุกแห่ง : 28 ธ.ค.55 - 6 ม.ค.56
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2012, 09:46:09 am
|
นำคณะโดย : พระอาจารย์มหาสุชาติ ถิรญาโณ ป.ธ.9, อ.บ. วัดราชสิงขร กทม. โทร. 086-1002195 หัวหน้าทัวร์/วิทยากรบรรยาย โดย นิติกานต์ ธรรมหรรษากุล (ดร.เบิร์ต) ป.ธ.6, พธ.บ., M.A.,Ph.D. โปรแกรมสังเวชนียสถาน 4 ตำบล+พุทธสถานครบทุกแห่ง : 28 ธ.ค.55 - 6 ม.ค.56 (9 คืน/10 วัน)
 วันแรก : กรุงเทพฯ–โกลกัตต้า –นาลันทา/ราชคฤห์ 12.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 7 เคาน์เตอร์ P สายการบิน JET AIRWAYS โดยเจ้าหน้าที่ บริการอำนวยความสะดวกเช็คอิน+ส่งมอบสัมภาระ+ตรวจสอบบัตรที่นั่งหนังสือเดินทางให้แก่ทุกท่าน 15.05 น. ออกเดินทางสู่โกลกัตต้า ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน JET AIRWAYS เที่ยวบินที่ 9W 71 (มีบริการอาหาร) 16.15 น.- (เวลาท้องถิ่น/อินเดีย) ถึงท่าอากาศยานนานาชาติโกลกัตต้า/อินเดีย ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง-ศุลกากร 17.30 น.- ออกจากสนามบิน+ถวายน้ำปานะ/บริการอาหารเย็น (กล่อง)+เดินทางไปนาลันทา/ราชคฤห์+นอนพักผ่อนบนรถ
วันที่สอง : หลวงพ่อดำ-มหาวิทยานาลันทา–ราชคฤห์-วัดเวฬุวัน–ตโปธาราม-เขาคิชฌกูฎ 04.00 น.- ถึงนาลันทา+เข้าพักที่วัดไทยนาลันทา/ราชคฤห์+พักผ่อน/ทำธุระส่วนตัวตามอัธยาศัย+บริการอาหารเช้าที่วัดไทย 09.00 น.- นมัสการหลวงพ่อดำ อายุ 1,400 กว่าปี ที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่ถูกไฟไหม้เมื่อถูกอิสลามเผาในปี พ.ศ.1766) 10.00 น.- ชมมหาวิทยาลัยนาลันทา (เก่า) เป็นมหาวิทยาลัยพุทธศาสนาแห่งแรกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก มีพระสงฆ์ นักศึกษาประมาณ 10,000 รูป ครูอาจารย์ 1,500 คน+พระสถูปใหญ่บรรจุพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร 11.30 น.- ถวายภัตตาหารเพล/บริการอาหารเที่ยงที่วัดไทยฯ+พักผ่อนตามอัธยาศัย+เยี่ยมชมมหาวิทยาลัยนาลันทาใหม่ 14.00 น.- “มาฆบูชารำลึก” ย้อนรอยอดีตครั้งพุทธกาล ณ วัดเวฬุวัน วัดแห่งแรกในโลกที่พระเจ้าพิมพิสารได้สร้างถวาย ซึ่งพระอริยสงฆ์สาวก 1,250 รูป ล้วนเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทามาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย พระพุทธเจ้าแสดง โอวาทปาฏิโมกข์ ทำให้เกิดวัน “มาฆบูชา” ขึ้นในโลก+ชมตโปธาราม ที่อาบน้ำแร่ร้อนแบ่งตามชั้นวรรณะ 4+ 15.30 น.- เดินธุดงค์ขึ้นสู่เขาคิชกูฎ+นมัสการพระคันธกุฎีที่ประทับของพระพุทธเจ้า+กุฏิพระอานนท์พุทธอุปัฎฐาก+ ถ้ำสุกรขาตา ที่พระสารีบุตรบรรลุพระอรหันต์+ถ้ำพระมหาโมลคัลลานะ+หน้าผาที่พระเทวทัตต์กลิ้งหินใส่พระพุทธเจ้า 18.00 น.- ชมคุกคุมขังพระเจ้าพิมพิสาร+กลับถึงวัดไทยนาลันทา/ราชคฤห์+บริการอาหารเย็น+ทำบุญทอดผ้าป่าบำรุงวัดฯ
วันที่สาม : ราชคฤห์/นาลันทา – ไวสาลี – วัดป่ามหาวัน – ปาวาลเจดีย์ – กุสินารา 06.00 น.- บริการอาหารเช้าที่วัดไทย+จากนั้นเดินทางผ่านเมืองปัตนะ (อดีตเมืองปาฎลีบุตรของพระเจ้าอโศก)จนถึงไวสาลี 11.00 น.- ถึงวัดป่ามหาวัน/เวสาลี นมัสการพระสถูปใหญ่+เสาหินของพระเจ้าอโศก มีรูปปั้นหัวสิงโตข้างที่ยังสมบูรณ์อยู่ ซึ่งพระนางมหาปชาบดีโคตมีได้อุปสมบทเป็นนางภิกษุณีองค์แรกในพระพุทธศาสนา+สวดมนต์ภาวนา-ถ่ายรูป 12.00 น.- บริการอาหารเที่ยงที่วัดไทยไวสาลี+จากนั้นเดินทางไปนมัสการพระสถูปปาวาลเจดีย์ สถานที่พระพุทธองค์ทรง บ่าย - ปลงอายุสังขารว่าจะปรินิพพานภายใน 3 เดือน+สวดมนต์ภาวนาเวียนเทียน+เดินทางต่อไปเมืองกุสินารา 19.00 น.–ถึงกุสินารา+บริการอาหารค่ำที่วัดไทยกุสินารา+ทำบุญทอดผ้าป่าบำรุงวัด+พักผ่อนอิสระ หรือไหว้พระบรมธาตุฯ
วันที่สี่ : กุสินารา (อินเดีย)–ลุมพินี (เนปาล/ประสูติ) 06.00 น.– บริการอาหารเช้าที่วัดไทยฯ+จากนั้นเดินทางสู่ “สาลวโนทยาน” ของเจ้ามัลละกษัตริย์ เมืองกุสินารา นมัสการ เช้า - ปรินิพพานสถูป พระเจ้าอโศกมหาราชสร้างครอบสถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า+สวดภาวนาเบื้อหน้าองค์ พระพุทธอนุฏฐไสยาสน์ หรือพระนอนปางปรินิพพาน สร้าง พ.ศ.950 โดยนายช่างชาวเมืองมถุราชื่อถินา ภายในปรินิพพานวิหาร สร้างโดยอุบาสิกาชาวพม่าชื่อโอปูคยู+จากนั้นถ่ายรูปเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย - เดินทางไปนมัสการมกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ (ห่างจากที่ปรินิพพาน 1 กม.) 12.00 น. – บริการอาหารเที่ยงที่วัดไทยฯ+จากนั้นเดินทางไปลุมพินี ประเทศเนปาล (ระยะทางประมาณ 190 กม.) 16.00 น. – ถึงวัดไทย 960 สถานที่พักรถมีห้องน้ำที่สะอาด +เจ้าหน้าที่บริษัทฯ ไปทำเอกสารผ่าน ตม.อินเดีย-เนปาล 18.00 น. – ผ่านด่านโสเนาลี่ พรมแดนอินเดีย–เนปาล+ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง+เดินทางต่อไปสวนลุมพินี (25 กม.) 19.00 น.– บริการอาคารค่ำที่ห้องอาหารของโรงแรม+พักผ่อนตามอัธยาศัย ณ โรงแรม New Crystal
วันที่ห้า : ลุมพินี–มายาเทวีวิหาร-เสาหินอโศกมหาราช-สระโบกขรณี-สาวัตถี 06.00 น. – บริการอาหารเช้าที่วัดไทยฯ+จากนั้นออกเดินทางไปสวนลุมพินี (กรุณาใส่ชุดขาว/หรือตามอัธยาศัย) เช้า - ถึงสวนลุมพินี สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า+สวดมนต์ปฏิบัติธรรมเวียนเทียน ณ เสาหินพระเจ้าอโศก อั นเป็นสถานที่ประสูติ+ชมมายาเทวีวิหาร ภายในมีซากอิฐโบราณอายุ 2,300 กว่าปี มีหินแกะสลักเป็นรูป การประสูติของเจ้าชายสัทธัตถะ ซึ่งพระนางสิริมหามายาเทวีทรงยืนเหนี่ยวกิ่งไม้สาละ+ชมสระโบกขรณี เป็น สถานที่สรงสนานพระวรกายของพระมหาบุรุษและพระพุทธมารดา ในวันประสูติ+ช้อปปิ้งที่ตลาดหน้าสวนฯ 12.00 น.–ผ่านด่านชายแดนโสเนาลี่+ผ่านพิธีการด่าน ตม. อินเดีย - เนปาล +บริการอาหารเช้าที่วัดไทย 960 บ่าย - เดินทางไปเมืองสาวัตถี อดีตเมืองหลวงของแคว้นโกศล พระเจ้าปเสนทิโกศลมหาราชที่สำเร็จพระโสดาบัน อัครศาสนูปถัมภ์ที่สำคัญ พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่สาวัตถี รวม 25 พรรษา ประทับอยู่ที่วัดเชตวันมหาวิหาร ที่อนาถบิณฑิกะเศรษฐีสร้างถวาย 19 พรรษา และวัดบุพพารามที่นางวิสาขาสร้างถวาย 6 พรรษา มีประชากร 7 โกฏิ (70 ล้านคน) ปัจจุบันเหลือเนื้อที่ประมาณ 80 ไร่ 32 เอเคอร์+สวดมนต์ทำวัตรเย็นบนรถ 20.00 น.- ถึงเมืองสาวัตถี (ประมาณ 260 กม.)+บริการอาหารค่ำที่โรงแรม Lotus/Pawan/Ashoka+พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่หก : ลุมพินี–สาวัตถี–วัดพระเชตวัน–บ้านอนาถบิณฑิกะ+องคุลีมาล –ยมกปาฎิหาริย์ 06.00 น. – บริการอาหารเช้าที่วัดไทยฯ+จากนั้นนำคณะสวดมนต์ภาวนา ณ วัดพระเชตวันมหาวิหาร ซึ่งพระพุทธองค์ เช้า ประทับอยู่นานที่สุด 19 พรรษา ศูนย์กลางเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่สำคัญ นมัสการพระคันธกุฎีที่ประทับ ประจำฤดูร้อน-หนาว-ฝน+ธรรมสภาใหญ่ ต้นกำเนิดอุโบสถในปัจจุบัน+ศาลาธรรมุทเทศน์ที่แสดงธรรม +กุฏิพระอสีติมหาสาวก 80 รูป เช่น พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระสีวลี พระราหุล ฯลฯ เป็นต้น +นมัสการต้นอานันทโพธิ์ ซึ่งพระพุทธองค์ทรงปลูกไว้ โดยพระมหาโมคคัลลานะนำเมล็ดพันธุ์จากพุทธคยา พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงเพาะชำ และพระอานนท์พุทธอุปัฎฐากผู้ดูแลรักษาจึงเรียกว่า “อานันทโพธิ์” มีอายุ ยืนยาวมาถึงปัจจุบัน 2,500 กว่าปี+สถานที่พระพุทธองค์ทรงแต่งตั้งพระอรหันต์ 8 ทิศ สวดคาถาบูชา - ทัศนศึกษาบ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี+บ้านภัคคปุโรหิตบิดาและนางมัตตานีมารดาของพระองคุลีมาล - สถานที่แสดง ยมกปาฏิหาริย์ +เยี่ยมชมแดนมหามงคลของมหาอุบาสิกาพระแม่บงกช (กรณีมีเวลาพอ) 12.00 น.