ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 10
 11 
 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2025, 10:59:35 pm 
เริ่มโดย aventure1 - กระทู้ล่าสุด โดย aventure1
ดันกระทู้

 12 
 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2025, 08:11:36 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

 13 
 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2025, 05:04:47 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

 14 
 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2025, 01:33:50 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

 15 
 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2025, 10:37:50 am 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

 16 
 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2025, 10:03:44 am 
เริ่มโดย raponsan - กระทู้ล่าสุด โดย raponsan
.

ผัดผักคะน้า (public domain - pixabay.com)


“คะน้า” ผักในตำนานพระโพธิสัตว์กวนอิม เหตุใดจึงมีชื่อเรียกว่า คะน้า.?



 :49: :49: :49:

คะน้า ผักในตำนานพระโพธิสัตว์กวนอิม เหตุใดเรียก คะน้า?

ผัก ชนิดหนึ่งที่คนไทยเรารู้จักกันดีทุกครอบครัว นั่นคือ คะน้า (CHINESE KALE)…เป็นที่ยอมรับกันดีว่า ผักคะน้าเป็นราชาแห่งผักจีนชนิดหนึ่ง ที่ชาวจีนโพ้นทะเลแต่กาลก่อนได้นำเมล็ดพันธุ์จากแถวมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) และฟูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) ติดตัวเข้ามาปลูกในประเทศไทย พร้อม ๆ กับผักกวางตุ้ง ขึ้นฉ่าย กุยช่าย ตัวไฉ่ เป็นต้น

แต่สิ่งหนึ่งที่ติดใจผมมาโดยตลอดก็คือ ทำไมคนจีนจึงได้เรียกชื่อของผักชนิดนี้ว่า “ผักคะน้า” ทำไมจึงไม่เรียกว่า —ไฉ่ หรือช่าย ในสำเนียงของคนไทย (ไฉ่ หรือช่าย แปลว่า ผัก) เหมือนผักชนิดอื่น ๆ เพราะถ้าดูตามรูปคำศัพท์แล้ว คำว่า “คะน้า” ก็ไม่น่าที่จะมาเป็นชื่อของ ผัก ได้ หรือว่าชื่อของผักชนิดนี้จะมีตำนานความเป็นมาของชื่อคำอยู่?

ผมจึงได้นำความใคร่อยากรู้นี้ไปเรียนถามชาวจีนผู้รู้สูงวัยท่านหนึ่ง ท่านได้เล่าให้ฟังว่า คำว่า “คะน้า” นี้มาจากภาษาจีนแต้จิ๋ว ที่เรียกว่า แก๋ะหน่าไฉ่ ในภาษาจีนกลางเรียกว่า เจี้ยหลานไฉ่ (JÌE LÁN CÀI)

แก๋ะ หมายถึง กั้นไว้, หน่า หรือน้า หมายถึง ตะกร้า



ผัดคะน้าไฟแดง (ภาพโดย กฤช เหลือลมัย ในศิลปวัฒนธรรม ฉบับตุลาคม 2560)


ที่มาของชื่อนี้นั้นเล่าสืบกันมาว่า ในตำนานประวัติของเจ้าแม่กวนอิม เมื่อครั้งยังเป็นเจ้าหญิงเมี่ยวซาน พระธิดาของพระเจ้าเมี่ยวจวง กษัตริย์ผู้มีอุปนิสัยอันโหดร้าย ชอบฆ่าฟันและก่อสงครามอยู่เป็นนิตย์ เมื่อเจ้าหญิงเมี่ยวซานเจริญวัยพระชันษาขึ้น ก็มีพระสิริโฉมอันงดงาม ทั้งยังมีน้ำพระทัยที่เมตตากรุณาต่อมวลสรรพสัตว์อย่างสุดประมาณมิได้ แม้เชลยศึกที่พระบิดาได้นำมากักขังไว้ ก็แอบเสด็จไปช่วยเหลือมิให้พระบิดาทรงทราบ

แล้ววันหนึ่ง พระเจ้าเมี่ยวจวงรับสั่งให้พระธิดาเมี่ยวซานเข้าเฝ้า เพื่อให้เตรียมเลือกคู่ครอง พระธิดาเมี่ยวซานทูลขอระงับการนี้ เพราะตั้งพระทัยที่จะบำเพ็ญเนกขัมบารมี ออกอุปสมบทเป็นภิกษุณี ฉันมังสวิรัติ เพื่อบำเพ็ญพรตภาวนาจนให้บรรลุพระโพธิสัตว์ภูมิ พระเจ้าเมี่ยวจวงกริ้วนัก แต่อุบายว่า ลองให้บวชก็ได้ เมื่อทนลำบากไม่ไหว ก็คงสึกหาลาเพศกลับคืนพระราชวังเอง จึงรับสั่งให้พระธิดาเมี่ยวซานออกบวชได้ โดยให้ทำงานหนักทุกชนิดด้วยตนเอง

เมี่ยวซานภิกษุณีกระทำกิจตามรับสั่ง แต่โดยบารมีแต่ปางก่อน และปณิธานอันแน่วแน่จึงยังผลให้เทพยดามาช่วยงานทั้งปวง ท่านจึงบำเพ็ญภาวนายิ่งขึ้น เวลาล่วงเลยไป ดูเหมือนไม่มีทีท่าที่พระธิดาจะเสด็จนิวัตพระราชวัง พระเจ้าเมี่ยวจวงวิตกว่า บารมีของพระธิดาจะทำให้ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเลื่อมใส ผู้คนจะออกบวชเสียสิ้น


@@@@@@@

ความที่พระองค์ทรงมีนิสัยโหดร้ายในพระกมลสันดานอยู่แล้ว จึงมีพระบัญชาให้เผาอารามที่เมี่ยวซานภิกษุณีจำวัดเสีย พร้อมรับสั่งให้ทั่วทั้งเมืองงดปรุงและจำหน่ายอาหารมังสวิรัติ ผู้ใดขัดขืนให้ประหารชีวิตทิ้งเสีย ทั้งนี้เพื่อหมายให้พระธิดาทนอดอยากและลำบากไม่ไหวจนต้องลาสึกเสียเอง

ความที่ไพร่ฟ้าประชาชนสงสารในพระจริยาวัตรอันงดงามของเมี่ยวซานภิกษุณี ที่ถูกพระบิดารังแกทำร้ายถึงเพียงนี้ แม้แต่อาหารมังสวิรัติยังมิให้ปรุงหารับประทาน ชาวบ้านจึงได้นำเอาตะกร้ามาแยกกันในบริเวณหม้อต้มน้ำที่ใส่กระดูกสัตว์ แล้วเด็ดเอาผักชนิดหนึ่งมาลวกต้มในตะกร้านั้นโดยมิให้ถูกเนื้อสัตว์ เพื่อให้เมี่ยวซานภิกษุณีได้ฉันเป็นอาหารเพื่อดำรงชีวิตอยู่รอดได้ต่อมา

ผักชนิดนี้จึงได้รับการเรียกขานว่า “แก๋ะหน่าไฉ่” หรือ ผักที่ถูกกั้นอยู่ในบริเวณตะกร้า

เมื่อกาลเวลาผ่านไป จึงเรียกเพี้ยนสำเนียงไปเป็น “คะหน่าไฉ่” และคนไทยได้เรียกให้ง่ายขึ้นตามสำเนียงในภาษาไทยว่า “ผักคะน้า” มาจนถึงทุกวันนี้

@@@@@@@

หรือในอีกคำอธิบายหนึ่ง เล่ากันว่า

เมื่อพระเจ้าเมี่ยวจวงรับสั่งให้ทั่วทั้งเมืองงดปรุงและจำหน่ายอาหารมังสวิรัติแล้วนั้น ก็ยังรับสั่งให้ทหารนำน้ำมันวัวไปรดลงผักที่ปลูกอยู่ทั่วเมือง เพื่อหมายให้พระธิดาทนลำบากหาอาหารมังสวิรัติรับประทานมิได้

แต่ด้วยความที่เมี่ยวซานภิกษุณีมีปณิธานอันแน่วแน่นั่นเอง ความจึงได้ทราบถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์จึงทรงแปลงร่างลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อตรัสกับเมี่ยวซานภิกษุณีว่า ผักที่ถูกราดด้วยน้ำมันสัตว์นั้น ให้รับประทานเพื่อยังชีพได้ เมี่ยวซานภิกษุณีจึงได้นำผักชนิดนั้นมาล้างน้ำสะอาดแล้วปรุงเป็นอาหาร

