ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระพุทธเจ้า ตรัสสอน ลำดับกรรมฐาน นั้นคือ อริยมรรค  (อ่าน 1231 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
พระพุทธเจ้า ตรัสสอน ลำดับกรรมฐาน นั้นคือ อริยมรรค แต่ทุกวันนี้ คนฉลาดมากไป เอาอริยะมรรคทิ้งตั้งแต่เริ่ม คือ เห็นความว่างเปล่า (ไม่มี ) เป็นวิชาขั้นสูงในพระพุทธศาสนา วิชา สุญญตา นั้นไม่ได้ เป็นวิชาขั้นสูงในพระพุทธศาสนา แบบที่ทางเซ็นสอน หรือ มหายานสอนเลย สุญญตา แค่เป็นผลสมาบัติ ของ พระโสดาบันเท่านั้น สุญญตา เป็น อริยะผลขั้นต้น แต่เพราะ ผลสมาบัติ ให้ความสุขทางจิตที่ประณีต จึงทำให้ผู้เข้าใจผิดว่าเป็นธรรมละเอีดยขั้นสูง จึงหลงว่า นิพพาน เป็นดินแดน ในดินแดนหนึ่ง ที่จริงฉันก็เข้าใจอย่างนั้นในช่วงแรก ๆ เช่นกัน แต่พอภาวนาต่อไป ตามที่ครูสอน จึงเห็นว่า แดนสุข เป็นเพียงแดนของวิญญาณ ที่เป็นพระโสดาบัน เท่านั้นไม่ใช่ พระอริยะขั้นต่อไป เพราะดินแดนนี้ยัง ผูกพันกับโลก มีการปรุงแต่งรูปแบบอยู่ แต่ เทิดทูน คำว่า สุญญตา เป็นอย่างยิ่ง สักกายทิฏฐิ นั้นเพียงเห็นว่า กายไม่มี เราไม่มีในกาย กายไม่เป็นเรา เราไม่มีตัวตน ไม่มีอะไรเป็นของเรา ดังนั้นอย่าได้เข้าใจผิด ตามเขากัน มาถูกดีแล้ว แต่ สุญญตา ไม่ใช่ธรรมสูงสุด เพราะสุญญตา นั้นยังประกอบด้วย วิสังขาร คือ การมีการพิจารณา ว่า ขันธ์ เป็น ว่างเปล่า อย่างนี้เป็นต้น

คำสอนที่สอนผิดของ บรรดา คณาจารย์ที่เข้าถึงสุญญตา ล้วนแล้วแต่สอนฉีกคัมภีร์ ฉีกวิธีการ ฉีกรูปแบบ ซึ่งเข้าไปสู่สภาวะสามัญชน ที่พยายามชี้ให้เห็นว่า มันไม่มีอะไรเลย ในชีวิตหนึ่ง ไม่เป็น พระ ไม่เป็นคน ไม่เป็นอะไร ยึดติดความเป็นอะไรไม่ได้ ไม่ม่พ่อ ไม่ม่แม่ ไม่ม่พี่ ไม่ม่น้อง ไม่มีศาสนา แม้แต่ พุทธะ ธรรมะ สังฆะ จริง ๆ ก็ไม่มี อันนี้ หลายคนไปมองว่าถูก ที่จริงแล้ว ความแปรปรวน สำหรับปุถุชน ที่ยังไม่บรรลุกำลังเข้าสู่ อุจเฉททิฏฐิ ความเห็นว่าขาดสูญ เป็นหนึ่งในทิฏฐิ 62 ที่ผิด

ส่วนผู้บรรลุ นั้นก็จะมีสุข อยู่ในระดับนั้นอยู่ กว่าจะรู้ต้วก็ต้องใช้สติปัญญา ให้เบาลงเพราะ อุชุปฏิปันโนนั้น ต้องมุ่งตรง พระนิพพาน และ ลดราคะ และ ปฏิฆะ ลง ปัญญามองเห็นตามความเป็นจริงก็จะมีได้ ดังนั้นในครั้งพุทธกาล จึงมีพระโสดาบัน มากมายที่ไม่ยอมบรรลุเป็น พระอริยะระดับสูงกว่า ยังชื่นชม กับโลก เพราะอาศัยว่า จิต มีความคิดที่จะช่วยเหลือคนนั้น ช่วยเหลือคนนี้ ความคิดอย่างนี้ คือมีจิตยินดี ในชื่อเสียง จัดเป็นอุทธัจจะสังโยชน์ แต่อย่างไร พระโสดาบันไม่ทำอบายภูมิ ให้มีแก่ตน เพราะความบริสุทธิ์ เคารพต่อพระรัตนตรัย แต่คำสอนของพระโสดาบัน ถ้าสอนผู้ไม่บรรลุ จะทำให้ปุถุชน เข้าใจผิดในคำสอนได้ ดังนั้นจึงเกิดแนวความคิดฉีกคัมภีร์ ฉีกตำรา ฉีกพระไตรปิฏก เข้าสู่สภาวะ อริยะไร้รูปแบบ

สังเกตให้ดีว่า สอนผิดจากพระพุทธเจ้า ในสมัยครั้งพุทธกาล เมื่อบุคคลใดบรรลุเป็น พระอริยะอรหันต์ จะขอบวชทั้งนั้น

คิดให้ดี นะ ทำไมต้องขอบวช ?
ทำไมไม่เอาผ้ากาสายะ มานุ่งห่มเลย ต้องรอพระศาสดา อนุญาต เช่น ท่านอริยะพาหิยะ บรรลุเป็นอรหันต์ พระพุทธเจ้าก็ให้ไปหาผ้า เพื่อมาบวช

การเป็น พระในพระพุทธศาสนา นั้นต้องสืบเชื้อสายโดยพระพุทธเจ้า ซึ่งพระพุทธเจ้ามอบการบวช ให้ไว้ในปัจจุบันเหลือเพียง ญัตติจตุตถกรรมวาจา คือการยกการบวช มี พระอุปัชฌาย์จารย์ พระกรรมวาจาจารย์ พระอนสาวนาจารย์ และพระอันดับไม่ต่ำกว่า 10 รูป เป็น สังฆะที่ยกบุคคลขึ้นเป็นพระสืบเชื้อสาย

ดังนั้นถ้าบรรลุธรรมเป็น อริยะ แบบสุญญตา แล้วฉีกทำลาย ประเพณีอริยะ เอง อันนี้จำไว้เลย ว่าสอนผิด แล้ว สอน ทำลาย มรรค ก็ไม่มีรูปแบบ

พระพุทธเจ้าจึงตรัสไว้ ก่อนปรินิพพานว่า ให้ พระวินัยและพระธรรมเป็น พระศาสนา ก็หมายความว่า ทั้งสองต้องอยู่พร้อมกันไม่ใช่อย่างใด อย่างหนึ่ง

ดังนั้น ถ้าบุคคลใดทิ้งลำดับกรรมฐาน ก็ ทิ้งอริยะมรรค เมื่อทิ้ง อริยะมรรค ก็จะได้ แค่ อริยะผลระดับนั้นเท่านั้น

เจริญธรรม / เจริญพร
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

sinsae

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 277
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า