เรื่องทั่วไป > ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน)

ทำไมต้องเอา บทพระพุทธคุณ ไปตั้งเป็นชื่อ พระนารายณ์ คร้า....

(1/5) > >>

หมวยจ้า:
สิ่งที่หมวยจ้า สงสัยอยู่เหมือนกัน.......

คาถาบูชาดวงประจำวันเกิดทั้ง ๗ วัน
๑. เกิดวันอาทิตย์ อะ วิช สุ นุต สา นุส ติ ชื่อคาถาพระนารายณ์และรูปใช้ในทางเมตตามหานิยม สวดวันละ ๖ จบ

๒. เกิดวันจันทร์ อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา ชื่อคาถากระทู้ ๗ แบก ใช้ในทางคงกระพัน สวดวันละ ๑๕ จบ

๓. เกิดวันอังคาร ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง ชื่อคาถาฝนเสน่หา ใช้ในทางเมตตามหานิยม สวดวันละ ๘ จบ

๔. เกิดวันพุธกลางวัน ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท ชื่อคาถาพระนารายณ์เกลื่อนสมุทร ใช้เสกปูนสูญฝี สวดวันละ ๑๗ จบ

๕. เกิดวันพุธกลางคืน คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ ชื่อคาถาพระนารายณ์พลิกแผ่นดิน ใช้ทางแก้ความผิด สวดวันละ ๑๒ จบ

๖. เกิดวันพฤหัสบดี ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ ชื่อคาถา พระนารายณ์ครึ่งไตรภพ ใช้ทางเมตตามหานิยม สวดวันละ ๑๙ จบ

๗. เกิดวันศุกร์ วา โท โณ อะ มะ มะ วา ชื่อคาถาพระนารายณ์ สวาดหิมพานต์ ไช้ทางเมตตามหานิยม สวดวันละ ๒๑ จบ

๘. เกิดวันเสาร์ โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ ชื่อคาถาพระนารายณ์ถอดจักร ใช้แก้ถอนคุณไสยศาสตร์ สวดวันละ ๑๐ จบ

บทพระพุทธคุณ ทำไมไปเกี่ยวกับ พระนารายณ์คร้า...... :25:

sathukrab:
เป็นคำถามที่น่าสนใจ มากครับ นั่นสินะ
เป็นคำจำกัดความ ให้ดูเหมือน ยิ่งใหญ่ หรือป่าวครับ

แต่ที่จริง บทพุทธคุณ เป็นบทที่มีอานุภาพมากอยู่แล้ว สามารถ ขจัดความกลัว ความสะดุ้งได้

หลวงพ่อจรัญ ท่านกล่าวว่าเป็นบทต่ออายุด้วยครับ


ผมว่า มีอุปเท่ห์ ใมการให้สวดมากกว่าครับ เรื่องพวกนี้ใช้ศรัทธา ก็ดีนะครับ
 :s_good:

raponsan:
อิติปิโส 8 ทิศ อานุภาพคณานับ
   
๑. อิระชาคะตะระสา เรียกว่ากระทู้ ๗ แบก คุ้มทิศบูรพา เสกเป่าพิศสัตว์กัดต่อย
   
๒.ติหังจะโตโรถินัง เรียกว่า ฝนแสนห่า คุ้มทิศอาคเนย์ บทนี้ทำน้ำมนต์ รดคนเจ็บไข้ได้ป่วย
   
๓.ปิสัมระโลปุสัตพุธ เรียกว่านารายณ์เกลื่อนสมุทร คุ้มทิศทักษิน ภาวนากันภูตผีปีศาจ
   
๔.โสมานะกะริถาโธ เรียกว่านารายณ์คลายจักร คุ้มทิศหรดี เสกสวด108 คาบทำน้ำมนต์ ไล่ผี หรือคนท้องกินคลอดลูกง่าย
   
๕. ภะสัมสัมวิสะเทภะ เรียกว่านารายณ์ขว้างจักรไตรตรึงภพ คุ้มทิศประจิมเสกพรมร่างคนไข้ ไล่ภูพผีปีศาจ
   
๖.คะพุทปันทูธัมวะคะ เรียกว่านารายณ์พลิกแผ่นดิน เสกน้ำมนต์ป้องกันผีเจ้าเข้าทรง หรือถูกคุณกระทำชะงักนัก
   
๗.วาโธโนอะมะมะวา เรียกว่าตวาดป่าหิมพานต์ คุ้มทิศอุดร เสกด้าย หวาย มีด ข้าวสาร ขับไล่ผี ผีป่าเวลาเดินทาง
   
๘.อะวิชสุนุตสานุสติ เรียกว่านารายณ์แปลงรูป คุ้มทิศอีสาน เสกเป่าตัวเอง เวลาออกจากบ้านแคล้วคลาด..

    ภาวนาป้องกันภัยอันตราย 108 มีคุณอเนกคณานับ

    จากหนังสือตำราพรหมชาติ หน้า 247-248 หมวด พระคาถามหาอาคม


   
  อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา
    ติ หัง จะ โต โล ถิ นัง
    ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุธ
    โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ
    ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ
    คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ
    วา โธ โน อะ มะ มะ วา
    อะ วิช สุ นุต สา นุส ติ

    ผู้รู้ ในสมัยก่อน ท่านว่า วิธี ใช้มากมายเพราะ อะไรครับ ทำไม ชื่อ อิติปิโส ๘ ทิศ เรียกกระทู้ ๗ แบก
    แต่ละบท มี ๗ คำ คูณ ๘ บท = ๕๖ คุณพระพุทธเจ้า
    คาถานี้ มาจากไหนครับ ลอง อ่าน ลงมา ตัวเเรก บทแรกลง มาตัวแรก บทที่สองไร่ลงไปเรือยๆๆดูซิครับ แล้วขึ้นไปตัวที่ สอง บทแรกอ่านไร่ ลงมาเรือยๆๆ

    อิติปิโสภะคะวา อะระหังสัมมา สัมพุทโธ วิชาจะระนะสัมปันโน สุคะโตโลกะวิทู
อะนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวะมะ มะนุสสานัง พุธโธ ภะคะวาติ ครับ ก็ บท
 อิติปิโส ที่เราๆๆท่านๆๆสวดบูชา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นไงครับ

    และ ยังมี อิติปิโสถอยหลัง อีกครับ

    ติวาคะภะโธพุทนังสา
    นุสมะวะเทถาสัตถิระ
    สามะทัมสะริปุโรตะ
    นุตอะทูวิกะโลโตคะ
    สุโนปันสัมณะระจะชา
    วิชโธพุทสัมมาสัมหังระ
    อะวาคะภะโสปิติอิ

    ให้ภาวนา ๓ / ๗ คาบ ก่อนเดินทางไปในทิศใดๆๆ จะแคล้วคลาดปราศจากทุกข์ภัยพิบัติทั้งปวง หากภาวนาได้ครบ 108 คาบ ติดต่อกัน ท่านว่าจะมีตัวเบา ตัวปลิว เสกหรือสะเดาะเคราะห์ สะเดาะ กุญแจ หรือโซ่ตรวนของจองจำทั้งปวงได้

    จาก หนังสือตำราพรหมชาติ หมวด คาถามหาอาคม หน้า 256



    กระทู้เจ็ดแบก อาจารย์จําแนกไว้บูชา เสกข้าวกินทุกวัน อาจป้องกันเครื่องศาสตรา อนึ่งภาวนา แล้วหันหน้าสู่ช้างสาร อาจหักงวงคชา ด้วยพลาอันห้าวหาญ มีกําลังเหลือประมาณ ยิ่งช้างสารอันตกมัน ฤษีทั้ง7องค์ ท่านดํารงอยู่ทิศนั้น เมื่ออภิวันท์ หันพักตร์นั้นทางทิศบูรพา

