ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ผู้มีปัญญา ไม่พึงหมิ่น ผลแห่งทาน และ ศีล  (อ่าน 4504 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
ผู้มีปัญญา ไม่พึงหมิ่น ผลแห่งทาน และ ศีล
« เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2011, 07:57:39 am »
0

เจริญธรรมวันนี้ นำธรรมะมาฝากท่าน เหมือนได้เตือนสติ ผู้ภาวนาธรรมที่ยังมีความประมาท อยู่นั้น

ที่สอบถามกันเข้ามา ว่า ทำไมการภาวนาไม่มีความก้าวหน้า 

   จึงต้องการให้่ท่านทั้งหลาย กับไป พิจารณาพื้นฐาน ว่า    ธรรม 2 อย่างนี้ บกพร่องหรือไม่ ?   

   ส่วนใหญ่ นักภาวนา จะบกพร่อง เพราะมัวแต่ภาวนากรรมฐาน ฝึกเจริญสติ กันอยู่ จึงทำให้ทิ้งธรรมที่สนับสนุน ในการภาวนาของตนลง เพราะเห็นว่า เป็นธรรมที่มีผลน้อย ( เข้าใจผิดนะ )   
 
  ธรรมส่วนที่ สนับสนุนการภาวนา ประการแรก คือ ทาน  การให้ทาน ต้อง ให้ทั้งวัตถุ และ ธรรม โดยสมบูรณ์ ไม่ใช่ให้แต่ด้านใน ด้านหนึ่ง   

  ดังนั้นการให้ทาน มีความจำเป็น สำหรับภาวนา   

  การสมาทานศีล รักษาศีล เป็นคุณธรรมสำคัญมาก เพราะ ศีล เป็น ธรรมหมดจด เป็น รถผลัดที่ 1 ในการภาวนา   

  ศีลที่ควรจะมี ก็คือ ศีล 5 จนสูงสุด ที่ กุศลกรรมบถ 10 ประการ จะเป็น พระ เป็น โยม ก็มีเท่านี้เสมอกัน ด้วยศีลของพระอริยะ ก็มีประการนี้ ถ้าเป็นพระอริยะฝ่ายเจโตวิมุตติ จะสมบูรณ์ ด้วย จรณ 15 ประการ 

  กุศลกรรมบถ เป็นศีล ของ พระอริยะ บัญญัติ โดยพระธรรม   

  ดังนั้นผู้ภาวนา ทุกท่าน ที่ภาวนาไม่ผ่าน หรือยังทำไม่ได้ พึง สั่งสม ทาน ศีล ให้เป็นกำลัง   ทำความเพียร ในทาน ศีล และ ภาวนา สม่ำเสมอ เมื่อนั้นก็จักถึงธรรม ที่ควรได้เอง   

เจริญธรรม


 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 21, 2011, 01:04:10 pm โดย patra »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

นัยนา

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 191
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ผู้มีปัญญา ไม่พึงหมิ่น ผลแห่งทาน และ ศีล
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2011, 10:25:23 am »
0
สาธุ เจ้าคะ
 :25:
บันทึกการเข้า

สมภพ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 485
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ผู้มีปัญญา ไม่พึงหมิ่น ผลแห่งทาน และ ศีล
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2011, 10:26:03 am »
0
เป็นธรรม เตือนสติ ยามเช้า นี้ ที่ดีครับ
 :25:
บันทึกการเข้า

วิชชุดา

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 275
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ผู้มีปัญญา ไม่พึงหมิ่น ผลแห่งทาน และ ศีล
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2011, 10:52:52 am »
0
บุญ กับ ทาน เหมือนกันหรือไม่คะ
 
   :25:
บันทึกการเข้า
ขอให้ทุกท่าน จงเป็นผู้มีความสุข กันทุกคนนะจ๊ะ

sunee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 301
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
จรณะ 15-คือ เครื่องดำเนิน ปฏิปทา คือ ข้อปฏิบัติ อันเป็นทางบรรลุวิชชา มี 15 ประการ

