- สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน «
- กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
|
11
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: กล่องลูกฟูก คือกล่องบรรจุสินค้าที่ใช้เพื่อใส่พัสดุ สินค้า ก่อนนำไปส่งที่ไปรษณีย์
เมื่อ: ธันวาคม 10, 2025, 02:19:09 pm
|
||
| เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11 | ||
|
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
|
||
|
12
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ท่อดักท์, ท่อดักท์แอร์ สำหรับผู้รับเหมางานระบบท่อดักท์อุตสาหกรรม
เมื่อ: ธันวาคม 10, 2025, 12:16:26 pm
|
||
| เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11 | ||
|
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
|
||
|
13
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ยถากรรมไทย/บาลี : เรื่อยเปื่อยลอยไปตามบุญตามกรรม/ได้ดีได้ชั่วอยู่ที่ตัว
เมื่อ: ธันวาคม 10, 2025, 10:53:47 am
|
||
| เริ่มโดย raponsan - กระทู้ล่าสุด โดย raponsan | ||
|
.
![]() ยถากรรม (บาลีวันละคำ 503) ยถากรรม อ่านว่า ยะ-ถา-กำ บาลีเขียน “ยถากมฺม” อ่านว่า ยะ-ถา-กำ-มะ (มักใช้รูปเต็มว่า “ยถากมฺมํ” ยะ-ถา-กำ-มัง) ประกอบด้วย ยถา + กมฺม “ยถา” เป็นคำจำพวกนิบาต แปลว่า ฉันใด, เหมือน, ตาม หลักการใช้ “ยถา” : – ถ้าใช้โดดๆ จะต้องมีข้อความที่มีคำว่า “เอวํ” หรือ “ตถา” มาคู่กัน เหมือนภาษาไทยว่า “ฉันใด” ต้องมี “ฉันนั้น” มารับ – ถ้าสมาสกับคำอื่น นิยมแปลว่า “ตาม-” เช่น ยถาพลํ (ยะ-ถา-พะ-ลัง) = ตามกำลัง ในที่นี้ ยถา สมาสกับ กมฺม = ยถากมฺม > ยถากมฺมํ > ยถากรรม จึงแปลว่า “ตามกรรม” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกความหมายไว้ว่า – “ยถากรรม : ตามบุญตามกรรม, ตามแต่จะเป็นไป” @@@@@@@ เรามักเข้าใจกันว่า ยถากรรม หมายถึงอะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด แล้วแต่จะเป็นไป, เรื่อยเปื่อย, เลื่อนลอยไร้จุดหมาย, ตามลมตามแล้ง ยถากมฺม–ยถากรรม ตามความหมายเดิม มักใช้ในข้อความที่กล่าวถึงคติหลังสิ้นชีวิต เป็นการสอนให้คำนึงถึงความสำคัญของการทำกรรม เช่นว่า “กุลบุตรนั้น เมื่อเศรษฐีล่วงลับไปแล้ว ก็ได้ตำแหน่งเศรษฐีในเมืองนั้น ดำรงอยู่ตลอดอายุแล้ว ก็ไปตามยถากรรม” = ไปเกิดตามกรรมดีและชั่วที่ตัวได้ทำไว้ “พระราชาดำรงอยู่ในโอวาทของพระโพธิสัตว์ ทำบุญทั้งหลายแล้วไปตามยถากรรม” = ไปเกิดตามกรรมดีที่ได้ทำ (หลักความจาก พจนานุกรมพุทธศาสน์ฉบับประมวลศัพท์) @@@@@@@ ยถากรรม จึงไม่ใช่ “ตามแต่จะเป็นไป” แต่หมายถึง “ตามแต่เราจะทำให้เป็นไป” ยถากรรมไทย : เรื่อยเปื่อยลอยไปตามบุญตามกรรม ยถากรรมบาลี : ได้ดีได้ชั่วอยู่ที่ตัวเราทำ (เก็บตกฉกฉวยมาจากคำของพระคุณท่าน อาทิตฺตเมธี ภิกฺขุ ๑๖ ก.ย.๕๖) ขอบคุณ : https://dhamtara.com/?p=2532 30 กันยายน 2013 | tppattaya2343@gmail.com ![]() พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ยถากรรม “ตามกรรม” ตามปกติใช้ในข้อความที่กล่าวถึงคติหลังสิ้นชีวิต เมื่อเล่าเรื่องอย่างรวบรัด ทำนองเป็นสำนวนแบบในการสอนให้คำนึงถึงการทำกรรม ส่วนมากใช้ในคัมภีร์ชั้นอรรถกถาลงมา เช่นว่า “กุลบุตรนั้น เมื่อเศรษฐีล่วงลับไปแล้ว ก็ได้ตำแหน่งเศรษฐีในเมืองนั้น ดำรงอยู่ตลอดอายุแล้ว ก็ไปตามยถากรรม” (คือ ไปเกิดตามกรรมดีและชั่วที่ตัวได้ทำไว้), “พระราชาตั้งอยู่ในโอวาทของพระโพธิสัตว์ ทำบุญทั้งหลายแล้วไปตามยถากรรม” (คือไปเกิดตามกรรมดีที่ได้ทำ), ข้อความว่า “ไปตามยถากรรม” นี้ เฉพาะในอรรถกถาชาดกอย่างเดียวก็มีเกือบร้อยแห่ง, ในพระไตรปิฎก คำนี้แทบไม่ปรากฏที่ใช้ แต่ก็พบบ้างสัก ๒ แห่ง คือในรัฐปาลสูตร (ม.ม. ๑๓/๔๔๙/๔๐๙) และเฉพาะอย่างยิ่งในอัยยิกาสูตร (สํ.ส. ๑๕/๔๐๑/๑๔๒) ที่ว่า ครั้งหนึ่ง พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้าและกราบทูลว่า พระอัยยิกาซึ่งเป็นที่รักมากของพระองค์ มีพระชนม์ได้ ๑๒๐ พรรษา ได้ทิวงคตเสียแล้ว ถ้าสามารถเอาสิ่งมีค่าสูงใดๆ แลกเอาพระชนม์คืนมาได้ ก็จะทรงทำ พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนเกี่ยวกับความจริงของชีวิต และทรงสรุปว่า “สรรพสัตว์จักม้วยมรณ์ เพราะชีวิตมีความตายเป็นที่สุด ทุกคนจักไปตามกรรม (ยถากรรม) เข้าถึงผลแห่งบุญและบาป คนมีกรรมชั่วไปนรก คนมีกรรมดีไปสุคติ เพราะฉะนั้น พึงทำกรรมดี …” ; มีบ้างน้อยแห่งที่ใช้ยถากรรมในความหมายอื่น เช่นในข้อความว่า “ได้เงินค่าจ้างทุกวันตามยถากรรม” (คือตามงานที่ตนทำ) ; ในภาษาไทย ยถากรรม ได้มีความหมายเพี้ยนไปมาก กลายเป็นว่า “แล้วแต่จะเป็นไป, เรื่อยเปื่อย, เลื่อนลอยไร้จุดหมาย, ตามลมตามแล้ง” ซึ่งตรงข้ามกับความหมายที่แท้จริง |
||
|
14
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: รับทุบตึก | บริการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทุกประเภท ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
เมื่อ: ธันวาคม 10, 2025, 10:27:22 am
|
||
| เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11 | ||
|
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
|
||
|
15
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 10 ธันวาคม 2482 ประกาศใช้เพลงชาติไทย เนื้อร้องเพลงใหม่
เมื่อ: ธันวาคม 10, 2025, 09:56:10 am
|
||
| เริ่มโดย raponsan - กระทู้ล่าสุด โดย raponsan | ||
|
.
![]() เด็กนักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติตอน 8.00 น 10 ธันวาคม 2482 ประกาศใช้เพลงชาติไทย เนื้อร้องเพลงใหม่ นอกจากวันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันรัฐธรรมนูญ วันที่ 10 ธันวาคม ยังมีเหตุการณ์สำคัญอื่นอีกด้วย วันที่ 10 ธันวาคม 2482 รัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้ประกาศใช้เพลงชาติไทย เนื้อร้องเพลงใหม่ซึ่งใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าในปี 2482 จะมีการประกาศใช้เพลงชาติไทยแต่ไม่ได้หมายความว่าก่อนหน้านั้นประเทศไทยไม่ได้มีเพลงชาติ ในทางกลับกันก่อนที่จะมีเพลงชาติไทยเพลงปัจจุบันได้มีการประพันธ์และแก้ไขเพลงชาติกันอยู่หลายครั้ง ก่อนที่ประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 ครั้งยังเป็นประเทศสยาม เพลงชาติยังไม่ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ประเทศสยามจึงใช้เพลงสรรเสริญพระบารมีแทนเพลงชาติ ซึ่งจะใช้ในการถวายความเคารพพระมหากษัตริย์ต่างชาติที่เสด็จเยือนประเทศสยาม หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 คณะราษฎรมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วงชิงบทบาทนำประเทศจากอำนาจการปกครองเดิม จึงต้องอาศัยเครื่องมือทุกรูปแบบ ทั้งนี้ “เพลงชาติ” เป็นเครื่องมือหนึ่งที่สำคัญของคณะราษฎรเพื่อใช้ประกาศว่า ชาติเป็นของประชาชนชาวสยาม ทำให้เพลงชาติถือกำเนิดขึ้นอย่างเร่งรีบหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองได้สองสามวัน เคารพธงชาติ ภาพจาก “ความเปลี่ยนแปลงในการสร้างชาติไทยและความเป็นไทย โดย หลวงวิจิตรวาทการ” โดยเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณอยุธยา) ใช้ทำนองมหาชัย ซึ่งมีเนื้อหาที่สะท้อนให้เห็นว่านับแต่นี้ไปประเทศสยามจะนำโดยชาวสยาม ทั้งนี้ ปกติทำนองมหาชัยจะใช้สำหรับรับเสด็จเจ้านายเชื้อพระวงศ์ทำให้ไม่เป็นที่ถูกใจคณะราษฎรที่อยากได้ทำนองอย่างสากล เพลงชาติทำนองมหาชัยจึงถูกใช้ได้ไม่นาน จนกระทั่งเพลงชาติทำนองแบบสากลถูกแต่งขึ้นโดยพระเจนดุริยางค์ ย้อนไปเมื่อปี 2474 ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครอง พระเจนดุริยางค์ได้ถูกร้องขอจากหลวงนิเทศกลกิจ (กลาง โรจนเสนา) เพื่อนสนิท ให้แต่งเพลงบทหนึ่งให้มีทำนองเป็นเพลงที่มีความรู้สึกคล้ายกับเพลงชาติฝรั่งเศสที่มีชื่อ ลา มาร์เซยเยส์ (La Marseillaise) แต่พระเจนดุริยงค์ก็ได้ปฏิเสธไปเพราะมีเพลงสรรเสริญพระบารมีอยู่แล้ว อีกทั้งไม่ได้มีคำสั่งทางการมาจึงแต่งให้ไม่ได้ หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 หลวงนิเทศกลกิจมาขอให้พระเจนดุริยางค์แต่งทำนองเพลงชาติให้อีกครั้ง ครั้งนี้พระเจนดุริยางค์ปฏิเสธไม่ได้ ถึงแม้ไม่มีคำสั่งจากทางการ แต่ก็ดูเหมือนว่าเป็นคำสั่ง เพราะหลวงนิเทศกลกิจเป็นผู้ร่วมในคณะราษฎรด้วย ทำนองเพลงชาติสยามอย่างสากลจึงถือกำเนิดขึ้นโดยพระเจนดุริยางค์ด้วยความหนักใจ เพราะตลอดชีวิตของพระเจนดุริยางค์รับใช้แต่เพียงเจ้านายเชื้อพระวงศ์ หลังจากทำนองเพลงชาติถูกเผยแพร่ไป แม้ว่าพระเจนดุริยางค์จะขอให้ไม่เปิดเผยชื่อผู้แต่ง แต่หนังสือพิมพ์ศรีกรุงได้ออกข่าวว่าเมืองไทยกำลังมีเพลงชาติใหม่ และระบุชื่อผู้แต่งคือพระเจนดุริยางค์ @@@@@@@ หลังจากนั้นพระเจนดุริยางค์ถูกเสนาบดีกระทรวงวังตวาดว่า “ไปทำอะไรไว้ในเรื่องเพลงชาติ รู้หรือไม่ว่าพระเจ้าแผ่นดินเรายังอยู่ จะทำอะไรไว้ในเรื่องรี้ทำไมไม่ปรึกษาขออนุญาตเสียก่อน” เมื่อมีทำนองเพลงชาติแล้วจำเป็นต้องมีเนื้อร้อง ดังนั้น เนื้อร้องจึงถูกประพันธ์ขึ้นโดย ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธ์) มีทั้งหมด 2 บท มีเนื้อร้องว่า แผ่นดินสยามนามประเทืองว่าเมืองทอง ไทยเข้าครองตั้งประเทศเขตต์แดนสง่า สืบชาติไทยดึกดำบรรพ์โบราณลงมา ร่วมรักษาเอกราชชนชาติไทย บางสมัยศัตรูจู่มารบ ไทยสมทบสวนทัพเข้าขับไล่ ตลุยเลือดหมายมุ่งผดุงไผท สยามสมัยบุราณรอดตลอดมา อันดินสยามคือว่าเนื้อของเชื้อไทย น้ำรินไหลคือว่าเลือดของเชื้อข้า เอกราชคือกระดูกที่เราบูชา เราจะสามัคคีร่วมมีใจ ยึดอำนาจกุมสิทธิ์อิสระเสรี ใครย่ำยีเราจะไม่ละให้ เอาเลือดล้างให้สิ้นแผ่นดินของไทย สถาปนาสยามให้เชิดชัย ชโย เนื้อร้องเพลงชาตินี้ใช้ได้ 2 ปี จนถึงปี 2477 ก็ยังไม่เป็นที่พอใจคณะราษฎรนัก จึงได้มีการแก้ไขเนื้อร้องบางตอนของขุนวิจิตรมาตรา และจัดให้มีการประกวดเนื้อร้องขึ้นใหม่อีก โดยยึดทำนองเดิมของพระเจนดุริยางค์ไว้ จนได้เนื้อร้องของนายฉันท์ ขำวิไล 2 บท โดยให้รวมกับเนื้อรองของขุนวิจิตรมาตรา รวมเป็น 4 บท ประกาศใช้เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2477 เนื้อร้องที่เพิ่มมามีว่า เหล่าเราทั้งหลายขอน้อมกายถวายชีวิต รักษาสิทธิ์อิสระ ณ แดนสยาม ที่พ่อแม่สู้ยอมม้วยด้วยพยายาม ปราบเสี้ยนหนามให้พินาศสืบชาติมา ถึงแม้ไทย ไทยด้อยจนย่อยยับ ยังกู้กลับคงคืนได้ชื่นหน้า ควรแก่นามงามสุดอยุธยา นั้นมิใช่ว่า จะขัดสนหมดคนดี เหล่าเราทั้งหลายเลือดและเนื้อเชื้อชาติไทย มิให้ใครเข้าเหยียบย่ำขยำขยี้ ประคับประคองป้องสิทธิ์อิสรเสรี เมื่อภัยมีช่วยกันจนวันตาย จะสิ้นชีพไว้ชื่อให้ลือลั่น ว่าไทยมันรักชาติไม่ขาดสาย มีไมตรีดียิ่งทั้งหญิงชาย สยามมิวายผู้มุ่งหมายเชิดชัยไชโย แต่เนื้อร้องนี้ก็ใช้ได้ไม่นานเพราะมีควายาวมากเกินไป ในปี 2478 รัฐบาลของพระยาพหลพลพยุหเสนาได้ออกระเบียบการบรรเลงเพลงชาติ บังคับใช้เมื่อ 15 กุมภาพันธ์ปีเดียวกัน ระเบียบดังกล่าวได้แบ่งการบรรเลงเพลงชาติออกเป็น 2 แบบ คือ แบบพิศดารหรือเต็มเพลงให้บรรเลงในงานพิธีใหญ่ ๆ เท่านั้น และแบบสังเขปหรือการตัดบางท่อนออกให้สั้นลง ให้บรรเลงในพิธีที่เกี่ยวข้องกับประชาชนหรือในพิธีปกติ เด็กนักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติตอน 8.00 น. ต่อมาสมัยรัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นช่วงของการสร้างชาติโดยอุดมการณ์ชาตินิยม ธงชาติและเพลงชาติถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสร้างชาติของจอมพล ป. พิบูลสงคราม โดยมีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางวิทยุสำหรับสัญญาณในการเคารพธงชาติในเวลา 08.00 น. และเวลา 18.00 น. ในปี 2482 รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ เปลี่ยนชื่อประเทศ “สยาม” เป็นประเทศ “ไทย” เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ทำให้เกิดปัญหากับเนื้อร้องเพลงชาติเก่าที่ใช้กันมา และมีการกล่าวหากันว่า เนื้อร้องเพลงชาติของขุนวิจิตรมาตราเอาชื่อภรรยามาแต่งในคำว่า “ประเทือง” และเอาชื่อตนเองมาแต่งในคำว่า “สง่า” เดิมขุนวิจิตรมาตรามีชื่อว่า “สง่า กาญจนาคพันธ์” แต่จริงๆ แล้วชื่อภรรยาของขุนวิจิตรมาตรานั้นชื่อ “วิเชียร” ไม่ใช่ “ประเทือง” ด้วยเหตุดังกล่าวรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม จึงประกาศให้มีการประกวดเนื้อร้องเพลงชาติขึ้นใหม่แต่ยังคงทำนองของพระเจนดุริยงค์ไว้ ผลของการตัดสินปรากฏว่าเนื้อร้อง พ.ต.หลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปราจิณพยัคฆ์) ส่งในนามของกองทัพบกได้รับการคัดเลือกให้ใช้เป็นเนื้อเพลงชาติ เพราะสั้นกระทัดรัด ให้ประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2482 มาจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 86 ปีมาแล้ว เนื้อเพลงดังนี้ ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐไผทของไทยทุกส่วน อยู่ดำรงคงไว้ได้ทั้งมวล ด้วยไทยล้วนหมายรักสามัคคี ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่ สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี เถลิงประเทศชาติไทยทวีมีชัย ชโย @@@@@@@ ดังนั้น เหตุผลที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลงเนื้อร้องเพลงชาติในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่เปลี่ยนเนื้อร้องใหม่ทั้งหมดแต่ยังคงทำนองของพระเจนดุริยางค์ไว้ ซึ่งใช้มาจนถึงปัจจุบันนั้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนชื่อประเทศจาก “สยาม” เป็น “ไทย” ซึ่งเนื้อร้องแบบเก่าไม่สอดคล้องกับชื่อใหม่ของประเทศ อีกทั้งเนื้อร้องเก่าคงมีความยาวเกินไป นอกจากนี้ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ต้องการใช้เพลงชาติเป็นเครื่องมือสำคัญในการขยายอุดมการณ์ชาตินิยม อ่านเพิ่มเติม :- • 8 กันยายน 2482: รัฐบาลออกประกาศให้คนเคารพธงชาติ • เหตุผลที่ “ขุนวิจิตรมาตรา” เขียนเนื้อเพลงชาติฉบับสยาม ไม่ยอมแต่งฉบับชื่อประเทศไทย ขอขอบคุณ :- ผู้เขียน : กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม เผยแพร่ : วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2568 เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 10 ธันวาคม 2562 website : https://www.silpa-mag.com/this-day-in-history/article_42574 อ้างอิง :- - เพลงชาติไทย ร้องเพี้ยน ร้องผิด มานานแล้ว โดย ล้อม เพ็งแก้ว ใน ศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 14 ฉบับที่ 9 กรกฎาคม 2536 - ธงชาติ เพลงชาติ สร้าง (รัฐ) ชาติไทย เรียกร้องดินแดนคืนจากฝรั่งเศส และ – และแผ่ขยายมหาอาณาจักรไทย โดย ชนิดา พรหมพยัคฆ์ – เผือกสม ใน ศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 24 ฉบับที่ 5 มีนาคม 2546 - กว่าจะเป็นเพลงชาติไทย โดย สมเกียรติ เขียวสอาด แผนกวิชาศิลปะ ส่วนการศึกษา โรงเรียนเตรียมทหาร |
||
|
16
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ท่อดักท์, ท่อดักท์แอร์, ท่อดักท์ระบายความร้อน, ท่อดักท์อุตสาหกรรม
เมื่อ: ธันวาคม 09, 2025, 08:55:55 pm
|
||
| เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11 | ||
|
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
|
||
|
17
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: กล่องกระดาษลูกฟูก, กล่องกระดาษลูกฟูก 3 ชั้น, กล่องกระดาษลูกฟูก 5 ชั้น
เมื่อ: ธันวาคม 09, 2025, 08:29:55 pm
|
||
| เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11 | ||
|
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
|
||
|
18
เมื่อ: ธันวาคม 09, 2025, 08:00:09 pm
|
||
| เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11 | ||
|
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
|
||
|
19
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: กล่องกระดาษลูกฟูก โรงงานผลิตกล่องลูกฟูกใน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
เมื่อ: ธันวาคม 09, 2025, 06:02:26 pm
|
||
| เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11 | ||
|
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
|
||
|
20
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: กล่องกระดาษลูกฟูก 5 ชั้น คือกล่องกระดาษที่มีความหนาของกระดาษลอน 5 ชั้น
เมื่อ: ธันวาคม 09, 2025, 04:08:53 pm
|
||
| เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11 | ||
|
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
|
||

