ว่าจะหาอ่านเรื่องนี้ หลายครั้งแล้ว
วันนี้ ได้อ่านแล้ว ขอบใจ หนูนภา มาก ๆ
อ่านแล้วก็ต้องวิจารณ์ ซะหน่อย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย จักมีสมัยที่มนุษย์เหล่านี้มีบุตรอายุ ๑๐ ปี ในเมื่อมนุษย์มีอายุ
๑๐ ปี เด็กหญิงมีอายุ ๕ ปี จักสมควรมีสามีได้
รู้สึกใจหาย ว่าชีวิตมนุษย์ ในสมัยนั้นมีชีิวิต ที่สั้นเหลือเกิน ( ไม่อยากเิกิดในยุคนี้ )
มี สามีตั้งแต่อายุ 5 ปี ( โอ อนาถจริง ๆ )
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๑๐ ปี เขาจักไม่มีจิตคิดเคารพยำเกรงว่า
นี่แม่ นี่น้า นี่พ่อ นี่อา นี่ป้า นี่ภรรยาของอาจารย์ หรือว่านี่ภรรยา ของท่านที่เคารพทั้งหลาย
สัตว์ โลกจักถึงความสมสู่ปะปนกันหมด
ยิ่งตรงนี้ ยิ่งอนาถ มาก ๆ วัฒนธรรม หายหมดแล้ว ( ยิ่งไม่อยากเกิดในยุคนี้เลย )

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๑๐ ปี จักมีสัตถันตรกัปสิ้น ๗ วัน
มนุษย์ เหล่านั้นจักกลับได้ความสำคัญกันเองว่าเป็นเนื้อ ศัสตราทั้ง หลายอันคมจักปรากฏมีในมือของ
พวกเขา พวกเขาจะฆ่ากันเองด้วยศัสตราอันคม นั้นโดยสำคัญว่า นี้เนื้อ
จักเกิดฆ่ากันอย่างเลือดเย็น 7 วัน ( อธิษฐานไม่เกิดในยุคนี้ หลบไปเป็นเทวดาก่อน )
เพราะเหตุที่
สมาทานกุศลธรรม เขาจักเจริญด้วยอายุบ้าง จักเจริญด้วยวรรณะบ้าง เมื่อเขาเจริญด้วยอายุบ้าง
เจริญด้วยวรรณะบ้าง บุตรของมนุษย์ทั้งหลายที่มีอายุ ๑๐ ปี จักมีอายุเจริญขึ้นถึง ๒๐ ปี
ข้อความนี้สำคัญมาก พระพุทธองค์ ทรงชี้แจง บุคคลที่มีศีลจักมีอายุ 10 ปี เป็น 20 ปี ( แต่จะ้เริ่มที่บุตร )
ผู้มีอายุ ๒๐ ปี จักมีอายุเจริญขึ้นถึง ๔๐ ปี บุตรของคนผู้มีอายุ ๔๐ ปี จักมีอายุเจริญ
ขึ้นถึง ๘๐ ปี บุตรของคนผู้มีอายุ ๘๐ ปี จักมีอายุเจริญขึ้นถึง ๑๖๐ ปี บุตรของคนผู้มีอายุ
๑๖๐ ปี จักมีอายุเจริญขึ้นถึง ๓๒๐ ปี บุตรของคนผู้มีอายุ ๓๒๐ ปี จักมีอายุเจริญขึ้นถึง ๖๔๐ ปี
บุตรของคนผู้มีอายุ ๖๔๐ ปี จักมีอายุเจริญขึ้นถึง ๒,๐๐๐ ปี บุตรของคนผู้มีอายุ ๒,๐๐๐ ปี
จักมีอายุ เจริญขึ้นถึง ๔,๐๐๐ ปี บุตร ของคนผู้มีอายุ ๔,๐๐๐ ปี จักมีอายุเจริญขึ้นถึง ๘,๐๐๐ ปี
บุตรของคนมีอายุ ๘,๐๐๐ ปี จักมีอายุเจริญขึ้นถึง ๒๐,๐๐๐ ปี บุตรของคนผู้มีอายุ ๒๐,๐๐๐ ปี
จักมีอายุเจริญขึ้นถึง ๔๐,๐๐๐ ปี บุตรของคนผู้มีอายุ ๔๐,๐๐๐ ปี จักมีอายุเจริญ ขึ้นถึง ๘๐,๐๐๐ ปี
อ่านตรงนี้แล้ว ยิ่งใจหายมากขึ้น คือ มนุษย์จักพัฒนาการอายุ จนกระทั่งมีอายุยืนถึง 80000 ปี
พระพุทธเจ้า มีพระนามว่า พระศรีอาริยเมตตรัย จึงจักมาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป
เมื่ออ่านแล้วคำนวณ ก็ไม่ใช่ อย่างที่เราเคยเข้าใจว่า
พระพุทธศาสนา สิ้น 5000 ปีแล้ว จึงมีพระพุทธเจ้า
อ่านตรงนี้แล้ว จึงรู้ได้ว่า ต้องรอกันอีกเป็น แสน ๆ ปี กว่ามนุษย์ จักมีอายุ 80000 ปี ทีเดียว
ดังนั้น ผมอ่านแล้ว ก็เลยรีบไปถอนคำอธิษฐาน ขอเป็นพระอรหันต์ ในพระพุทธเจ้า พระองค์ฺีนี้ดีกว่า
ยังมีใจความสำคัญ ที่สำคัญมาก ๆ
ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี ชมพูทวีปนี้ประหนึ่งว่าอเวจีนรก
จักยัด เยียดไป ด้วยผู้คนทั้งหลาย เปรียบเหมือนป่าไม้อ้อ หรือป่าสาลพฤกษ์ฉะนั้น
ประชากร จะมีอยู่จำนวนมากมาย เพราะคนไม่ตายกันง่าย ๆ มีอายุยืน
แต่พิจารณาให้ดี แล้ว คนตาย ก่อนกำหนดจะมีหรือป่าว
เหมือนช่วงเรา กำหนดไว้ที่ 80 - 150 ปี ก็มีคนตายก่อนกำหนดเยอะ ( จะเหมือนกันหรือป่าว ก็ไม่รู้ )

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี จักมีพระเจ้าจักรพรรดิ์ทรงพระนาม
ว่า พระเจ้าสังขะ ทรงอุบัติขึ้น ณ เกตุมดีราชธานี เป็นผู้ทรงธรรม เป็นพระราชาโดยธรรม
เป็นใหญ่ในแผ่นดิน มีมหาสมุทร ๔ เป็นขอบเขต ทรงชนะแล้ว มีราชอาณาจักรมั่นคง
สมบูรณ์ด้วย แก้ว ๗ ประการ คือจักรแก้ว ๑ ช้างแก้ว ๑ ม้าแก้ว ๑ แก้วมณี ๑ นางแก้ว ๑
คฤหบดี แก้ว ๑ ปริณายกแก้วเป็น ที่ ๗ พระราชบุตรของพระองค์มีกว่าพัน ล้วนกล้าหาญ
มี รูปทรงสมเป็นวีรกษัตริย์ สามารถย่ำยีเสนาของข้าศึกได้ พระองค์ทรงชำนะโดย
ธรรม มิต้องใช้อาชญา มิต้อง ใช้ศัสตรา ครอบครองแผ่นดินมีสาครเป็นขอบเขต
อ่านตอนนี้ เกือบทำให้ผมเข้าใจว่า พระศรีอริยะเมตตรัย นั้นเป็นพระเจ้าสังขะ หรือ พระโอรส
แต่ พระศรีอริยะเมตตรัย นั้นในนี้ไม่ปรากฏ ทั้งชาติ ตระกูล
แต่ พระเจ้าสังขะ จักทรงสละราชสมบัติ ออกผนวชในสำนัก ของ พระศรีอริยะเมตตรัย
ดังนั้น เพื่อความเป็นผู้พ้น จากผู้ต่ำต้อย มาเป็นผู้กระจอก คนดี และบุรุณอาชาไนย
ก็ไม่ควรประมาท ในภพภูมิ ชาตินี้ เพราะข้างหน้านั้น ดูเหมือนจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสียแล้ว
เจตนาที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสแสดงพระสูตรนี้ ( สำหรับผมคิดว่า )พระองค์ต้องการให้เห็นว่า
หนทางข้างหน้า ของพุทธภูมิ จักมีความลำบากมาก อีกเป็น แสน ๆ ปี ทีเดียว
ควรที่เราทั้งหลาย ไม่ประมาท แล้วบำเพ็ญ เนกขัมมะบารมี ในชาตินี้ และิสิ้นสุดการเกิดในชาตินี้
อนุโมทนา ด้วยครับกับเรื่องนี้
