เป็นการกล่าว ที่ผิด .... สำหรับปุถุชน ที่เป็นพระโยคาวจร
ถ้าจะกล่าวว่า เพื่อให้ใจ ไม่วางความหวัง เลย นั้นผิดทั้งหมด เพราะผู้ภาวนาถ้าไม่ตั้งความปรารถนา ในการภาวนา การภาวนานั้นไม่มีผลเพราะไม่มีเป้าหมาย ผิดหลักอริยสัจจะ 4 เหมือนคนที่ทำอะไรลงไป โดยที่ไม่รุ้ตัว การกล่าวอย่างนั้นเรียกว่า การภาวนาที่ขาดสติ
เมื่อภาวนาต้องตั้งความหวังไว้ว่า การภาวนานี้เพื่อการขจัดทุกข์ กำจัดกิเลสเป็นต้น ดังนั้นจิตต้องผ่านลำดับขั้นตอนการภาวนา สติต้องรู้ชัดเจน แจมแจ้ง เป็นการกำหนดอริยสัจจะ
ถ้าไม่ตั้งความหวัง ก็ต้องไปหาเหตุ ถ้าไม่ตั้งความหวัง ก้ไม่ต้องไปหาผล
ธรรมส่วนหนึ่งที่เป็นอุปสรรค ที่บรรดานักภาวนา ฟันฝ่าไปไม่ได้ก็คือ การวางเฉย ( อุทกขมสุขเวทนา )
แต่ถ้าปฏิบัติภาวนา อยู่โดยไม่ต้องตั้งความหวังแล้ว นั่นคือพระอริยะบุคคล ที่ได้ผลแล้ว การทำเยี่ยงนี้เรียกว่า วิหารธรรม วิหารสมาบัติ อายตนะนิพพาน นิโรธสมาบัติ สัญญาเวทยิตนิโรธ เจโตสมาธิอนิมิต เหล่านี้เป็นผล ผู้ที่ได้ผลแล้วไม่ต้องกำหนด
ดังนั้นการวางอารมณ์ เป็นกลาง ไม่ใช่ไม่ต้องการ หรือ ต้องการ เพราะกรรมฐาน นั้น อยากได้ก็คือไม่ได้ ไม่อยากได้ ก็คือไม่ได้ ต้องวางอารมณ์ให้เป็นกลาง เฉพาะ คือ วางเป้าหมายไว้ที่ขั้นตอนการภาวนา
การดำเนินจิตต้องมี ขั้น ตอน ไม่มีขั้น ตอน ก็เพราะบรรลุแล้ว
สมถะ มีฌาน เป็นบาท มีการสยบนิวรณ์เป็นเป้าหมาย
วิปัสสนา มีญาณ เป็นบาท มีสังโยชน์ 10 ประการเป็นเป้าหมาย
เจริญธรรม / เจริญพร