ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - PRAMOTE(aaaa)
หน้า: 1 ... 75 76 [77] 78 79 80
3041  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: สุกขวิปัสสก กับ อภิญญา และ วิชชา เกี่ยวข้องกันอย่างไรคะ เมื่อ: ตุลาคม 18, 2012, 10:01:39 pm
กระทบปฐมฌาน  ไม่ได้รูป ไม่ได้นิมิต เข้าสุขวิปัสสก
กระทบปฐมฌาน ได้รูป ได้นิมิต เข้าเจโต ส่วน วิชชาสาม อภิญญาหก ปฏิสัมภิทาสี่ นั้นต่างกันไปตามของเก่า-ของใหม่ ก็คือธาตุธรรม ที่ติดตัวมา
            ใครอยากเข้าเจโต ก็ฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา ก็ได้
             เพราะฝึก มีปัคคหะนิมิต ฐานจิตตั้งแต่ห้องหนึ่ง
3042  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ลักษณะ ของ คนที่ มี ฌาน สังเกตอย่างไร คะ เมื่อ: ตุลาคม 18, 2012, 09:34:48 pm
ท่านแอทแมก สรุปไว้ท่อนบนได้ดี ขอสาธุด้วยคน...
    ภาษาครูอาจารย์ที่สอนมา ท่านบอกว่า อย่าเอากิเลสของเราไปวัดกับของสิ่งอื่น
         วิตก วิจาร ดินไฟ...ยังไม่ดับ สุขทุกข์ก็ยังไม่ดับ  อยาก ไม่อยาก-ชอบไม่ชอบ ก็ยังไม่ไป
             พระพุทธองค์ ตรัสไว้ในพระสูตร ว่าวิตก วิจารคือบาปอกุศล
               ถ้าจะทิ้งตรงนี้ได้ ก็ต้องถึง
       อสักวิตักวิจาร ก็คือถึงสมาธิที่ปราศจาก หรือไม่มีวิตกวิจารแล้ว
           มีอุบายเอาไว้ลองวัดเล่นๆ...
               ถ้าเรายังเห็นว่าคนนั้นไม่ดี ก็คือเรายังไม่ดี หมายถึง โทสะของเรายังฆ่าไม่หมด หรือทุกข์ยังไม่หมด
                   ถ้าเรายังเห็นว่าคนนั้นดี ก็คือเรายังไม่ดี หมายถึง ราคะ ของเรายังฆ่าไม่หมด หรือยังไม่ทิ้งสุข
                  ถ้าเป็นเชิงถอดจิตรเดินจิต ก็เป็นสูงไปตําไป  ต้องหาตรงกลาง เพราะสูงกับตําอาจจะไม่ใช่ความจริง
                    ต้องเข้าไปหาเอาเองตอนถอดจิตเดินจิตในวิปัสสนาโพชฌงค์  หาอะไร....ธรรมสภาวะหรือ
                    ยถาภูตญาณทัศนะ ความจริง สามนัยยะ อนุวิปัสสนาสาม ..อนิจจานุปัสสนา
                                                                                             ..ทุกขานุปัสสนา
                                                                                             อนัตตานุปัสสนา
                      จริงสมมุติ ปรมัตถ์ ความเป็นจริง
                          ก็ว่ากันไปไม่มีผิดไม่มีถูก
                           อนัตตาไม่มีผิดถูกของคู่ไม่มี เพราะเป็นได้หลายนัยอย่างที่ว่า จึงไม่มียืนยันว่าอย่างไหนถูกที่สุด
เพราะเป็นได้ทุกอย่าง ตามความเบาบางของวิตกวิจาร
                                       
3043  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ทำอย่างไร ที่จะไม่ให้ จิต คิด ฟุ้งซ่าน คะ เมื่อ: ตุลาคม 17, 2012, 11:12:24 pm
ลองดึงลมหายใจยาวๆเบาๆ หรือเริ่มจากแรงๆมาก่อนก็ได้ พอดึงแรงๆเหนื่อยแล้วก็เบาลง ตามลมเข้าตามลมออก
       เปลี่ยนมาตามลม อย่าไปตามเรื่อง
         ถ้ามันกลับไปตามเรื่องอีก ก็พาเอามาตามลมอีก
            รู้ตัวว่าทุกข์ก็ทําแบบนี้อีก
        หาวิธีปล่อยลมทิ้ง เช่น นอนท่องกลอน อ่านหนังสือออกเสียง            เดี๋ยวจิตมันเหนื่อยก็หลับ  เพิกสันตะติ แบบชั่วคราวเพื่อหรอกจิต
           สําหรับผู้ที่ไม่ได้ฝึกกรรมฐาน
         
3044  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อยากเรียน ถาม วิธีการตามลมหายใจ เข้า ออก เบื้องต้น คะ เมื่อ: ตุลาคม 17, 2012, 10:59:10 pm
ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ อานาปานสติ เป็นกรรมฐานห้องสี่ ห้องที่สี่คือผู้ที่เห็นปราณใน คือความเห็นลมใน ได้ลมใน
      ลมในก็ไม่ใช่ลมที่จมูกมนุษย์ธรรมดาหายใจเข้าออก
   กรรมฐานที่เราทําแบบนี้เลยจึงยาก เพราะต้องคุมเรื่อง ความฟุ้งซ่าน

       แต่ถ้าฝึกห้องพุทธคุณ 1'2'3 สามห้องมาแล้วก็จะรู้เรื่อง
        ลมอนุโลมปฏิโลม
        ลมเข้าวัด-ออกวัด
         และลมเข้าสะกด
               ถ้ารู้แบบนี้มาจะไม่งง
                      ความฟุ้งซ่านนั้นก็คือรูป และนาม สําหรับผู้ที่ฝึกมาตามลําดับ
     แต่ท่านผู้ถามไม่เคยฝึกแบบลําดับมา ก็จึงไม่รู้ เรื่องรูปนาม ว่าอะไรเป็นรูป อะไรเป็นนาม รู้อย่างเดียวคือ เรารู้สึกฟุ้งซ่าน
    ควรไปเริ่มต้นที่ห้องหนึ่งมาจะดีกว่า ฝึกมาตามขั้นตอน
     น่าจะไม่เกินสามปี คงได้รู้จัก อานาปานสติ สโตริกาญาณสิบหก
      ถึงตอนนั้น คงไปทดสอบกําหนดใหม่ตามญาณ อาจจะไม่งง และไม่ฟุ้งซ่าน
       เพราะผ่าน กายสุข-จิตสุขไปแล้ว
        ของอะไรมันต้องลอง
         เกิดมาทั้งที
          ฝึกอะไรก็อย่าให้เกินเจ็ดปี ในพระสูตรว่าไว้อย่างนั้น

             ถ้าสนใจเริ่มต้น กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ
              เราขอเชื้อเชิญ ไป ที่วัดราชสิทธาราม คณะห้า
              พระอาจารย์กรรมฐานท่านใจดี
               พร้อมจะแนะนําท่านได้ดีกว่าที่เราบอกซะอีก
               ขอให้ท่านโชคดี           
   
3045  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: คนเป็น อัลไซเมอร์ ฝึกกรรมฐาน ได้หรือไม่ คะ เมื่อ: ตุลาคม 17, 2012, 10:31:40 pm
การฝึกกรรมฐาน ก็คือการฝึกวิตก หรือให้มีวิตก วิจารย์ (ก็คือ ทั้งความคิด และความอ่าน)
     ขอยกตัวอย่างเคสหนึ่ง
           อ่านหนังสือเจอ คนที่เป็น อัมพฤกแต่ยังไม่ถึงกับขยับไม่ได้ มีหลวงพ่อองค์หนึ่งมาสอนสมาธิ ฝึกสมาธิ ด้วยการนับก้านไม้ขีดในกล่อง นับเป็น พุทโธหนึ่ง พุทโธสอง........จนกว่าไม้ขีดจะหมดกล่อง วันละหลายๆรอบ
       เมื่อมีความทุกข์ ที่อดคิดถึงอาการป่วยไม่ได้ ก็นับพุทโธกล่องไม้ขีดอีก คิดก็นับพุทโธ ทําแบบนี้ ทุกยามตืน และเวลาที่มีความทุกข์
       จนกระทั้งเริ่มขยับแขนได้ ขยับตัวได้ ขยับขาได้ ลุกนั่งได้ ก็ยิ่งเพิ่มให้มีปีติของผู้ป่วย สุดท้าย เริ่มยืน เดิน จนที่สุด
        ขี่จักรยานได้
           หลวงพ่อท่านถ่ายรูปมาลงหนังสือธรรมมะของท่าน ในเรื่องพุทโธ นับก้านไม้ขีด
        แต่จําไม่ได้ว่าหนังสือหลวงพ่ออะไร
                 
3046  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: ชมภาพ ปฏิบัติธรรม ณ วัดตาขัน บ้านค่าย ระยอง ๑. เมื่อ: ตุลาคม 17, 2012, 10:16:42 pm
ขออนุโมทนาสาธุ
3047  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อยากสอบถามครับว่า นั่งนานๆแล้วปวดขา ปวดหัวเข่า ต้องทำยังไงครับ เมื่อ: ตุลาคม 17, 2012, 10:12:44 pm
อาการเข้าคืบเข้าสับ พระปีติ
   ก็จะเป็นอยู่เป็นช่วง
   ถ้าหากจะให้แชร์...ก็คงต้องบอกว่ากลับไปที่การงานสามอย่าง
   การงานไม่ครบ ปัคคหะนิมิตหาย ก็คือจุดตั้งนิมิตหาย วางจุดใหม่แล้วก็ผนวกลม ดึงลมแรงๆ นําพุทโธกลับบ้าน ไปตั้งที่ฐานจิต แล้วว่าบริกรรมนิมิต(คําบริกรรมนิมิตต่อ)
      ถ้าปวดมากก็ใช้ผนวกดึงลมหายใจ หนึ่งคู่ ตั้งมั่นในฐานจิต แล้วก็กลับเข้าการงานสามอย่าง เช็คให้ครบอยู่ตลอด
      นิมิตจุดห้ามหาย เพราะตรงนั้นเป็นภาชนะ รองรับพุทโธ เป็นหัวใจ
       จุดไม่หายงานไม่หายก็เข้าปีติธรรมได้ไว
        ไม่ควรส่งจิตไปดูตรงที่ปวด ให้ทิ้งกาย ก็จะข้ามรูป พระลักษณะได้ไว ตามที่ตั้งใจ ควรมุ่งอยู่กับการงาน
      อาการต่างจะทุเลาเบาบางไปตาม  อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
     
      ส่วนการกําหนดหนอ นั้นเป็นวิปัสสนา ของบางสํานักการสอน ไมขออธิบายตรงนั้น
       แต่ใน นิมิตสามประการก็มีวิปัสสนาอยู่ที่ การผนวกลมอุเบกขา อยู่แล้ว จึงไมต้องทําวิปัสสนาอื่นให้เป็นเรื่องยากและซําซ้อน
       เพราะถ้าจิตออกไปยุ่งเกี่ยวที่อาการปวด
       การงานก็ไม่ครบ รูปกําลังรวมสมถะยังไม่มั่นคง จะยิ่งทําให้ปวดหนักกว่าเดิม
       เพราะจิตออกงานรวมไม่ได้ เรียกว่าสมาธิไม่รวม
       แต่ถ้าสมาธิรวมตามนิมิตสามประการ คิดว่าสมถะสมาธิต้องข่มความเจ็บปวดนั้นได้ เพราะมีองค์ธรรมพระปีติช่วยให้รู้สึกว่ามีแต่เบาบาง หรือเห็นว่ามี แต่ทนได้ ก็เหมือนมีแต่ไม่เห็น
        จุดสําคัญนิมิตสามประการอย่าขาดก็จะพาให้เราอยู่รอดปลอดภัย
       ไม่นานเท่าไรก็จะหายไปเอง
       แต่  บริกรรมนิมิต
                 ปัคคหะนิมิต
                 อุเบกขานิมิต   
                    อย่าได้ขาด
       
3048  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การบูชา ท้าวเวสสุวรรณ เป็นเรื่องผิด หรือ ไม่ คะ เมื่อ: ตุลาคม 17, 2012, 09:42:38 pm
ท้าวเวสสุวรรณ ท่านเป็นจ้าวแห่งทรัพย์และความตาย
และท่านก็คอยปกป้องผู้สร้างกุศล ในการภาวนา ให้ปลอดภัย ไม่ให้ใครผู้ใดมาแกล้ง หรือทําร้ายเราให้วิปลาส
   .....มีเรื่องหนึ่งที่เคยอ่านในหนังสือการปฏิบัติ
       ว่าพระปฏิบัติรูปหนึ่งชื่อดังแต่ไม่ขอเอ่ยนามท่าน พอท่านได้ตาทิพย์ ท่านก็ตกใจ มองเห็นใครก็ไม่รู้ ร่างใหญ่ๆยืนทมึนอยู่สี่องค์ ร่างใหญ่มาก
     แต่ก็พอดีที่ พระอาจารย์กรรมฐานของท่านก็ ส่งเสียงบอกท่านมาทาง หูทิพย์ว่า
      เราเห็นท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ ยืนเฝ้าท่านอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว ไม่ต้องตกใจ ท่านมาปกปักษ์รักษาค้มครอง ให้แคล้วคลาดปลอดภัย
        ก็มาขอเสริม ท่านธวัชชัย อีกซักหน่อย คงไม่ว่ากัน

     
3049  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทางสายกลาง หมายความว่า ทำให้สมดุลย์ ในดี และ ชั่ว ใช่หรือไม่ครับ เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 10:26:12 pm
อีกข้อคิดหนึ่ง.......ที่ความเป็นอุเบกขาแห่งทางสายกลางในความเป็นจริง
      เคยสงสัยกันบ้างมั๊ย ทําไมพระพุทธองค์ จึงเสด็จดับขันธ์
      ตรงระหว่าง ออกจากฌานสี่กําลังจะขึ้นฌานห้า
         ใครชอบถอดรหัสในภาวนา
              ใครได้ฌานสี่สมาบัติแปดแล้วก็คงมีอุปกรณ์ค้นหา
    ฌานหนึ่งถึงสี่ สมถะรูปกรรมฐาน(รูปกาย)
    ฌานห้าถึงแปด ฌานอุเบกขา วิปัสสนา อรูปกรรมฐาน(นามกาย)
    ส่วนคําตอบไม่มี เพราะครูอาจารย์ ท่านบอกไบ้ให้ข้าพเจ้าฟังเท่านั้น
     ก็สุดแล้วแต่ญาณเห็น ตามบารมีธรรม
       
   
3050  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เนื้อหา และ แก่น การภาวนากรรมฐาน คือ อะไรคะ เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 09:55:02 pm
การปฏิบัติธรรม  มีการอธิฐานขอ...
     เช่น ......ขอสาวกภูมิ  ขอเป็นพระอริยะสงฆ์ เป้าหมายเพื่อออกจากสังสารวัฏ ไม่ต้องการมาเกิดอีก
                  ขอพุทธภูมิ ต้องการบําเพ็ญบารมีสั่งสมบุญอย่างเดียว  แบบนี้ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด เพราะยังเอาสุข แบบนี้ยังไม่ต้องการหมดทุกข์ เพราะสุข-ทุกข์เมื่อดับดับด้วยกัน พระพุทธองค์ตรัสไว้ เลือกแต่สุขไม่เอาทุกข์ก็ไม่ได้ เพราะทุกข์มันต้องเกิด เค้าจึงคู่ไว้ว่า สุขทุกข์
        แก่นของการภาวนา ก็ขึ้นอยู่กับการอธิฐานขอด้วย ว่าเราเลือกแบบไหน
         เช่น...การไม่กลับมาเกิดอีก เป็นต้น
         เมื่อเวลาเรามองดูคนอื่น
          ก็ให้สังเกตุดูว่า เค้ายังต้องการทําอย่างนั้นเพื่อความสุขอยู่
หรือเราทําอย่างนี้เพื่อความสุขอยู่ แปลว่า ทุกข์ที่เป็นของคู่กับสุขก็ยังไม่ไป

       เพราะความเป็นอนัตตาไม่มีของคู่ สุขทุกข์จึงไม่มี
         พระพุทธองค์ ตรัสไว้ว่า ฌานสี่เป็นฌานที่ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข
         แต่ฌานสี่เป็นของพระ อรหันต์เท่านั้น
         ขอเรียง ฌานโลกุตตระ เอาไว้ตามที่ได้ยินมาจากครูบาอาจารย์
          ผู้ที่ได้ฌานหนึ่ง คือพระโสดาบัน
          ผู้ที่ได้ฌานสอง คือพระสกทาคามี
          ผู้ที่ได้ฌานสาม คือพระอนาคามี
           ผู้ที่ได้ฌานสี่คือพระ อรหัง
          สองพระแรก ยังเวียนว่ายสลับ มนุษย์และเทวโลก
          พระที่สาม พระอนาคา แปลว่าผู้ที่ไม่กลับมายังโลกมนุษย์
          พระที่สี่ไม่ต้องพูด ก็คือ พระอรหันต์เหนือโลก
            ก็ว่ากันไปแล้วแต่จะเลือกตั้ง....ปณิธาน
             หรือเลือกอธิฐานในแบบของเรา..ตามจริตของเรา
         
3051  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เข้าใจเรื่องธาตุ ไปเพื่ออะไร ? ธาตุ กับ นามรูป ต่างกันอย่างไร ? เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 09:18:04 pm
ศึกษาธาตุก็เพื่อเข้าถึง จิตล้วนๆ ที่เห็น รูปนาม  เพื่อออกจากรูปนามหรือ ละรูปนาม
   ถามว่า...ควรจะเข้าใจแบบไหนก่อน
      ตาม กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ เรียน ปีติห้า ก็คือธาตุทั้งห้าก่อน  มีดิน ไฟ นํา ลม อากาส เพราะการเรียนธาตุ ทําให้เข้าถึงรูปนาม เห็นรูปนาม และละรูปนาม ไปตามที่ได้อุเบกขามีสิบขั้น ขั้นที่สิบ ปริสุทธุเบกขา
        การปฏิบัติธรรมเป้าหมายก็เพื่อได้อุเบกขานี่แหละมีสิบขั้น เมื่อขึ้นวิปัสสนาโพชฌงค์ก็ลงด้วย อุเบกขาสัมโพชฌงค์(อยู่องค์ที่เจ็ดในโพชฌงค์เจ็ด)
   
          เมื่อมีอุเบกขา ความเห็นในรูป และอารมณ์  ขันธ์ห้า ก็เบาบาง ก็เบาบางไปตามขั้นตอนกรรมฐานนั่นแหละ

         
       
           เริ่มเรียนทีละธาตุ เริ่มตั้งแต่พระขุททกา ธาตุดิน เป็นองค์แรก และเป็นห้องที่หนึ่ง
     ถ้าอยากเข้าใจเรื่องธาตุ
     ก็ควรไปเริ่มเรียน ห้องที่หนึ่ง เริ่มธาตุดิน
      อยากเรียนกรรมฐานนี้ ควรไปขึ้นกรรมฐาน
         
3052  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทางสายกลาง หมายความว่า ทำให้สมดุลย์ ในดี และ ชั่ว ใช่หรือไม่ครับ เมื่อ: ตุลาคม 15, 2012, 11:25:37 pm
ในความเห็นก็เป็นอารมณ์ที่อยู่.....ระหว่าง ....ความเป็นของคู่   เอาใจเราไว้กลางๆระหว่างความยึดถือกับไม่ยึดถือ ชอบไม่ชอบ ใช่ไม่ใช่   ความเป็นอนัตตา ไม่ยืนยัน ครูอาจารย์ว่าไว้  มีของคู่มากมายในไตรโลกธาตุนี้
   กลางๆ ไม่สูง ไม่ตํา
     เอาอย่างตัวอย่างที่ยกมานั่น
     เราขอคงรับฟังได้ แต่เอาใจเราไว้ที่กลางๆ

       ครูอาจารย์เคยเล่าว่าความเป็น อนัตตา ไม่มีในความเป็นของคู่

       ยกตัวอย่างคู่มีเป็นหมื่นเป็นแสนคู่ เช่น...
       ขาว ดํา
       คนดี คนชั่ว
       ครูอาจารย์บอกว่า ความเป็น อนัตตา ไม่มีมิตร และไม่มี ศัตรู
      เพราะถ้ามีมิตร ก็เหลือความรัก เเปลว่า สุขยังไม่ดับ
      เพราะถ้ามีศัตรู ก็เหลือความไม่ชอบใจ ความเกลียด แปลว่าทุกข์ยังไม่ดับ

       แปลว่ายังไม่ใช่อนัตตา

     ก็ลองยกตัวอย่างกันเอาเองก็แล้วกัน ในเรื่องของคู่มากมายทั้งหลายเหล่านั้น.
3053  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / Re: หลวงพ่อผินะ ปิยธโร วัดสนมลาว เมื่อ: ตุลาคม 15, 2012, 11:13:22 pm
ขออนุโมทนาสาธุ
3054  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เรียนถามว่า อากาส กับ ลม ต่างกันอย่างไร ครับ เมื่อ: ตุลาคม 15, 2012, 11:10:50 pm
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทรงเปรียบเทียบ ความเป็นโลก เอาไว้กับของที่มีและเห็นง่าย
โลก ก็คือ ธาตุ ดิน นํา ลม ไฟ อากาส
      พระองค์ทรงยกเปรียบเทียบเอาไว้กับของที่มีอยู่
     ลักณะธาตุต่าง ก็ตรงตาม ที่เรา ได้รู้ ได้เห็น และได้เข้าใจได้ง่าย และตรงตัว ตามลักษณะที่ธาตุนั้นๆ มีอยู่ เป็นอยู่

      ธาตุลม ก็เหมือนลมพัด พัดพา ไม่หยุด ลอยไป หมุนไป อาการของลมก็มีหลายอย่าง แต่ก็คือไม่ได้หยุดนิ่ง
     ธาตุอากาส ก็คือความหยุดนิ่งๆ หยุดนั่นเอง
       ธาตุอากาสนั้นสูงกว่าธาตุลม
       ถ้าตามองค์ธรรม พระปีติห้า

       ก็เป็นขั้นสี่ และ ขั้นห้า
       ขออธิบายไว้เท่านี้ตามที่เคยได้ยินครูบาอาจารย์เล่าให้ฟัง จําได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็เท่านี้
3055  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: สอบถามการนั่งวิปัสนากรรมฐาน (เพิ่งหัดยังไม่มีครูบาอาจารย์) เมื่อ: ตุลาคม 14, 2012, 09:35:51 pm
ควรไป เพราะการฝึกกรรมฐานต้องมีครูบาอาจารย์ ที่เรียกว่าพระอาจารย์กรรมฐาน ของเรา
  ขอแนะนํา ให้ท่านไปที่ วัด ราชสิทธาราม วัดพลับ อยู่ฝั่งธน ไปที่คณะห้า พระอาจารย์ใจดี พบท่านได้ทุกวัน
     กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ วัดราชสิทธาราม www.somdejsuk.org
      www.madchima.org สองเว็บนี้ เผยแผ่กรรมฐานเดียวกัน
         กรรมฐานนี้เป็นกรรมฐานเดิม เกิดตั้งแต่พุทธกาล
     มีพระราหุล พุทธชิโนรส ผู้ไฝ่ในการศึกษา พระอาจารย์ของท่านคือพระสารีบุตร ท่านเป็นผู้เริ่มต้นเผยแผ่กรรมฐานนี้ ไม่ให้สูญไป
       จนมาถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสุกไก่เถื่อน เป็นพระอาจารย์กรรมฐานประจํายุครัตนโกสินทร์

      ถ้าอยากเรียนกรรมฐานนี้ ก็ควรไปเริ่มต้นมาจากที่นั่น เพราะครูบาอาจารย์ที่นั่น จะให้กรรมฐานและแนะนําท่าน  เป็นอย่างดี

      และท่านจะได้ทราบประวัติของกรรมฐานนี้ด้วย ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
 อย่างที่ท่านตั้งปณิธานไว้ในตอนต้น ว่าไม่อยากเห็นทุกข์ ว่าไม่อยากกลับมาเกิด อยากออกจากสังสารวัฏ ไม่กลับมาเกิดอีก ก็นับว่าเป็นความตั้งใจที่ดี นั่นคือจุดหมายเบื้องต้นแห่งความสําเร็จ
     เพราะการเริ่มต้นที่ดีก็ต้องมีศรัทธา ปณิธานคือความตั้งใจ วิริยะ ความขยันขวนขวายฝักไฝ่
      การจะเข้าถึงศิล สมาธิ ปัญญา ก็ต้องสร้างเหตุ การจะหวังเอามรรค-ผลได้ก็ต้องมีที่มา-ที่ไป
   ก็ต้องบ่มอินทรีย์ทั้งห้า คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา
        ขอให้ท่านจงโชคดี
3056  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: จิตใต้สำนึก กับ จิตเดิมแท้ เป็น จิตเดียวกันใช่หรือไม่คะ ? เมื่อ: ตุลาคม 06, 2012, 02:11:57 am
     การฝึกกรรมฐานไปมรรคผล ก็ต้องเข้าให้ถึงจิต เพื่อเข้าไปล้างนิสัยเก่าของมนุษย์ให้หมดสิ้น เพื่อข้าม โคตรภู (โคตรมนุษย์) เพื่อต้องการเป็นพระอริยะ  .......... จิตที่เป็นสันดานเดิม ที่ติดตัวมาแต่เกิด จิตเดิมใต้สํานึก สันดานดิบที่อยู่ก้นบึ้งตั้งแต่กําเนิดและชาติก่อนที่เคยเกิดมาแล้ว กองกระดูกเท่าภูเขา(จิตล้วนๆ)...จิตคือ(การปรุงแต่ง)แทรกอยู่ใน เบญจขันธ์ นาม-รูป
การจะเข้าไปเห็นจิตได้ ต้องพึ่งอะไร.. ต้องพึ่งสมาธิ และรวมสมาธิ ให้มรรคมีองค์แปดสมบูรณ์ จึงจะเข้าไปเห็นจิตได้
       จิต หรือ จิตล้วนๆ คือการเข้าไปรู้ไปเห็น จิตตานุปัสสนา(สโตริกาญาณ ๙-๑๒)
 การที่จะเข้าไปเห็นจิต รู้จิต หรือถึงตาจิต นั้น...เอาอะไรไปเห็น..สติมีส่วน สมาธิก็มีส่วน คือใช้ด้วย เพราะทําให้การรวมมรรคมีองค์แปดครบสมบูรณ์....ด้วยการรวมอํานาจ แห่งอริยมรรคมีองค์แปด (รวมมรรคให้เป็นหนึ่งเดียว)

     ขอขยายกลับไปที่เหตุ
    ศึกษา พระลักษณะ พระรัศมี ก็เพื่อเข้าถึงและเข้าใจนามรูปคือ เบญจขันธ์

       นามรูปทางปริยัติคือขันธ์๕ เบญจขันธ์
       นามรูปทางการภาวนานั้นไม่ใช่
       แต่หมายถึงจิต ที่รู้ ที่เห็น ที่กําหนดได้
       นามรูปปรากฏเพราะมีการกําหนดได้
       นามรูปไม่ปรากฏเพราะกําหนดไม่ได้
       ดังนั้นญาณที่๑ ในวิปัสสนาญาณ คือ นามรูปปริทเฉทญาณ

      นามรูปคือธรรมสภาวะที่ปรากฏชัดเจน
      ด้วยอํานาจอริยมรรคมีองค์แปดที่สมบูรณ์
      เมื่อมรรคมีองค์แปดสมบูรณ์รวมเป็นหนึงเดียว
       จิตล้วนๆๆ ก็ปรากฏด้วยอํานาจแห่งมรรค

       กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ สอน การรวมมรรคมีองค์แปดให้สมบูรณ์ เพื่ออริยมรรค
             เพื่อจะได้เห็นความจริง ทุกสิ่ง ทุกอย่าง......

                     ขยาย และ เรียบเรียง แต่งเติม เสริม ต่อ จากคําตอบของครูอาจารย์  ก็ว่ากันไป
   
       
3057  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: พระอริยะบุคคล เป็นพระสงฆ์ หรือ ไม่ ? เราควรเคารพกราบไหว้เช่นสมมุติสงฆ์ ควรหรือ.. เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 02:19:00 am
ก็เป็นความเห็นที่ดี เพราะเป็นได้ ทั้ง บัญญัติ และ ปรมัตถ์ แล้วแต่โลกความจริง..ก็ขอชมเชยและรับฟัง""ท่าน traveler midnight
3058  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ขอถามเรื่อง การละพยาบาท กับ กรรมฐาน เกี่ยงข้องกันอย่างไร เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 01:52:59 am
นิวรณ์จะละได้ที่สมาธิตรงไหน                                                                                   
    เมื่อฝึกสมาธิจน เป็นวิปัสสนาโพชฌงค์๗ ได้
                ก็เพราะมี องค์ที่๖ สมาธิสัมโพชฌงค์ เห็นกิเลสทั้งสาม เหมือนอยู่ในแหในชะลอม ดักไว้ทั้งหมดที่กลางกระหม่อมจอมเพดานประสาท
                                    และก็มีองค์ที่๗ มีอุเบกขาสัมโพชฌงค์ เป็นองค์ที่โล๊ะกิเลสไปตามความเป็นจริง เพราะเป็นองค์อุเบกขา วางเฉยสละเสียให้สิ้น

 เมื่อได้สมาธิก็ต้องขึ้นวิปัสสนาโพชฌงค์ เมื่อได้โพชฌงค์ก็ต้องลงที่อุเบกขา ยังไงก็ต้องวาง ต้องละ
 
        โพชฌงค์เจ็ดเป็นการรวมมรรคมีองค์แปดที่สมบูรณ์ด้วย
   แล้วขั้นต่อไปก็ว่ากันต่อที่อานาปาน

    หาทางไปนิพพานว่าอยู่ที่ตรงไหน
     
     อ้างจากคําสอนของครูอาจารย์ และวิชาธรรมของหลวงปู่ สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน พระปรามาจารย์ วัดราชสิทธาราม วัดพลับ
3059  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทำไม กรรมฐาน ต้องเริ่ม ปฏิบัติที่การเข้าใจ เบญจขันธ์ ครับ เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 01:21:23 am
จากพระสูตร  เรื่องของความเห็นในเบญจขันธ์(จากหยาบไปสู่ละเอียด)
       ภิกษุพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น
       อนิจจานุปัสนา
       ทุกขานุปัสนา
       อนัตตานุปัสนา
       ตามลําดับ

       ภิกษุย่อมได้อนุโลมขันติด้วยอาการ ๔๐ นี้
         ภิกษุย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยามด้วยอาการ ๔๐ นี้

        ภิกษุผู้ได้อนุโลมขันติด้วยอาการ ๔๐ นี้
        ผู้ย่างลงสู่สัมมัตตนิยามด้วยอาการ ๔๐ นี้มี
             อนิจจานุปัสนาเท่าไร
             ทุกขานุปัสนาเท่าไร
             อนัตตานุปัสนาเท่าไร
       ท่านกล่าวว่า
             มีอนิจจานุปัสนา ๕๐
             มีทุกขานุปัสนา ๑๒๕
              มีอนัตตานุปัสนา ๒๕ ฉะนี้แล
                  จบวิปัสสนากถา
             จากคู่มือกรรมฐานเล่ม๒ อานาปานสติ ปฏิสัมภิทามรรค

        คราวนี้จาก....ปัญญาวรรค วิปัสนากถา บ้าง...เรื่องจากสาวัตถีนิทานบริบูรณ์

           ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นหนอ พิจราณาเห็นนิพพาน โดยความเป็นทุกข์อยู่จักเป็นผู้ประกอบด้วยอนุโลมขันติ ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ผู้ไม่ประกอบด้วยอนุโลมขันติ จักย่างสู่สัมมัตตนิยามข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ เมื่อไม่ย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม จักทําให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล หรือ อรหัตผล ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
          ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นหนอ พิจราณาเห็นนิพพานโดยความเป็นสุขอยู่ จักเป็นผู้ประกอบด้วยอนุโลมขันติ ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้ ผู้ประกอบด้วยอนุโลมขันติ จักย่างลงสู่สัมมัตตนิยามข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้ ผู้ย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม จักทําให้แจ้งซึ่ง โสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล หรืออรหัตผล ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้...
         
        จากคู่มือกรรมฐานเล่ม๒ อานาปานสติ ปฏิสัมภิทามรรค
          เรียบเรีงจากพระสูร คําสอนของพระสารีบุตร ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของพระราหุลพุทธชิโนรส ท่านสอนพระราหุลเป็นรูปแรก
        ซึ่งการสอนนั้นมีระเบียบแบบแผนชัดเจนในเรื่อง อานาปานสติ มาก ซึ่งมีวิธีการที่ถูกต้องในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ
                                               จาก คู่มือกรรมฐาน เล่มสอง อานาปานสติ ปฏิสัมภิทามรรค
                                                         เรียบเรียงโดย พระอาจารย์สนธยา ธัมมะวังโส (อาโลโก)
       
3060  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับหลวงปู่สุก ไก่เถื่อน / Re: "ฉายาและราชทินนาม" ของหลวงปู่สุก ไก่เถื่อน เป็นมาอย่างไร เมื่อ: ตุลาคม 04, 2012, 01:58:30 am
ขออนุโมทนาสาธุ
3061  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เวลาปฏิบัติ กรรมฐาน ต้องนุ่งชุดขาวด้วยหรือไม่คะ เมื่อ: ตุลาคม 04, 2012, 01:57:44 am
ที่ว่า....ถ้าสวมชุดขาว นั่งกรรมฐานได้ดี...ก็ควรทําแบบสวมชุดขาว
            เพราะจิตของเราวางแนบได้สนิท  พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ได้มากเท่าไหร่ คือมีศรัทธา ฝากกายใจไว้กับพระรัตนตรัย เมื่อเริ่มทํากรรมฐาน เราสามารถทบทวนและตรวจสอบดูที่ใจไว้ให้มีอยู่ตลอด ได้มากเท่าไหร่ นั้นคือกําลังศรัทธา คือพุทธานุสสติ
    มีความตั้งใจ มีสัจจะ มีศรัทธา มีปณิธาน เราต้องสร้าง ไว้ที่เหตุ
       ฝากความหวังไว้กับพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า
         พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ก็มาปกป้องคุ้มครองเรา
           ให้ได้พบความสุข
     
     
3062  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทำไม กรรมฐาน ต้องเริ่ม ปฏิบัติที่การเข้าใจ เบญจขันธ์ ครับ เมื่อ: ตุลาคม 04, 2012, 01:41:07 am
   ทําไมต้องเข้าใจเบญจขันธ์......เพราะเบญจขันธ์ คือรูป และ นาม แปลอีกที ก็คือกายและใจเรานี้เอง
        ถ้าฝึกตามแบบ กรรมฐาน มัชฌิมา เรียนปีติห้า ก็จะเห็นความเกิด-ดับ จัดเป็นญาณที่สี่ (อุทยัพ) เห็นวิปัสนาญาณ ความเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป บ้าง
     การฝึกกรรมฐาน ก็เพื่อปล่อย และ คลายความยึดถือ ออกจากขันธ์ทั้งห้า  หรือปีติห้า เรียนปีติห้า ก็เพื่อรู้ และละ ถอยออกจากความยึดถือในเบญจขันธ์ ไม่ยึดมั่นถือมั่น
    เรียนกรรมฐานมัชฌิมา ก็เพื่อรู้ ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ทนอยู่ไม่ได้ และปล่อยขันธ์ห้า
เรียนปีติห้า ก็เพื่อทําลายความยึดมั่นถือมั่น ออกจากขันธ์ห้า เพราะเข้าไปรู้ทันเบญจขันธ์ เมื่อรู้ทันมันก็ไม่ถือเพราะมันหนัก

     พระพุทธองค์ ตรัสไว้ว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา
          เมื่อปฏิบัติเห็นความเกิด-ดับ

         เมื่อธรรมทั้งหลายในภาวนาปรากฏ     ทิฏฐิ ความคิด ความอ่าน การปรุงแต่ง ที่เคยเป็นทุกข์เป็นสุข ที่ใส่ไว้ ในกล่องดํา ทั้งในรูป และอารมณ์ ที่เกิดทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ และขันธ์ห้า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็ถูกล้างออกตามขั้นตอน ตามลําดับ ตามธรรม พระกรรมฐาน
      เพราะการเรียนกรรมฐาน มีครูเราไม่ได้เรียนเองรู้เอง เพราะเรามีครู
        มีพระพุทธเจ้าองค์เดียวที่รู้เองได้
      ฝึกกรรมฐานอย่าให้เกินเจ็ดปี มันเกินที่พระสูตรพระพุทธองค์ระบุไว้
         คงต้องย้อนกลับไปดูที่เหตุ...ว่า...ทําไมเราจึงไม่สําเร็จดั่งที่ตั้งใจ
       การฝึกกรรมฐาน ตั้งใจมากก็ไม่ได้ ไม่ตั้งใจเลยก็ไม่ได้ ต้องเฉลี่ยใจเอาไว้กลางๆ(between) เอาให้อยู่ระหว่าง ตั้งใจ-ไม่ตั้งใจ การฝึกตรวจตรงนี้หน่อยก็ดี เฉลี่ยให้อยู่ตรงระหว่าง
          เรา เชื่อความคิดตัวเองมากไปรึเปล่า
          หรือเอาตามแนวเฉพาะที่ชอบ ที่เราไม่ชอบไม่ใช่ไม่เอา สรุปเอง
          เชื่อเพื่อน ตามเพื่อน ชอบความโด่งดัง ติดฤทธิ์ ชอบฟัง ชอบคุย ชอบเล่า ชอบอวด
          สํานักนั้น สํานักนี้ ชอบเที่ยวไป แต่ไม่มีเป้าหมาย ปณิธาน ว่าเราตั้งตัวเราไว้ยังไง เอาสําเร็จหมดมั๊ย
          ก็ต้องเริ่มต้น การเริ่มต้นก็ไม่ยาก......หยุด (สําเร็จทุกอย่าง)
          แล้วตั้งปณิธานเป้าหมายใหม่
           มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นใหญ่ที่ใจ
           กัลญาณมิตร ครูอาจารย์ ที่จะบอกกรรมฐานเฉพาะตัวของเราโดยตรง
            ถ้ายังไม่มี เราขอเชิญชวนท่าน
             ไปที่ คณะห้า วัดราชสิทธาราม ฝั่งธน
             พระอาจารย์กรรมฐานใจดี มีเมตตาสูง
             ทั้งหมดที่เล่ามาเพราะเรามีครูบาอาจารย์พระกรรมฐาน
3063  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อยากได้แนวกรรมฐาน ที่เหมาะสมกับโยม คะ ช่วยแจกกรรมฐานเบื้องต้นด้วยคะ เมื่อ: ตุลาคม 03, 2012, 02:12:23 am
  ถูกต้อง..พุทโธ..พุทธานุสสติ...พระพุทธเจ้า นําหน้า กายใจไม่หวั่นไหว
เฉกเช่นเราชาวพุทธทุกคนน้อยคนที่ไม่รู้จักพระพุทธเจ้า เมื่อนึกถึงพระพุทธเจ้า พระสูตรมาพรึ่บ เกิดแก่เจ็บตายกฏธรรมชาติก็มาพรึ่บเช่นกัน
ก่อนฝึกกรรมฐาน หรือขณะฝึกมองที่พระพุทธเจ้าบ่อยครั้งกําลังจะมีสูง
3064  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: พระอริยะบุคคล เป็นพระสงฆ์ หรือ ไม่ ? เราควรเคารพกราบไหว้เช่นสมมุติสงฆ์ ควรหรือ.. เมื่อ: ตุลาคม 03, 2012, 01:52:06 am
    พระอริยะบุคคล คือ ฆราวาส ทั้งชายและหญิง ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้ นับตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป เรียกว่าพระอริยะบุคคล หรือโสดาบันบุคคล ส่วนเรื่องการกราบไหว้ เป็นเรื่องตัวบุคคลว่าตามศรัทธา แต่ในพระสูตร บอกไว้ว่า เป็นที่เคารพของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เพราะเทวดามีเจโตทุกองค์จึงรู้ แต่มนุษย์ไม่มีไม่รู้ คงต้องกลับไปอ่านพระสูตรให้มากๆหน่อย จะได้ทราบเรื่องอานิสงค์ เกี่ยวกับพระอริยะทั้งแปดจําพวกที่เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่าบุญนี้..

    ส่วนสมมุติสงฆ์ ที่ปฏิบัติได้ตั้งแต่พระโสดาบัน พระพุทธเจ้าให้เรียกว่า พระสงฆ์

    แต่ปัจุบันที่ใช้อยู่ก็เรียกเพศที่เข้ามาบวชว่าพระสงฆ์กันไปหมดแล้ว ก็มันเป็นไปแล้วเราก็ต้องไปตามโลก
     ส่วนผู้มีหน้าที่ทําสังฆกรรม ควรเป็นกิจของสงฆ์ ภาพจะออกมาดีกว่า สวยกว่า ถ้ามนุษย์เห็น ก็จะได้สืบต่อความเคารพศรัทธาในพระรัตนตรัยให้ยิ่งยืนนาน
   
    ส่วนเรื่องที่ว่าพิสูจน์อย่างไร คงจะพิสูจน์ยาก เพราะผู้เป็นเนื้อนาบุญของโลกทั้งหลายเหล่านั้น ต่างได้ละโลกธรรมแปดไปหมดสิ้นแล้ว ก็คงจะหาตัวหาตนท่านยาก เพราะท่านไม่มีตัวตน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะ....ข้าพเจ้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน คงจะบอกวิธีให้ไม่ได้
      ถ้าท่านเป็นผู้มีความสามารถ ก็คงต้องตามวิธีที่ท่านมีร่วมกับพระอริยะเจ้าพระองค์นั้น.....ลองอธิฐานเอาเอง....เรื่องอย่างนี้มันเป็นเรื่องของวาสนาบารมี

   
3065  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หนทาง ที่เราจะไม่ต้องกลับมาเกิด อีกนั้น ต้องใช้ สมถะ หรือ วิปัสสนา เมื่อ: กันยายน 25, 2012, 10:50:50 pm
ยกตัวอย่าง
   กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ ตั้งแต่ห้องหนึ่ง ก็ใช้ทั้งสมถะและวิปัสนาอยู่แล้ว เรียนทั้งสองส่วน
       แต่เริ่มเรียนที่พระลักษณะก่อน แล้วจึงเรียนพระรัศมี
        คือเรียนทั้งรูปและนาม ทั้งสองส่วน
         การเรียนกรรมฐานก็เพื่อรู้ทันขันธ์ห้า
          เพราะขันธ์ห้าคือรูปและนาม
          เพราะรูปนาม คือสมถะวิปัสนา
          สมถะวิปัสนาอยู่ในตัวเรานี้ อย่าได้ไปมองหาที่อื่น
          ที่กายที่ใจนี้เอง กายใจรูปนาม กายใจสมถะวิปัสสนา

            กายใจคือขันธ์ห้า
         กรรมฐานมัชฌิมาแบบลําดับ เรียนทั้งสองอย่าง แต่เริ่มทีละอย่าง
 ได้เรียนทั้งหมด ได้รู้ทั้งหมด
       ไปตามลําดับ
       การไม่อยากกลับมาเกิด ก็นับว่าตั้งปณิธานไว้ดีแล้ว
        ศิล สมาธิ ศรัทธา ปณิธานมั่นใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คือกําลังพุทธานุสติ
        อธิศิล อธิจิต อธิปัญญา.......อย่างน้อยต้องได้พระอนาคามี จึงจะไม่ต้องมาเกิดที่โลกมนุษย์
        เราก็มีปณิธานเช่นเดียวกับท่าน
         ควรไปขึ้นกรรมฐานว่ากันเป็นการงานดีกว่ามั๊ง
          ชักช้า ครูบาอาจารย์ ว่าจะเสียกาล ยากมันจะนาน เพราะยังไม่ได้ประเดิม เริ่มพระกรรมฐาน
          กรรมฐานแปลว่า การสร้างฐานของกรรมดี
          เชิญที่ คณะห้า วัดราชสิทธาราม พระอาจารย์กรรมฐานใจดี เปิดกุฏิทุกวัน
           จะช้าจะไว หรือจะไปเที่ยวนี้
            ก็ขึ้นอยู่ที่ใจของท่าน
            มรรคผลนิพพานสําเร็จที่ใจ
3066  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: อะไร ที่ทำให้นิสัย คนต่างกันคะ เมื่อ: กันยายน 25, 2012, 10:02:21 pm
จริตธาตุ ทําให้มีนิสัยแตกต่างกัน
     
       
     
