ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 'ธรรมสถานบ้านโพธิ์ทอง' ขอเชิญปฏิบัติธรรม "โดยไม่มีข้อจำกัดหรือข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น"  (อ่าน 2579 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ศรัทธาสารทิศไหลสู่ 'ธรรมสถานบ้านโพธิ์ทอง'
ศรัทธาสารทิศไหลสู่'ธรรมสถานบ้านโพธิ์ทอง' : เยือนถิ่นเรือนธรรม เรื่องและภาพโดยไตรเทพ ไกรงู

     “ธรรมสถานบ้านโพธิ์ทอง” ตั้งอยู่หมู่ ๑๒ ต.จระเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี (ใกล้ตลาดเขต) ถือเป็นสถานปฏิบัติธรรมที่เงียบสงบและสวยงามแห่งหนึ่ง เหมาะแก่การดูจิต รักษาใจ ของทุกท่าน
 
    ธรรมสถานบ้านโพธิ์ทอง เป็นแหล่งรวมใจรวมศรัทธาของญาติโยมในบริเวณใกล้เคียงและญาติโยมที่อยู่ไกลแต่มี ใจศรัทธาแรงกล้า ในช่วงเทศกาลหรือวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาจะมีญาติโยมมาร่วมกันทำบุญอย่าง เนืองแน่น กิจกรรมที่ญาติโยมให้ความสนใจและตั้งตารอคอยคือ การฟังพระธรรมเทศนา โดยหลวงปู่ท่านต่างๆ ที่เดินทางมาโปรดญาติโยมอยู่อย่างสม่ำเสมอ

     อย่างไรก็ตาม เมื่ออาทิตย์ที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๖ ธรรมสถานบ้านโพธิ์ทองได้จัดให้มี พิธีเททองหล่อง "พระไตรโลกนาถศรีโพธิ์ทอง" ซึงเป็นพระพุทธรูป ปางชนะมาร เนื้อสำริด หน้าตัก ๑๐๙ นิ้ว (๒.๗๗ เมตร) สูง ๔.๗๗ เมตร ณ ลานพระมหาเจดีย์พระธาตุโพธิ์ทอง เพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานในพระมหาเจดีย์ ปรากฏว่ามีคณะศรัทธาจากสารทิศไปร่วมงานอย่างล้นหลาม

        พิธีเททองหล่อง "พระไตรโลกนาถศรีโพธิ์ทอง" เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ ๕ มกราคม ๒๕๕๖ โดยได้มีการจัดให้มีการปฏิบัติธรรมตลอดทั้งคืนจนถึงรุ่งเช้าวันที่ ๖ มกราคม เวลา ๐๙.๐๐ น. ได้จัดให้มีการถวายภัตตาหารพระสงฆ์ ๑๐๙ รูป จากนั้นเวลา ๑๐.๐๐ น. สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กทม. เมตตามาเป็นประธานในพิธีเททอง ซึ่งหลังจากเสร็จพิธีแล้ว เวลา ๑๘.๐๐ น. พระอาจารย์อุทัย อุทโย เจ้าสำนักธรรมสถานบ้านโพธิ์ทอง นำอุบาสกอุบาสิกา ถวายพานพุ่ม สักการะ และสวดมนต์เย็น ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยบางส่วนอยู่ปฏิบัติต่ออีก ๑ คืน



        พระอาจารย์อุทัย บอกว่า การก่อสร้างที่พักผู้ปฏิบัติธรรมนั้นจะเน้นแบบเรียบง่าย กลมกลืนกับธรรมชาติที่อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่นิยมที่จะบอกบุญญาติโยม เพราะไม่ได้ทำอะไรใหญ่โตเกินความจำเป็น อะไรขาดก็ค่อยๆ สร้างเพิ่ม ไม่เร่งรีบที่จะสร้างใหญ่โต เน้นความเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะทางเดินจงกมนั้นจะสร้างเป็นสะพานทอดยาวอยู่ในร่องสวน

     ผู้มาปฏิบัติธรรมไม่ต้องติดต่อมาล่วงหน้า อยากมาวันไหน สะดวกวันใดก็มา
     ถ้าคนมาปฏิบัติธรรมกันมากๆ ที่พักต้องเบียดกันหน่อย แต่ถ้าจะสะดวกก็ติดต่อมาล่วงหน้า
     ซึ่งปกติแล้วจะมีผู้ปฏิบัติธรรมไม่กี่คน อย่างเก่งก็ ๑๐ คนเท่านั้น
     โดยวัดไม่ได้กำหนดเงื่อนไขใดๆ แม้กระทั้งชุดสำหรับปฏิบัติธรรม จะสีอะไรก็ได้เพราะการปฏิบัติธรรมไม่ได้ขึ้นอยู่กับเสื้อผ้าที่ใส่ หากขึ้นอยู่ที่กายและใจต่างหากเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่า


     ส่วนเหตุผลที่ทำให้มีผู้หญิงเข้าสำนักปฏิบัติธรรมมากกว่าผู้ชายนั้น พระอาจาย์อุทัย บอกว่า
     “จริงๆ แล้ว ผู้หญิงกับผู้ชายมีทุกข์พอๆ กัน แต่ผู้ชายมีสิ่งกลบทุกข์มากกว่า มีความกล้าหาญและหน้าด้านกว่าผู้หญิง กินเหล้า เคล้านารี เข้าสถานบันเทิง โดยคิดว่าสิ่งที่ทำเป็นการดับทุกข์
     แต่แท้ที่จริงเป็นการกลบทุกข์ ลืมทุกข์ไปชั่วขณะเท่านั้น
     สุดท้ายทุกข์ก็กลับมาเหมือนเดิม และส่วนใหญ่จะทุกข์มากกว่าเดิม
     ส่วนการเข้าวัดปฏิบัติธรรมฟังเทศน์ของผู้หญิง เป็นการหาทางดับทุกข์ หาทางให้พ้นทุกข์”


    “สำรวม มีสติ ทุกอิริยาบถให้ระวังมากๆ ให้รู้เรื่องของตัวเราเอง พยายามที่จะอยู่กับตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ สังคมที่วุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ เพราะเราไม่อยู่กับตัวเอง มักจะไปยุ่งเรื่องของคนอื่น เอาเรื่องของคนอื่นมาเป็นเรื่องของตนเอง ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ความวุ่นวายในสังคมทุกวันนี้แก้ได้ง่ายนิดเดียว คือ ถ้าทุกคนหยุดคิดแล้วอยู่กับตัวเองให้มากๆ ที่สุด เท่านี้ทุกอย่างก็สงบ” พระอาจารย์อุทัยให้คติธรรมทิ้งท้าย

      หากท่านต้องการสถานที่เงียบสงบเพื่อฝึกสมาธิและนั่งภาวนา ขอเชิญ ณ สถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ เปิดรับศรัทธาผู้จะมาปฏิบัติธรรมจากทั่วสารทิศ โดยไม่มีข้อจำกัดหรือข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น สอบสถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.๐๘-๐๗๗๔-๕๙๖๘


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20130118/149643/ศรัทธาสารทิศไหลสู่ธรรมสถานบ้านโพธิ์ทอง.html#.UPonOKzjrRd
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