กรรมฐาน มัชฌิมา > ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน

นิมิต คือ อะไร สำคัญอย่างไร เกี่ยวพันอย่างไร กับผู้ภาวนา

(1/4) > >>

arlogo:


  (ภาพนี้ เป็นภาพที่ฝันบ่อย ๆ มาก จนกระทั่งต้องนั่งร่างรูปออกมา อย่างนี้ด้วยดินสอสี พอนำภาพออกมา ก็เที่ยวหาตามหาสถานที่ ๆ เป็นดังภาพหรือ คล้ายกับภาพนี้ ซึ่งในฝันนั้นเป็นเรื่องราวในอดีต ของตนเอง ที่เคยไปทำภาระกิจบางอย่างที่นี่ )


วันนี้ จะได้หยิบยก เรื่อง ของ นิมิต มา กล่าวสักเล็กน้อย เนื่องด้วยหลายท่าน ก็มักจะถาม และ ถามกันบ่อยมาก ๆ จริงเรื่องนี้ เพราะมันเป็นเรื่องใกล้ตัว สำหรับทุกคนต้องประสบเจอกันแบบใด แบบหนึ่ง ในก็คือ เรื่องของนิมิต นั่นเอง


  คำว่า นิมิต แปลว่า เครื่องกำหนด , สิ่งที่ปรากฏ , สัญญลักษณ์ , เครื่องหมาย ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ว่าใช้กับอะไร เช่น ไปทำบุญปิดทองฝังลูกนิมิต ก็หมายถึง พากันไปปิดทอง ลูกกลม ๆ ซึ่งเป็น สัญญลักษณ์บอกเขตของสงฆ์ ที่ใช้ทำสังฆกรรม กัน อย่างนี้เป็นต้น

   นิมิต มีอยู่สองประเภท คือ

   1.นิมิต ที่ได้รู้ เห็น หยั่งถึง สัมผัส ได้จากการหลับ อันนี้เรียกว่า นิมิต เช่นกัน ภาษาเราชาวบ้าน เรียกว่า ความฝัน ซึ่ง นิมิตที่เกิดในตอนนอนหลับนี้ มีได้หลายอย่างหลายประการ เป็นได้ทั้งจริง และไม่จริง แต่ ส่วนใหญ่ จะไม่จริง 98 เปอร์เซ็นต์ ของบุคคลที่ฝันล้วนแล้วไม่จริง ....



    แต่ที่เป็นจริงก็มีประมาณ 2 เปอร์เซันต์ เท่านั้้นที่จะเป็นจริง สำหรับบุคคลที่นอนฝันประเภทนี้ ต้องมีกรรมที่เกี่ยวเนื่องกันกับเรื่องราว เช่น ตัวอย่าง พระนางสิริมหามายา สุบิน ( ฝัน ) ว่า มีช้างเผือก ใช้งวงถือดอกบันวมามอบให้ และ เทวดา พยุงเตียงขึ้นบนอากาศ เมื่อฝันอย่างนี้ จึงนำความฝัน ปรึกษาผู้ชำนาญ เชี่ยวชาญด้านการทำนายฝัน ก็ได้ผลสรุปว่า พระนางสิิริมหามายา นั้นจะได้โอรส เป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ มีเดช มีสิริ มีเหล่าทวยเทพป้องกัน ดูแล ดังนี้ อันนี้เป็นคำทำนาย

    ดังนั้นหลายคนจึงชอบฝัน และ ชอบ นำความฝันออกมาตีความ ตีเป็นเรื่อง เป็นราวกันบางคนก็มัวหมอง เพราะความฝัน เพราะฝันไม่ดี แต่บางคนก็ร่าเริง เพราะฝันดี เห็นเลขเด็ด ตีความได้ตังค์ใช้ นับว่าเป็นเรื่อง นานาจิตตัง ของ ปุถุชน ที่ชอบฝัน และ ชอบฝันหวาน กันอยู่ หรือบางคนกล่าวว่า ชอบฝันกลางวัน ก็หมายความว่า หลงใหล มัวเมาในความฝัน เชื่อในสิ่งที่ฝันแต่ไม่เชื่อในสิ่งทีเป็นจริง

    ดังนั้น นิมิต ที่เกิดในตอนนอนนั้น จัดได้ว่าเป็นเรื่องที่หาสาระ ความจริง ได้น้อยมาก ในชีิวิตนี้ อาจจะมีไม่กี่ครั้ง จาก เป็นหมื่น ๆ ครั้งที่ฝัน ที่จะเป็นจริงได้ ดังนั้นท่านที่ชอบอาศัย นิมิต จากฝัน ต้องพึงสังวรณ์ไว้ว่า มันจริงได้ยาก มีความจริงน้อยนัก ในความฝันที่เกิดจากการนอน ของ ปุถุชน


   (ภาพนี้ เป็นภาพที่ปรากฏในสมาธิ ตั้งชื่อไว่า ว่า เหยียบต้นกล้วยข้ามแม่น้ำ เมื่อครูสอนกรรมฐาน สอบสมาธิว่า แก่กล้าแล้วขนาดไหน ท่านจึงเปลี่ยน ปฏิภาคนิมิตให้เป็นภาพที่ปรากฏในสมาธิ อย่างนั้น )
   
    2.นิมิต ที่เกิดขึ้นในระหว่าง ภาวนา และ ทรงการภาวนา อันนี้ มีอยู่  สามนิมิต ด้วยกัน เกิดขึ้นจริงในการภาวนา มีญาณ 9 ใช้งานได้ในนิมิตนั้น ๆ เป็นเรื่อง เป็นราว เป็นการ เป็นงาน แต่ต้องใช้เป็นด้วย นึกจะใช้ทั้งที่มีนั้น ไม่มีทางใช้ได้ คนเข้าฌาน ได้แต่ ญาณ 9 ไม่ได้ มีมาก ดังนั้น ถึงเข้าใช้ได้ ก็ต้องฝึกการใช้ ลหุสัญญา ให้เป็นด้วย ที่สำคัญ ที่เรียนมาจากครูอาจารย์ ท่านสอนไว้ ถ้าต้องการทำ ฤทธิ์ ให้อาศัยปัญจมฌาน เป็นบาทฐานในการใช้ ญาณ 9 วิธิขั้นตอนแต่ละญาณ นั้นไม่เหมือนกันเป็นไปตามอำนาจของกรรมฐานที่ฝึก บางกรรมฐานได้ ญาณมาก 1 ก็มี ไม่ใช่ว่า กรรมฐาน เดียว จะได้ ญาณ เดียว นะบางกรรมฐาน ได้หลาย ญาณ ยกตัวอย่าง พระอริยะจูฬปันถก ท่านสำเร็จเป็ฯพระอรหันต์ ด้วยบาทแห่ง ฌาน เป็น ปฏิสัมภิทาบุคคล นิรมิตกายได้ทั้งมากและน้อย เรียกว่า มโนมยิทธิ กรรมฐานที่ท่านฝึกนั้น สงเคราะห์ในกรรมฐาน ได้หลายกอง ผลการฝึกมีมากกว่า มโนมยิทธิ  ดังนี้เป็นต้น ดังนั้น ท่านที่เห็น นิมิต แล้วมีภาพปรากฏในนิมิต นั้น ๆ โดยเฉพาะ ถ้าปรากฏภายใน ปฏิภาคนิมิต แล้ว เชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าเป็นไปตามนั้น อย่างเช่น การระลึกชาต อาศัยปฏิภาคนิิมิต ใน อาโลกกสิณ ก็ได้ โอทาตกกสิณก็ได้ อานาปานสติ ก็ได้ อรูปฌาน ก็ได้  กายคตาสติ ก็ได้ แม้บท พุทธคุณ ก็สามารถได้ เห็นรูปทิพย์ เสียงทิพย์ และ ความเป็นทิพย์ ทั้งสิบประการได้ เช่นกัน



     ดังนั้น นิมิต ที่ปรากฏในสมาธิ จึงเขืิ่อได้มากกว่า นิมิต ที่ปรากฏในตอนนอน

    ส่วนการนอน บางท่านกล่าวว่า จิตเข้าฌาน 1 ถึงหลับ ได้ แท้ที่จริงไม่ใช่เป็นฌาน เขาเรียกว่า ภวังค์ การหลับนั้น อาศัยภวังคจิต ไม่ใช่สมาธิ ดังนั้นในสมาธิแท้ ไม่มีการตกภวังค์ เพราะการตกภวังค์อยู่นั้น จะทำให้ขัดข้องในสมาธิ จัดเป็น ภวังคโวฏฐัพพนะ ตกและยึดอยู่ จิต ไม่เคลื่อนเข้าองค์แห่งฌาน เป็นไปด้วยอำนาจการขาดสติ อยู่ในภวังค์ เหมือนหลับ ไม่ใช่เป็นอยู่ในสมาธิ นะจ๊ะ ดังนั้นคนหลับไม่จัดเป็น ฌาน ใด ๆ ทั้งนั้น

    ขอให้ทำความเข้าใจให้ดี สิ่งใด ปรากฏ ในฝัน ก็ตาม ใน สมาธิ ก็ตาม สักว่าเป็นเครื่อง ระลึก เป็นเครื่อง รู้ ไม่ใช่ของจริง ไม่เป็นตัวตนเราเขา หรือสัตวบุคคลใด ๆ เป็นเพียงสภาวะจิตและธรรมมารมณ์ ว่างจากเรา ว่างจากของเรา ว่างจากตัว จากตนของเรา

 
     เจริญธรรม / เจริญพร

   

PRAMOTE(aaaa):
ขออนุโมทนาสาธุ

Admax:
สาธุครับพระอาจารย์  st12 st12 st12 st12 เป็นประโยชน์อย่างสูงครับ

arlogo:
เข้าใจ นิมิต ให้ถูก สำหรับ นิมิตที่เป็น ผล จาก อุคคหนิมิต ปฏิภาคนิมิต มี 3 แบบ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=15705

arlogo:


ภาพจากนิมิต ที่ปรากฏ ในสมาธิ เกิดขึ้นบ่อยมาก จนกระทั่งต้องวาดภาพเก็บไว้เป็นเวลา 3 ปีกว่า ๆ



หลังจากผ่านไป 4 ปี จึงได้ทราบว่า ภาพที่ปรากฏคือที่ไหน

หลังจากได้พยายาม หาสถานที่ในนิมิตร อยู่ 4 ปี จนกระทั่งไปเจอวัดแห่งนี้ เมื่อคราขึ้นไปกับพระสงฆ์ ในคราวขึ้นภาคเหนือที่จังหวัดลำปาง พินิจ พิจารณาแล้ว มีความคล้ายคลึงกันมาก ถึงมีบางอย่างไม่เหมือนซะทีเดียว เพราะว่าภาพที่ปรากฏนั้นนิมิตร มันเก่า ๆ มีอะไรในที่ของใหม่ในปัจจุบันอย่างภาพไม่มี แต่ นับว่าเหมือนและใกล้เคียง ในคืนนั้น หลังจากที่ได้ไปกราบ พระธาตุลำปางหลวง ก็พบพระหลวงตา ในฝันท่านบอกว่า ให้ไปเดินขึ้นดอยตุงรูปเดียว ดังนั้นเมื่อนำคณะกลับวัดแล้ว จึงเดินทางกลับไปภาคเหนือ อีกครั้งเพียงรูปเดียวในเดือน มีนาคม ครั้งนี้ตั้งใจไปเดินขึ้นดอยตุง วันนั้นเดินขึ้นดอยตุง ตั้งแต่ปากทางไป สามแยกเลย เดินไปฉันอาหารที่ตำหนัก และลงจากตำหนักขึ้นดอยตุง วันนั้นอากาศร้อน แต่ตอนเริ่มเดิน เหมือนเทวดามาสงเคราะห์ให้ฝนตกก่อน จากนั้นหมอก ก็ปกคลุมดอยขึ้นระหว่างเดินขึ้นไป เป็นน่าอัศจรรย์ ก็คงเหลือเรื่องเดียวคือความเหนื่อยตอนเดินขึ้นทางลาดชัน แต่ไม่ร้อน ไม่กระหาย อย่างที่คิด

 วิีดีโอตอนเดินขึ้นดอยตุงรูปเดียว ถ่ายด้วยมือถือ nokia n72
  http://www.youtube.com/watch?v=Hx0HONhMEFM

 บรรยากาศตอนขากลับ เป็นอย่างในวีดีโอ คำว่า ยืนเหนือเมฆ ที่ดอยตุงเข้าใจเลย
http://www.youtube.com/watch?v=9EXgwC5fcsc

แม้ตอนขึ้นไหว้พระธาตุ ก็ ร่มเย็น เดินขึ้นแบบสบาย ๆ นะจ๊ะ
http://www.youtube.com/watch?v=dHyD0QSD3z8

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป