สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => ธรรมะสัญจร => ข้อความที่เริ่มโดย: arlogo ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2013, 09:46:05 am



หัวข้อ: ไปอุทยาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก และ หอนางอุสา 11 ก.พ. 56
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2013, 09:46:05 am

(http://sphotos-e.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/543736_336714696444981_195062662_n.jpg)
จากความตั้งใจที่จะไป ภูท่อก ก็ต้องเปลี่ยน และจะไป เชียงคาน ก็ต้องเปลี่ยนอีก เนื่องด้วยเวลาที่ไปมีไม่พอ กับการเดินทางที่ ต้องใช้เวลามาก สถานที่ เราไปอยู่เป็นอำเภอเล็ก ๆ การคมนาคมไม่สะดวกเลย ถ้าต้องนั่งรถโดยสารกัเป็นทอด ๆ วันนี้ สหธรรม แนะนำ สารถี และ สถานที่ใกล้เคียงที่พักให้ จึงเริ่มออกเดินทาง 10.00 น. กว่า ๆ มุ่งสู้ อุทยานประวัติศาสตร์ รอยพระพุทธบาท บ่อบก

(http://sphotos-a.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/426021_336714769778307_1759154933_n.jpg)
เส้นทางครั้งนี้ไม่มีรถประจำทาง จึงต้องให้ท่านพระมหาวิทยา ติดต่อโยมที่รู้จักกัน ว่าจ้างกันด้วยราคาพิเศษเติมน้ำมัน พอให้ได้ไป กลับ เท่านั้นกับระยะทางไปกลับ 150 กม.


(http://sphotos-h.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc6/188262_336714913111626_1825686371_n.jpg)
สำหรับสารถี ก็เป็นศิษย์วัดหลวงปู่นาค สังเกตที่หน้ารถ จะมีหลวงปู่นาคตั้งอยู่ นะ แต่ วันนี้รถ ไม่มีแอร์ต้องเปิดกระจกรถเดินทาง อากาศพอสบาย ๆ แต่ไปตอนใกล้เที่ยงดูแดดแล้ว เลยขอร่มไปด้วย

(http://sphotos-f.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/535839_336714869778297_244205311_n.jpg)
ลานจอดรถ วัดพระพุทธบาทบ่อบก เงียบสงบ บรรยากาศโดยรวมเมื่อมองออกไป ทำให้นึกถึงผาแต้ม ทันทีเพราะที่นี่มีหินเรียงราย เป็นก้อนๆ สูงต่ำ เป็นเวิ้ง เป็นเพิง เป็นถ้ำ มากมาย ๆ จริง ๆ  เป็นการจัดวางของธรรมชาติที่สวยงามมาก ๆ

(http://sphotos-a.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/61704_336714969778287_154817314_n.jpg)
เดินขึ้นไปประมาณ 150 เมตร ก็จะถึงเจดีย์ ที่ประดิษฐาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก ดั่งที่เห็นในภาพอยู่ภายในเจดีย์ นะ

(http://sphotos-g.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/535920_336715029778281_1160597891_n.jpg)
ภายในเจดีย์ไม่ได้มีพื้นที่มากนัก เพราะดูจากความกว้าง น่าจะประมาณ 2.5 x 2.5 เมตร เท่านั้นดังนั้นจึงเข้าไปจำนวนหลายคนไม่ได้ ในนี้มีภาพเขียนเก่าแก่ให้ชมหนึ่งภาพ

(http://sphotos-b.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/535790_336715213111596_1327036219_n.jpg)
เจดีย์ด้านนอก รักษาสภาพเก่าแก่ไว้ จึงไม่มีการทาสี หรือ ตกแต่งเพียงแต่ทางวัด พยายามรักษาสภาพเดิมไว้ให้มากที่สุด

(http://sphotos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/163365_336715299778254_1766009203_n.jpg)
ด้านหน้า เจดีย์พระพุทธบาท ก็จะมีวิหารใหม่ สีสดใส คือวิหารพระนาคปรก




หัวข้อ: Re: ไปอุทยาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก และ หอนางอุสา 11 ก.พ. 56
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2013, 09:58:25 am

(http://sphotos-a.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/377713_336715699778214_1720023768_n.jpg)
หลังจากกราบ รอยพระพุทธบาทแล้ว ก็ถ่ายรูป เก็บภาพและเดินออกมาทางซ้าย มาชมจุดสำคัญของวัดนั่นก็คือ ถ้าพญานาค ตอนที่เดินอยู่ก็สงสัยว่า ไม่มีสถานที่ ๆ ดูแล้วจะมีถ้ำได้เลยนะ

(http://sphotos-g.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/521774_336715366444914_357356541_n.jpg)
เดินไปสักพักก็จะพบกับเพิงหิน 3 ก้อนที่ปินทับกันอยู่ โยมที่พาไปบอกว่า ถ้ำอยู่ที่ใต้ก้อนหินตอนนั้นก็ยืนมอง และคิดว่า มันน่าจะมีถ้ำได้ โยมจึงบอกว่าต้องเข้าไปดูใกล้ ๆ จะเป็นหลุมลงไปยังถ้ำ

(http://sphotos-b.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/404893_336715543111563_198283332_n.jpg)
พอเข้าไปถึงก็เห็นสภาพถ้ำจริง ๆ แต่ปากถ้ำถูกปิดด้วยตระแกรงเหล็กในภาพ เพื่อกันคนลงไป ถ้ำนี้โยมบอกว่า สามารถเดินไปออกเชิงเขาด้านล่างได้ แต่ต้องคลานบ้างหมอบบ้าง เขาเลยปิดปากทาง เพราะเป็นอันตราย กล่าวว่าเป็นที่ระบายน้ำลงไปด้วย

เรื่องแทรก

http://www.youtube.com/watch?v=i-MUBcq9yeg# (http://www.youtube.com/watch?v=i-MUBcq9yeg#)


(http://sphotos-e.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/72672_336715639778220_760895796_n.jpg)
ก็ถ่ายรูปบริเวณปากถ้ำ ไว้เป็นที่ระลึก และมองออกไปหน้าถ้ำชมวิว ด้านหน้า ตรงนี้ได้นั่งกรรมฐานก็ดี เพราะอากาศเย็น และไม่มียุง มีลมพัดอ่อน ๆ

(http://sphotos-g.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/531479_336715783111539_1779259508_n.jpg)
มองจากหน้าถ้ำตรงจุดที่นั่ง ก็ได้ภาพอย่างนี้ นะนับว่าเป็นจุดที่พักอารมณ์ชมวิว ที่ดีมาก ๆ จุดหนึ่ง

(http://sphotos-b.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/563072_336715979778186_2065737896_n.jpg)
จากหน้าถ้าเดินออกมาก็จะเป็นลานพืนหินอย่างนี้ลาดลงไปถึงที่จอดรถ นะ ไม่ต้องไปมองว่าดินอยู่ตรงไหน เพราะภูลูกนี้ เป็นหินอย่างนี้ ต้นไม้ที่โตได้ต้องชอนรากลงไปในหินในดิน จึงจะอยู่รอด

(http://sphotos-h.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/543506_336717233111394_193418593_n.jpg)
ออกจากรอยพระพุทธบาท มุ่งสุู่อุทยานประวัติศาสตร์ หอนางอุสา ที่จริง ๆ ก็ไม่รู้หรอกว่า หอนางอุสา คืออะไรนึกว่า เป็นเรือนไม้โบราณ ที่อยู่ของนาอุสา ลูกกษัตริย์ ประมาณนั้น ทางขึ้นไปหอนางอุสา ต้องเสียค่าผ่านทางเข้าอุทยานนะ แต่พระไม่ต้องเสียผ่านได้เลย ทางขึ้นไม่ชันมากแต่รถต้องใช้เกียร์ 1 และ 2 เพราะขับรถขึ้นภูนะ


(http://sphotos-g.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/32164_336716316444819_1156433272_n.jpg)
สภาพทางขึ้น ถนนส่วนกันได้ จึงดูไม่มีอันตราย แต่คนขับของเราชำนาญยังต้องเปลี่่ยนเกียร์ไปมา รถอืดเป็นช่วง ๆ



หัวข้อ: Re: ไปอุทยาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก และ หอนางอุสา 11 ก.พ. 56
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2013, 10:07:44 am

(http://sphotos-h.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/71482_336716273111490_1784754607_n.jpg)
ใช้เวลาจาก รอยพระพุทธบาทประมาณ 20 นาที ก็มาถึง ลานจอดรถอุทยานประวัติศาสตร์หอนางอุสา จุดแรกก็มีพิธภัณฑ์ MOdel มีเจ้าหน้าที่คอยบรรยายอยู่ที่นี่ หลายคน ทำให้นึกถึง ภูหินร่องกล้า ที่ พิษณุโลกเลย บรรยากาศการเดินทางไปจุดต่าง ๆ คล้ายกันมาก เป็นหินดิน ป่า ทางเดินแบบเดียวกัน มีจุดที่น่าสนใจ ป้ายบอกเช่นเดียวกัน

(http://sphotos-a.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/563113_336716356444815_815142255_n.jpg)
ถ้าใครอยากเดินเที่ยว ทั้งหมด ต้องมาแต่เช้า เดินหมดก็จะใช้เวลามากอยุ่ นะที่นี่ จุดสำคัญที่เป็นหัวใจของสถานที่ก็คือ หอนางอุสา และ จุดชมวิว ( จุดเสด็จ ) แต่เราไปได้เพียงหอนางอุสา ก็ร่วม ชั่วโมงกว่าแล้ว

(http://sphotos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/521790_336716419778142_471689104_n.jpg)
เจ้าหน้าที่ขอร้องให้เราเข้าไปชม พิพิธภัณฑ์ ก่อน จึงเข้าไปชมแต่ก็ไม่ได้ดูรายละเอียดมากนัก

(http://sphotos-g.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc6/184393_336716519778132_627276190_n.jpg)
model หอนางอุสา ขนาด ศอกกว่า ๆ ที่ทำให้เรารู้ว่า หอนางอุสา มีรูปร่างอย่างนี้ผิดจากที่คิดไว้ในตอนต้นเลย

(http://sphotos-d.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc6/285745_336716693111448_2092112448_n.jpg)
เดินขึ้นมาสักประมาณ 80 เมตร ก็มีจุดขายของที่ระลึกอยู่ตรงนี้ แต่ไม่ได้แวะเข้าไปดู เนื่องด้วยคนขับรถบอกว่าอาจารย์ต้องรีบเดินนะ มิฉะนั้นจะไปไม่ถึงภูก้อน นะจะมืดมาก

(http://sphotos-f.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/71437_336717566444694_1842197619_n.jpg)
เส้นทางเดินสะดวก เพราะมีการดูและประจำวันทุกวัน จะมีเจ้าหน้าที่ รับเหมาเก็บกวาดทำความสะอาดตามเส้นทางทุกวัน

(http://sphotos-f.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/307449_336716949778089_1487961394_n.jpg)
เดินไป ก็จะมีป้ายบอก ไม่ต้องกลัวหลงทาง ถ้าไปตามทางนะ ถ้าลัดป่าไม่แน่ นะ

(http://sphotos-a.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/604134_336717359778048_1855386820_n.jpg)
ตอนเดินขึ้นไป เป็นเวลา 11.20 น. แล้ว ทำให้อากาศร้อนมาก ต้องกางร่มเดินแล้ว



หัวข้อ: Re: ไปอุทยาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก และ หอนางอุสา 11 ก.พ. 56
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2013, 10:31:56 am

(http://sphotos-b.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/551393_336717346444716_1820355702_n.jpg)
ระหว่างที่เดินขึ้นไป คุณโยมท่านนี้ก็มาอาสาเป็นไกด์ ให้กับเรา (อาจารย์ ให้ค่าน้ำ ยี่สิบบาทเอง) น้ำใจโยมที่ช่วยพาไป และบรรยายตามจุดต่าง ๆ นับว่ามีความรู้เพิ่มมากเกี่ยวกับสถานที่

(http://sphotos-g.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/539539_336717919777992_1461801689_n.jpg)
ระหว่างที่เดินไปเรื่อย ๆ โยมก็พูดถึงประวัติศาสตร์ ของพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้องกับหอนางอุสา แห่งนี้เริ่มกันตั้งแต่ยุคสุวรรณภูมิ คราเมื่อพระเถระชุดแรกเข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนา เลย เริ่มตั้งแต่ ศรีทราวดี จาก นครศรีธรรมราช มาจนถึง ยุคนาอุสา ซึ่งมีความเคารพในพระพุทธศาสนา

(http://sphotos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/551342_336717719778012_1386778989_n.jpg)
กล่าวว่า บริเวณแห่งนี้นั้นเป็นวัดที่ผสมกับ เทวาลัยคือ พราหมณ์ ด้วยที่ตั้งบนภูนี้ มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์มีอายุ พันกว่าปี

(http://sphotos-b.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/379321_336718009777983_75429221_n.jpg)
โยมเดินไปก็เล่าประวัติศาสตร์ ต่างๆ ให้ฟัง จำได้เยอะแต่นำมาเขียนให้อ่านไม่ไหว เยอะมาก ดังนั้นเดี๋ยวจะพาพวกท่านที่เป็นศิษย์ไปที่นี่สักวัน ไปฟังกันเองนะจ๊ะ


(http://sphotos-a.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/529551_336718049777979_491408995_n.jpg)
ทางเดินเข้าไป จะมีระยะทางบอกไว้ด้วย แต่อย่าหวังว่าจะมีร่มไม้ ให้เดินนะ ถ้าเดินตามทางก็ต้องใส่หมวก หรือ กางร่ม เอาดังนั้นพวกนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินป่า จึงชอบเดินในป่า และ ก็จะหลงทางเป็นประจำ


(http://sphotos-h.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-frc1/538257_336718016444649_1813493778_n.jpg)
ต้นไม้สูง ๆ ก็มีแต่พึ่งเงาอะไรไม่ได้ เพราะแห้งแกนอย่างนี้ หินทราย ฝนไม่ตกก็ไม่มีน้ำดังนั้น ถ้าคิดจะมาหาน้ำดื่มด้านบนไม่ต้องหวังนะจ๊ะ ต้องนำน้ำขึ้นมาด้วย

(http://sphotos-e.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/307427_336718099777974_1208620939_n.jpg)
มาถึงตรงนี้ ก็ครึ่งทางแล้ว ก็ยังต้องเดินต่อไป และฟังประวัติศาสตร์จากโยมไปด้วย

(http://sphotos-g.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/11304_336718073111310_1216216672_n.jpg)
มาถึงตรงจุดนี้ ไกด์เราก็บอกว่า อาจารย์ถ่ายภาพจากตรงจุดนี้ จะเห็นหอนางอุสาเต็มทาง กล่าวว่าเป็นจุดที่ยืนถ่ายรูปที่ดีที่สุด ที่บรรดาช่างภาพแต่ละท่านมาก็บอกว่าตรงจุดนี้ถ่ายภาพหอนางอุสา ได้มุมดีที่สุด



หัวข้อ: Re: ไปอุทยาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก และ หอนางอุสา 11 ก.พ. 56
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2013, 10:40:14 am

(http://sphotos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/66989_336718126444638_1549759597_n.jpg)
หลุมน้ำฝน ที่ใกล้ ๆ หอนางอุสา เราเห็นแล้วไม่กล้าวักน้ำขึ้นมาใช้เลยเพราะน้ำเขียวดำมาก


(http://sphotos-b.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/521790_336718149777969_1122765718_n.jpg)
และก็เดินถึงหอนางอุสา แล้ว แต่ก็ผิดจากที่คิดว่า เดิมทีคิดว่าเป็นเรือนไทยแบบภาพอิสาณ แต่อันนี้เหมือนป้อมหินซะมากกว่า หอนี้กล่าวว่าทำเป็นที่พักให้กับนางอุสา เป็นห้องอยู่ด้านบน มีบันได้ขึ้นลง พอนอนพักอยู่ได้คนเดียว

(http://sphotos-f.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc6/184276_336718293111288_851480228_n.jpg)
อากาศร้อนมาก ถ้าไม่ได้ร่มช่วยคงตัวดำจริง ๆ แน่ อาจารย์ไปมาเที่ยวนี้มือแขนดำโดนแดดเผาเช่นกัน อากาศอิสาณช่วงนี้ร้อนนะจ๊ะไม่ใช่ฤดูหนาว และร้อนมากด้วย

(http://sphotos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-frc1/21888_336718339777950_1294107447_n.jpg)
หอนางอุสา ถ้าด้านข้างระยะ 50 เมตร


(http://sphotos-e.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/404566_336718376444613_1885235568_n.jpg)
รอบ ๆ หอนี้ก็จะมีเสาหลักอย่างนี้ สันนิษฐานว่าเป็นเสาหลักบอกทิศ และ ใช้ดูเวลาด้วย

(http://sphotos-b.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/538202_336718469777937_986195526_n.jpg)
ไกด์อธิบายเป็นเรื่องของเวลา โดยการดูเงาแดดที่ทอดลงกับเสาเพื่อบอกเวลา เรียกว่าใช้ดุเวลาเมื่อยุคพันปี

(http://sphotos-h.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc6/184217_336718483111269_220604174_n.jpg)
บริเวณใกล้ ๆ ก็ยังมีป้ายหินบอกเขตอีกหลายแห่ง ตามสภาพ

(http://sphotos-f.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/35500_336718489777935_247979271_n.jpg)
เข้าไปดูระยะใกล้ที่สุดตรงทางขึ้น ซึ่งปัจจุบันนำบันไดออกแล้วกันนักท่องเที่ยวปีนขึ้นไปข้าบน


หัวข้อ: Re: ไปอุทยาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก และ หอนางอุสา 11 ก.พ. 56
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2013, 10:49:04 am

(http://sphotos-a.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/521827_336718619777922_1089105604_n.jpg)
จากหอนางแสดงให้เห็นว่า การก่อสร้างในยุคนั้น นิยมใช้ธรรมชาติให้เป็นประโยชน์ คือใช้เพิงหินต่าง ๆ เหมือนถ้ำเป็นที่พัก ไม่นิยมสร้างบ้านเรือนด้วยอิฐหินปูนทราย อย่างในปัจจุบัน แน่ละสมัยนั้น ไม่มีปูนซีเมนต์อย่างปัจจุบัน นี่นะ คนโบราณจึงใช้การขุดหินทราบ หินศิลาแลง มาขึ้นรูป แต่บรรดาช่างก่อสร้างสมัยนั้นก็หาได้ยากด้วย

(http://sphotos-g.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/480876_336718639777920_1665764159_n.jpg)
มองทางด้านตรงกันข้ามนี้ ก็เป็นเพียงหินสองก้อนตั้งซ้อนกันอยู่ เท่านั้นนะ

(http://sphotos-e.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/404436_336718663111251_2086531042_n.jpg)
ที่เก็บศพ ก็จะใช้เพิงนี้ให้เป็นประโยชน์

(http://sphotos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc6/5617_336718716444579_1560582565_n.jpg)
ตรงนี้เป็นศาลาบำเพ็ญกุศลนะ มองแต่ไกลก็คือหินซ้อนกันอยู่เป็นรูป ตัว T เข้าไปแล้วกว้างขวางเย็นดี แถมอยู่มุมหน้าผา วิวดีด้วย


(http://sphotos-d.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/551307_336718739777910_1794644276_n.jpg)
เข้ามายืนตรงนี้แล้วเย็น ยิ่งกว่าหลังคาตราช้างอีกนะ เพราะหลังคาเห็นหินหนา เป็นเมตร นี่ ต้องเย็นสิ แต่กันฝนดีหรือไม่ยังไม่ทราบ

(http://sphotos-f.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/487870_336718809777903_770663244_n.jpg)
ในนี้มีร่องรอยภาพวาด แบบผาแต้ม สลักและเขียนภาพสีแดง ลงไปตามผนัง มีร่อยรอยการจัดตั้งบูชาพระพุทธรูป สันนิษฐานว่า ตรงนี้เป็นวัดที่นางอุสา อุปถัมภ์ เพราะมีลานอุโบสถ วิหารอยู่ตรงนี้จำนวนมาก

(http://sphotos-g.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/58877_336718923111225_1017331179_n.jpg)
ตรงนี้มีพระพุทธรูป สลักหินตั้งอยู่แต่ปัจจุบันหายไปแล้ว ด้วยนักล่าสมบัติ

(http://sphotos-a.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/64826_336718933111224_613186415_n.jpg)
ร่องรอยประวัติศาสตร์ที่ ต้องให้ไกด์พาชม และต้องสังเกต ถ้าไม่มีไกด์มาด้วยเราจะมอง ผ่าน ๆ แบบไม่รู้อะไรเลย



หัวข้อ: Re: ไปอุทยาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก และ หอนางอุสา 11 ก.พ. 56
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2013, 11:01:35 am

(http://sphotos-e.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/69674_336718983111219_2035473437_n.jpg)
ทัศนียภาพ ที่ต้องเดินหา มุมต่าง ๆ เก็บภาพมาให้ท่านได้ชมกัน

(http://sphotos-b.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/536881_336719039777880_637473140_n.jpg)
ร่อยรอยประวัติศาสตร์ กับสิ่งที่หลืออยู่ เป็นเครื่องยืนยันว่า มีพระพุทธศาสนาตั้งอยู่ตรงนี้อย่างน้อยก็ พันกว่าปี ถ้าเที่ยบกับไปที่ วัดหลวงปู่นาค หลวงปู่นาคสร้างจากทองสัมฤทธิ์ มีอายุ 1250 ปี ตามที่สันนิษฐานจาก กรมศิลป์ ประมาณนั้น น่าจะไล่เลี่ยกับยุคนางอุสา ด้วย แสดงให้เห็นว่าพระพุทธศาสนามาถึงตรงจุดนี้เป็นพันกว่าปีแล้ว

(http://sphotos-d.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/64557_336719056444545_120685057_n.jpg)
เดินชมศาลาหินต่าง ๆ ที่มีหลายหลัง อยู่ใกล้เคียงกัน ธรรมชาติบรรจง หรือ มีคนไปยกไปสร้างไว้ บางอย่างเราคิดว่ากำลังเรายกไม่ได้ จึงคิดว่าธรรมชาติสร้าง แต่พระอาจารย์เท่าที่มองดูนั้นหินเหล่านี้ เป็นการจัดยกขั้นมาวางตั้งเองเสียมากกว่า เพราะดูแล้วมันขัดหลักธรรมชาติ ที่นี้การจัดวางตั้งสมัยนั้นทำอย่างไร คนที่คิดว่าต้องใช้แรงคนม้า วัว ควาย อะไร ต่าง ๆ ก็ลืมไปกันว่า พระสงฆ์สมัยนั้น มีอิทธิฤทธิ์กันพอตัว เช่นพระอุปคุต สามเณรลึกลับ ที่มีประวัติในยุคนั้น ล้วนแล้วก็มีฤทธิ์แตกต่างกันไป อาจารย์เข้าว่า พระท่านใช้ฤทธิ์ยกวางตั้งไว้อย่างนี้ จึงมีสภาพศาลาธรรม ติดกันเป็นหลัง คล้าย ๆ กับมากอย่างนี้จำนวนหลายหลัง

(http://sphotos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/526364_336719176444533_1750811378_n.jpg)
พิจารณาให้ดี ว่าศาลาต่าง จะเป็นรูป หินตั้งแบบตัว T หลายหลัง ก็จะเป็นลักณณะนี้

(http://sphotos-e.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/382186_336719153111202_875387154_n.jpg)
แต่จะจริง จะเท็จอย่างไร เราก็ได้รู้ว่า ตรงจุดนี้เคยเป็นวัด และ เป็นชุมชนด้วยและคนที่นี่นับถือพระพุทธศาสนา ทั้งหมด ดูจากรูปปั้นแกะสลัก เป็นพระพุทธรูปปางต่าง ๆ

(http://sphotos-h.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/64495_336719203111197_1514033858_n.jpg)
อาสน์สงฆ์ สำหรับทำบุญ

(http://sphotos-b.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/481087_336719329777851_1282095440_n.jpg)
นั้งพักสบายตรงจุดนี้ กับด้านบนโปร่ง รับแดด


(http://sphotos-d.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/13155_336719356444515_1968302819_n.jpg)
ขอบคุณท่านนิพนธ์ ที่ถ่ายภาพให้ตรงจุดนี้



หัวข้อ: Re: ไปอุทยาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก และ หอนางอุสา 11 ก.พ. 56
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2013, 11:12:45 am

(http://sphotos-g.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/11192_336719429777841_1466317291_n.jpg)
จากตรงจุดที่นั่งมองออกไป ก็จะเห็นโบสถ์กลางแจ้ง ซึ่งมีหลักเสมาปักไว้บอกเขต แปดหลัก ตามทิศทั้ง 8

(http://sphotos-a.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/45840_336719436444507_949092801_n.jpg)
บริเวณนี้มีต้นจำปา อยู่จำนวนมาก สันนิษฐานว่าปลูกกันไว้ในเขตวัด ต้นจำปา นิยมในประเทศลาว บ้านเราเรียวกว่า ลั่นทม แต่ต่อมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เปลี่ยนชื่อให้ใหม่ว่า ลีลาวดี กลิ่นของดอกจำปานั้นเป็นกลิ่นที่พิเศษ มีความหอมแบบ ยะเยือก นะ ดังนั้นจะเห็นว่าบ้านเรานิยมปลูกในวัดกันมาก่อน ส่วนมากเขตป่าช้า จะมีอยู่เนื่องด้วยต้นจำปา สามารถปลูกได้บนดินหินทราย เพราะไม่ต้องใช้ดินมากดังนั้น ตามไหล่หิน ที่มีดินน้อยก็จะเห็นประปราย

(http://sphotos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/529372_336719476444503_1783013669_n.jpg)
ตรงนี้เรียกว่า วิหารใหญ่ มีบรรณิวหาร แต่ปัจจุบันหินหักกลางพักลงมา ใครจะดูตรงนี้ต้องมุดถ่ายภาพกันหลายจุด ก็ได้ไกด์ชี้นำให้ถ่ายภาพตามจุดต่าง ๆ

(http://sphotos-e.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/479841_336719549777829_317529152_n.jpg)
มุดเข้าไปในช่องแรก ถ่ายพระพุทธรูปแกะสลัก จุดที่หนึ่ง

(http://sphotos-f.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/528705_336719569777827_1427044712_n.jpg)
จุดนี้ก็ต้องมุดส่วนปลายหน้าบรรณ หินเบียดกันสองก้อนพอมุดเข้าไปถ่ายรูปได้ ใช้กล้องยื่นเข้าไปนะ คนเข้าไม่ได้

(http://sphotos-d.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/19719_336719673111150_1127482045_n.jpg)
ดังนั้นส่วนนี้จึงไม่ได้สูญหาย เพราะผ่านเข้าไปไม่ได้ต้องสกัดหันกันหนามาก จึงยังไม่ถูกโจรกรรม

(http://sphotos-e.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/307409_336719756444475_24597074_n.jpg)
ดูให้ดีนะ มีรูปแกะสลักอยู่ ไม่ใช่สมาธิ ดุเผิน ๆ ไม่เห็นหรอก ใครเห็นแล้วแสดงว่ามีบุญ ได้เห็น สมาธิดี ภาพนี้ขอสงวนไว้ไม่เฉลย


(http://sphotos-g.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/29020_336720183111099_2025118994_n.jpg)
ดังนั้นที่วิหารที่พังมานี้ จึงมีรูปแกะสลัก ให้เราไว้ได้ศึกษาเป็นจำนวนมาก อย่างรูปนี้ก็เป็นรูป สลักสมเด็จนางพญา ที่มีอิทธิพลทางภาคกลางนะ สมเด็จนางพญา ที่โด่งดังสระบุรี ก็คือ สมเด็จนางพญาวัดดาวเสด็จ





หัวข้อ: Re: ไปอุทยาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก และ หอนางอุสา 11 ก.พ. 56
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2013, 11:23:17 am

(http://sphotos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/603902_336720106444440_33835863_n.jpg)
ส่วนนี้ต้นแบบไม่มีเศียรทางกรมศิลป์ และอุทยาน ได้มาทำเศียรเสริมให้เห็นรูปเดิม ตั้งแต่คอขึ้นมา เพราะถูกโจรกรรมไป ตั้งแต่ส่วนคอ


(http://sphotos-a.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/61694_336720166444434_720552554_n.jpg)
อันนี้เป็นหน้าบรรณส่วนสุด ซึ่งสันนิษฐานบันทึกเรื่องราวการเข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนา คราตติยสังคายนาครั้งที่ 3 มีกลุ่มพระโสณะ พระอุตระ 5 รูป และ อนุเถระ 30 รูป ครานั้นที่พระพุทธศาสนาได้เผยแผ่ออกไปที่ต่าง ๆ ทั่วโลก
แนะนำอ่านลิงก์นี้ เกี่ยวกับสายการเผยแผ่
สมณทูต 9 สาย สมัยพระเจ้าอโศก ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่าอย่างไร
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5977.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5977.0)



(http://sphotos-d.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/69662_336720203111097_1884738322_n.jpg)
ศิลปะยังมีความสมบูรณ์ แต่ก็อยู่ในสภาพที่เสื่อมไปมากเหมือนกันตามอายุ

(http://sphotos-h.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/539725_336720289777755_2078099931_n.jpg)
ยังพอปินป่าย ขึ้นไปชมได้ ดังนั้นหากใครต้องการศึกษา ศิลปะส่วนนี้ คงต้องอยู่กันหลายวัน เพราะมีภาพ หุ่นรอยแกะสลักให้เห็นอีกจำนวนมากที่เรายังถ่ายภาพมาไม่ได้ เพราะยังต้องลงไปดูอีกตามห้องต่าง ๆ

(http://sphotos-g.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/562971_336720333111084_1796514342_n.jpg)
ส่วนทียังเหลืออยู่เป็นส่วนที่เข้าถึงได้ยาก เพราะต้องมุด ต้องปีน วัตถุโบราณเหล่านี้ จึงยังคงอยู่ให้เราได้เห็นจนปัจจุบัน

(http://sphotos-a.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/64499_336720356444415_264529008_n.jpg)
ตรงนี้เป็นโบสถ์ นะครับ พระอาจารย์ มีหลักเสมา 8 ต้น ( หลักนิมิต ) สำหรับกำหนดเขตสงฆ์ ทำสังฆกรรม สมัยก่อนตรงนี้จัดว่าเป็นที่เรียบ ถ้ามุงบังด้วยผ้า หรือใบไม้ หรือว่า ใช้ในตอนกลางคืน น่าจะเย็นและอบอุ่น

(http://sphotos-b.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/539333_336720583111059_1035881766_n.jpg)
ศาลายุติธรรม ที่ตัดสินคดีความ

(http://sphotos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/543578_336720656444385_476641721_n.jpg)
สังเกตว่ามีใบหินรอบศาลา นี้ 8 ต้นเช่นเดียวกัน ของเดิมทีขึ้นมานั้น ล้มทั้ง 7 ต้น ได้ตั้งใหม่ มีเพียงต้นเดียวที่ไม่ล้มและไม่ชำรุด



หัวข้อ: Re: ไปอุทยาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก และ หอนางอุสา 11 ก.พ. 56
เริ่มหัวข้อโดย: แพนด้า ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2013, 01:21:56 pm
อนูโมทนา กับพระอาจารย์ ที่นำเรื่องราวการเดินทาง มาถ่ายทอดครับ มีหลาย ๆ ภาพที่น่าสนใจมากครับ ถ้าถามว่าผมจะมีโอกาสไปเยือนอย่างนี้หรือไม่ ก็ตอบตามตรงว่า ด้วยงาน หน้าที่ ภาระ ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะได้ไปครับ วันนี้จึงขอตาม เส้นทางจาริก จากครูอาจารย์ ด้วยความเคารพ

  เท่าที่อ่านดูมาตั้งแต่วันแรก นี่ผมว่า พระอาจารย์ต้องมีค่าใช้จ่าย หลายพันบาท นะครับ ดังนั้นพวกเราที่มีโอกาสได้ชมภาพนี้ ต้องขอบคุณพระอาจารย์ที่นำภาพมาฝาก โดยเฉพาะผู้ที่มอบกล้องให้พระอาจารย์ เพราะเท่าที่ผมติดตามมาสองปี จึงทราบว่าพระอาจารย์ไปหลาย ๆ ที่แต่ไม่ได้ถ่ายภาพ เนื่องด้วยไม่มีกล้อง


   st11 thk56


หัวข้อ: Re: ไปอุทยาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก และ หอนางอุสา 11 ก.พ. 56
เริ่มหัวข้อโดย: MICRONE ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2013, 04:25:15 pm
 st11
น่าจะยังไม่จบ ใช่หรือไม่คะ เห็นภาพใน Facebook มีอีกมากเลย แต่ชอบอ่านประกอบภาพด้วยคะ

 thk56


หัวข้อ: Re: ไปอุทยาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก และ หอนางอุสา 11 ก.พ. 56
เริ่มหัวข้อโดย: Roj khonkaen ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2013, 09:03:34 am
อนุโมทนากับพระอาจารย์ นะคะ ขอตอบภาพแกะสลักค่ะอยากดูว่าลูกศิษย์คนนี้จะมีสมาธิมีบุญหรือไม่  ภาพนี้เป็นรูปใบหน้า เห็นรูปดวงตาแวววาวชัดเจนค่ะ


หัวข้อ: Re: ไปอุทยาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก และ หอนางอุสา 11 ก.พ. 56
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2013, 10:14:37 am
อนูโมทนา กับพระอาจารย์ ที่นำเรื่องราวการเดินทาง มาถ่ายทอดครับ มีหลาย ๆ ภาพที่น่าสนใจมากครับ ถ้าถามว่าผมจะมีโอกาสไปเยือนอย่างนี้หรือไม่ ก็ตอบตามตรงว่า ด้วยงาน หน้าที่ ภาระ ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะได้ไปครับ วันนี้จึงขอตาม เส้นทางจาริก จากครูอาจารย์ ด้วยความเคารพ

  เท่าที่อ่านดูมาตั้งแต่วันแรก นี่ผมว่า พระอาจารย์ต้องมีค่าใช้จ่าย หลายพันบาท นะครับ ดังนั้นพวกเราที่มีโอกาสได้ชมภาพนี้ ต้องขอบคุณพระอาจารย์ที่นำภาพมาฝาก โดยเฉพาะผู้ที่มอบกล้องให้พระอาจารย์ เพราะเท่าที่ผมติดตามมาสองปี จึงทราบว่าพระอาจารย์ไปหลาย ๆ ที่แต่ไม่ได้ถ่ายภาพ เนื่องด้วยไม่มีกล้อง


   st11 thk56

  st12  ที่ท่านหลายยังได้เห็นสาระ ในภาพที่นำมาฝากกัน

  ส่วนค่ารถ ค่าเดินทาง สองรูป 8000 กว่าบาท นะงานนี้ ดังนั้นภาพที่ถ่ายมา จึงมีราคามาก อย่าคิดว่าเป็นภาพฟรี ทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย ส่วนค่าใช้จ่าย 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นค่าพาหนนะ

   (http://sphotos-a.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/560310_339330669516717_1360117273_n.jpg)(http://sphotos-f.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/66664_339330676183383_170038681_n.jpg)
(http://sphotos-b.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/539307_339330722850045_2076798331_n.jpg)

   ในรูป ก็เป็นค่าตั๋ว พื้นฐาน ที่ตั่วหายก็ยังมีอีก หลายใบ ค่าสามล้อ รอบนี้หลายบาท ค่าน้ำมัน เหมาจ่ายอีก และยังทำบุญใน สถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งชำระหนี้สงฆ์ บริจาค ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า สถานที่ไปพัก ถ้าว่าไปแล้ว บริจาคเท่ากับนอนโรงแรมห้องดี ๆ ได้สบาย เลย แต่เป็นพระต้องนอนวัด นอนศาลา ไปนอนแบบชาวบ้านไม่ได้ เรื่องก็เรื่องยุ่ง ไหนจะเรื่องการฉันอาหารอีก ก็นับว่ายุ่งพอสมควร ทุกวันก็ฉันมื้อเดียว หลายวัดที่ไปนอนไม่มีอาหารให้ฉัน ต้องซื้อฉันเอง นะอย่าเข้าใจว่าไปนอนวัดแล้วมีอาหารฉัน ที่ไปได้ฉันเป็นทางการมีเพียงวัดเดียวคือ วัดโพธิ์ชัยศรี นอกนั้นต้องซื้อฉันหมด ทุกวัดเลย รวมถึงน้ำดื่ม น้ำปานะ ด้วย แต่ได้เปรียบตรงที่ว่า สายปฏิบัติฉันมื้อเดียวฉันง่าย ๆ ไม่เรื่องมาก ข้าวราดแกงจาน ก็ได้แล้ว


    พระไม่ได้ขึ้นรถฟรี นะจ๊ะ เก็บตังค์ทุกคน ไม่่ว่าจะเป็นทัวร์ สามล้อ รถเมล เสียค่าเดินทางทั้งหมดนะจ๊ะ


หัวข้อ: ขอคุยเกี่ยวกับเรื่อง การฉันภัตร ระหว่างเดินทาง สักนิด ให้เป็นประโยชน์ กับศิษย์
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2013, 10:41:05 am
พูดถึงเรื่องการฉันเสียหน่อย ตอนที่เิดินทางจากสระบุรี ไปรอรถ ที่ โคราช ศูนย์นอกนั้น ร้านอาหารเป็นร้าน ไม่มีการเสิรฟ์ ผู้ซื้อต้องแลกคูปอง หรือ จ่ายเงินสด ตรงจุดขาย และก็เดินถืออาหารไปนั่งตามโต๊ะ สำหรับฆราวาสมองเห็นเรื่องอย่างนี้เป็นเรื่อง ธรรมดา แต่สำหรับพระแล้ว กลายเป็นเรื่องยุ่ง ขึ้นมาทันที เพราะวินัยสงฆ์ ห้ามทำอย่างนั้น คือไปเดินจับจ่าย ถือถาดอาหาร ผิดสมณสารูป เสขิยวัตร ปรับอาบัติเล็กน้อย แต่จัดว่าเป็นเรื่องของมารยาท

   ในวันนั้น เราสองรูป ก็ซื้ออาหารข้าวราดแกงองค์ละจาน ๆ ละ 35 บาท แต่เราไม่ได้เดินไปรับอาหาร เข้าใจว่าโยมจะมาส่งแบบร้านทั่วไป แต่นั่งรออยู่นาน ก็ไม่ได้มาส่งจึงวานให้โยมที่อยู่ข้าง ๆไปช่วยถามและนำมาให้ สรุปต้องใช้โยมไปนำมา

    แต่ก็มีพระอีกรูปหนึ่ง นัยว่าเหมือนพระบวชใหม่ ท่านไปเดินรับนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ และเราก็ได้ยินเสียงคนขายพูดมาลอย ๆ ว่า พระตรงนู้น (ที่อ่านหนังสือพิมพ์ อยู่ )ไม่เรื่องมาก เดินมารับอาหารเองยกเอง ทำเอง แต่พระ 2 องค์นู้นเรื่องมาก ต้องให้คนมายกให้

     ตรงนี้อยากจะสรุปให้ท่านทั้งหลายที่วิจารณ์พระ แต่อยากถามว่า ท่านช่วยอะไรพระสงฆ์บ้าง ในขณะที่ท่านวิจารณ์พระสงฆ์ ท่านที่จริงเพียงแต่นั่งนิ่ง ๆ ทำตนไม่ทุกข์ร้อนเพียงแค่ มองและตำหนิ ไม่เคยคิดจะช่วยอำนวย วินัยให้สงฆ์ให้ถูกต้อง คนอย่างนี้มีเยอะมากและก็มากจนคนดีทั้งหลายไม่กล้าขยับตัวมาช่วยเหลือ

    เรื่องนี้เล่าไว้ ไม่มีบทสรุป ได้ยินสักว่าได้ยิน แต่อย่างน้อยก็รู้มุมมองของคนขายในปัจจุบันว่า ไม่ได้สนใจในเรื่องวินัยสงฆ์ แบบเมื่อก่อน เพียงแต่คิดจะค้าขายเท่านั้น ไม่ได้มองว่าการขายอาหารให้พระเป็นบุญ มองแต่เป็นกำไร เพียงอย่างเดียว และตัดสินความเหมาะสม หรือ ไม่เหมาะสมตรงที่ความสะดวกของตนเอง

   เรื่องนี้เล่าให้ ไว้ ให้กับศิษย์ทุกท่านที่เดินทาง เพราะอาจารย์มีชีิวิตเดินทางบ่อยครั้ง และ เห็นเรื่องกระทบกับตนเองนี้หลายครั้ง ทุกอย่างเป็นที่ศรัทธา และ ความรู้

    มีโยมคนหนึ่งพูดใกล้ ๆ ให้เราได้ยินว่า เป็นพระเดินทางก็น่าจะเดินเอา ไม่ต้องมาึขึ้นรถ อาหารก็น่าจะบิณฑบาตฉัน เอง ไม่ต้องมาซื้อ ถ้าไม่มีใครใส่ก็ต้องยอมอด ถ้าอดไม่ได้ก็สึกไปซะ และที่จริงพระไม่ควรจะเดินทางไปไหนมาไหน ควรอยู่กับที่ เพราะหน้าที่ของพระคือการปฏิบัติ เพื่อสละกิเลส มิใช่บวชมาเพื่อสนองกิเลสตนเอง

    เล่าเรื่องนี้ แต่ไม่ต้องต่อสังขารให้วุ่นวาย เพียงแต่ให้รับทราบว่า คนที่พูดอย่างนี้ ก็มี ...  อย่าคิดว่า ใคร ๆ จะอนุโมทนา กับเราทุกเรื่อง

    แม้แต่เรื่องเว็บ อาตมา ( อาจารย์ ) เองก็โดนโจมตี เรื่องพระใช้ อินเตอร์เน็ต ไม่ใช่หน้าที่สงฆ์ ทุกวันมีจดหมาย ส่งมาให้อ่านอย่างนี้ทุกวัน บางท่านใส่คำหยาบคาย ด่าเรายิ่งกว่าเป็นพ่อเป็นแม่เราอีก นะจ๊ะ  แต่ที่บอกไว้ เพียงให้ทราบแต่อย่าไปใส่ใจ

    ที่สำคัญ ก็จะมุ่งมั่นทำตามปณิธาน เดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ใครมีวาสนา ก็ มาสนทนากัน ใครไม่มีวาสนา ร่วมกันกับเรา ก็ย่อมไม่ได้สนทนากัน เรียนกรรมฐานด้วยกัน เพราะว่า อาตมา ( อาจารย์ )เป็นเหมือนเทียนที่จุดขึ้นแล้วก็ย่อมมลายหมดไป ในภายภาคหน้า ก็คงรอท่านทั้งหลาย มาสืบสานปณิธาน กันไว้ เป็นการสั่งสมบารมีต่อไป

   เจริญธรรม / เจริญพร




หัวข้อ: Re: ไปอุทยาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก และ หอนางอุสา 11 ก.พ. 56
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2013, 10:53:59 am
st11
น่าจะยังไม่จบ ใช่หรือไม่คะ เห็นภาพใน Facebook มีอีกมากเลย แต่ชอบอ่านประกอบภาพด้วยคะ

 thk56

   มีต่ออีกตอน คลิ๊กที่ลิงก์นี้

   ไปวนอุทยานรอยพระพุทธบาทบ่อบก ต่อ ตอนที่ 2
   http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=10152 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=10152)


หัวข้อ: Re: ไปอุทยาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก และ หอนางอุสา 11 ก.พ. 56
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2013, 10:55:46 am
อนุโมทนากับพระอาจารย์ นะคะ ขอตอบภาพแกะสลักค่ะอยากดูว่าลูกศิษย์คนนี้จะมีสมาธิมีบุญหรือไม่  ภาพนี้เป็นรูปใบหน้า เห็นรูปดวงตาแวววาวชัดเจนค่ะ

   ให้่ใช้สมาธิ ให้มากขึ้นอีกนิด ยังตอบไม่ถูก


หัวข้อ: Re: ไปอุทยาน รอยพระพุทธบาทบ่อบก และ หอนางอุสา 11 ก.พ. 56
เริ่มหัวข้อโดย: timeman ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2013, 11:18:30 am
 st11 st12 thk56