    อาคเนย์ฝนแสนห่า ใช้ภาวนาคราเดินทาง ถึงเดินสิ้นทั้งวัน เรื่องนํ้านั้นอย่าระคาง เสกหมากรับประทานพลาง สิบห้าคําอ้างกินเรื่อยไป แม้นใคร่ให้มีฝน อย่าร้อนรนจงใจเย็น ให้เสกไส้เทียนชัย เสกให้ได้แสนเก้าพัน แล้วให้นึกเทเวศ ผู้เรืองเดชในสวรรค์ อิทรพรหมสิ้นด้วยกัน ตลอดจนถึงชั้นอะกะนิฏฐ์ ฝนก็จะตกหนัก เพราะอารักษ์อันศักดิ์สิทธิ์ ถ้ามีโรคอันวิปริต จงพินิจพิจารณา เอาทํานํ้ามนต์ แล้วพรํ่าบ่นด้วยคาถา เสกพ่นสัก7ครา มิทันช้าก็จักหาย อาคเนย์นามทิศศา จงหันหน้าไปโดยหมาย เคารพครูบรรยาย แล้วจึงร่ายคาถาเอย

    นารายณ์กลืนสมุทร์ ฤทธิรุททิศทักษิณ เรื่องฝีเกลื่อนหายสิ้น ไม่ต้องกินเสกพริกไทย เจ็ดเม็ดเสกเจ็ดหน แล้วจงพ่นลงทันใด สามครั้งก็จะหาย สมดังใจจํานง อนึ่งใช้เสกปูน สําหรับสูญฝีหัวลง มิช้าฝีก็คง ยุบย่อลงในบัดใด ภาวนาลงกระดาษ อย่าประมาทจงตั้งใจ ฟั่นเทียนเอาทําไส้ เทียนนั้นไซร้หนึ่งบาทหนา ลงคาถาล้อมให้รอบ ตามระบอบอย่ากังขา เท่ากําลังเทวดา ตามชันษาผู้เป็นไข้ แล้วจุดบูชาพระ อย่าได้ละภาวนาไป มิช้าไข้นั้นไซร้ จะหายดังปลิดทิ้ง


    หรดีพึงสําเหนียก มีชื่อเรียกเป็นสองอย่าง คือนารายณ์คลายจักรอ้าง กับอีกทั้งพลิกแผ่นดิน มีฤทธิ์และศักดา ทั้งเดชาและโกสินทร์ ภาวนาเป็นอาจิณ ยําเกรงสิ้นเหล่าศัตรู รําลึกแต่ในใจ ข้าศึกไซร้ปืนสู้ หย่อนกําลังพรั่งพรู ไม่คิดสู้เราต่อไป ถึงแม้คนใจกล้า พอเห็นหน้าก็อ่อนไป ครูเฒ่าท่านสอนไว้ แม้สิ่งใดมีประสงค์ สิ่งนั้นพลันต้องได้ สมดังใจจํานง เพราะคาถาเป็นมั่นคง อย่างวยงงจงบูชา คุณครูผู้บรรยาย ท่านเร่ย้ายหรดีทิศา เมื่อจะภาวนา จงหันหน้าทางนั้นเอย


    ทิศประจิมนามประหลาด ชื่อตวาดหิมพานต์ มีเดชอันห้าวหาญ ดุจช้างสารไม่กลัวตาย พบช้างและปะเสือ ที่ดุเหลือทั้งโคควาย อีกทั้งโจรดุร้าย ก็อย่าได้นึกกลัวมัน จงนิ่งภาวนา พระคาถาไปฉับพลัน เป็นมหาจังงังอัน วิเศษยิ่งอย่ากริ่งใจ สัตว์ร้ายและคนพาล ไม่อาจหาญเข้ามาใกล้ ให้แคล้วให้คลาดไป จงท่องไว้ทั้งเช้าคํ่า อนึ่งเมื่อภาวนา จงหันหน้าอย่าถลํา ทิศประจิมจงจดจํา ดังแนะนําดังนั้นเอย

    พายัพนามทิศ มหิทฤทธิ์นั้นมากนัก ชื่อว่านารายณ์กลืนจักร์ มีฤทธิ์ศักดิ์นั้นย้อนยอก ครูเฒ่าท่านกล่าวมา ถ้าแม้นลูกไม่ออก เอานํ้าใส่ขันจอก แล้วเปล่งออกซึ่งวาจา เสกนํ้าทํานํ้ามนต์ ร้อยแปดหนด้วยคาถา ให้กินอย่ารอช้า พรหมกายาตลอดศรีษ์ บุตรน้อยจะค่อยเคลื่อน ขยัยเขยื้อนเคลื่อนอินทรีย์ เสดาะเสกวารี หากไม่มีนํ้ากระสาย จงเป่าด้วยคาถา ไม่ทันช้าหลุดกระจาย ครูประสิทธิ์บรรยาย ท่านเร่ย้ายอยู่พายัพ เพื่อเป็นการคํานับ ตามตําหรับอาจารย์เอย

    นารายณ์ขว้างจักร์นี้เลิศลบ อีกนามหนึ่งตรึงไตรภพ สองชื่อย่อมลือจบ ทั่วพิภพเรืองเดชา ภาวนาสูดลมไป ว่าให้ได้สักสามครา คอยดูที่ฉายา ถ้าเห็นเงาว่าหายไป ครานั้นจงชื่นชม คนนับหมื่นหาเห็นไม่ บังตาหายตัวได้ ครูกล่าวไว้เร่งบูชา หันพักตร์สู่อุดรทิศ แล้วตั้งจิตภาวนา ตามบทพระคาถา ที่กล่าวมาแต่ต้นเอย

    อิสานนามแถลง นารายณ์แปลงรูปโดย หมาย ภาวนาอย่าระคาย ศัตรูร้ายแปลกเราไป เมื่อจะเสดาะแล้วไซร้ เสกให้ได้ร้อยแปดคาบ ตั้งใจให้แน่วแน่ ครั้นถ้วนแล้วเป่ากระหนาบ ต้องหลุดอย่างราบคาบ ได้เคยปราบเห็นประจักษ์ ถ้าชอบทางเสน่ห์ ทําเป็นเล่ห์ให้เขารัก นํ้าหอมอย่าหอมนัก จงรู้จักที่อย่างดี แล้วเสกให้บ่อยๆ อย่างน้อยๆ108ที แล้วเก็บไว้ให้ดี ถึงคราวที่จะต้องใช้ เสกอีกสักเจ็ดหน ประกายตนแล้วจึงไป เป็นเสน่ห์แก่ผู้ใช้ ทั้งหญิงชายทุกภาษา ไม่ว่าคนชั้นไหน แต่พอได้เห็นพักตรา ให้รักด้วยเมตตา ประหนึ่งว่าเป็นลูกหลาน แคล้วคลาดเหล่าศัตรู สิ้นทั้งหมู่อันธพาล ครูอยู่ทิศอิสาน จงนมัสการและบูชาเอย


    ยังมีอิติปิโสอีกหลายบท พิมพ์ให้ดูไม่ไหวเยอะมากเช่น เช่นอิติปิโสเรือนเตี้ย(มงกุฎพระพุทธเจ้า) อิติปิโสธงชัย, อิติปิโสแปลงรูป, อิติปิโสเต็มที่, อิติปิโสตรึงไตรภพ อิติปิโสฤษีย้ายรูป อิติปิโสพุชฌงค์ซ่อนหัว และซ่อนหาง อิติปิโสนารายณ์คลายจักร อิติปิโสนารายณ์ประสมจักร อิติปิโสนารายณ์หักจักร อิติปิโสนารายณ์ถอดจักร อิติปิโสนารายณ์ยกจักร อิติปิโสนารายณ์ปิดสมุทร เป็นต้น

 อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา ให้เอา ขี่เถ้าของ ผีตายวันเสาร์ เผาอังคาร มาปั้นเป็นหุ่น ตอนที่ปั้นให้ภวานาคำว่า อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา ตลอดจนปั้นเสร็จแล้วท่องคาถาอีก 108จบก็จะได้หุ่นผีเอาไว้ใช้เลย


ที่มา  http://www.e-sarnsakyan.com/webboard/index.php?topic=378.0
โพสต์โดย r_non Sr. Member



ความเห็นที่ 1 โดย ทรราชย์น้อย
ผมเคยได้ต้นฉบับพระคาถานี้มา โดยเป็นบันทึกของพระยากสิการบัญชา ท่านว่าตระกูลท่านเป็นนักรบมาหลายชั่วคน และพระคาถานี้ได้สั่งสอนสืบทอดกันมาในตระกูลของท่าน แต่จากการค้นคว้าเพิ่มเติม พบว่าผู้ที่คิดปริศนาพระคาถาอิติปิโสแปดทิศนี้คือพระอาจารย์วัดพนัญเชิง กรุงเก่า ผู้เป็นอาจารย์ของพระเจ้าสายน้ำผึ้งแห่งอาณาจักรศรีรามเทพนคร ซึ่งเกิดก่อนอาณาจักรกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุธยาหลายศตวรรษ พระอาจารย์องค์นี้แหละที่ในพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติกล่าวว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งจะยกพลไปขุดบางเตย
พระอาจารย์ห้ามไว้ว่าน้ำเค็มนัก ยังไม่ถึงพุทธทำนายสร้างไม่ได้...โดยส่วนตัวผมจึงเชื่อว่าพระคาถาบทนี้เกิดขึ้นที่วัดพนัญเชิง ก่อนการสร้างกรุงศรีอยุธยา

ความเห็นที่ 2 โดย Chonlathorn
ขอเสริมครับ กระทู้บนสุดก็เป็นอุปเทห์อีกอย่างหนึ่งครับ ในสมัยโบราณเวลาจะตั้งค่าย เขาจะใช้อิติปิโสแปดทิศเสกทรายซัดไปทางทิศทั้งแปดครับ เป็นวิธีใช้อีกอย่างหนึ่งของคาถาบทนี้ครับ วิธีนี้ก็มีมานานแล้วครับ ในปัจจุบันก็ยังมีใช้กันอยู่ครับสำหรับเดินป่าตั้งแคมป์พักแรม กันอาถรรพ์ป่า และสัตว์ร้ายได้ฉมังนักแลผมคิดว่าอุปเทห์ของอิติปิโสแปดทิศยังมีอีกมากมาย ครับ ครูท่านผูกไว้ให้ได้ใช้กันเหมือนคำว่า "ฝอยท่วมหลังช้าง" นั่นหละครับ

ที่มา http://board.palungjit.com/f17 /พระ-คาถา-อิติปิโส-๘-ทิศ-101060.htm

raponsan:

อุปเท่ห์ [อุปะเท่, อุบปะเท่] น. อุบายดําเนินการ, วิธีดําเนินการ. (ส. อุปเทศ; ป. อุปเทส).
ที่มา พจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒


ต้องขอโทษเพื่อนๆทุกคนด้วย ผมได้ห่างหายจากเว็บบอร์ดนี้ไปหลายวัน

เอาล่ะครับ มาตอบคำถามของหมวยนีย์กันดีกว่า 

จริงๆผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่จะคุยเป็นเพื่อนนะครับ

