ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เห็น 'อนิจจัง' คือเห็น 'พระพุทธเจ้า'  (อ่าน 1686 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
เห็น 'อนิจจัง' คือเห็น 'พระพุทธเจ้า'
« เมื่อ: สิงหาคม 19, 2014, 09:50:16 am »
0



เห็น 'อนิจจัง' คือเห็น 'พระพุทธเจ้า'
วิปัสสนาบนหน้าข่าว : โดยพิสุทธิ์ เกรียงบูรพา เรื่อง : ฐานิส สุดโต ภาพ

ใครเลยไหนอื่นเล่า?... เขามีพระเจ้าเป็นที่พึ่ง เป็นความผาสุก เป็นสถานอันปักหลักมั่นคงถาวร แต่พระพุทธเจ้าของเรา กลับตรัสให้เราสำเหนียกอยู่เสมอว่า ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ฉะนั้นจะมาหวังพึ่งพระองค์แต่ฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะตถาคตท่านเป็นเพียงผู้บอกทางเท่านั้น ...

ใครเลยไหนอื่นเล่า... เขาหวังสถิตในตัวพระเจ้า เมื่อตายแล้ว ด้วยเห็นพระเจ้าเป็นดั่งอาณาจักรที่มั่นคงถาวร แต่พระพุทธเจ้าของเรากลับตรัสให้สาวกเห็นซึ่ง “อนิจจัง” เห็นความไม่เที่ยง คือเห็นธรรม และเห็นธรรม คือเห็นพระพุทธเจ้า ดั่งพุทธพจน์กล่าวไว้ ... ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

 :49: :49: :49: :49:

โอ้ ใครเล่า... หากเจ้าไม่แสร้งทำหูหนวกต่อสัจธรรม หรือทำตาบอดต่อสรรพสิ่งที่กำลังแสดงธรรมอยู่ ก็คงจะเห็นความจริงอันไม่กลิ้งกลอก บอกตรงๆ โดยไม่อ้อมค้อมเลยว่า อะไรๆ มันก็ไม่เที่ยง เช่น นักเรียนนายร้อยโดดร่มครั้งแรกตายอนาถ, เครื่องบินมาเลเซียสาบสูญลึกลับ ตายกว่า ๒,๐๐ คน , ร้านรับซื้อของเก่า ผ่าวัตถุระเบิดโบราณ ระเบิดตายทันที ๗ ศพ, แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ชิลีคร่าชีวิตคนจำนวนมาก, แม้แต่ว่าที่เจ้าสาวไปทำฟันยังตายก่อนงานวิวาห์ของตัวเองได้ ฯลฯ ...

แม้แต่เรื่องใกล้ๆ ตัว กี่ร้อยครั้งแล้ว ที่เราได้ไปร่วมในงานศพญาติมิตรเพื่อนฝูง คนที่ต้องตายไป ส่วนใหญ่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อน และไม่มีสิ่งใดการันตีว่าจะมีแต่คนแก่ชราเท่านั้นที่ตาย เร็วๆ นี้ ผมเพิ่งเสียเพื่อนไปในวัย ๔๐ กว่า ทั้ง ๒ คนในรอบสัปดาห์เดียวกันเลย เป็นต้น  คนเรา เมื่อมีเหตุปัจจัยจะต้องจากไป ก็ช่างตายง่ายเสียจริงๆ


 :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi:

ก็ใครเล่า หากเจ้าไม่ประมาท แสร้งเอาหูไปฟังเสียงอันไพเราะ เอาตาไปจ้องมองแต่สิ่งสวยงามอันเป็นอาหารอันโอชะของกิเลสแล้วไซร้ เขาย่อมเห็นธรรมชาติแสดงธรรมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน โธ่ โอกาสดี ขนาดนี้ ยังไม่เฉลียวใจ ดูตัวอย่าง กรณีเจ้าชายสิทธัตถะสิ ท่านถูกปิดหูปิดตา โดยพระราชบิดาเสียมิด บังสนิทด้วยกำแพงสูง เวรยาม กับปราสาท ๓ ฤดู ห้อมล้อมไปด้วยนางงาม ระบำโป๊ เติมเต็มอาหารให้แก่พญากิเลสมารอย่างไม่หมดไม่สิ้น...

ท่านยังดิ้นรน สู้อุตส่าห์แอบออกมาดู เรียลิตี้โชว์ แบบ ซิตี้ทัวร์ โดยความช่วยเหลือของนายฉันนะ บ่าวคนสนิท จนได้พบเห็นเทวฑูตทั้ง ๔ ก็คือ คนแก่-คนเจ็บ-คนตาย และ สมณะ ในที่สุด... และเพียงครั้งนั้นครั้งเดียวจริงๆ พระองค์ก็เกิดกระบวนการโยนิโสมนสิการ กลายเป็นพลวัตที่ผลักดันให้ท่านออกแสวงหาทางพ้นเสียจาก สภาพอนิจจัง ความทุกข์ เหล่านั้นในทันที กระทั่งตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าในอีก ๖ ปีต่อมา ตามที่ทุกท่านทราบ

โธ่เอ๋ย... พวกเราชาวพุทธ หากใครยังคงเฉลิมฉลองวันเกิดกันอย่างไม่ตระหนัก ห้อมล้อมไปด้วยความรัก ความสุขอันชั่วประเดี๋ยวประด๋าว หัวเราะดังลั่นทุกครั้งที่เกิด และ ร้องไห้ฟูมฟายทุกครั้งที่มีใครตาย อีกนานเท่าไหร่ จึงจักพ้นจากวังวน?



พระเดชพระคุณหลวงพ่อชา สุภัทโท สอนไว้อย่างชัดเจน เห็น “อนิจจัง” คือเห็น “พระพุทธเจ้า” เจ้าประคุณอาจารย์พุทธทาส ก็ประกาศไว้เป็นโศลก... งามอยู่ที่ผี ดีอยู่ที่ละ พระอยู่ที่จริง นิพพาน อยู่ที่ตายก่อนตาย แม้สมเด็จพระสังฆราช ผู้เจริญพระชนม์ยืนนานเกิน ๑๐๐ พรรษา ยังทรงพระลิขิตไว้ว่า... ชีวิตนี้น้อยนัก!... ทั้งหลายทั้งปวงนี้ เป็นเครื่องแสดงแจ้งชัดแล้วว่า ออกจากปากปราชญ์ไป ไม่กล่าวสอนเรื่อง “อนิจจัง” เป็นไม่มี
 
“อนิจจัง” ...จึงเป็นเรื่องที่ดูจะง่ายในการทำความเข้าใจมากที่สุดใน ๓ สามัญลักษณะแห่งพระไตรลักษณ์ และไม่ว่าท่านจะเข้าใจ เข้าถึง ตัวใดตัวหนึ่ง มันจะเชื่อมให้เข้าใจถึงกันใน อีก ๒ ตัวที่เหลือด้วย โดยอัตโนมัติเลยทีเดียว อาทิ...เมื่อเห็นศพเพื่อนนอนอยู่ตรงหน้า เราก็จะเห็นชัดว่า ชีวิตนั้นไม่เที่ยง (เห็นอนิจจัง) และเห็นว่าเป็นทุกข์ ตามมาทันใด เพราะผู้ตายเอง ก่อนตายก็บ่นไม่อยากตาย, ญาติผู้ตายก็ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ ทุกข์ทั้งนั้น และหากเรานิ่งเพียงพอ ก็จะโยนิโสมนสิการต่อได้ว่า มันไม่ใช่ตัวเราของเรา (อนัตตา) กล่าวคือ มันนอกเหนือการควบคุม สั่งการของเรา... องค์ ๓ ก็จะมาปรากฏพร้อมกัน ทั้งไตรลักษณ์ทีเดียวเลย

 :96: :96: :96: :96:

จากนั้นมันก็จะเห็นแจ้ง ปรากฏในความจริงของชีวิต เห็นกฎแห่งอิทัปปัจจยตา เป็นยถาภูตญาณทัสสนะ เมื่อนั้นก็จะเกิดความเบื่อหน่ายคลายจาง (นิพพิทา) จากสิ่งทั้งปวง อะไรๆ ก็ไม่อาจปรุงแต่งจิตได้อีก (วิราคะ) ประดุจดั่งผ้าที่ย้อมไม่ติดแล้ว สู่ความหลุดพ้น (วิมุตติ) บริสุทธิ์ (วิสุทธิ) โดยถ่ายเดียว จนตกกระแสพระนิพพานในที่สุด

ขอให้รักษาความกล้าหาญ องอาจ จะก้าวข้ามกระบวนการที่ทำให้เกิดทุกข์ทั้งปวง (สมุทัย) ให้ได้เถิด โดยเริ่มจาก “อนิจจัง” เมื่อนั้น ท่านจะเห็น นิพพานน้อยๆ เกิดขึ้นท่ามกลางสังสารวัฏ ได้ไม่ยากอย่างที่คิดเลยฯ

                st12 st12 st12 st12

               เกิดหรือตาย ดูไป ช่างคล้ายกัน
               มันแปรเปลี่ยน เวียนผัน ตามประสา
               ชอบอย่างหนึ่ง ไม่ชอบอย่าง ไม่ได้นา
               มันได้มา ทั้งสอง พร้อมพร้อมกัน
               รักจะเกิด ย่อมตาย ในวันหน้า
               ไม่ชอบตาย อย่าเกิดมา ให้เปลี่ยนผัน
               เมื่อหยุดเกิด ก็หยุดตาย ได้เท่ากัน
               อย่างไรนั้น ท่านเลือก ของท่านเองฯ


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140818/190317.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

DANAPOL

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 332
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เห็น 'อนิจจัง' คือเห็น 'พระพุทธเจ้า'
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2014, 11:12:47 am »
0
ได้ฟังในรายการ สนทนาธรรม พระธรรมกรรมฐาน มาว่า

  การเห็นอนิจจัง และ ทุกขัง  นั้น มีมาก่อนพระพุทธเจ้าตรัสรู้ ที่คนทั้งหลายไม่เห็นกันก็คือ อนัตตา ครับ

 ไม่ทราบว่า ฟังถูก หรือ ฟัง ผิด ครับ

  ดังนั้น ถ้าผมฟังถูก ก็หมายว่า การเห็นอนิจจัง ไม่ได้เกี่ยวกับการเห็นพระพุทธเจ้า ครับ
  เพราะไม่มี พระพุทธเจ้า คนก็เห็น อนิจจัง ทุกขัง กันอยู่แล้ว

  หรือ แบบไหนกันแน่ ครับ

  :49:
บันทึกการเข้า
รหัสธรรม ต้องใช้ปัญญาคือความรู้ ผู้ถือกุญแจคือใครหนอ...

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เห็น 'อนิจจัง' คือเห็น 'พระพุทธเจ้า'
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2014, 11:01:42 pm »
0
ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา