ผมตัวสีดำ ครับ แต่ก็ไปตามอ่านในเฟส ครับ ทุกวันครับ ถามตอบในนั้น รู้สึกจะไวกว่าในเว็บครับ

 

 

 
ไม่ได้มาอ่าน ตั้งนาน มีเนื้อหา เช้มข้นเพิ่มขึ้นมาก
 

เรื่องนี้ มีประโยชน์ อย่างยิ่งจริง ๆ ครับ

 

เห็นตัวอย่าง ด้านในหนังสือ แล้ว อยากเรียนถามว่า ได้จัดพิมพ์หรือยัง ครับ

 

 

หัวเรื่อง กล่าวหนัก ดี

  ฟ้า หลัง ฝน หรือ นรกทั้งชาติ

   ข้อความสำคัญ คือ อันนี้
 
   ขอให้ พระพุทโธ ประทับไว้กลางใจ ท่าน ตลอดเวลา
เวลาที่ทุกข์มาก ๆ อย่ามัวไปนึกให้ใครมาสงสารเห็นใจ จงใช้เวลาที่มีอยู่นั้น นึกถึงพระพุทโธ ให้มากขึ้น ทุกท่าน

     

   

 

 

คิดว่า งานนี้มีแต่บุญ พระอาจารย์ อาจจะหนักใจเรื่องการหาทุน แต่ คิดว่า ทุน นั้น ถ้าพระอาจารย์ อธิษฐานจริง ๆ น่าจะได้ไม่ยากนะคะ สำหรับการสร้างธรรมทาน ส่วนนี้

  ส่วนตัว เห็นพลังลูกศิษย์พระอาจารย์ มาหลายครั้งแล้ว แม้จะมีจำนวนไม่มากคนแต่ เห็นพลังที่ช่วยกันดัน พยุง เว็บ และ ติดตามส่งเสริม พระกรรมฐาน สายนี้แล้ว รู้สึกชื่นชอบ มากคะ ในใจคิดไว้มาหลายปีแล้ว ถ้าพระอาจารย์ เริ่มตั้งสำนักตรงไหน ก็กะจะไปตรงนั้น คะ

 

 

เมตตาเจโต วิมุตติ ฝึกตามขั้นตอน ออกบัวบานพรหมวิหาร 4 ก็ได้
  1. เจริญสวดคาถา พญาไก่เถื่อน
  2. แผ่เมตตาออกทิศให้เป็นประจำ

   เดี๋ยวจิตก็พัฒนาเป็นเอง

   

 

 จะได้เป็นบุญ ของคนอิสาณได้ปฏิบัติ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับกันบ้าง

 

เทวดา ตั้งแต่ ชั้น จาตุมหาราชิก จน ถึงพรหมสูงสุด จัดเป็นพราหมณ์ หรือ เป็นพุทธ

  คือไม่ทราบว่า ควรเรียกว่า พราหมณ์ หรือ เรียกว่า พุทธ
 
 เพราะอ่านไปหลาย ๆ พระสูตรบางครั้ง พระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสเรียก พระอรหันต์ว่า พราหมณ์ บางครั้งก็ เรียก
พรหมกาย อย่างนี้ แท้ที่จริง เทวดาทั้งหมดเหล่านี้เป็น พราหมณ์ หรือ เป็นพุทธ ครับ

สาธุึ เป็นพุทธภาษิต ที่กินใจ มากครับ

 

ผมฟังและจำไว้ว่า

   "ฐานจิตให้ แล้วจะเอาพุทโธ ใส่ตรงไหน ?"

  ถ้าไม่อธิษฐาน ก็อาจจะหลุด ปัคคาหะสมาธิ นะครับ ถ้าฟังไว้ไม่ผิดก็เป็นเช่นนั้น

   

ผมสนใจเรื่อง อานาปานสติ มากที่สุดเลยครับ

 

วิีดีโอ หรือ ไฟล์เสียง ชุดนี้ได้ทำหรือยังครับ

 ขอบคุณมากครับ

 

สนใจ ไฟล์เสียง ลำดับพระกรรมฐาน ครับ
 ปกติจะได้ฟัง แต่ พระขุททกาปีติ และ วสีพระขุททกาปีติ

   นาน ๆ จะได้ฟัง ขณิกา โอกกันติกา อุพเพงคาปีติ ผรณาปีติ นานมาก ถึงจะได้ฟัง และ พระยุคลธรรม ผมเคยได้ฟังครั้งเดียว ายปาคุญญตา และ จิตตปาคุญตา  กับ อานาปานสติ ฟังได้ครั้งเดียว ทั้ง ๆที่ชอบมากเลยครับ ฟังแล้วปฏิบัติตามได้ ด้วย

    อยากได้ไฟล์เสียง ชุดนี้ทำอย่างไร ครับ

   

[ปัจจุบัน ก็เห็น มี พระครูสิทธิสังวร ( หลวงพ่อจิ๋ว )]

ปัจจุบัน ก็เห็น มี พระครูสิทธิสังวร ( หลวงพ่อจิ๋ว )

 

 

มี สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีิวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ

  นี่เป็นคุณสมบัติของพระอรหันต์ ... เรียกว่า อริยะมรรค

 

เคยฟัง หลวงพ่อพุธ ท่านเทศน์บอกว่า เชื่อได้ สักประมาณ 20 ส่วนอีก 80 ก็จะโกหกเป็นส่วนใหญ่

 

กฐิน กับ ความเป็นพระ น่าจะเป็นคนละเรื่อง นะครับ

  ความเป็นพระ อยู่ที่สงฆ์ สวดยกฐานะ ด้วย ญัตติจตุตถกรรมวาจา และ ทรงไว้ซึ่งวินัย

 ส่วนกฐิน นั้นเป้นเพียงกิจกรรม ส่วนหนึ่งที่ ทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ ....

   

คิดว่า โอกาสของพระที่อยู่วัด น่าจะมีมากกว่า ในด้าน ปริยัติ นะครับ เพราะมี สัปปายะอาหาร อากาศ อาจารย์ การเดินทาง น่าจะมีมากกกว่า

   ส่วนพระป่า ต้องอาศัยพึ่งตนเอง ทั้งหมด คงต้องมีความรู้ไปก่อน แล้ว นะครับ ต้องมีมากจากวัดก่อน นะครับ ถึงจะไปรอดในการภาวนา นะครับ


   

อยากให้พระอาจารย์ อธิบายเพิ่มเติม จากเืนื้อความย่อเพิ่มอีกครับ ผมมีปัญญาทางด้านกรรมฐาน ไม่มากครับ อ่านแล้วก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจครับ

 ขอบคุณ ล่วงหน้าทุกท่านนะครับ ที่จะช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้ ครับ

 

อนุโมทนา กับพระอาจารย์ ครับ เรื่องเก่า ๆ ทีโพสต์มาหลุดการอ่านผมไปมากนะครับ เมื่อมาอ่านแล้ว จึงรู้ว่ามีคุณค่าทางใจมาก เลยครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ลักษณะ ของคนที่มี ฌาน สังเกตดู จะมีความสงบเยือกเย็น และ ชอบการนั่งกรรมฐาน หรือ นิ่ง ๆ ไม่ค่อยพูดครับ

 

[ถ้าจำไม่ผิด รู้สึก จะมีกระทู้หนึ่ง กล่าวถึงประวัติของพระเวสสุวรรณ ผมค้นไม่เจอ การบูชาพระอริยะเจ้า ตั้งแต่พระโสดาบัน ก็เป็นบุญนะครับ ดังนั้น ท้าวเวสสุวรรณ คือ พระโสดาบัน กล่าวว่า คือ พระเจ้าพิมพิสาร นะครับ ที่ไปบังเกิดเป็น ท้าวเวสสุวรรณ นะครับ ต้องลองสืบกระทู้ดู จึงไม่น่าจะมีความผิดใด ๆ ในการบูชา ท้าวเวสสุวรรณ ผู้เป็นหนึ่งใน จาตุมหาราชิกา นะครับ]

ถ้าจำไม่ผิด รู้สึก จะมีกระทู้หนึ่ง กล่าวถึงประวัติของพระเวสสุวรรณ ผมค้นไม่เจอ

 การบูชาพระอริยะเจ้า ตั้งแต่พระโสดาบัน ก็เป็นบุญนะครับ
 ดังนั้น ท้าวเวสสุวรรณ คือ พระโสดาบัน กล่าวว่า คือ พระเจ้าพิมพิสาร นะครับ ที่ไปบังเกิดเป็น ท้าวเวสสุวรรณ นะครับ ต้องลองสืบกระทู้ดู

  จึงไม่น่าจะมีความผิดใด ๆ ในการบูชา ท้าวเวสสุวรรณ ผู้เป็นหนึ่งใน จาตุมหาราชิกา นะครับ

   



ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.amulet.in.th

  

ลองวิจารณ์ โดยยก ทุกข์เป็นองค์ตั้ง ดูนะครับ
จริง โดยสมมุติ ว่า นี่เป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อน ญาติ สหาย หัวหน้า ลูกน้อง เป็นต้น ตรงนี้สมมุติให้เป็น แต่ถ้าใครตั้งมั่นในสมมุติ ไว้อย่างเหนียวแน่น ก็ต้อง ทุกข์ แท้ที่จริง ความจริง ก็คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน ครับ

 จริง โดยความเป็น จริง อันนี้ ผมว่าน่าจะหมายถึง กฏแห่งพระไตรลักษณ์ มีความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ถึงไม่สมมุติ แต่ความเป็นจริง ก็ต้องเป็นจริงอย่างนั้น คือ เกิด แล้ว ต้องแก่ ต้องเจ็บ และต้องตาย

 จริง โดย ปรมัตถ์ ฟังมาจากพระอาจารย์ อีกทีนานมากแล้ว นั้นคือความเป็นจริง ที่เป็นสภาวะ อันเกิดจากการภาวนา เริ่มตั้งแต่ ศรัทธา ไป ปีติ ปราโมทย์  สุข สมาธิ เป็นต้นไป สิ่งเหล่านี้เรียกว่า จริง โดยปรมัตถ์ เพราะถึงความจริงนี้ได้ ด้วยอาการภาวนา เท่านั้น ถ้าไม่ภาวนา ก็ไม่ถึง ทั้งที่ต้นสายปลายเหตุ มีเพียงเพื่อความหลุดพ้นจาก วัฏฏะวังวน ของทุกข์ จึงได้จัดเรียกส่วนนี้ ว่า จริง โดยปรมัตถ์ กล่าวคือ มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 นั้นคือความเป็นจริง โดยปรมัตถ์

 อธิบาย บูชาครูครับ


 

อธิบายได้ชัดเจน ดี คะ ไม่ทราบว่าเป็น พระ หรือไม่คะ เห็นใช้รูปพระธุดงค์

 

เห็นด้วยคะ ถ้าได้ฟังเรื่องอานาปานสติ จากพระอาจารย์คิดว่าต้องมีการภาวนารุดหน้าอย่างแน่แท้คะ สำหรับพวกที่ชอบการฝึกอานาปานสติ ลองมาลงชื่อแล้ว นิมนต์พระอาจารย์มาบรรยายเรื่องนี้ สักครั้งดีหรือไม่คะ

 สาธุ สาธุ สาธุ

 

เป็นแนวความคิดแบบพึ่งตนเอง ดี่จ้า
อนุโมทนา กับหลวงพ่อด้วยจ้า

 

สำหรับ คนต่างประเทศ ที่ไม่ได้นับถือ พระพุทธเจ้าก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร คงจะนึกว่า เหมือนได้นั่งทับ ตุ๊กตาโดเรมอน ประมาณนั้น

   ดังนั้น กลุ่มที่ไม่นับถือ ก็จะเห็นด้วย..... เกือบ 100 เปอร์เซ็น


สำหรับคนไทย เรา ที่นับถือพระพุทธศาสนา อยู่ ก็จะเห็นว่าเป็นการไม่เหมาะสม เหมือนเขาเอาขี้ส้วม มาตั้งหน้าบ้าน ที่จะต้องปกป้องสิทธิกันบ้าง

         ซึ่งก็น่าจะมี อยู่ หลายพวก

     1.พวกที่ คิดว่าตนเอง มีปัญญามาก มองโลกได้อย่างกว้าง ไม่ยึดติดกับพระพุทธรูป เพราะอาศัยพุทธคุณในใจ ใครจะทุบ ใครจะทำลาย ใครจะนำไปเผา ไปทิ้งอย่างไร ก็ช่างหัวมัน ประมาณนั้น เพราะคิดว่า พระพุทธรูป ก็คือ ทองเหลือง ทองแดง เหล็ก อิฐ หิน ปูน ทราย ดังนั้นกลุ่มนี้ก็จะชอบใจและใช้แง่มุมนี้ มาตีกระหน่ำผู้นับถือด้วยกัน อีกชั้นหนึ่ง เรียกว่าเป็นแรงส่งเสริมให้ทำ เพราะพระพุทธเจ้าอยู่ในใจชั้นแล้ว ไม่ต้องไปสนอะไรกับ เศษธาตุ
     
     2.พวกที่นับถือกราบไหว้ พระพุทธรูป เป็นอย่างมาก ก็แน่ละเรานับถือเคยบ่นบาน ท่านด้วยโชคดีก็หลาย มีโชคก็หลายหน ต้องไปแก้บนก็หลายคราว มีติดตัวแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจ ไปไหนแคล้วคลาดปลอดภัย เรานับถือทั้งพระพุทธคุณ และธรรมคุณ และปกป้องศิลปวัฒนธรรมของชนชาติไว้ไม่ให้สูญหาย ดูอย่างมรดกโลกสิ ลองไม่มี อิฐหินปูนทราย เจดีย์ เหล่านั้น ใครจะให้เป็นมรดกโลกกันละยะ ดังนั้นถ้าเป็นกลุ่มแล้ว แน่นอนชั้นยอมไม่ได้ ต้องสู้ปกป้องสิทธิ์ของเราที่จะนับถือ ไม่ให้ใครมาดูหมิ่นเหยียดหยาม

    3.พวกนกสองหัว ที่เดี๋ยวเปลี่ยนพักตร์ พรรคซ้าย พรรคขวา พวกนี้จะน่าเอือมมาก ๆ

   ขี้เกียจพิมพ์แล้วคะ .........

   

ที่จริง โครงการนี้ไม่ได้พึ่งมีคะ มีมานานแล้ว ทีเห็น ๆ ก็มีพระเข้าไปสอนในโรงเรียน แต่เท่านที่ทราบจะมีแต่โรงเรียนในเมืองคะ ตามโรงเรียนบ้านนอกไม่ค่อยมีพระมาสอนคะ เพราะว่า ครูพระมีเงินเดือน นะคะ และ โรงเรียนที่สอนอัตรากับพระสอนก็ไม่ลงตัวคะ พระ 1 รูป อาจจะต้องสอนนักเรียนใน ชม.ธรรมะ ทุกชั้น ตั้งแต่ ป1 ถึง ม6 เลยนะคะ อีกอย่างการมีพระสอนหนังสือ ต้องได้พระที่ทุ่มเทในการสอนด้วย แต่พระเหล่านี้เมื่อเขาสอนแล้ว ก็ต้องเสียกิจหลายเรื่อง คะ เช่นกิจนิมนต์ กิจสงฆ์ เพราะต้องเตรียมการสอน บางรูป บางองค์ ก็ต้องทุ่มเทปัจจัยเพื่อ ซื้อวัสดุอุปกรณ์กันเอง ตลอดถึงค่ารถ ที่ต้องเดินทางถ้าไกลมาก และการเตรียมการสอนอาจจะต้องเสียเวลาพักผ่อนคะ ดังนั้น พระที่สอนหนังสือ จริง นั้น จะหายาก เพราะขาดด้วยเรื่องการสนับสนุนทุนบ้าง เหนื่อยบ้าง สอนเด็กไม่ใช่สอนง่าย ๆ นะคะ ยิ่งในเมือง เด็กเก๋า ๆ มีมากเคยเห็นมาแล้วคะ ถ้าทางครูไม่ให้อำนาจการตัดคะแนนแก่พระด้วย การสอนหนังสือนักเรียนไม่ใช่เรื่อง่าย ๆ เลยคะ

 

ใช่องค์เดียวกับที่สนามหลวง หรือ ไม่ จ๊ะ

 

