สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: phonsak ที่ ตุลาคม 09, 2010, 10:57:38 pm



หัวข้อ: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ ตุลาคม 09, 2010, 10:57:38 pm
3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสิ่งทั้งปวง  


1. วชิราสูตร ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ หรืออสังขตธรรม เป็นผู้สร้างสรรพสัตว์ 

วชิราสูตร พุทธพจน์ และ พระสูตร ๔๑. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕

สัตว์นี้ ใครสร้าง ?
ปฏิจจสมุปบันธรรม เป็นผู้สร้างสัตว์ ตลอดจนสังขตธรรมทั้งปวง

ผู้สร้างสัตว์อยู่ที่ไหน ?
ไม่มีผู้สร้าง หรือกล่าวว่าผู้สร้างคือ ธรรมธาตุ หรืออสังขตธรรม อันเที่ยงแท้และคงทนต่อทุกกาล   และความเป็นไปตามธรรมดา

สัตว์บังเกิดในที่ไหน ?ทุกแห่งหน ที่เกิดขึ้นแห่ง ปฏิจจสมุปบันธรรม กล่าวคือเมื่อมีเหตุมาเป็นปัจจัยครบองค์

สัตว์ดับไปในที่ไหน ?ทุกแห่งหน ซึ่งเป็นที่ดับไปแห่งปฏิจจสมุปบันธรรมหรือการดับไปแห่งเหตุปัจจัย  หรือหลักอิทัปปัจจยตา

สรุปวชิราสูตร

ธรรมธาตุ หรืออสังขตธรรม อันเที่ยงแท้และคงทนต่อทุกกาล ที่เป็นผู้สร้างสรรพสัตว์  ศาสนาอื่นเรียกว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้า" หรือพระเจ้า


2. (อิตติวุตตก กัณฑ์ ที่ 1825/275 ว่าด้วยเรื่อง ธรรมชาติ ที่ไม่มีจุดเกิด ไม่ถูกปรุงแต่ง มีอยู่ - จากพระไตรปิฎก ฉบับ ประชาชน หน้า 55) ยืนยันว่า: "นิพพาน" หรือ "อสังขตธาตุ" เป็นผู้สร้างโลกและจักวาล

นอกเหนือจากวชิราสูตร แล้ว   ในพระไตรปิฎก พระพุทธองค์ก็ยืนยันว่า  สิ่งที่เป็นผู้สร้างเป็นสิ่งที่มีมาก่อนสิ่งอื่นทั้งหมด คือ "นิพพาน" หรือ "อสังขตธาตุ" 

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า:

“ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมชาติที่ไม่มีจุดกำเนิด ไม่มีใครทำ ไม่มีอะไรปรุงแต่ง นั้นมีอยู่  ถ้าไม่มี ธรรมชาติที่ ไม่มีจุดกำเนิด ไม่มีใครทำ ไม่มีอะไรปรุงแต่ง  ความเป็นไปของ ธรรมชาติที่เกิดที่เป็น ที่มีอะไรปรุงแต่ง ก็จะปรากฏไม่ได้  เพราะเหตุที่ มีธรรมชาติ ที่ไม่มีจุดเกิด ไม่มีใครทำ ไม่มีอะไรมาปรุงแต่ง ความเป็นไปของ ธรรมชาติ ที่เกิด ที่เป็น ที่มี ใครทำ ที่อะไร ปรุงแต่ง จึงเกิดขึ้นได้”

ย้ำ!!!...  ถ้าไม่มี ธรรมชาติที่ ไม่มีจุดกำเนิด ไม่มีใครทำ ไม่มีอะไรปรุงแต่ง (นิพพานหรืออสังขตธาตุ) ความเป็นไปของธรรมชาติที่เกิดที่เป็น ที่มีอะไรปรุงแต่ง(สรรพชีวิต,โลกและจักรวาล) ก็จะปรากฏไม่ได้