–บริการอาหารเที่ยงที่วัดไทยฯ+จากนั้นเดินทางไปสู่เมืองพาราณสี (ระยะทางประมาณ 320 กม./10 ชั่วโมง) 20.00 น.- ถึงพาราณสี+บริการอาหารค่ำที่วัดไทยสารนาถ+จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่เจ็ด : พาราณสี–ล่องเรือแม่น้ำคงคา–กุสินารา–ปรินิพพาน 06.00 น.- ล่องเรือแม่น้ำคงคา+ชมท่าน้ำมณิกรรณิกา ที่เผาศพซึ่งไฟไม่เคยดับเลยประมาณ 4,000 กว่าปี+ท่าทศวเมศ เช้า - ที่อาบน้ำล้างบาป+พิธีบูชาพระแม่คงคาของชาวฮินดู+ชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า+บริการอาหารเช้าที่วัดไทยฯ 09.00 น.- ถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวัน สถานที่แสดงปฐมเทศนา ทัศนศึกษาและนมัสการ (1) ธัมมราชิกาสถูป
สถานที่แสดงอนัตตลักขณสูตร สูง 60 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 13 เมตร ปัจจุบันเหลือ 1 เมตร พระเจ้าอโศก สร้างครอบสถานที่ปัญจวัคคีย์บรรลุพระอรหันต์ในวันแรม 5 ค่ำ เดือน 6 (2) พระมูลคันธกุฎี สถานที่จำ พรรษาแรกของพระพุทธเจ้า สูง 61 เมตร กว้าง 18 เมตร ปัจจุบันเหลือ 5 เมตร พระเจ้าอโศกสร้างครอบไว้ (3) เสาอโศก สูง 15.25 เมตร ด้านบนเป็นสิงห์ 4 หัว หันหลังชนกัน ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สารนาถ (4) ยสเจดีย์ สถานที่แสดงอนุปุพพีกถา โปรดยสกุลบุตร (5) ธัมเมกขสถูป สถานที่แสดงปฐมเทศนา ปัญจวัคคีย์ โดยพระอัญญาโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นองค์แรก ที่เกิดขึ้นแห่งวันอาสาฬหบูชา สาธยายพระธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ปฏิบัติธรรม และเวียนเทียนองค์มหาสถูปใหญ่ สูง 33 เมตร มีเส้น ผ่าศูนย์กลาง 28 เมตร ซึ่งพระเจ้าอโศกสร้าง พ.ศ. 234 อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮมได้ขุดค้นพบพ.ศ. 2365 11.30 น.- ชมพิพิธภัณฑ์สารนาถ มีพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา เป็นหินแกะสลักสมัยคุปตะที่ได้รับการยกย่องจาก สหประชาชาติว่าสวยงามที่สุดในโลกอันดับ 1 มีหัวสิงห์ 4 ทิศ+และมีพุทธรูปและเทวรูปต่างๆมากมาย 12.00 น. – บริการอาหารเที่ยงที่วัดไทยฯ+จากนั้นเดินทางไปพุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ (ระยะทาง 260 กม./6 ชั่วโมง) 13.00 น.- แวะชมเจาคันธีสถูป สถานที่พระพุทธเจ้าพบปัญจวัคคีย์ครั้งแรกหลังตรัสรู้ พระเจ้าอโศกมหาราช สร้างเมื่อ พ.ศ.236 ซึ่งพระเจ้าหุมายุนมาหลบภัยถึง 15 ปี พ.ศ.2075 และพระเจ้าอักบาร์ดัดแปลงเป็นเจดีย์แปดเหลี่ยม 20.00 น. – ถึงพุทธคยา+บริการอาหารค่ำที่วัดไทยปากน้ำ ห้องละ 2-5 คน+พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่แปด : พุทธคยา – ถ้ำดงคสิริ - เนรัญชรา – ต้นพระศรีมหาโพธิ์ 06.00 น.- บริการอาหารเช้าที่วัดไทย+เดินทางไปนมัสการถ้ำดงคสิริ เทือกเขาพรหมโยนีที่บำเพ็ญทุกกรกิริยาเป็นเวลา 6 ปี เช้า - ทัศนศึกษาบ้านนางสุชาดา ผู้ถวายข้าวมธุปายาสแด่พระมหาบุรุษก่อนที่จะตรัสรู้+ท่าสุปปติฏฐะริมฝั่งแม่น้ำ เนรัญชรา+สถานที่ลอยถาดทองคำอธิษฐานจิตเที่ยงทาย+ที่รับหญ้ากุสะ 8 กำ จากโสตถิยะพราหมณ์ 12.00 น.– บริการอาหารเที่ยงที่วัดไทย+จากนั้นนมัสการต้นพระศรีมหาโพธิ์สถานที่ตรัสรู้+กราบ “พระพุทธเมตตา” บ่าย - พระประธานในเจดีย์พุทธคยา+พระแท่นวัชรอาสน์+ทัศนศึกษาสัตตมหาสถาน ที่เสวยวิมุตติสุขหลัง จากตรัสรู้ 7 สัปดาห์ คือ (1) โพธิบัลลังก์ (พระแท่นวัชรอาสน์)+(2) อนิมิสเจดีย์+(3) รัตนจงกรมเจดีย์ +(4) รัตนฆรเจดีย์+(5) อชปาลนิโครธ+(6)สระมุจลินท์+(7) ราชายตนะ+สวดมนต์ภาวนา+เวียนเทียน - จากนั้นอิสระไปช้อปปิ้งที่ตลาดพุทธคยา บริเวณด้านหน้าต้นพระศรีมหาโพธิ์ หรือถ่ายรูปเป็นที่ระลึก 19.00 น.- บริการอาหารเย็นที่วัดไทยปากน้ำ+พักผ่อนตามอัธยาศัย หรือไปปฏิบัติธรรมพักค้างคืน ณ ต้นพระศรีมหาโพธิ์
วันที่เก้า : ต้นพระศรีมหาโพธิ์ – วัดพุทธนานาชาติ – ช้อปปิ้งสินค้า – โกลกัตต้า 06.00 น. - บริการอาหารเช้าที่วัดไทย+เดินทางไปสวดมนต์ปฏิธรรม ณ ต้นพระศรีมหาโพธิ์+อิสระถ่ายรูปที่ระลึก เช้า - เยี่ยมชมวัดพุทธนานาชาติ เช่น วัดไทยพุทธคยา วัดภูฏาน วัดธิเบต วัดญี่ปุ่น หลวงพ่อโตจำลองจากญี่ปุ่น 12.00 น. – บริการอาหารเที่ยงที่วัดไทยฯ+จากนั้นพักผ่อนอิริยาบถตามอัธยาศัย+ทำบุญทอดผ้าป่าบำรุงวัดไทยฯ บ่าย - ช้อปปิ้งสินค้าตามอัธยาศัย ณ ตลาดพุทธคยา เช่น ผ้าไหม ล๊อคเก็ต รูปภาพ เครื่องทองเหลือง วัตถุมงคล ฯลฯ เย็น - อาบน้ำทำธุระส่วนตัว+เตรียมแพ็คกระเป๋า+บริการอาหารเย็น+จากนั้นเดินทางสู่โกลกัตต้า+พักผ่อนบนรถ
วันที่สิบ : โกลกัตต้า – กรุงเทพฯ 05.00 น. – ถึงโกลกัตต้า+ทำธุระส่วนตัว+บริการอาหารเช้าที่ภัตตาคาร+จากนั้นเดินทางสู่สนามบินโกลกัตต้า 08.00 น. – เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกบริการเช็คอิน+ตรวจเช็คสัมภาระ+แจกบัตรที่นั่งโดยสารให้แก่ทุกท่าน 10.00 น. - ออกเดินทางกลับเมืองไทย โดยสายการบินเจ็ตแอร์เวย์ JET AIRWAYS เที่ยวบินที่ 9W 72G (มีบริการอาหาร) 13.50 น. - ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ ญาติรอรับที่อาคารระหว่างประเทศ ชั้นล่าง ประตู B-C
เงื่อนไขรายการทัวร์ : อัตราค่าบริการ ท่านละ 32,900 บาท (พระสงฆ์+แม่ชี ลดท่านละ 2,000 บาท) พักวัด+ทานอาหารวัดไทย 6 คืน (ห้องละ 2-5 คน) + พักโรงแรม+ทานอาหารโรงแรม 2 คืน (ห้องละ 2 คน) วันสมัคร/รับ Passport จ่ายมัดจำก่อน 10,000 บาท และส่วนที่เหลือก่อนเดินทาง 1 เดือน ค่าใช้จ่ายนี้รวม :- ค่าตั๋วเครื่องบิน+ค่ารถโค้ชปรับอากาศ+ค่าวีซ่าประทศอินเดียและเนปาล+ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ - ค่าประกันภัย 1,000,000 บาท+ค่าอาหารตามที่ระบุไว้ในรายการ+ค่ามัคคุเทศก์ชาวไทยและอินเดีย ค่าใช้จ่ายนี้ไม่รวม :- ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทางและเอกสารต่างด้าว+ค่าทิปคนขับรถ–เด็กรถขน+เด็กขนกระเป๋า +เจ้าหน้าที่บริการ โดยเก็บทิปรวมตลอดรายการ ท่านละ 300 บาท (เก็บทิปรวมทุกอย่าง เป็นธรรมเนียมประเพณี) - ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์ โทรสาร ค่าซักรีด ค่าเครื่องดื่มและค่าใช้จ่ายนอกเหนือที่ระบุ หลักฐานในการเดินทาง : ส่งก่อนวันเดินทางอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 15 วัน (1) หนังสือเดินทาง (Passport) มีอายุการใช้งานเหลือไม่ตำกว่า 6 เดือน (2) สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด (3 รูปถ่ายภาพสี ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 5 ใบ เพื่อทำวีซ่าอินเดีย 2 ใบ+เนปาล 1 ใบ+หนังสือรุ่น 1 ใบ
“ อิ่มบุญอุ่นใจ ไปกับธรรมหรรษาทัวร์ – ด้วยไมตรีจิตและจริงใจที่ได้รับบริการ..
|
|
|
26
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / การเห็น นามรูป ใน สมถะ กับ ในวิปัสสนา ต่างกันอย่างไร ครับ
|
เมื่อ: สิงหาคม 27, 2012, 04:55:53 pm
|
การเห็น นามรูป ใน สมถะ กับ ในวิปัสสนา ต่างกันอย่างไร ครับ ด้วยความสงสัยครับ ในการเห็นนามรูป ด้วยอำนาจจิต ที่เป็น สมาธิ กับด้วย อำนาจจิตที่ประกอบด้วย สติ แตกต่างกันอย่างไร ไปสู่จุดหมายปลายทางเดียวกันหรือไม่ครับ การเห็น นามรูป ในขณิกสมาธิ เห็นอย่างไร ครับ การเห็น นามรูป ในอุปจาระสมาธิ เห็นอย่างไร ครับ การเห็น นามรูป ในอัปปนาสมาธิ เห็นอย่างไร ครับ การเห็น นามรูป ในวิปัสสนา เห็นอย่างไร ครับ เรียนถามท่านผู้รู้ ทุกท่านด้วยความเคารพครับ 
|
|
|
29
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทำบุญ แล้วพระไม่ฉัน อาหารที่เรานำไปถวาย เราได้บุญหรือไม่ ?
|
เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2012, 09:48:13 pm
|
ผมว่า ถ้าจะให้บุญจริง แล้ว ทานที่ให้ต้องบริสุทธิ์ ทั้งฝ่ายผู้ให้ ทานที่รับไปผู้รับก็รับไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์ รู้สึกว่า ทางพระจะใช้คำว่า ปฏิคาหก อะไรประมาณนี้ครับ คือถ้าต้องการให้ได้บุญอานิสงค์ มากจริง ๆ แล้ว ก็ต้องพร้อมทั้งผู้ให้ และ ผู้รับครับ แต่ประมาณว่า ฝ่ายผู้รับเราคงจัดการได้ยาก หรือรู้ได้ยาก ก็เอาแค่ผู้ให้ก่อน ก็ได้ครับ ผมเคยฟังพระอาจารย์พูดในรายการ เรื่อง ธรรมทาน นะครับท่านกล่าวว่า บุญแม้ทำไม่เต็มใจก็มีผล แม้ทำเพราะกลัว ก็มีผล แม้ทำเพราะรักก็มีผล แม้ทำเพราะเหตุต่าง ๆ ก็มีผล แต่ผลนั้นจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเจตนา และความบริสุทธิ์ของทานนั้นด้วยครับ
|
|
|
34
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: มีวิธีตรวจสอบอย่างไร ว่ากรรมฐาน เราเสื่อมคะ
|
เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2012, 09:01:13 pm
|
เอาอย่างพระโคธิำกะ ก็ต้องได้ ฌาน เสื่อม ฌาน หลายหน นะครับ ถ้าจะเอาอย่างต้องมั่นใจจะได้คุณธรรมด้วยนะครับ ถ้าไม่มั่นใจแล้วอาจจะเสียเวลาในนรก อีก เรื่อง ของ สมาธิ เสื่อมนี้เป็นไปได้หรือไม่ครับ ผมว่า โอกาสเป็นไปได้ครับถ้าเรายังฝึกสมาธิ ที่เป็นโลกียะ คือ ฝึกเพื่อ ฌาน เป็นหลักคือ เอา ปริสุทธุเบกขา เท่านั้น จะเพื่อฤทธิ์หรือเพื่อจุดประสงค์ที่เป็นไปเพื่อการอยู่ในโลก อย่างนี้โอกาสเสื่อมมีสูงครับ ดังนั้น สมาธินี้เสือมแล้ว ก็ฝึกใหม่ครับ เคยฝึกได้ ก็ต้องฝึกได้ ต้องเห็นว่าการเสื่อมจากสมาธิเป็นเรื่องปกติ ของผู้ที่ยังจิตประกอบด้วย โลกียวิสัย ครับ ดังนั้นมาพูดเรื่องพิสูจน์ ว่า สมาธิ เสื่อมหรือไม่ ? กันดีกว่าหรือไม่ นะครับ 1.สมาธิ เมื่อเสื่อม จะมีลักษณะ คือ ยินดี ยินร้าย ฟุ้งซ่าน ง่วงนอน สงสัย อยู่อย่างนั้น วิธีทดสอบคือ เมื่อเริ่มปฏิบัติสมาธิ สักประมาณ 15 นาีที ก็จะทราบผลแล้วด้วยความรู้สึกในภายใน ตัวเราเองนั้นก็จะูรู้ว่า จิตไม่สามารถรวมลงยัง ฐานจิตได้ครับ ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็อธิษฐานขอบารมี พระพุทธเจ้า ปฏิบัติบูชาครับ ปฏิบัติตามขั้นตอนกรรมฐานใหม่ นะครับ ดังนั้นถ้าไม่อยากให้กรรมฐาน เสื่อมต้องรักษาปณิธานการภาวนาเพื่อการสิ้นภพชาติ ตัดกิเลสครับ อย่างนี้จะไม่เสื่อมครับ เป็น โลกุตรวิสัย ครับ 
|
|
|
|