แก๊งมอดไม้เหิมหนัก อาละวาดหนัก ลอบตัดไม้อายุ 100 ปี วัดดัง
นครพนม แก๊งมอดไม้พะยูงเหิม อาละวาดหนัก ลอบตัดไม้วัดดังรายวัน แค่ข้ามคืนฉวยโอกาสฝนตกตัดไม้พะยูง อายุราว 100 ปี แถมคนร้ายยังทำลายกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เอาไปเป็นหลักฐานเอาผิดได้
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2558 พ.ต.อ.อุกกฤษฏ์ ทรงชัยสงวน ผกก.สภ.เมืองนครพนม ได้รีบแจ้งจาก พระมหาวัฒนา ภัททะเสวี อายุ 54 ปี เจ้าอาวาสวัดสารภาณนิมิต ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม พร้อมด้วย นายสมชาย หนุ่มชัยภูมิ อายุ 45 ปี ประธานชุมชนวัดสารภาณนิมิต ว่า มีเหตุคนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูง ภายในบริเวณด้านหลังวัดไปขาย เมื่อกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.สิริพงษ์ รังสูงเนิน ร้อยเวร สภ.เมือง นครพนม พร้อมกำลังชุดสืบสวนพยัคฆ์ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งติดตามหาผู้กระทำผิด โดยในที่เกิดเหตุบริเวณประตูด้านหลังของวัด พบมีการตัดเหล็กคล้องกุญแจประตูเสียหาย ตรวจสอบพบภายในบริเวณวัด มีต้นไม้พะยูง อายุราว 100 ปี ถูกตัดโค่น และกลางลำต้น ยาวประมาณ 3-4 เมตร ขนาดลำต้น หน้ากว้างประมาณ 40 เซนติเมตร สูญหายไป เหลือเพียงส่วนปลายลำต้น ไม่สามารถนำไปได้ ทิ้งไว้เป็นหลักฐานเหลือแต่ตอ! ต้นพะยูง อายุนับ100ปี ถูกคนร้ายลอบเข้ามาตัดถึงภายในวัด
นอกจากนี้ ยังพบว่า คนร้ายมีการทำลายกล้องวงจรปิดของอพาร์ตเมนต์ ที่อยู่ด้านหลังของวัด เพื่อไม่ให้สามารถบันทึกภาพเป็นหลักฐานได้ โดยจากการสอบถามพระในวัด ทราบว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ช่วงฝนตก และมีไฟดับ ประมาณ 01.00 น. ได้มีคนร้าย จำนวนร่วม 10 คน เป็นลักษณะกลุ่มวัยรุ่น มีหมวกปิดบังใบหน้าบางส่วน ขับรถเก๋งมา 2 คัน ก่อนเข้าไปช่วยกันใช้เลื่อยมือตัดไม้พะยูง เป็นท่อน และนำขึ้นรถเก๋ง หนีไป แต่พระลูกวัดไม่กล้าออกมาดู เพราะเกรงว่า จะได้รับอันตราย คาดว่า จะนำไปส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งสืบสวน ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงตามแกะรอยหาหลักฐานจากรถต้องสงสัยตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งถือเป็นการลักลอบตัดไม้ที่อุกอาจ เนื่องจากเมื่อวานที่ผ่านมา เพิ่งมีการเข้าไปลักลอบตัดไม้ภายในวัดกกต้อง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม และแค่ข้ามคืนได้หันมาตัดในวัดชุมชนสารภาณนิมิตอีก คาดว่า เป็นแก๊งเดียวกัน เพราะปัจจุบันไม้พะยูงเริ่มหายาก ส่วนใหญ่จะเหลือตามวัด ทำให้เป็นเป้าหมายของแก๊งค้าไม้พะยูงข้ามชาติ และทางตำรวจจะได้ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการในการดูแลป้องกันต่อเนื่อง ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/530790