ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เรียกครูผู้หญิงว่า "แม่" มาจากระบบเครือญาติดึกดำบรรพ์  (อ่าน 798 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29297
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ภาพวงจรปิดจากกรณีที่ครูโรงเรียนดัง ย่านรามคำแหง ใช้ความรุนแรงกับนักเรียน เพราะไม่ยอมเรียกครูว่า แม่ : ที่มา มติชนออนไลน์


เรียกครูผู้หญิงว่าแม่ มาจากระบบเครือญาติดึกดำบรรพ์ โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ

“ความรู้มีในหมู่บ้าน ปริญญามีในมหาวิทยาลัย”

ตีความได้หลายอย่าง แต่ในที่นี้หมายถึงดั้งเดิมการศึกษาไทยมาจากระบบเครือญาติในชุมชนหมู่บ้าน จึงมีประเพณีเรียกคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน “นับญาติ” (แม้ไม่เป็นญาติ) ว่าพี่ป้าน้าอาพ่อแม่ปู่ย่าตายาย

(1.) ครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งในชุมชนหมู่บ้าน มีความรู้ความชำนาญพิเศษ เช่น ถลุงโลหะ, ตีหม้อ, ทอผ้า, ดีดสีตีเป่าและร้องรำทำเพลง เป็นต้น

(2.) ผู้ต้องการเรียนรู้อย่างใดย่างหนึ่ง ต้องฝากเนื้อฝากตัวเป็นผู้รับใช้ในครอบครัว แล้วเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติในครอบครัวนั้น ซึ่งหมายความว่าต้องกินอยู่และซุกหัวนอนกับครอบครัวนั้น (โดยไม่มีค่าใช้จ่าย)

(3.) ครอบครัวดังกล่าว โดยปกติผัวเป็นผู้สอนวิชา เมียเป็นผู้ดูแลชีวิตประจำวัน  หุงหาอาหารให้กินรวมกัน ผู้ไปขอเรียนวิชาแล้วอาศัยอยู่ด้วยจะทำตนเสมือนลูก จึงเรียกผู้สอนวิชาคือครูว่าพ่อ ส่วนเมียครูเป็นแม่ และเคารพนับถือสืบเนื่องจนกว่าจะตายจากกัน

(4.) การเรียกครูว่าพ่อหรือแม่ยังสืบประเพณีมาจนปัจจุบันในการเรียนการสอนนาฏศิลป์และดนตรีไทย พบในกรมศิลปากรและสถาบันอื่นๆ หลายแห่ง รวมทั้งกลุ่มเอกชนทั่วประเทศ

(5.) การศึกษาสมัยใหม่มีระบบโรงเรียนทั้งอยู่ในวัดและอยู่นอกวัด เรียกผู้สอนทั้งชายและหญิงว่าครู, อาจารย์ ไม่เรียกพ่อ, แม่ (ยกเว้นถูกหล่อหลอมกล่อมเกลาแกมบังคับให้เรียก)

(6.) ครู-อาจารย์ผู้หญิงส่วนหนึ่งยังสืบความคิดตกค้างจากประเพณีเดิม ต้องการให้นักเรียนเรียกตนว่าแม่ (แต่อาจมีเหตุผลอื่น เช่น ไม่มีลูก และอยากมีลูก)

(7.) แม่ ในภาษาไทย มีต้นตอจากคำว่า เม ในภาษาเขมร แปลว่า หัวหน้า, ผู้เป็นใหญ่ เช่น แม่ทัพ, แม่น้ำ, แม่เหล็ก เป็นต่น

[ผู้รู้ทางนิรุกติศาสตร์บางคนมีความเห็นน่าเชื่อว่า เม ภาษาเขมร กลายคำเป็นไทยว่า เมีย ก็ได้ เพราะเมียเป็นใหญ่ในครอบครัวเหมือนแม่]

(9.) ตอนเรียนประถมที่โรงเรียนประชาบาลบ้านนอก (ในดง) ไม่พบประเพณีให้นักเรียนเรียกครูว่าแม่ ผมและเพื่อนๆ จึงไม่เคยเรียกครูว่าแม่

(10.) เมื่อเข้ากรุงเทพฯ เรียนมัธยม (ก่อน พ.ศ. 2500) ในโรงเรียนวัดแห่งหนึ่ง ครูส่วนมากไม่ให้นักเรียนเรียกแม่ แต่ครูบางคนต้องการให้นักเรียนเรียกตนว่าแม่

ตอนนั้นผมเป็นเด็กวัดและมาจากบ้านนอก ไม่กล้าเข้าใกล้ครูที่นักเรียนชาวกรุงแย่งกันเรียกแม่ ผมเลยไม่มีครูเป็นแม่ ไม่เคยเรียกครูว่าแม่ แต่ไม่เคยถูกตบ





ที่มา : มติชนออนไลน์
ผู้เขียน   : สุจิตต์ วงษ์เทศ | วันที่ 29 กันยายน 2566 - 17:00 น.   
website : https://www.matichon.co.th/columnists/news_4206204
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