อย่างน้อยถ้าพลาดจากพระพุทธศาสนา แล้ว ไม่มีพระอริยะเจ้าในโลก แล้ว ก็ขอเกิดเป็นชาวอุตตรกุรุทวีป นะจ๊ะ

 

ตกลงสรุป ว่าคือ อะไรคะ สำนักแพศยา นี้ แล้วเกี่ยวข้องอย่างไร ต่อการปฏิบัติกรรมฐาน หรือ กับหลักธรรม ด้วยคะ

 ขอบคุณมากคะ

 สงสัยเหมือนกัน
   

[เป็นเหตุให้การโยกย้ายองค์พระไม่สำเร็จ และชาวบ้านจึงเป็นผู้ดูแลรักษาหลวงพ่อดำไว้ หากเกิดเจ็บป่วยก็จะนำน้ำมันมาลูบองค์พระแล้วอธิษฐานขอให้พระพุทธรูปองค์ดำรักษาโรคต่างๆ ก็เป็นมหัศจรรย์ว่า โรคต่างๆ ได้ถูกรักษาด้วยพลังความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระ]

อนุโมทนา แสดงว่าองค์จริง ก็ยังอยู่ที่ นาลันทา องค์ที่ยกมาต้องเป็นองค์ ที่สร้างมาใหม่ใช่หรือไม่ จ๊ะ

 
     เป็นเหตุให้การโยกย้ายองค์พระไม่สำเร็จ และชาวบ้านจึงเป็นผู้ดูแลรักษาหลวงพ่อดำไว้ หากเกิดเจ็บป่วยก็จะนำน้ำมันมาลูบองค์พระแล้วอธิษฐานขอให้พระพุทธรูปองค์ดำรักษาโรคต่างๆ ก็เป็นมหัศจรรย์ว่า โรคต่างๆ ได้ถูกรักษาด้วยพลังความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระ


   และนี่คือสาเหตุ ที่คนต้องต่อแถว เข้าไปเพื่อลูบ องค์ดำที่สนามหลวง

 

 มี หลาย ต่อ หลาย ครั้ง ที่คนคิด จะทำดี มีโอกาส แต่ไม่สร้าง ความดี จ้า

     เีรา่ มีเพื่อนที่ดี อยู่ท่านหนึ่ง จัดได้ว่า ท่านดีมาก ๆ คะ เวลาทุกคนเดือดร้อน ท่านจะช่วยทุกคนที่เข้าไปขอพึ่งพา แต่เวลาท่านเดือดร้อน ไม่มีใครคิดจะช่วยท่าน เหตุผลมีเพียงเรื่องเดียว เพราะว่า เจ้านายใหญ่ ไม่ชอบท่านทุกคนจึงละจากการสมาคมท่าน ต่อหน้า มีแต่ คบท่านกันลับหลัง คะ แม้แต่เราเอง ก็ยังไม่กล้าสนทนากับท่าน ต่อหน้าผู้ใหญ่ เลยคะ กลัวหางเลขไปด้วย ก็เพราะอย่างนี้แหละคะ สังคมเรา ไม่ยกย่องคนดี เพียงแต่คบกันเพียงเพื่อโลกธรรม คือ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ เพราะกลัว เสื่อมลาภ เสื่อมยศ ทุกข์ นินทา กันใช่หรือไม่คะ

     ดังนั้น คนดี จึงไม่เป็นที่ต้องการของคนทั่วไป คะ
 
     การทำความดี ทำได้ยาก นะคะ

     ดังนั้น เมื่อเราไปขวางโอกาสบุญกุศลของผู้ืือื่น แล้ว ก็ย่อมต้องรับกรรม คะ จะมาก หรือ น้อย ขึ้นอยู่กับเจตนาที่เราได้แสดงกระทำไว้ คะ

     

ดีคะ จะได้ใช้ฟรี บ้างอย่างน้อยไว้รับกับจดหมาย บ้างเพราะตอนนี้ เด็ก ป1 มี เท็บเล็ต แล้ว อย่างเราเองก็ต้องพกไว้รับข่าวสารบ้านเมือง ต่าง ๆ บ้าง อย่างน้อยเอาไว้ติดตามเว็บธรรมะ เวลานั่งในรถเมล์นาน ๆ จะได้เข้าอ่านข้อความธรรมะ บ้างนะคะ