3067  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ขอถามเรื่อง การละพยาบาท กับ กรรมฐาน เกี่ยงข้องกันอย่างไร เมื่อ: กันยายน 24, 2012, 11:23:37 pm
กระบวนการๆละกิเลส ล้างกิเลส หรือล้างธาตุเสริมธาตุ ในกรรมฐาน มัชฌิมาแบบลําดับ เริ่มต้นกระบวนการ
    ตอนขึ้นอนุโลมปฏิโลม ธาตุ ได้
    เข้าวัดออกวัด ก็ยิ่งล้างได้มากขึ้น
    เข้าสะกดก็ยิ่งล้างได้มากขึ้น เพราะเริ่มได้เห็นรูปเห็นสีบ้างเห็น ขาวๆดําๆวอบๆแวมๆบ้าง เมื่อ อาโลกสัญญา ดับนานัตสัญญา ก็ตรงตัว ตามพระสูตรไม่ต้องอธิบาย
   ก็คงละเบาบางไปทั้งสามตัว โลภ โกรธ หลง
      ตรงนั้นเป็นช่วงอรูปให้เป็นรูป เป็นช่วงเวทนานุปัสสนา สุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ ก็ต้องขึ้นมาให้ดับทั้งหมด
     ตรงนี้คงใกล้อุปจารอยู่รอมร่อ
   ใกล้ขึ้นขณิกา เฉียดแถวๆจะเป็น ปฐมฌาน เมื่อขึ้น ฌานหนึ่ง ปีติยุคคล ดับหมด
   ได้อุคหนิมิตพระโสดา กิเลสเบาบาง
      ปั่นธรรมจักรปฏิภาคนิมิต อุคหนิมิต แปดทิศ สิบทิศ เจริญพรหมวิหารสู่ทิศ ไม่มีประมาณ
      ขอเล่าตามความรู้สึก และที่เคยได้ยินมาประกอบธรรม
        การจะละกิเลสอะไร ก็ต้องมีเหตุที่เป็นความดีอันเป็นกุศล
        ศิลสมาธิปัญญา คือทางมรรคผล
         กรรมฐานมัชฌิมาเรียน เป็นลําดับ
          กิเลสเบาบางเป็นลําดับ
          บรรลุคุณธรรมเป็นลําดับ ตามเหตุ
           ว่ากันไปถูกบ้างผิดบ้าง ตามที่รู้สึก

       
   
3068  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เรียนถามเรื่อง การกำหนด อาโลกสัญญา คะ เมื่อ: กันยายน 23, 2012, 11:05:56 pm
ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ ตามที่ฟังครูบาอาจารย์เล่าให้ฟัง
   ผู้ที่ผ่านขั้นตอนไปตามลําดับ อาโลกสัญญา ความสว่าง เกิดขึ้นเองจากภายใน ทั้งนี้ ก็ขอรวม ทั้งปฐวีกสิน ก็เกิดขึ้นเองจากภายในไม่ต้องกําหนด หรืออยากให้เป็น
      ความกําหนดความอยากให้เป็น ไม่พ้นสังขตะ คืออยู่ในสังขาร
 ถ้าเทียบตามปฏิจสมุปบาทแล้ว ก็ยังตกอยู่ภายใต้อวิชชา ก็ยังคือยังไม่พ้นโลก
ในกรรมฐานมัชฌิมา ถือนิมิตแท้ที่ไม่ปรุงแต่ง เป็นรูปปรมัตถ์ เป็นนิมิตที่เกิดขึ้นเอง
   มีทั้งอุคหนิมิต และปฏิภาคนิมิต
     ...............การกําหนดแบบที่ถามนั้น เป็นการฝึกแบบ เพ่งกสิน จดจําสมมุติ หรือกําหนดให้เป็น นั่น ไม่ใช่กรรมฐานมัชฌิมาแบบลําดับ
          ส่วนกสินในกรรมฐาน มัชฌิมา เป็นกรรมฐานต่อเนื่อง จาก อานาปานสติ

       จึงไม่ต้องกําหนดอะไร
เพียงใช้นิมิต สามประการเป็นหลักไป เดี๋ยวความเข้าใจก็มีเอง

ความแตกต่างทางด้านอารมณ์ ในความสว่างแบบเกิดขึ้นเอง ทางได้ในกรรมฐานนี้ ด้านอารณ์ นาม ต้องหมดจรดด้วย เน้นความ ปีติ ปราโมทย์ และร่าเริง แคว่วคล่องว่องไว เป็นที่สุด ในเรื่องอารมณ์ด้วย

                                 ส่วนกรรมฐานอื่น การกําหนดให้เป็นแบบเพ่ง ความสว่าง อารมณ์ จะแข็ง หลีกเร้นผู้คน อยู่กับคนยาก แบกกลดหนีคนก็มี
     อารมณ์สองอย่าง หมายถึงตอนที่ได้บรรลุวิปัสสนาญาณแล้ว
      ครูอาจารย์เคยเล่าให้ฟังไว้อย่างนี้
      ถ้าผ่านตรงนั้นแล้วมันแก้ไขไม่ได้อีกแล้ว
       ก็แล้วแต่จริตความชอบของแต่ละท่าน
        จะเลือกอันไหนแบบไหนก็มีได้ตามจริต
        หรือจะเลือก มัชฌิมา ก็ตามลําดับ กรรมฐานมัชฌิมา
        ก็ไม่ต้องคิด ไม่ยาก ตามครูผู้สอน
       ..............หากฝึกแบบกําหนดความสว่าง ก็จดจําความสว่างเป็นอารมณ์ ไม่ยากก็เอาเทียนไขมาตั้งหนึ่งเล่มก็จบ
3069  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: มีเพื่อนที่ฝึก กรรมฐาน แล้ว หูได้ยิน ตาเห็น สิ่งที่ไม่เห็น แล้ว จิตเพี้ยน เมื่อ: กันยายน 23, 2012, 10:11:00 pm
เหตุที่เป็นอย่างนี้เพราะยัง ไม่เคยรู้จักรูปนาม ไม่เคยเรียนรู้รูปนาม ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ เรียนพระลักษณะธาตุปีติห้าก่อน แล้วจึงไปพระรัศมี ศึกษารูปนาม เพื่อทําลาย ความยึดถือ ว่าเป็นเรา เป็นของเรา ทําลายความยึดถือว่าขันเป็นของเที่ยง ก่อนที่ครูบาอาจารย์จะปล่อยขึ้นพระรัศมีเข้าสะกด ท่านก็ต้องสอบแล้วทั้ง ลักษณะ รัศมี
      กรรมฐานมัชฌิมา เมื่อครูปล่อยแล้ว ขึ้นรัศมี เข้าสะกด จึงไม่มีผิด ไม่มีเพี้ยน
    ไม่มีเป็นเรา เป็นของเรา ไม่มีเราเป็นนั่นเป็นนี่
    เพราะคน สัตว์บุคคล ตัวตน เราเขา ไม่มี
   กรรมฐานมัชฌิมาแบบลําดับหากเรียนตามขั้นตอน เป็นได้แค่มรรคผล วิปลาสไม่มี(ถ้าเชื่อครู ตามขั้นตอน ตามลําดับ)
 
     สําหรับท่านนี้ หากเคยรับกรรมฐานจากครูอาจารย์ ก็อาจจะห่างไกลครูอาจารย์ เรียกว่าฝึกเองดีกว่า........
เช่นเดียวกัน ในการสังคายนาพระไตรปิฏก แต่ละครั้ง ต้องการเฉพาะเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติไม่เอา เพราะไม่เห็นอะไร
         การฝึกกรรมฐาน ถ้าครูอาจารย์ตาไม่ดี หรือไม่มีตา จะสอบสภาวะธรรม ลักษณะ รัศมี ได้อย่างไร
   ผู้สําเร็จที่ได้เจโตวิมุติ ขั้นที่สี่ จึงจะเห็นสีจิต(ครูอาจารย์เคยเล่าให้ฟัง)
    จึงจะเห็นสีของผู้อื่นได้ ลูกศิษย์โกหกก็รู้ ลูกศิษย์เป็นอะไรก็รู้ ลูกศิษย์กําลังจะเป็นหรือเป็นแล้ว ท่านก็แก้ไขของท่านได้
        วิธีแก้ ก็คือพาเข้าพบครูบาอาจารย์ ที่รักษา ครูอาจารย์รูปนั้นต้องสําเร็จ หรือได้นวหรคุณด้วย
          จึงจะสามารถดึงธาตุไฟกลับได้ แล้วก็จะไม่เห็น ไม่ได้ยิน อย่างที่เป็นอยู่ แล้วค่อยเริ่มใหม่
           แต่ถ้าหากยังไม่มีครูบาอาจารย์ ก็ให้ไปขึ้นกรรมฐานที่วัดราชสิทธาราม คณะห้า พระอาจารย์ท่านใจดี
         แนะนําได้แค่นี้ เพราะได้ยินได้ฟังมาอย่างนี้ไม่ได้รู้เอง
           ใครจะเชื่อ ก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้ ไม่ได้ยืนยัน เพราะไม่สําคัญอะไร
3070  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: สมถกรรมฐานของ หลวงพ่อสรวง วัดถ้าขวัญเมือง ชุมพร เมื่อ: กันยายน 15, 2012, 01:15:27 am
หว่างตา-วิชชาสาม
กลางอก-อภิญญาหก
ใต้สะดือสองนิ้วมือ-ปฏิสัมภิทัปปัตโต ปฏิสัมภิทาสี่
กรรมฐานมัชฌิมาแบบลําดับ....กรรมฐานพระพุทธเจ้า
3071  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: จริงโดยสมมุติ จริง โดยความเป็นจริง จริงโดยปรมัตถ์ เมื่อ: กันยายน 15, 2012, 01:04:27 am
การนึกคิด คาดเดา ยังมีสังขตะ(การปรุงแต่งสังขาร) ยังไม่พ้นอวิชชา
     รูปกายลักษณะสมบูรณ์ เพราะรวมธาตุสี่ได้ ถ้ารวมลมยังไม่ได้รูปกาย(พระลักษณะก็ยังไม่สมบูรณ์)
    ถ้ารูปกายยังไม่สมบูรณ์ เรื่องนามกาย(รัศมี)ก็ยังไม่เกิด
     มีขั้นสี่ แล้วจึงมีขั้นห้า
      เรียน ขันธ์ห้าต้องรู้ทั้งองค์ห้า เพราะขันธ์ห้าคือรูปนาม เพราะขันธ์ห้าคือสมถะและวิปัสสนา
       เพราะขันธ์ห้าคือรูปกรรมฐานและอรูปกรรมฐาน
         การจะจับขันธ์ห้าเป็นอารมณ์ได้ นั้น ต้องเริ่มมาจากการเรียนปีติห้าก่อน จึงจะได้รู้จักขันธ์ห้า

        การจะบอกว่าจับรูปนามเป็นอารมณ์ จับสมถะวิปัสสนาเป็นอารมณ์ได้
        ถ้าไม่ได้เรียนทั้งห้า หรือทั้งสองส่วนรูปนาม แล้วจะเอาอะไรมากล่าวว่ารู้จักขันธ์ห้า

     เพราะฉะนั้น จะเรียนแค่ขันธ์สอง ขันธ์สาม ขันธ์สี่ ก็ได้ แต่ไม่ใช่ขันธ์นํา เพราะนี่
     กรรมฐานนี้ เรียนมรรค เรียนขันธ์ห้ากัน
      รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
      เรียนในนี้ รู้ในนี้
       เข้าอนุโลม ปฏิโลม ปีติห้า เรียนลักษณะรัศมี เข้าวัดออกวัด
        เห็นปราณใน เข้าสะกด
        อานาปง อานาปา ไม่ต้องพูดเกิดจากที่นี่ .......ที่เรียนจากปีติห้า
          อาโลกกสิน ปฐวีกสิน อุคหนิมิต ปฏิภาคนิมิต ธรรมกายธรรมจักร(รูปวัตถุสิบหก-เป็นสติปัฏฐานสี่มีกาย เวทนา จิต ธรรมอยู่ในตัว)
         อยู่ในขวดเดียวกัน คือกรรมฐานมัชฌิมาแบบลําดับ เรียนเป็นลําดับจากปีติห้า
         การงาน ใช้นิมิตสามประการเป็นหลัก
     เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อย่างไร ก็เห็นในนี้
     ปีติห้าคือเรียนธาตุ ขันธ์ห้าคือธาตุ รูปนามคือธาตุ
  ปีติยุคคลกายสุขจิตสุข เข้าธาตุ ออกธาตุ อุปจาร มรณา พุทธานุสสติ
   ได้อุคหนิมิต เป็นพระโสดาบัน
อยากเรียนกรรมฐานนี้ ขอเชิญไปขึ้นกรรมฐาน กับพระอาจารย์คณะห้า วัดราชสิทธาราม ฝั่งธน
    ในปีห้าเก้า ไปรถไฟฟ้าโผล่หน้าวัดพอดี
   ขอให้โชคดีทุกท่าน จะได้คุยกันรู้เรื่อง


     
       
3072  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: จริงโดยสมมุติ จริง โดยความเป็นจริง จริงโดยปรมัตถ์ เมื่อ: กันยายน 07, 2012, 11:14:22 pm
ครูอาจารย์เคยพูดว่าแม้ทําความเข้าใจ ในภาษาคิดแล้วเราได้อะไร ในเมื่อธรรมสภาวะเรายังไมได้
        ตรงนี้ขอยกไว้ให้สําหรับผู้ภาวนานะ ที่ไม่ได้ภาวนา ยกเว้น ที่ยกเว้นก็คือ ถ้าติดใจถามได้ แต่สําหรับผู้ภาวนา เราอยากให้เข้าให้ถึงธรรมสภาวะของจริง
        สุตตามัยปัญญา  จินตามัยปัญญา ภาวนามัยปัญญา
     ในวิปัสสนาโพชฌงค์ ก็มีสามระดับคล้ายๆกันนะ
      ธรรมสัมปยุต  ธรรมวิจยะ ธรรมสภาวะ ...สามองค์นี้ต่างฐานจิต เน้นความได้
         ได้จากข้างใน  ข้างนอกก็ได้ 
     เรียกว่าถอดจิตได้ ก็ขึ้นวิปัสสนาโพชฌงค์
          แล้วก็เอาเบสิก ในห้องเรียน รูปนาม ปีติยุคคลสุข มาสอนใจ อุปจารฌานคือเบสิก ปฐมฌานเอาจริงตรงนั้นตัวใครตัวมัน ไม่มีครูก็ไม่มีโอกาสรู้หรอกที่เล่ามานี่
         ทําให้ได้กรรมฐานสองส่วน มีสายต่อโยงถึงกัน อานาปาน ทางช้างเผือก ทําลมหายใจเป็นทางช้างเผือก
        รูปนามสมถะวิปัสสนาเห็นชัด แต่ก็ต้องวัดกันที่ ธรรมสภาวะ ความเข้าใจในส่วน ญาณฝ่ายปรมัติ อานาปานลมปราณมีญานสติ ไม่ต้องคิด พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์กรอกหูให้ได้ยิน อย่าคิดว่าเป็นของเราเป็นเรา  สายเจโตตรงนั้นยังจัดเป็นแค่โลกียะ  แม้ได้เจโตแล้วครูอาจารย์บอกว่าเห็นทุกข์เยอะกว่าเดิม
   อาจจะงง สายฤทธิ์คิดว่าสนุก มีธรรมสังเวธเยอะกว่าเดิม แต่ก็บรรลุญาณได้สูงกว่าเดิม
    ที่พูดมาทั้งหมดเป็นโลกียะ แม้กระทั่งตัวผู้นํามาเล่า
    แต่ก็เพื่อส่งเสริมด้านกําลังใจกันไปก่อน สรุปว่า คงไม่ได้ทั้คู่ทั้งผู้พูดและผู้เล่า เพราะยังชอบสนุกก็เลยไม่ทิ้งสุข
       ขอให้ถึงธรรมสภาวะกันสําหรับผู้ตั้งใจ ออกจากสังสารวัฏ
         เก็บตกมาอุดหนุน
     
 
3073  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: จริงโดยสมมุติ จริง โดยความเป็นจริง จริงโดยปรมัตถ์ เมื่อ: กันยายน 06, 2012, 11:23:22 pm
จริงโดยสมมุติ....เป็นการยกเปรีบเทียบ จัดเป็นปริยัติ  การปัจเวกพิจราณาธรรม พิจราณาธาตุ เป็นบัญญัติ หาที่สุดไม่ได้ ไม่จบแต่ได้ธรรมวิจยะ เพราะธรรมวิจยะ ใช้ธาตุไฟมาก ธาตุไฟมีประโยชน์ เพราะเป็นธาตุที่แตกไตรลักษณ์ ในปริบัติปฏิเวธ
จริงโดยความเป็นจริง.....เห็นตามอริยสัจย์สี่ ทุกขสัจน์ สมุทัยสัจน์ นิโรธสัจน์ มรรคสัจน์ สัจน์ในที่นี้ คือสัจจะความจริง
                           ตามธรรมชาติในความเป็นจริง
จริงโดยปรมัตถ์....(ไม่รู้)....เเต่ขอตอบทิ้งไว้แบบบัญญัติก่อน ว่าจริงโดยปรมัติถ์.....คือความเห็นว่า ....ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในกาย กายไม่มีในเรา กายในที่นี้คือ ตา หูจมูกลิ้นกายใจ คือเห็นว่าไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
ไม่ใช่ตัวใช่ตนของเรา
       ความเห็นตามธาตุ เหนือธาตุ เหนือโลก .
       ได้ยินมาแบบนี้.
                   
3074  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อยากได้รายละเอียด ความเข้าใจเรื่องการ ฉลาดในการศึกษา สมาธิ ครับ เมื่อ: สิงหาคม 25, 2012, 02:46:53 am
รู้รูปรู้นาม รู้จักสมถะ รู้จักวิปัสนา ไม่หลงสมถะ ไม่หลงวิปัสสนา หาทางไป
    ไม่ได้มีแค่นี้นะที่พระอาจารย์ออกมาเมื่อวาน
          มีเรื่องเชือกแปดเส้นด้วย  เป็นเกลียวบิดรวมกัน พาพ้นสังสารวัฏ
     ใครมีสมถะวิปัสสนาแล้ว ใครเห็นไตรลักษณ์แล้ว ใครได้กายพุทธะแล้ว ใครพบธรรมจักรแล้ว
      ก็ว่ากันต่อตามที่รู้ด้วยตัวเอง
       กรรมฐานนี้ของจริง ไม่มีเปรียบเทียบ
3075  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เราจะระงับ ปีติ อย่างไรครับ ถ้าปีติ เกิดขึ้นมาก ๆ ในขณะภาวนา เมื่อ: สิงหาคม 25, 2012, 02:34:21 am
ตั้งศรัทธาพุ่งไปที่พระพุทธองค์ให้มาก ทุกอย่างจะดีขึ้น อย่าลืมการงาน และอย่าไปดูกาย
  สูดลมหายใจแรงๆดึงพุทโธกลับบ้านไปตั้งมั่นที่ฐานจิต ตั้งนิมิตทั้งสามใหม่ ถ้าเกิดอีกก็ทําอีก
     เกิดสุขหรือทุกก็ปีติทั้งนั้น
      ตั้งจิตใหม่ทุกครั้ง คร่าวๆ
   
3076  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: การที่มีอาการปีติเกิดขึ้น ตอนนั่งสมาธิหลับตา ปกติควรสังเกตุเวทนาใช่หรือไม่ครับ เมื่อ: สิงหาคม 25, 2012, 02:27:14 am
ไม่ต้องดูกาย เพราะถ้าดูกายยิ่งเห็นเวทนา ให้ทิ้งกายอยู่กับการงาน อย่าให้ขาดนิมิตสามประการ
   ถ้าทิ้งการงาน ไปดูอะไรเราก็คือ หยุด พัก ติด ช้า เสียเวลา แวะศาลา จะช้ากว่าเก่าเหมือนว่าเราไม่ตั้งใจ
    สุขทุกข์เกิดขึ้นหรืออะไรจะเกิด
ก็ให้นึกถึงว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา
       รู้สึกว่ามีความตั้งใจได้ดี
   
   
3077  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ตอนที่เรานั่งสมาธิ แล้วมีอาการปีติ เกิดขึ้นขณะนั้น เราควรกำหนด ธาตุ อย่างไรครับ เมื่อ: สิงหาคม 25, 2012, 02:18:08 am
ฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา เป็นการฝึกตามธาตุอยู่แล้ว จึงไม่ต้องกําหนดธาตุ อะไร เพราะเราฝึกตามธาตุตามขั้น ตามตอน
    และไม่ต้องทําวิปัสสนาแบบสายพระป่า
    เพราะเราต้องเข้าสู่ขั้นห้า
     ตรงนั้นเป็นอุเบกขาของจริง 
      ควรฝึกไปตามขั้นและเข้าสู่วิปัสสนาแบบของจริงดีกว่า
     เปรียบเทียบ เหมือนได้กินข้าวจริงๆอิ่มจริงๆ กับคิดนึกนึกว่าได้กิน อันไหนอิ่มกว่า
     การนึกว่าได้กินก็เหมือนการกําหนดรู้ ปรุงแต่งให้รู้
     กรรมฐานนี้เรียนเอาของจริง
     หากเกิดปีติ ให้ทําความรู้ตัว เพราะเมื่อรู้ตัว อุเบกขาเกิดแล้ว ปีติดับเอง กลับเข้านิมิตสามประการทําให้คล่องแคล่ว วางจุดนึกคิด ผนวกลมหายใจ นําพุทโธกลับสู่ฐานจิต(นําบริกรรมพุทโธ ใส่ ฐานจิตต่อไป)
    ไม่ทิ้งพุทโธ ไม่ทิ้งจุดปัคคาหะ ไม่ทิ้งอุเบกขา(ไม่ทิ้งนิมิตทั้งสามประการ)
    ควรแจ้งอารมณ์กรรมฐาน ตรงนี้แค่เป็นคําแนะนําเท่านั้น
     อย่าลืมพอกพูนศรัทธา พุทธานุสติอาศัยศรัทธาคือกําลังบวก

     
3078  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นั่งกรรมฐาน ใช้เวลาเท่าไหร่ ดีครับ ถึงจะเรียกว่า เก่ง เอาตัวรอดครับ เมื่อ: สิงหาคม 25, 2012, 01:48:26 am
ถ้าเป็น กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ
     ฝึกอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
  หากคล่องแคล่วในนิมิตสามประการ เข้าปีติได้ ถ้าจะเพิ่มป็นหนึ่งชั่วโมงก็ได้
  ควรเรียนตามองค์ปีติไปก่อนยังไม่ต้องเร่ง
  กรรมฐาน มัชฌิมา ทางสายกลาง รักษาผลประโยชน์ไว้ให้ผู้ศึกษา เพื่อความสดชื่น เกษมเป็นที่สุด
  ถ้าผ่านขึ้นถึงยุคคล เราอยากนั่งนานค่อยนั่งนาน
   หากเข้าอุปจาร อย่างหยาบ อย่างกลาง.....อยากนั่งเป็นวันค่อยนั่งเป็นวัน
    ขึ้นอยู่กับความสุขตามองค์ธรรมองค์ธาตุ
    เข้าด้วยความทุกข์ กับความสุข ต่างกัน
   

           พระพุทธองค์ ท่านเคยฝึกแบบทุกกริยา ทรมานทุกอริยาบท ไม่บรรลุ

           จนกระทั่งมีเทพผู้ปกปักรักษาเห็นใจ เอาพิณสามสายมาดีดให้ฟัง
     สายที่ตึงขาด
     สายที่หย่อน เสียงไม่เพราะ
     การปฏิบัติพระพุทธองค์ท่านเลือกสายกลาง
     กรรมฐานมัชฌิมา ไม่สูง ไม่ตํา อยู่กลางๆ
      พระพุทธองค์เสด็จดับขันธ์ ตรงไหน ฌานไหน
       ระหว่างฌานสี่ กําลังจะขึ้นฌานห้า ก็คือไม่ใช่สี่ และก็ไม่ใช่ห้า ไม่หนักไม่เบาตรงนั้นไม่ใช่ทั้งสมถะและวิปัสสนา ไม่ได้ตึงและก็ไม่ได้ปล่อย กลางๆ
             ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวอุบายทิ้งท้ายเอาไว้ ว่ากรรมฐานมัชฌิมาคือเกลียวเชือกแปดเส้นที่บิดปลายรวมกันพาข้ามสังสารวัฏ      ตรงนั้นที่ท่านพูดควรหาให้เจอและเข้าให้ถึงกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ
     ศรัทธาคือแรงกําลัง พาให้สําเร็จ
    ขอให้ได้ทุกคน
3079  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เรัยนถามเรื่อง บุญญฤทธิ์ กับ อิทธิฤทธิ์ ต่างกันอย่างไร คะ เมื่อ: สิงหาคม 25, 2012, 12:59:33 am
เกิดได้อย่างไร......เกิดเพราะเหตุเคยประกอบชอบในส่วนนั้น

   ฤทธิ์ของท่านผู้มีบุญเป็นไฉน
 พระเจ้าจักรพรรดิ เสด็จเหาะไปในอากาศพน้อมด้วยจตุรงคินีเสนา ตลอดจนพวกปกครองม้าเป็นที่สุดนี้เป็นฤทธิ์ของท่านผู้มีบุญ ฤทธิ์ของโชติยคฤหบดี ฤทธิ์ของชฏิลคฤหบดี ฤทธิ์ของเมณฑกคฤหบดี ฤทธิ์ของโฆสิตคฤหบดี ฤทธิ์ของท่านผู้มีบุญมาก ห้าคน เป็นฤทธิ์ของท่านผู้มีบุญนี้ ฤทธิ์ของท่านผู้มีบุญ.
  ฤทธิ์สําเร็จด้วยวิชชาเป็นไหน
 พวกวิชชาธรร่ายวิชชาแล้วย่อมเหาะไปได้ แสงพลช้างบ้างพลม้าบ้ง พลราบบ้าง แสดงกองทัพตั้งประชิดกันต่างๆบ้าง ในอากาศกลางหาวนี้ฤทธิ์สําเร็จด้วยวิชชา.

        ความละกามฉันทะย่อมสําเร็จได้ด้วยเนขัมมะ  เพราะเหตุนั้นจึงชื่อว่าฤทธิ์ด้วยความว่าสําเร็จ เพราะเหตุแห่งความประกอบชอบในส่วนนั้นๆ

        ความละพยาบาทย่อมสําเร็จได้ด้วยความไม่พยาบาท

         ความละถีนมิทธะย่อมสําเร็จได้ด้วยอาโลกสัญญา

         ความละกิเลสทั้งปวงย่อมสําเร็จได้ด้วยอรหัตมรรค

          เพราะเหตุนั้นจึงชื่อว่าฤทธิ์ด้วยความว่าสําเร็จ เพราะเหตุแห่งความประกอบชอบในส่วนนั้น ชื่อว่าฤทธิ์ด้วยความว่าสําเร็จ เพราะเหตุแห่งความประกอบชอบในส่วนนั้น

   นํามาจาก ปัญญาวรรค อิทธิคาถา
      จากหนังสือ คู่มือกรรมฐานเล่มสอง อานาปานสติ ปฏิสัมภิทามรรค

              เรียบเรียงโดย  พระอาจารย์สนธยา ธัมมะวังโส
3080  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ถือว่าเป็นกุศลใหญ่หลวงแล้ว เมื่อ: สิงหาคม 23, 2012, 02:37:47 am
นั่งนานแค่ไหน ก็ต้องตอบว่า นั่งเท่าเดิม
 แต่ฝึกไปจนกว่าจะปราศจาก ปีติยุคล
 ฝึกให้เข้าสุขสมาธิ
 ก็ต้องค่อยคืบไป
หน้า: 1 ... 75 76 [77] 78 79 80