สนฺตุฏฺฐี ปรมํ ธนํ
ความสันโดษเป็นทรัพย์อย่างยิ่ง
“ทรัพย์คือปัจจัยสี่ เป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต ถ้าแล้วไม่รู้จักพอก็เป็นทุกข์” คำว่า สันโดษ แปลว่าความยินดีเฉพาะในสิ่งที่มีอยู่หรือความพอใจเท่าที่มีตามฐานะของตน หมายความว่าตนเองแสวงหาปัจจัยสี่ หรือมีปัจจัยสี่ คือเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เครื่องประดับเช่นใดก็พอใจ ตนเองมีอาหารการกินสุขสมบูรณ์หรือพอยังอัตภาพให้อยู่ได้ก็พอใจ ตนเองมีบ้านที่อยู่อาศัยขนาดไหนก็พอใจ ตนเองมีความสามารถดูแลรักษาพยายาบาลในระดับใด ก็พอใจ เป็นต้น
ความพึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่นี้จึงถือว่า “เป็นทรัพย์อย่างยิ่ง” ไม่มีทรัพย์สินที่เป็นปัจจัยสี่ใด ๆ จะเทียบเท่าได้ นั่นคือผลสุดท้ายก็จะประสบกับความสุขที่แท้จริง โดยไม่หลงงมงายกับวัตถุสิ่งของมากเกินไป
Published on Nov 28, 2013 by ชีวิต ไม่สิ้นหวัง
อิณาทานํ ทุกฺขํ โลเก
การเป็นหนี้เป็นทุกข์ในโลก
“การรู้จักสันโดษ ไม่ก่อให้เกิดหนี้” จากพุทธสุภาษิตข้างต้นจะเห็นได้ว่า หากเรารู้จักความพอดีจะนำมาซึ่งความสุข และบุคคลนั้นย่อมไม่ก่อให้เกิดหนี้ การเป็นหนี้โดยการกู้ยืมมาจากบุคคลอื่น เพื่อนำมาใช้จ่าย ทำให้เกิดทุกข์ เพราะต้องจ่ายดอกเบี้ย ถูกทวงถาม ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ต้องโทษ และอาจจะถึงขั้นล้มละลายหรือถูกจองจำในที่สุด
การกู้หนี้มีสองชนิด คือกู้มาเพื่อลงทุนทำกิจการต่าง ๆ และการกู้มาเพื่อกินเพื่อใช้ การกู้ชนิดแรกเป็นการทำเพื่อหวังกำไรและเป็นวิธีการใหม่จึงอยู่นอกความหมายของภาษิตนี้ในที่นี้จึงหมายเฉพาะการกู้มาใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายเท่านั้น

การกู้หนี้คือ การหยิบยืมทรัพย์สินของผู้อื่นมาใช้ โดยมีเงื่อนไขจะจ่ายดอกเบี้ยให้ คนกู้หนี้เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วมักลืมตัวใช้จ่ายไม่ระวัง จึงทำให้ทรัพย์หมดไปอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถจะหาเงินต้นไปคืนเจ้าหนี้ได้ บางทีก็ไปก่อหนี้ใหม่ขึ้นมาอีก ทับถมไปเรื่อย ๆ จนไม่สามารถที่จะหามาทดแทนได้ เกิดเป็นความทุกข์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
การไม่เป็นหนี้ก็คือ การมีความขยันหมั่นเพียร มีความเพียรพยายามประกอบอาชีพให้ประสบความสำเร็จ และมีความสันโดษที่มา
http://mediacenter.mcu.ac.th/data/caipyo/m5/web/hungtoom/p16.phpขอบคุณภาพจาก
http://cdn.gotoknow.org/