สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: catwoman ที่ มีนาคม 31, 2012, 11:31:35 am



หัวข้อ: ทำไม คนทุกวันนี้ ไม่เกรงกลัว บาปกรรม
เริ่มหัวข้อโดย: catwoman ที่ มีนาคม 31, 2012, 11:31:35 am
ทำไม คนทุกวันนี้ ไม่เกรงกลัว บาปกรรม

  จะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันนี้ เราเดินทางไปไหน ไม่สบายเหมือนเมื่อก่อน นะคะ เพราะว่าต้องเดินด้วยความระวัง ไปด้วยความระวัง อยู่ด้วยความระวัง เพราะภัยจากเพื่อนมนุษย์อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลานาที

 ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมคนยุคนนี้ไม่กลัวบาปกรรมกันบ้าง น้า

   :s_hi: :smiley_confused1:


หัวข้อ: Re: ทำไม คนทุกวันนี้ ไม่เกรงกลัว บาปกรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Admax ที่ มีนาคม 31, 2012, 11:11:42 pm
- คนทุกคนกล้าทำผิด และ ทำด้วยความไม่เกรงกลัวและละอายต่อบาป เพราะความไม่รู้จริง ไม่เห็นสภาพจริง เพระความหลง เพราะความอยากทะยานต้องการ เพราะ ตัณหาทั้งหลาย

- การที่เรามองว่าโลกนี้ว่ามันน่ากลัว คุณยิ่งควรพึงอยู่โดยความไม่ประมาท เพราะไม่รู้จะตายวันไหน ให้พึงระลึกใน ความคิดดี พูดดี ทำดี กตัญญูกตเวที มีศีล มีพรหมวิหาร๔ มีทาน ทีสมาธิ มีสติ ทำกุศลจิตให้เกิด ตั้งมั่นในกุศลจิต รักษากุศลจิตไม่ให้เสื่อม และ ศึกษาพระธรรมในพระพุทธศาสนาเพื่อความรู้แจ้งและออกจากทุกข์

- แม้ในขณะที่คุณเกิดความกังวลนี้อยู่ก็เพราะคุณได้ประสบพบเจอกับสิ่งที่คุณไม่พอใจยินดีอยู่เช่นกัน นี่ก็เรียกว่าคุณตกอยู่ใน วิภวะตัณหา ความไม่อยากพบ ไม่อยากเจอ ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น อยากจะผลักให้ไกลตน เกิดเป็นความฟุ้งซ่าน สับสน วุ่นวาย จิตตก อัดอั้นตันใจ อึดอัดคับแค้นกาย-ใจ ขุ่นมัวใจ

- ที่คุณเกิดความกลัวจนฟุ้งซ่านไปนั้น ก็เพราะคุณมีความพอใจยินดีใดๆตั้งไว้ จนเกิดเป็นความสำคัญมั่นหมายไว้ในใจ จนเกิดเป็นความตรึกถึง นึกถึง ตรองถึง คำนึงถึง เกิดประกอบกับความ รัก โลภ โกรธ หลง เช่น อยากให้มีแต่คนดีๆมีศีล มีเมตตา อยากให้คนรัก ไม่อยากให้คนเกลียด ไม่อยากให้คนมาปองร้าย ด่าว่า ทำร้ายคุณ แต่พอเจอกับสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่คุณพอใจยินดี คุณก็ทุกข์ใจเพราะประสบกับความไม่พอใจยินดีนั้นเอง แต่คุณไม่สามารถจะทำอะไรหรือแก้ไขสิ่งภายนอกที่มากระทบคุณได้ นั่นก็เพราะคุณไม่สามารถไปบังคับใครให้เป็นดังใจได้ใช่ไหมครับ โลกมันเป็นของมันอยู่อย่างนี้มาตั้งนาน ตั้งแต่ก่อนคุณและผมเกิด เอาแค่ว่าคุณบังคับตนเองไม่ให้กลัว ไม่ให้ฟุ้งซ่าน ไม่ให้ขี้ ไม่ให้เยี่ยว ไม่ให้หิว ยังทำไม่ได้ใช่ไหมครับ เมื่อรู้เช่นนี้เราจะไปเรียกร้องต้องการสิ่งใดจากใครได้ครับ คุณว่าจริงไหมครับ

ที่ผมกล่าวมาในข้างต้นนี้นี้คือเหตุและผลที่อยากให้คุณพิจารณาน่ะครับ จะได้ปลงและเข้าใจในสัจจธรรมของโลกนี้เพื่อความเข้าสู่การวางใจกลางๆ ไม่หยิบจับเอาความพอใจ ไม่พอใจ

- ดังนั้นทั้งคุณ และ ผม หรือ ใครๆ เราควรพึงเจริญในธรรมเนืองๆอยู่ด้วยความไม่ประมาทในที่นี้ให้พึงระลึกรู้มีสติ สมาธิ และ เจริญธรรมไม่ขาด(ในเบื้องต้นควรพึงเจริญใน ศีล พรหมวิหาร๔ ทาน ขันติ จนถึงแก่อุเบกขาจิต พึงกระทำกุศลจิตให้เกิด ตั้งมั่นในกุศลจิต รักษากุศลจิตไม่ให้เสื่อม จนเห็นแจ้งทุกอย่างด้วยปัญญา) เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น และ ลดความขุ่นข้องใจ หมองมัวใจ คับแค้นใจ อัดอั้นใจ ในเรื่องนี้ได้มาก

- โลกมันเป็นเช่นนี้ของมันมานานแล้ว บางครั้งเราใช้เวลาที่เรามาเอาจิตไปติดข้องใจกับสิ่งต่างๆ เอาสิ่งรอบกายมาทั้งหลายมาตั้งเป็นอารมณ์ คอยนั่งวิตก เบื่อ กลัว  เสวยเป็น สุข ทุกข์ อยู่นี้ เราเอาเวลานั้นไปเจริญในสมาธิและพิจารณาธรรมด้วย สติ ปัญญา ไม่ว่าจะเป็นผม หรือ คุณ หรือ ใครๆ อาจจะได้พานพบทางพ้นทุกข์ที่ดีก็ได้ครับ

- เมื่อใดที่เกิดความกลัว ความปิติ พอใจยินดี สลดใจ หดหู่ใจ ฟุ้งซ่านใจ ไม่ชอบใจ อัดอั้นใจ คับแค้นใจ อึดอัดใจ กรีดใจ หวีดใจ ด้วยสภาพจิตที่ติดข้องใจ ขุ่นข้องใจ หมองมัวใจ ให้ระลึกรู้ไว้ว่า อกุศลจิตเกิดแก่จิตคุณแล้วครับ


หัวข้อ: Re: ทำไม คนทุกวันนี้ ไม่เกรงกลัว บาปกรรม
เริ่มหัวข้อโดย: นิด_หน่อย ที่ เมษายน 01, 2012, 10:54:41 am
อนุโมทนา คะ อ่านแล้ว รู้สึกยินดีในคำตอบของ คุณ Admax มากๆคะ ทำใ้ห้เห็นมุมมองการวางใจที่เป็นกลาง ๆ ที่ประกอบด้วยสติ ปัญญา มีความสำคัญมาก คะ

 :25: :88: :58: