ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ปริศนาธรรม ของ หลวงปู่สุก ไก่เถื่อน : ทางสู่นิพพาน  (อ่าน 8390 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
    • ดูรายละเอียด



ปริศนาธรรม ของ หลวงปู่สุก ไก่เถื่อน : ทางสู่นิพพาน
(ถวายพระพร ขออยู่วัดพลับ)

พระอาจารย์สุก พระองค์ท่านทรงรับภาระธุระพระพุทธศาสนาแล้ว
พระเจ้าอยู่หัวตรัสต่อไปอีกว่า ขออาราธนานิมนต์ พระอาจารย์ไปครองวัดสระแก (วัดสระเกศ) อันเป็นวัดอรัญวาสีมาแต่เดิม เวลานี้วัดสระแกว่างเจ้าอาวาส และบัดนี้โยม ได้สร้างเสนาสนะสำหรับพระสงฆ์อยู่จำพรรษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว

พระอาจารย์สุก ถวายพระพรว่า บัดนี้วัดสระแก มีประตูกำแพงเมือง สร้างอยู่ใกล้ พระอารามนัก ต่อไปย่อมเป็นที่พลุกพล่านอึงคะนึงไปด้วยผู้คน จะมีผู้คนผ่านเข้าออกไปมามากมาย ไม่เหมาะแก่การเป็นสถานที่บำเพ็ญเพียรภาวนา สภาพการเป็นวัดอรัญวาสีก็จะหมดไปด้วย

พระเจ้าอยู่หัวตรัสว่า อีกเจ็ดวันก็จะเข้าพรรษาแล้ว
พระอาจารย์สุก ถวายพระพรสั่นๆว่า อาตมาภาพถวายพระพร ขออยู่จำพรรษา ณ.วัดพลับ เพราะสงบสงัด ร่มเย็นดีถึงจะลำบากหน่อยก็ไม่เป็นไร สร้างเสนาสนะสำหรับพระสงฆ์ชั่วคราว ๔-๕ หลัง ก็พอ

สำหรับที่จะจำพรรษาได้ พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงคล้อยตามคำพระอาจารย์ จึงตกลงพระราชหฤทัยตามที่พระอาจารย์ทูลขอ


 :25: :25: :25: :25:

ขณะนั้นพระอาจารย์สุก ทรงเหลือบพระเนตรมอง อย่างสำรวมไปทาง แถวขวามือด้านหน้า ของพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นคณะของพระพุทธาจารย์(เป้า)นั่งอยู่ กล่าวว่า พระอาจารย์สุก ทรงทราบวาระจิตของพระสังฆเถรทั้งหลายเหล่านั้นด้วยเจโตปริยญาณ คือ ญาณที่กำหนดรู้ใจผู้อื่นได้ ด้วยใจของตน ครั้งนั้นพระอาจารย์สุก ทรงทอดพระเนตรเห็นพระภิกษุเถรองค์หนึ่ง นั่งเป็นลำดับที่สี่ต่อจากพระญาณรักขิต(สา) วัดบางหว้าใหญ่

พระองค์ท่านก็ทรงจำได้ว่าพระภิกษุเถรองค์นั้นคือ พระอาจารย์ศรี ซึ่งเคยเป็นเพื่อนสหธรรมิก ของพระองค์ท่านมาแต่ก่อน ครั้งที่พระองค์ท่าน ยังทรงศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ และพระบาลีมูลกัจจายน์ มาด้วยกัน ณ. วัดโรงช้าง กรุงศรีอยุธยา ครั้งกรุงศรีอยุธยา ยังเป็นราชธานีอยู่ครั้นถึงสมัยกรุงธนบุรี

พระอาจารย์ศรีได้มาสถิต ณ.วัดสมอราย ครั้งนี้พระองค์ท่าน ทรงทราบด้วยญาณวิถีจิตว่า พระอาจารย์ศรี วัดสมอราย ท่านได้อานาคามีมรรค อานาคามีผลแล้ว ทั้งสองท่านได้ส่งญาณวิถี กระทบจิต สนทนากันอยู่พระอาจารย์ศรี ท่านมีอายุพรรษารุ่นราวคราวเดียวกันกับพระอาจารย์สุก ทั้งสองท่านบรรพชา-อุปสมบท และศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ศึกษาพระบาลีมูลกัจจายน์ มาด้วยกัน ณ สำนักวัดโรงช้าง กรุงเก่า ในสำนักพระครูรักขิตญาณ(สี) ในครั้งกระโน้น


 ask1  ans1 ask1 ans1

ต่อมาพระอาจารย์สุก พระองค์ท่านก็ทรงหันมองอย่างสำรวมมาทางพระมหามี ปากแดง พระองค์ท่านทรงทราบวาระจิตของ พระมหามี ปากแดงว่า อยากจะถามปัญหาเรื่อง ทางสู่พระนิพพาน แต่อยู่ต่อหน้าพระที่นั่ง จึงไม่อาจถามได้ จึงนั่งสงบเงียบอยู่

พระอาจารย์สุกทรงทราบความดำริของท่านพระมหามี ปากแดง แล้ว ก็ดำริที่จะอนุเคราะห์ท่านมหามี พระอาจารย์สุก จึงกล่าวธรรมอันนำไปสู่พระนิพพาน เป็นปริษนาธรรมขึ้นมา พร้อมกับหันพระพักตร์ไปทาง พระมหามี ปากแดง ใจความปริษนาธรรมอันนำทางสู่นิพพาน ดังนี้






       ปริศนาธรรม : ทางสู่นิพพาน

     พระอาจารย์สุก ท่านกล่าวว่า
     พระพุทธเจ้าแบ่งองค์ ออกเป็นตาผ้าขาว มาเฉลยศีลสี่ ในพระธรรมเจ้าสามไตรนั้นแล
        - ถ้าแลเห็นเท่าหิงห้อย ชื่อว่า โสดา
        - เห็นเท่าดาวรุ่ง ชื่อว่า สกิทา
        - เห็นเท่าจันทร์เพ็ญ ชื่อว่า อนาคา
        - เห็นแจ้งดังพระอาทิตย์ ชื่อว่า อรหันต์
     อันนี้ชื่อว่า ศีล ๔ ประการ


     ตาผ้าขาวถามว่า เห็นดังนี้จะได้นิพพานหรือ.?
     พระพุทธเจ้าว่า ยังมิได้ก่อน ต้องให้พรแก่สัตว์ทั้งหลายก่อน จึงจะได้นิพพาน ให้พรแก่สัตว์ คือให้แผ่ เมตตา แผ่กรุณา แผ่มุทิตา แผ่อุเบกขา

     ตาผ้าขาวถามว่า ถ้าให้พรแก่สัตว์แล้วก็ได้นิพพานเทียวหรือ.?
     พระพุทธเจ้าว่า ยังมิได้ก่อน ต้องให้พรแก่ร่างก่อน จึงจะได้นิพพาน
     ตาผ้าขาวถามว่า ให้พรแก่ร่างแล้ว จะได้นิพพานหรือ.?
     พระพุทธเจ้าว่า ยังมิได้ก่อนต้องให้พรแก่มารทั้ง ๕ จึงจะได้นิพพาน คือให้ว่า "ปัญจมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปกาเสติ มหาเวรัง สัพพะพุทเธ นะมามิหัง"


    ตาผ้าขาวถามว่า ให้พรแก่มารแล้ว จะได้นิพพานเทียวหรือ.?
    พระพุทธเจ้าว่า ยังมิได้ก่อน เพราะมารรู้ นิมิตตัวให้เหมือนพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ แลมันปิดประตูพระนิพพานไว้ ให้สัตว์ทั้งหลายห่วงอยู่ มิรู้จักองค์พระตถาคต จะไปนิพพาน ย่อมให้พรแก่มารทั้ง ๕ มาร จึงเปิดประตูให้ อันว่าสัตว์ทั้งหลายเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสารนี้ เพราะเหตุมิรู้จักพระพุทธเจ้าแล

     ตาผ้าขาวถามว่า ให้พรแก่มารแล้ว จะไปนิพพานหรือ.?
     พระพุทธเจ้าว่า ยังมิได้ก่อน ให้บรรจุร่างเสียก่อน จึงจะได้นิพพาน บรรจุร่างดังนี้
     "สัพเพ สังขารา อนิจจา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สัพเพ สังขารา ทุกขา สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์ สัพเพ สังขารา อนัตตา สังขารทั้งหลาย ไม่มีตัวตน อันนี้ประจุร่างไว้ขอพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า จงให้ข้าได้นิพพานเถิด"


     เมื่อพระอาจารย์สุกกล่าวปริษนาธรรมทางไปสู่นิพพานแล้ว กล่าวว่า พระมหามีปากแดง ท่านมีความเข้าใจในปริษนาธรรมนี้

     st12 st12 st12 st12

     พระเจ้าอยู่หัวประทับอยู่ ณ. ที่นั้น ก็ทรงทราบดีว่า พระอาจารย์สุกพระองค์ท่านกล่าวตอบปัญหาปริษนาธรรม ให้แก่พระภิกษุเถระองค์ใด เพราะว่าพระองค์ท่านทอดพระเนตรไปทางพระมหามี ปากแดง ซึ่งท่านสถิต วัดคอกกระบือ ยานนาวา

     ต่อมาพระอาจารย์สุก ก็ทรงค่อยๆเหลือบพระเนตรมอง ด้วยความเมตตา มาทางแถวข้างซ้ายมือ ของพระเจ้าอยู่หัว ตรงหัวแถวเป็นแถวที่ หลวงธรรมรักษา เจ้ากรมสังการีขวา อดีตพระพิมลธรรม สมัยกรุงธนบุรีนั่งอยู่ พระองค์ท่านทรงทราบความเป็นไปของหลวงธรรมรักษาว่า เป็นคนดีมีวาสนา จะอยู่ในเพศบรรพชิตได้

     ครั้งนั้นพระอาจารย์สุก เพื่อจะทรงอนุเคราะห์ หลวงธรรมรักษา ให้เข้ามาสู่เพศบรรพชิต เพราะพระองค์ท่านทราบว่าหลวงธรรมรักษา ได้บรรลุโสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผลแล้ว จึงทรงเอ่ยขึ้นว่า เป็นฆราวาสแต่มีศีลบริสุทธิ์เหมือนพระสงฆ์ พระองค์ท่านตรัสเพียงสั้นๆเท่านั้นฯ



จาก : พระประวัติสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร มหาเถรเจ้า (สุกไก่เถื่อน) หน้าที่ ๒๖๓ - ๒๖๕
เรียบเรียงโดย พระครูสิทธิสังวร วัดราชสิทธารามฯ
http://www.somdechsuk.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 04, 2016, 08:51:25 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
    • ดูรายละเอียด
 :s_hi:
           ปลายิงสุ......

                 ท่านพระปรามาจารย์   ท่านเก่ง ครับ


                      เก่งมากๆ  เชี่ยวชาญในธรรม จริง

                    ขออนุโมทนาสาธุ


             ท่านมหามีปากแดง อดีต ท่านอยู่วัดคอกกระบือ ปัจจุบัน คือวัด ยานนาวา

                   

                 วัดนี้ ครูบาอาจารย์ท่านเคย พาพวกเรา ไปกันมาแล้ว

                 
               ไปสักการะ พระบรม สารีริกธาตุ และ พระธาตุอรหันตสาวก มากเลยครับ

                 เรียกว่าของดีแน่นวัด  ไปขอบารมีแน่นๆ  ได้ที่นี่


                    สะดวกครับ

                                             ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

suchin_tum

  • ไม่กลับมาเกิด
  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 486
    • ดูรายละเอียด
   ขออนุโมทนาสาธุ ค่ะ
บันทึกการเข้า
ขอน้อมอาราธนากำลังแห่งครูอาจารย์กรรมฐานมัชฌิมาจงมาประสิทธิ์ประศาสตร์

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
    • ดูรายละเอียด
Re: ปริศนาธรรม ของ หลวงปู่สุก ไก่เถื่อน : ทางสู่นิพพาน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2016, 05:07:08 pm »
 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

man123

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

nongyao

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 380
    • ดูรายละเอียด
Re: ปริศนาธรรม ของ หลวงปู่สุก ไก่เถื่อน : ทางสู่นิพพาน
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 05:19:31 pm »
กราบสาธุ ค่ะ
บันทึกการเข้า
กราบนอบน้อมพระพุทธเจ้าอันเป็นอดีต อนาคต แลปัจจุบัน ด้วยเศียรเกล้า
                 พุทธัง  ธัมมัง  สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
                       
                         ข้าพเจ้าจักขอทำเหตุที่ดี