สรุปเป็น ข้อใหญ่ ได้แก่ สีลสัมปทา -ความถึงพร้อมด้วยศีล
                          อปัณณกปฏิปทา 3
                          สัทธรรม 7
                          และฌาน 4 ดังนี้

1.)ศีล สังวร-สำรวมกาย วาจาเรียบร้อย
2.)อินทรียสังวร-สำรวมอินทรีย์ทั้ง 6(ความเป็นใหญ่) คือ ตา-หู-จมูก-ลิ้น-กาย-ใจ
3.)โภชนมัตตัญญุตา-ความเป็นผู้รู้ประมาณในโภชนะ(การกินอยู่)
4.)ชาคริยานุโยค-ประกอบตามซึ่ง ความเพียร ไม่เห็นแก่นอนมากนัก
5.)ศรัทธา-เชื่อต่อสิ่งที่ควรเชื่อ
6.)หิริ-ละอายต่อบาปทุจริต
7.)โอตตัปปะ-สะดุ้งกลัวต่อบาปทุจริต
8.)พาหุสัจจะ-ความเป็นผู้สดับ(ฟัง)มาก
9.)วิริยะ-ความเพียรละบาปเจริญบุญ
10.)สติ-ความระลึกอยู่ในอารมณ์ที่เป็นกุศล
11.)ปัญญา-ที่เห็นความเกิดขึ้น-ตั้งอยู่(เปลี่ยนแปลง)-และดับไป
12.)ปฐมฌาน-ละนิวรณ์ 5 คือ วิตก-วิจาร-ปีติ-สุข-เอกัคคตา
13.)ทุติยฌาน-ละวิตก-วิจาร เหลือปีติ-สุข-เอกัคคตา
14.)ตติยฌาน-ละปีติ เหลือสุข-เอกัคคตา
15.)จตุตถฌาน-ละสุข ประกอบด้วยเอกัคคตาและอุเบกขา

ข้อ ปฏิบัติ 15 ประการนี้ ถ้าเจริญให้เต็มที่แล้ว ก็จะถึงซึ่งวิชชา และวิมุตติ (ความหลุดพ้น).....


ช่วยอ้างอิงคะ

 :25: :25: :25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 21, 2011, 01:22:45 pm โดย sunee »
บันทึกการเข้า

sunee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 301
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
กุศลกรรมบถ ทางแห่งกรรมดี,ทางทำดี, ทางแห่งกรรมที่เป็นกุศล,
กรรมดีอันเป็นทางนำไปสู่สุคติมี ๑๐ อย่างคือ
     ก. กายกรรม ๓ ได้แก่
๑. ปาณาติปาตา เวรมณี เว้นจากทำลายชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง
๒.อทินนาทานา เวรมณี เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้ด้วยอาการแห่งขโมย
๓. กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี เว้นจากประพฤติผิดในกาม
      ข. วจีกรรม๔ ได้แก่
๔. มุสาวาทา เวรมณี เว้นจากพูดเท็จ
๕. ปิสุณายวาจาย เวรมณี เว้นจากพูดส่อเสียด
๖. ผรุสาย วาจายเวรมณี เว้นจาก พูดคำหยาบ
๗. สัมผัปปลาปา เวรมณี เว้นจากพูดเพ้อเจ้อ
      ค. มโนกรรม ๓ ได้แก่
๘. อนภิชฌา ไม่โลภคอยจ้องอยากได้ของเขา
๙. อพยาบาท ไม่คิดร้ายเบียดเบียนพยาบาทปองร้ายเขา
๑๐. สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบตามคลองธรรม


 :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

pinmanee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 163
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ผู้มีปัญญา ไม่พึงหมิ่น ผลแห่งทาน และ ศีล
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2011, 03:05:05 pm »
0
อนุโมทนา สาธุ คะ
 :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า