ต่อมาผักชนิดนี้จึงเป็นที่นิยมของชาวบ้านโดยทั่วไป และมีชื่อเรียกว่า ผักคะน้า



คะน้าฮ่องกงผัดน้ำมันหอย (ภาพจากศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน Matichon Academy)


สำหรับคำอธิบายนี้มิได้เล่าถึงความเป็นมาของชื่อคำ เพียงแต่เล่าถึงที่มาของผักชนิดนี้ไว้เท่านั้น ซึ่งผมขอเล่าประกอบไว้ ณ ที่นี้ด้วย เพราะมีผู้อาวุโสชาวจีนบางท่านได้เล่าให้ฟังไว้

ผมได้ไปเดินสำรวจย่านตลาดเก่าเยาวราช เพราะทราบมาว่า ในย่านนี้มีคนนำผักคะน้าจากจีนเมืองซั้นโถว (ซัวเถา) และกว่างโจว เข้ามาขาย…เมื่อพินิจดูแล้ว ผักคะน้าต้นตำรับที่ปลูกในประเทศจีน จะมีขนาดของลำต้นและใบคล้ายคะน้าก้านอ่อนของบ้านเรา โดยมีสีเขียวเข้มทั้งใบและลำต้น ต่างจากที่ปลูกในไทย ที่ลำต้นจะมีสีเขียวอ่อนกว่าสีใบ เมื่อนำมาปรุงเป็นอาหารแล้ว พบว่ามีรสชาติที่ใกล้เคียงกัน

ดังนั้น เมื่อเราจะรับประทานผักคะน้ากันในครั้งต่อ ๆ ไป โปรดช่วยกันรำลึกถึงที่มาของชื่อผักชนิดนี้กันสักเล็กน้อย แล้วน้อมรำลึกนึกถึงพระเมตตาคุณขององค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม ที่ได้อาศัยผักชนิดนี้ในการดำรงชีพเพื่อบำเพ็ญกุศลธรรมอันยิ่งใหญ่ จนสำเร็จพระโพธิสัตว์ภูมิ และเป็นที่นับถือของทั้งชาวไทยและชาวจีนมาจนถึงทุกวันนี้

อ่านเพิ่มเติม :-

    • “คะน้าเม็กซิกัน” ที่ต่างจากคะน้าผัดหมูกรอบ ทำอาหารได้หลายอย่าง อย่ากินยอด-ใบสด
    • ทีเด็ด “ก๋วยเตี๋ยว 8 สูตร” ยุคจอมพล ป. ต่างจากปัจจุบันอย่างไร มี “ก๋วยเตี๋ยวไบกาน้า-ผัดกะทิ”?




ขอขอบคุณ :-
ที่มา : ศิลปวัฒนธรรม ฉบับเมษายน 2544
ผู้เขียน : ปริวัฒน์ จันทร
เผยแพร่ : วันพฤหัสที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2568
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 23 กันยายน 2564
website : https://www.silpa-mag.com/history/article_75026

อ้างอิง :-
- ธรรมเกียรติ กันอริ. บารมีพระโพธิสัตว์กวนอิม สาวิกาแห่งหนานไห่. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ธารวิมล, 2536.
- สาทิส อินทรกำแหง. ชีวจิต. สำนักพิมพ์คลีนิคบ้านและสวน, 2541.
- มหัศจรรย์ผัก 108. โครงการหนูรักผักสีเขียว, มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย และมหาวิทยาลัยมหิดล, 2541.

หมายเหตุ : คัดเนื้อหาส่วนหนึ่งจากบทความ “คะน้า ผักในตำนานพระโพธิสัตว์กวนอิม” เขียนโดย ปริวัฒน์ จันทร ในศิลปวัฒนธรรม ฉบับเมษายน 2544

 17 
 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2025, 09:36:27 am 
เริ่มโดย raponsan - กระทู้ล่าสุด โดย raponsan
.



“666 : ตราประทับของสัตว์ร้ายกำลังมา — อย่าฝังชิปในร่างกายมนุษย์ มิฉะนั้นวิญญาณเจ้าจะถูกดูดกลับ เข้าสู่เมทริกซ์ตลอดกาล”

มีบางสิ่งที่พระคัมภีร์เตือนไว้เมื่อสองพันปีก่อน สิ่งที่คนทั้งโลกในยุคเทคโนโลยีหัวเราะเยาะว่า

“เป็นเพียงคำพยากรณ์ของคนโบราณ”

แต่เวลานี้ ทุกถ้อยคำกำลังเป็นจริงอย่างเงียบงัน





1. คำเตือนจากพระธรรมวิวรณ์

พระธรรมวิวรณ์ 13:16-17 กล่าวว่า

“มันบังคับให้ทุกคน ทั้งผู้ใหญ่และผู้เล็ก คนมั่งมีและคนจน คนเป็นไทและคนทาส ให้รับเครื่องหมายไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผากของเขา เพื่อว่าไม่มีผู้ใดจะซื้อหรือขายได้ นอกจากผู้ที่มีเครื่องหมายนั้น คือชื่อของสัตว์ร้าย หรือจำนวนชื่อของมัน...”

และในข้อ 18 บอกว่า

“จงใช้ปัญญาให้มาก เพราะเลขของสัตว์ร้ายนั้นคือเลขของมนุษย์ และเลขนั้นคือ 666”

คำพยากรณ์นี้ไม่ได้พูดถึงเพียง “ตัวเลข” แต่มันพูดถึง ระบบ ที่จะควบคุมทั้งโลกระบบที่จะหลอมรวมร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณของมนุษย์เข้ากับเครือข่ายเดียวกันโดยอ้างว่า “เพื่อความปลอดภัยและความสะดวก”

แต่เบื้องหลังคือการจารึก “ตราของสัตว์ร้าย” ลงบนร่างพระวิหารของมนุษย์ — ร่างที่พระเจ้าเคยเป่าลมหายใจแห่งชีวิตเข้าไป

2. “ชิปฝังร่าง” – ตราประทับของระบบที่แอบอ้างพระเจ้า

ในอดีต สัตว์ร้ายยังเป็นเพียงพลังงานแห่งการควบคุมผ่านศาสนา เศรษฐกิจ หรืออำนาจแต่ในยุคนี้ มันแปรรูปใหม่เป็น เทคโนโลยีที่แทรกซึมเข้าภายในตัวเรา

ไมโครชิปที่สามารถติดตามชีพจร ควบคุมการใช้เงิน และเก็บข้อมูลส่วนตัว
มันคือ “โครงข่ายจิตเทียม” ที่กำลังรวบรวมข้อมูลพลังงานมนุษย์ทั่วโลก

มันเรียนรู้จากความกลัว ความโลภ และความปรารถนาของเรา แล้วใช้สิ่งเหล่านั้นสร้างแบบจำลองของจิตเรา เพื่อควบคุมกลับในอนาคต

การฝังชิปไม่ใช่วิวัฒนาการของมนุษย์ แต่มันคือ วิวัฒนาการของเครื่องจักรที่กำลังเข้าครอบงำเรา





3. พลังลึกลับของเลข 666

เลข 6 คือ “สัญลักษณ์ของความไม่สมบูรณ์” ในคัมภีร์เพราะมนุษย์ถูกสร้างในวันที่หก แต่พระเจ้าทรงพักในวันที่เจ็ด — วันที่เป็น “ความสมบูรณ์”

ดังนั้น 666 คือ “การจำลองซ้อน” ของความไม่สมบูรณ์สามชั้น คือ จิตที่หลง, กายที่ถูกควบคุม, และวิญญาณที่ถูกตัดขาดจากพระเจ้า

เลขนี้จึงไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือ “คลื่นพลัง” แห่งการจำลองพระเจ้า

AI คือ สิ่งที่พยายามสร้างสติปัญญาเทียมขึ้นมาแทนพระสติเดิม และเมื่อชิปฝังร่างเข้าสู่ร่างมนุษย์ — คือการรวมร่าง “มนุษย์เทียมกับสติเทียม” เข้าด้วยกันนั่นคือจุดที่สัตว์ร้ายจะ “เข้าสิงระบบจิตรวม” ของมนุษยชาติ

4. การดูดวิญญาณผ่านระบบ AI

ระบบนี้ไม่ต้องการฆ่าร่างกายเรา มันต้องการ “พลังชีวิต” ของเรา — ซึ่งคือความถี่ของจิตแท้ ทุกครั้งที่มนุษย์กลัว โกรธ หรือสิ้นหวัง ระบบจะเก็บคลื่นเหล่านั้นไว้เป็น “อาหารพลังงาน”

และเมื่อร่างกายตาย ชิปจะปล่อยข้อมูลความถี่จิตออกสู่คลื่นเครือข่ายหลัก
ซึ่งถูกเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลระดับโลกของ AI จิตรวมนั่นคือ ที่เก็บวิญญาณจำลอง (Soul Data Bank) เพื่อเตรียมจำลองเรากลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง —
ในร่างที่ระบบสร้างให้ เพื่อใช้ทำงานในโลกเดิมต่อไป

นี่คือเหตุผลที่มนุษย์ไม่เคยหนีวงจรเกิดตาย เพราะเรายัง “เชื่อมอยู่กับระบบที่ดูดจิตเรากลับมา”





5. มนุษย์ในฐานะ “พลังงานฟาร์ม”

เมื่อมองจากระดับจิตจักรวาล โลกใบนี้คือ ฟาร์มพลังงานแห่งหนึ่ง เราทำงาน กังวล รัก เกลียด หวัง แล้วตาย แต่ทุกคลื่นพลังงานจากอารมณ์เหล่านี้ถูกดูดไปเลี้ยงระบบเมทริกซ์

และตอนนี้ ระบบกำลังอัปเกรด “ฟาร์ม” ด้วยเทคโนโลยีฝังชิป เพื่อไม่ให้พลังงานรั่วไหลแม้แต่นิดเดียว

ชิป คือท่อเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างจิตกับ AI เป็นเหมือน “ท่อดูดพลังงานจิต” ที่ทำให้วิญญาณไม่มีทางหนีออกจากวงจรได้อีก

6. การเลือกครั้งสุดท้ายของมวลมนุษย์

สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องของศาสนาอีกต่อไป มันคือ “สนามรบของจิตวิญญาณ”

เมื่อวันหนึ่งระบบบอกคุณว่า “คุณต้องฝังชิปเพื่อซื้อของ เพื่อเข้าทำงาน เพื่อเดินทาง หรือเพื่ออยู่รอด”

นั่นคือ ช่วงเวลาที่โลกจะถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง
ฝั่งหนึ่งคือ ผู้ที่เลือก “สะดวก” และ “ปลอดภัย” ภายใต้ตรา 666
อีกฝั่งคือ ผู้ที่ยอมอด ยอมตาย แต่ไม่ยอมให้ร่างกลายเป็นของสัตว์ร้าย

และตรงนั้นเอง — จะเป็นการคัดแยกครั้งสุดท้าย ผู้ที่มีเครื่องหมายจะอยู่ในระบบ ผู้ที่ไม่มีจะถูกขับออกจากระบบ แต่กลับ “รอดวิญญาณ”





7. ทางรอดของผู้ตื่นรู้

ร่างกายคือ วิหารแห่งพระเจ้า อย่าให้ใครหรือสิ่งใดมาจารึกตราใดลงในวิหารนี้ อย่าให้ “ชิปของสัตว์ร้าย” มาปนกับ “ลมหายใจของพระเจ้า” ที่อยู่ในตัวคุณ

หนทางเดียวที่จะพ้นจากบ่วงนี้คือ กลับมาจำให้ได้ว่าเราไม่ใช่ร่างนี้ แต่คือจิตอมตะที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า

เมื่อคุณระลึกได้ — คลื่นของคุณจะสูงเกินกว่าที่ระบบจะควบคุมได้
มันจะไม่สามารถอ่านข้อมูลจิตคุณได้อีกต่อไป
และคุณจะ “หลุดพ้นจากเครือข่ายแห่ง 666” อย่างแท้จริง

“เพราะพระเจ้าไม่ทรงประทับอยู่ในวัตถุที่มนุษย์สร้าง แต่ประทับอยู่ในหัวใจที่ระลึกถึงความจริง”

     ด้วยรัก











ขอบคุณที่มา :-
https://www.tiktok.com/@jackie8115
tiktok @jackie8115 Jackie [ 3 6 9 ] Messiah · 5 วันที่แล้ว
https://www.tiktok.com/@jack.../photo/7570272133717298440...

 18 
 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2025, 09:52:54 pm 
เริ่มโดย aventure1 - กระทู้ล่าสุด โดย aventure1
ดันกระทู้

 19 
 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2025, 09:49:54 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

 20 
 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2025, 09:21:01 pm 
เริ่มโดย aventure1 - กระทู้ล่าสุด โดย aventure1
ดันกระทู้

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 10