ขอให้เพื่อนๆอ่านบทความที่ได้เสนอไว้ด้านบน

จะเห็นว่า คาถาดังกล่าว คนที่แต่งขึ้นมามีจุดประสงค์ในทางไสยศาสตร์

ต่อสู้ป้องกันคุณไสยต่างๆ ป้องกันสัตว์ร้าย และใช้ในการรบสมัยโบราณ

เหตุที่ต้องใช้คำว่า "นารายณ์" มาเป็นชื่อคาถานั้น

ผู้แต่งคาถานี้ คงเอาอิทธิฤทธิ์ของพระนารายณ์ มาสร้างความศักดิ์สิทธิ์

สร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้คาถา คาถานี้ต้องสัมฤทธิ์ผลแน่นอน เพราะมีชื่อพระนารายณ์อยู่

ผมคงคุยได้แค่นี้แหละ จนด้วยเกล้าจริงๆ ยอมแพ้ครับ

ขอให้ธรรมคุ้มครอง
 :25:

raponsan:
ประวัติพระวิษณุ-นารายณ์

(ภาษาอังกฤษ : Vishnu , อักษรเทวนาครี : विष्णु) หรือเรียกอีกอย่างว่า พระนารายณ์

เป็น1 ใน 3 มหาเทพ มีหน้าที่คุ้มครองแลดูแลรักษาทั้ง 3 โลกตามความเชื่อของชาวฮินดู จากคัมภีร์พราหมณ์

รูปร่างลักษณะมีพระวรกายจะมีสีที่เปลี่ยนไปตามยุค ฉลองพระองค์ดั่งกษัตริย์ มีมงกุฎทอง อาภรณ์สีเหลือง

 มี 4 กร ถือ สังข์ จักร ตรี คทา แต่ที่จะพบเห็นได้บ่อยที่สุดคือถือ จักร์ สังข์ คทา ส่วนอีกกรจะถือ ดอกบัวบ้าง

หรือ ไม่ถืออะไรเลยบ้าง(โดยจะอยู่ในลักษณะ"ประทานพร")


โดยปรกติ พระวิษณุ จะทรงประทับอยู่ที่เกษียรสมุทร โดยส่วนมากจะทรงบรรทมอยู่บนหลังอนันตนาคราช โดยมีพระชายาคือ พระลักษมีมหาเทวี คอยฝ้าดูแลปรนิบัติอยู่ข้างๆเสมอ พาหนะของพระวิษณุคือ พญาครุฑ
 

พระวิษณุ มีอีกชื่อหนึ่งว่า "หริ" แปลว่าผู้ดูแลแห่งจักรวาลถือเป็นเทพสูงสุด เพราะทุกอย่างเกิดจาก "หริ" โดย"หริ"ได้แบ่งตนเองออกเป็น 3 คือ

    * พระพรหม มีหน้าที่สร้างและลิขิตสรรพสิ่งทั้งปวงในทั้งสามโลก

    * พระวิษณุ หรือ พระหริ มีหน้าที่ดูแลทั้งสามโลกให้อยู่ในความเรียบร้อย และสมดุล

    * พระศิวะ มีหน้าที่ทำลายสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายทั้งปวงในโลกทั้งสาม

อาจเป็นไปได้ว่าชาวพุทธไม่ชอบการที่ฮินดูนำพระศาสดาของพุทธ ไปเป็นอวตารปางหนึ่งของมหาเทพของเขา จึงมีการสลับปางที่ไม่สำคัญเข้ามาแทน


   1. ปางที่ 1 วราหาวตาร (อวตารเป็นหมูเผือกเขี้ยวเพชร)

   2. ปางที่ 2 กูรมาวตาร (อวตารเป็นเต่าทอง)

   3. ปางที่ 3 มัตสยาวตาร (อวตารเป็นปลากรายทอง)

   4. ปางที่ 4 นรสิงหาวตาร (อวตารเป็นครึ่งสิงห์)

   5. ปางที่ 5 วามนาวตาร หรือ ทวิชาวตาร (อวตารเป็นพราหมณ์เตี้ย)

   6. ปางที่ 6 มหิงสาวตาร (อวตารเป็นมหิงสา หรือควาย)

   7. ปางที่ 7 อัปสราวตาร (อวตารเป็นนางฟ้า)

   8. ปางที่ 8 รามาวตาร (อวตารเป็นมนุษย์ชื่อพระราม)

   9. ปางที่ 9 กฤษณาวตาร (อวตารเป็นพระกฤษณะ)

  10. ปางที่ 10 กัลกยาวตาร (อวตารเป็นมนุษย์เรียกว่า วีรบุรุษขี่ม้าขาว)


ปางอื่นๆที่น่าสนใจ

- อัปสราวตาร (อวตารเป็นนางอัปสร หรือ นางฟ้าผู้เลอโฉม) เพื่อหลอกล่อเหล่าอสูร เพื่อให้เหล่าเทวดาได้ดื่มน้ำอมฤตที่ได้จากการกวนเกษียรสมุทร เพื่อเทวดาจะได้เป็นอมตะและมีฤทธิ์เหนืออสูร

- นารัตอวตาร (อวตารเป็นเทวฤษีนารัต)เพื่อให้ความรู้ สั่งสอน และชี้แนะแก่ มวลเทวะ มวลมนุษย์ และ หมู่มวลอสูร
 

ความเชื่อในคตินิยม
พระวิษณุ หรือคนไทยมักเรียกว่า พระนารายณ์ มี 4 กร และมีอาวุธอยู่ทั้ง 4 พระหัตถ์ ประกอบด้วย ตรี คทา จักร สังข์ เป็นเทพผู้สร้างโลก เทพผู้ถ่ายทอด สรรพวิชาช่างต่างๆ โดยได้รับพรและ พลังอันศักดิ์สิทธิ์มากมายจากพระอิศวร จึงมีฤทธิ์ไม่แพ้กัน และยังมีความเชื่อว่า ใครบูชาท่านแล้วจะได้รับความคุ้มครอง และมีโชคลาภ แต่จะต้องเป็นคนมีสัจจะ รักษาศีล รวมทั้งเจริญภาวนาเป็นที่ตั้ง

คาถาบูชา
   1. คำบูชาพระวิษณุ (นารายณ์) โอม...นะโม นารายณะ นามะ ภะวันตุเม ทุติยัมปิ...นะโม นารายณะ นามะ ภะวันตุเม ตะติยัมปิ...นะโม นารายณะ นามะ ภะวันตุเม ฯ

   2. บทอธิฐานขอพร พระนารายณ์ โอม...ศานตาการัม ภุชะคะศะยะนัม ปัทมะนาภัมสุ ุเรศัม วิศวาธารัม คะคะนะสะทฤศัม เมฆะวรรณัม ศุภางคัม ลักษมีกานตัม กะมะละนะยะนัม โยคิภีร์ ธยานะคัมมยัม วันเทวิษณุมอภะวะภะยะหะรัม สรรวะโลกัยกานาถัม ฯ

   3. บทอธิฐานขอพร พระวิษณุ โอม...สะศางขะจักรัม สะกิริฏะ กุณตะลัม สปิตะวัสตรัม สะระสีรูเหกษณัม สะหาระวักษะสถะละ เกาสตุภะ ศริยัม นะมามิ วิษณุม ศิระสา จตุรภุซัม ฯ

   4. บทอธิฐานขอพร พระราม โอม...นีลามพุชะ ศยามะละ โกมะลางคัมสีตา สมา โรปิตะ วามะภาคัม ปาเณา มหาสายะกะ จารุ จาปัม นะมามิ รามัม ระฆุวัมศะ นาถัม ฯ

ทีมา http://montradevi.makewebeasy.com/index.php?type=webboard&add=2&update=1&id=33743

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป