พิมพ์

[นินนินนิน]

การที่เรามีปีติเกิดขึ้น มีกำลังมาก ขนาดน้ำตาไหลไม่หยุดอยู่นั้น ควรจะระงับ ปีติ ด้วยวิธีอย่างไร ครับ

 

[PRAMOTE(aaaa)]

ตั้งศรัทธาพุ่งไปที่พระพุทธองค์ให้มาก ทุกอย่างจะดีขึ้น อย่าลืมการงาน และอย่าไปดูกาย
  สูดลมหายใจแรงๆดึงพุทโธกลับบ้านไปตั้งมั่นที่ฐานจิต ตั้งนิมิตทั้งสามใหม่ ถ้าเกิดอีกก็ทําอีก
     เกิดสุขหรือทุกก็ปีติทั้งนั้น
      ตั้งจิตใหม่ทุกครั้ง คร่าวๆ
   

[ธัมมะวังโส]

ปุจฉา
เราจะระงับ ปีติ อย่างไรครับ ถ้าปีติ เกิดขึ้นมาก ๆ ในขณะภาวนา

วิสัชชนา

 อนุโมทนา ที่ท่านทั้งหลาย เมื่อภาวนากรรมฐาน แล้วก็ควรจะได้ปีติ เพราะถ้าไม่ได้ ก็ไปต่อไม่ได้ ที่นี้ปีติ บางท่านบางคนมีแล้ว แรงมากเช่นบางคน นั่งไปกายสั่น ร้องลั่น น้ำตาไหลพราก และไปถึงจนกระทั่งปีตินั้นระงับไม่ได้ แม้ออกจากกรรมฐาน แล้วก็ยังคงค้างอยู่อย่างนั้น อันนี้มีความสำคัญ แต่ก็ไม่เป็นกันทุกคน ปีติแก่กล้าพวกนี้ส่วนมากจะมีกับ พวกสัทธาจริต เป็นหลัก

   ดังนั้นวิธีแก้ไข ก็คือ ประคองอารมณ์ให้ตั้งมั่นกับนิมิต ทั้ง 3 ย้ำว่า นิมิตทั้ง 3 เป็นธรรมเครื่องช่วยเหลือตั้งแต่ต้นจนจบ เหตุที่ปีติมีกำลังเพราะจิตไปติด ความพอใจยินดี เมื่อปีติเกิด หรือ ความไม่พอใจยินร้ายเมื่อปีติที่ไม่ชอบมาเกิดขึ้น ทำให้ผู้ภาวนา ส่งจิตออกจากนิมิตทั้ง 3 หรือ ขาดองค์ นิมิตที่ครบ 3 เช่นบางท่านมัวแต่ส่งจิตไปดูปีติ ก็ทิ้งฐานจิต ทิ้งการบริกรรม แล จนกระทั่งอุเบกขา ก็หายไปด้วย

  เมื่อท่านทิ้งอย่างนี้ ก็หลุดจากกรรมฐาน จนบางคนออกจากกรรมฐานอย่างนั้นเลย

  วิธีแก้ไข เมื่อปีติ รวมลงมีอาการมาก ให้ทำการตั่งสติ รู้ว่า ตอนนี้ปีติ จิตหลุดจากนิมิตทั้งสามแล้ว เมื่อระลึกได้ดังนั้น ให้ทำการสูดลมหายใจลึก ๆ อัดให้แน่น แล้วคลายลมหายใจออก คล้ายการถอนหายใจ พร้อมกับดึงจิต กับไปตั้งยังฐานจิต แล้วภาวนาพุทโธ วิธีการนี้เรียกว่า การส่ง อุเบกขานิมิต หรือสร้างกำลั อุเบกขานิมิต ซึ่งเป็นวิธีการเลื่อนจิตเป็น ฌาน ออกฌาน แม้แต่ ออกจากกรรมฐาน ครูอาจารย์สอนกันไว้อย่างนี้ และสัมพันธ์ กับกรรมฐานหลัก คือ อานาปานสติ ห้องที่สี่ ด้วย

  ดังนั้นขอให้ท่าน ทั้งหลาย ทบทวน กันด้วยนะจ๊ะ

  เจริญธรรม / เจริญพร