หรือ ถ้าไม่มี อสังขตธาตุ(นิพพาน) โลก จักรวาล และสรรพสิ่ง รวมทั้งมนุษย์และสรรพสัตว์ก็จะปรากฏไม่ได้  

ย้ำ!!!...  เพราะเหตุที่ มี ธรรมชาติ ที่ไม่มีจุดเกิด ไม่มีใครทำ ไม่มีอะไรมาปรุงแต่ง(นิพพานหรืออสังขตธาตุ) ความเป็นไปของ ธรรมชาติ ที่เกิด ที่เป็น ที่มี ใครทำ ที่อะไร ปรุงแต่ง จึงเกิดขึ้นได้”

หรือ เพราะเหตุที่มี อสังขตธาตุ(นิพพาน) ความเป็นไปของโลก จักรวาล และสรรพสิ่ง รวมทั้งมนุษย์และสรรพสัตว์ จึงเกิดขึ้น


3. ที.ปา. 11/51/91

....ควรเรียกบุคคลผู้นั้นว่าเป็นบุตร เป็นโอรส เกิดแต่โอษฐ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้เกิดจากธรรม เป็นธรรมนิรมิต  (ผู้ที่ธรรมสร้าง) เป็นธรรมทายาท (ทายาทแห่งธรรม) ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะคำว่า " ธรรมกาย " ก็ดี " พรหมกาย " ก็ดี " ธรรมภูต " ก็ดี " พรหมภูต " ก็ดี เป็นชื่อของตถาคต "

คำว่า " ธรรมกาย " ก็ดี " พรหมกาย " ก็ดี " ธรรมภูต " ก็ดี " พรหมภูต " ก็ดี เป็นชื่อของตถาคต =
พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นพระพรหมสูงสุดที่เป็นผู้สร้างสิ่งทั้งปวง   พระพรหมสูงสุดที่เป็นพรหมกาย เป็นพรหมที่มนุษย์เทพพรหมทุกชั้นมองไม่เห็น จึงเรียกว่า " ธรรมภูต " หรือ " พรหมภูต "


สรุป 3 พระสูตร


 ธรรมธาตุ หรือ อสังขตธาตุ หรือ นิพพาน หรือพระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างโลก จักรวาล และสรรพสัตว์   หลวงตามหาบัวเทศน์ว่า "แล้วไม่สงสัยเสียด้วยที่ว่า พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ มาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ยังไง นี่เราเคยคิดเมื่อไร มันเป็นแล้วนั่น ถึงพูดออกตามความเป็นแล้ว แล้วไม่สงสัยเสียด้วย นี่ล่ะธรรมแท้ ท่านเรียกธรรมธาตุ ที่ว่า ธรรมธาตุ ๆ ครอบโลกธาตุคือธรรมธาตุ  

ธรรมธาตุครอบโลกธาตุ = นั่นแหละคือ พระนิพพาน/พระธรรม/อสังขตธาตุ สร้างโลกธาตุต่างๆขึ้นมา โดยทำให้สิ่งมายาที่เป็นอนัตตา มองดูเหมือนของจริง จนมนุษย์เราไปหลงไหลในสิ่งมายาเหล่านั้น


หัวข้อ: เรามาหยุดเรียน เรื่องโลกนี้ โลกหน้า กันดีไหม และ มาภาวนากันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: utapati ที่ ตุลาคม 10, 2010, 12:30:57 am
อันที่จริงที่ผมมานับถือพระพุทธศาสนานั้นไม่ใช่ เพื่อมารู้จักพระเจ้า หรืออะไรทั้งสิ้น เรื่องพวกนี้ผมไม่อยากรู้

ที่ผมอยากรู้จริง ผมจะสิ้นทุกข์ที่ปรากฏในตอนนี้อย่างไร ความเกิดก็เป็นทุกข์ ความแก่ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บก็เป็น

ทุกข์ ความตายก็เป็นทุกข์ ๆๆๆๆๆ ความโศรก ความร่ำไรรำพันความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ความคับแค้น

ใจทั้งหลาย ความปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้น ความประสบกับไม่เป็นที่พอใจ ทั้งหลายเหล่านี้คือเป้าหมายที่

ผมต้องการสิ้นไปในเบื้องต้น

  เพราะเรามักจะิคิดให้ความสำคัญมั่นหมายกับตัวเราว่า ไม่มีเราโลกนี้จะเป็นอย่างไร ไม่มีพระเจ้าจะเป็นอย่างไร

  ดังนั้นเพราะเราให้ความสำคัญดั่งนี้ ทุกข์ จริง ๆ ไม่ได้หมดไป คงแต่เที่ยว วิงวอน อ้อนวอน ขอพร ให้พระเจ้า

องค์นั้่นองค์นี้ ช่วยเหลือเมตตาให้ธรรมให้แสง แก่ข้าพเจ้า


  พระพุทธเจ้าพระองค์ตรัสไว้ว่า บุคคลจะก้าวล่วงพ้นทุกข์ เสียได้ด้วยความเพียร

   และที่สำคัญ พระองค์ทรงตรัสต่อไปว่า ตนแลเป็นที่พึ่งของตน จงเตือนตนด้วยตนเอง

    เราเป็นแต่เพียงผู้บอก ทางนั้นเธอเป็นผู้เลือก

การสิ้นกิเลส เป็นเป้าหมาย ของผู้ประพฤติธรรม

    วัดผลกันที่ละสังโยชน์ ได้ 10 ประการ จึงเป็นพระอรหันต์

    ผู้เป็นสาวกภูมิ พึ่งปฏิบัติตามข้อภาวนา ที่พระพุทธเจ้าทรงมอบวิธีการไว้ใ้ห้ คือ สมถะและวิปัสสนา

    ผู้ฝึกธรรมมีบารมีสั่งสมมาแตกต่างกัน

       บางคนปฏิบัติง่าย บรรลุธรรมง่าย

       บางคนปฏิบัติยาก บรรุธรรมง่าย

       บางคนปฏิบัติง่าย บรรลุธรรมยาก

       บางคนปฏิบัติยา่ก บรรลุธรรมยาก

       การเรียนโดย อรรถะ และ พยัญชนะ ไม่มีที่สิ้นสุด

      พระจูฬปันถก เรียน แ่ค่ ระโช หรณัง 2 ชั่วโมง บรรลุเป็นพระอรหันต์ ปฏิสัมภิทา

      แต่ท่านท่องหนังสือ 4 บรรทัด ถึง 3 เดือนกับท่องไม่ได้ พระมหาปันถกเป็นถึงพระอรหันต์ยังสอนไม่ได้

      พระสารีบุตร ผู้เิลิศด้วยปัญญา เป็นผู้บรรลุ พระโสดาบันก่อนใครในกลุ่ม แต่กับใช้เวลาถึง 15 วันถึง

      บรรลุเป็นพระอรหันต์

      ที่ชี้แจงตรงนี้ เพราะต้องการให้เห็นความสำคัญการภาวนา ไม่ใช่การเรียนปริยัติมาก มาย

     บัญญัติ ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีจบ ถ้าพยายามแสดงเรื่องบัญญัติ ก็หาข้อยุติไม่ได้

      ธรรมกายก็ดี พรหมกายก็ดี ตถาคตก็ดี ไม่ได้ถึงได้เพราะการเรียนปริยัติ

     แต่หาก   ธรรมกายก็ดี พรหมกายก็ดี ตถาคตก็ดี จักถึงได้ด้วยการภาวนา

     ภาวนาอย่างไร ภาวนาเริ่มที่เข้าใจ ชีวิต คือ อานาปานสติ เข้าถึง ชีวิต

     ในภายใน ในภายนอก ทั้งภายในและภายนอก เห็นความเสื่อมเป็นไปในภายใน เห็นความเสื่อมไปเป็นใน

    ภายนอก เห็นธรรมคือความเสื่อมไปทั้งภายในภายนอก

      วิธีเห็น ๆ อย่างไร ?

       
          ข้อความจากบรรทัดนี้ลงไปเป็นข้อความทีพระอาจารย์ ส่งมาเป็นโอวาทให้ผมหลายเดือนแล้วครับ

     เห็นว่ามีแนวทางการปฏิบัติภาวนาอยู่จึงขออนุญาตลงตรงส่วนนี้ ครับ
       


         เห็นในกายเป็นเบื้องต้น กายใคร กายของเรา

         เห็นอย่างไร เห็นว่ากายนี้ เป็นทุกข์ มีสมุทัยคือตัณหา ผู้สร้างภพ เห็นนิโรธ เป็นที่สุดแห่งการสิ้นภพ

    เห็นหนทาง อริยะมรรค มีองค์ 8 เป็นแนวทางปฏิบัติ

         เมื่อรู้ตัว ก็เห็นตัว เห็นความเกิดขึ้นในตน เห็นความตั้งอยู่ไปในตน เห็นความดับไปในตน
   
     ใจรู้เห็นตามความเป็นจริง ก็ไม่ต้องไปเรียนอะไรให้มาก ให้วุ่น ทุกข์เกิดที่ไหน ดับที่นั้น

         สลัดและจางคลาย ซึ่งตนเสีย

        เมื่อตาเห็นรูป สักว่านั่นคือรูป อารมณ์ที่กระทบเพราะผัสสะ นั้นไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่

     ตนของเรา สุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่สุขไม่ทุกข์ก็ตาม ก็เป็นเพียงแต่สักว่า นั่นไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่

     ตัวไม่ใช่ตนของเรา

        เมื่อหูฟังเสียง สักว่านั่นคือเสียง อารมณ์ที่กระทบเพราะผัสสะ นั้นไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่

     ตนของเรา สุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่สุขไม่ทุกข์ก็ตาม ก็เป็นเพียงแต่สักว่า นั่นไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่

     ตัวไม่ใช่ตนของเรา


       เมื่อจมูกกระทบกับลิ้น สักว่านั่นคือกลิ่น อารมณ์ที่กระทบเพราะผัสสะ นั้นไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัว

   ไม่ใช่ตนของเรา สุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่สุขไม่ทุกข์ก็ตาม ก็เป็นเพียงแต่สักว่า นั่นไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่

   ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา

     
        เืมื่อลิ้นกระทบกับรส สักว่านั่นคือรส อารมณ์ที่กระทบเพราะผัสสะ นั้นไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวไม่

   ใช่ตนของเรา สุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่สุขไม่ทุกข์ก็ตาม ก็เป็นเพียงแต่สักว่า นั่นไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่

   ตัวไม่ใช่ตนของเรา

       
        เมื่อกายกระทบกับสัมผัส สักว่านั่นคือการกระทบ อารมณ์ที่กระทบเพราะผัสสะ นั้นไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของ

   เรา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา สุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่สุขไม่ทุกข์ก็ตาม ก็เป็นเพียงแต่สักว่า นั่นไม่ใช่เรา
 
   ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา

        เมื่อใจกระทบกับอารมณ์ ทั้งที่เป็นอามิส และที่เป็นนิรามิศ ก็สักว่านั่นใจที่กระทบ  อารมณ์ที่กระทบเพราะ

   ผัสสะ นั้นไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา สุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่สุขไม่ทุกข์ก็ตาม ก็เป็น

   เพียงแต่สักว่า นั่นไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา

        เมื่อจิตสงบรู้เห้นตามความเป็นจริง ก็จักเห็นชัดว่า กายก็ตาม เวทนาก็ตาม จิตก็ตาม ธรรมก็ตาม ล้วน

  แล้วอันบุคคลทั้งหลาย ไม่ควรเข้าไปยึดมั่น ถือมั่น ว่านั่นเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา

   

     ดังนั้น การภาวนามีความสำคัญครับ การสนทนาแลกเปลี่ยนนั้นก็เป็นอัธยาศัยของกัลลยาณมิตรครับ

  แต่ถึงจะสนทนากันมากน้อยเพียงใด สาระอยู่ที่การภาวนา ครับ


      คำแผ่เมตตา เบื่องต้น นะครับ ( โปรดอย่ามอง เพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็น มาร เลยครับ )

      สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมด ทั้งสิ้น จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด

   อย่าได้มีเวร อย่าได้มีภัย อย่าได้ทุกข์กาย ทุกข์ใจ จงรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ทั้งสิ้นเถิด



หัวข้อ: ร่วมกันแผ่เมตตาเพื่อ สันติภายใน
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ ตุลาคม 10, 2010, 06:53:18 am
ขอบคุณ Utapati คะมาแสดงความเห็น สมกับเป็นผู้รักษาตนด้วยกรรมฐาน จริง ๆ

ร่วมแผ่เมตตา ด้วยอีกคนคะ

บทสวดแผ่เมตตา

สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น

อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพพะยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ

คาถาแผ่ส่วนกุศล

อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่มารดา บิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดา บิดาของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเทวา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ

 :25: :25: :25: :58:


หัวข้อ: Re: เรามาหยุดเรียน เรื่องโลกนี้ โลกหน้า กันดีไหม และ มาภาวนากันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ ตุลาคม 10, 2010, 10:11:25 am
อันที่จริงผมนับถือพระพุทธศาสนานั้นไม่ใช่ เพื่อมารู้จักพระเจ้า หรืออะไรทั้งสิ้น เรื่องพวกนี้ผมไม่อยากรู้

(http://i95.photobucket.com/albums/l131/chingdong_2006/43214caqfly1ajy.gif)

ที่ชี้แจงตรงนี้ เพราะต้องการให้เห็นความสำคัญการภาวนา ไม่ใช่การเรียนปริยัติมากมาย

(http://i95.photobucket.com/albums/l131/chingdong_2006/43214caqfly1ajy.gif)
     

บัญญัติ ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีจบ ถ้าพยายามแสดงเรื่องบัญญัติ ก็หาข้อยุติไม่ได้

(http://i95.photobucket.com/albums/l131/chingdong_2006/43214caqfly1ajy.gif)
     

ธรรมกายก็ดี พรหมกายก็ดี ตถาคตก็ดี ไม่ได้ถึงได้เพราะการเรียนปริยัติ

แต่หาก   ธรรมกายก็ดี พรหมกายก็ดี ตถาคตก็ดี จักถึงได้ด้วยการภาวนา

(http://i95.photobucket.com/albums/l131/chingdong_2006/43214caqfly1ajy.gif)
   

       
เมื่อจิตสงบรู้เห็นตามความเป็นจริง ก็จักเห็นชัดว่า กายก็ตาม เวทนาก็ตาม จิตก็ตาม ธรรมก็ตาม ล้วน

แล้วอันบุคคลทั้งหลาย ไม่ควรเข้าไปยึดมั่น ถือมั่น ว่านั่นเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา

(http://i95.photobucket.com/albums/l131/chingdong_2006/43214caqfly1ajy.gif)


(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcROQ2BwPsHBCLSDJ5bA6vXvi5NjzWnM3m76PudEKMbjwnDjUa0&t=1&usg=__9-wMPQyzuz6SJ89bfP4DbbvDVyY=)

     กายใจทุกข์ซ่านฟุ้ง          ศรัทธา
หลงพร่ำพระบิดา                หน่ายแท้
ใจรั้งเกี่ยวอัตตา                 ยากถก เพื่อนเฮย
หลงพร่ำอรรถความแก้       บ่ช้าฟั่นเฟือย.


                                                   ธรรมธวัช.!
(http://www.madchima.org/forum/avatars/Actors/Brad_Pitt.jpg)(http://dl9.glitter-graphics.net/pub/185/185499fkwlunybl0.gif)


(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTGTvnOok_zuQUEgk0-jBosQAcSlDrPGirEkQ1Rm0VBNdxaveA&t=1&usg=__hDCVenlt8k085M3Ea3azxvr5ED8=)


   ร่ายอรรถ   ฟุ้งธรรม   ยากแท้
ความแก้   ยึดยือ   ตัวตน
พาลพร่ำ   ศรัทธา   ยากพ้น
หลงค้น   สัทธรรม   คลำไป.


                                           ธรรมธวัช.!
(http://www.madchima.org/forum/avatars/Actors/Bruce_Willis.jpg)(http://dl9.glitter-graphics.net/pub/185/185499fkwlunybl0.gif)


(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTL8TXmsaRv0cmvmlNHi4N289DEBwbRN8kfBJR-lF3d3k71iEA&t=1&usg=__8NIzbhcjjFcPnhanJHhKMnZtHt0=)

   ปริยัติ   สัทธรรม   ไม่มี
กายนี้   ใจนี้   เป็นธัมม์
ปฏิบัติ  ปัคคหะ   ศูนย์กัมม์
ใจนี้   เป็นคัมภิ์ร   ภาวนา.


                                          ธรรมธวัช.!
 


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: tuenum ที่ ตุลาคม 10, 2010, 01:13:22 pm
ทกท่านครับ รวมทั้งคริสตศาสนกชนด้วย


1. เหตุที่พระพุทธเจ้าไม่เรียกองค์พระผู้เป็นเจ้าว่าพระเจ้า?

องค์พระผู้เป็นเจ้าคือ จิตมหาบริสุทธิ์  พระพุทธเจ้าทรงเรียกว่า พระพุทธเจ้าองค์ปฐม หรืออาทิพุทธเจ้า หรือพระธรรม สาเหตุที่พระพุทธเจ้าไม่เรียกองค์พระผู้เป็นเจ้าว่าพระเจ้า? แต่เพิ่มคำว่า "พุทธ"ไว้ตรงกลางด้วย = พระ(พุทธ)เจ้า  เพราะพระองค์ท่านรู้ว่า ไม่มีการสร้างอะไรด้วยอัตตาของจริงเลย 

ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นความว่างเปล่าที่ถูกอัดแน่น มีความเข้มข้ม ความถี่และคลื่นต่างระดับกันเท่านั้น  แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากๆ และวิทยาการทางกายภาพของเรา ก็ก้าวหน้าไปได้แค่ขึ้นหนึ่งเท่านั้น ยังไม่สามารถพิสูจน์ให้ชัดเจนได้ว่า ความจริงเป็นอย่างไร  จึงต้องใช้จิตเท่านั้น  แล้วคนที่จะมีจิตรู้ถึงขั้นนั้นอย่างน้อยต้องบรรลุอรหันต์ ผมจึงขอผ่านเรื่องนี้ไปก่อน

เอาเป็นว่า...ทุกสรรพสิ่งที่ท่านรู้เห็นรอบตัวท่าน  ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ข้าวของ เงินทอง รถยนต์ ล้วนเป็นของปลอม ที่เกิดจากจิตของพวกท่านทำบุญกุศลเอาไว้ เลยต้องมีและได้สิ่งเหล่านี้  คนที่ไม่ค่อยทำบุญกุศล  ก็ไม่ค่อยมี และไม่ค่อยได้สิ่งเหล่านี้  ความตายและคนทุกข์ยากต่างๆล้วนเกิดจากเขาเคยทำบาปหรืออกุศลเอาไว้  จิตของเขาจึงโดนหลอกหลอนให้คิดปรุงแต่งว่า มีการเสียทรัพย์ เสียแขนขา ฯลฯ ซึ่งเป็นของเขา

พูดง่ายๆ...พวกเราทั้งหมดกำลังอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ และโลกแห่งความฝันของจิตใต้สำนึกของท่าน  ซึ่งเชื่อมโยงกับจิตใต้สำนึกของคนอื่นๆ เหมือนกับระบบอินเตอร์เน็ต

สรุป

คนที่เรียกสิ่งสูงสุดว่า พระเจ้า เพราะเขาคิดว่า ทุกสรรพสิ่งเป็นของจริงของแท้  แต่คนที่รู้แล้วว่า ทุกสรรพสิ่งล้วนไม่ใช่ของจริง เป็นแค่สิ่งมายาเกิดจากกรรม จะเรียก "พระเจ้า ว่า พระพุทธเจ้า"



หัวข้อ: อย่ามั่วแปล พระนามของพระพุทธเจ้า แปลว่า พระเจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: lastman ที่ ตุลาคม 10, 2010, 01:40:17 pm
หลักการ มั่วแล้ว

   คัมภีร์ ของพุทธ
   
   อิติปิโส เพราะเหตุอย่างนี้

   ตะถาคะโต ผู้เป็นเช่นนั้นเอง

   อะระหัง  เ้ป็นผู้ไกลจากกิเลส

   สัมมาสัมพุทโธ  เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

  วิชชาจะระณะสัมปันโน  เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจะระณะ
   
   สุคะโต  เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว
   
  โลกะวิทู เป็นผู้รู้แจ้งโลก
   
  อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระุถิ เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษไม่มีใครยิ่งกว่า

  สัตถาเทวะมะนุสสานัง  เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์
 
  พุทโธ  ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
 
  ภะคะวาติ  เป็นผู้มีความจำเริญ จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์ ดังนี้

  พรหมกาโย กายแห่งพรหม

  ธัมมะกาโย   กายแห่งธรรม

  เป็นต้น ไม่มีคำไหนแปลว่า พระเจ้า

   

  ส่วนคัมภีร์ ของคริสต์

   God แปลว่าพระเจ้า

  คุณเอาคำไทย ไปมั่วให้เป็นคำเดียวกัน









หัวข้อ: Re: อย่ามั่วแปล พระนามของพระพุทธเจ้า แปลว่า พระเจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: tuenum ที่ ตุลาคม 10, 2010, 03:02:54 pm
หลักการ มั่วแล้ว

   คัมภีร์ ของพุทธ
   อิติปิโส เพราะเหตุอย่างนี้
   ตะถาคะโต ผู้เป็นเช่นนั้นเอง
   อะระหัง  เ้ป็นผู้ไกลจากกิเลส
   สัมมาสัมพุทโธ  เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
   วิชชาจะระณะสัมปันโน  เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจะระณะ
   สุคะโต  เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว
   โลกะวิทู เป็นผู้รู้แจ้งโลก
   อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระุถิ เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษไม่มีใครยิ่งกว่า
   สัตถาเทวะมะนุสสานัง  เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์
   พุทโธ  ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
   ภะคะวาติ  เป็นผู้มีความจำเริญ จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์ ดังนี้
   พรหมกาโย กายแห่งพรหม
   ธัมมะกาโย   กายแห่งธรรม


  เป็นต้น ไม่มีคำไหนแปลว่า พระเจ้า

   ส่วนคัมภีร์ ของคริสต์
   God แปลว่าพระเจ้า
   คุณเอาคำไทย ไปมั่วให้เป็นคำเดียวกัน


....................  พระพุทธเจ้าไม่เคยปฏิเสทคำสอนของศาสนาพราหมณ์เลยว่า ไม่มีพระเจ้า  และคำว่า พรหม ก็แปลว่า พระเจ้า  พระพุทธเจ้ากลับยืนยันด้วยว่า กายแห่งพรหม คือ พรหมกาย พรหมภูต ธรรมกาย ธรรมภูต  แล้วพระพุทธเจ้าก็ยืนยันว่า ท่านเป็นผู้นั้น


หัวข้อ: มั่วอีกครั้ง พระพรหม แปลก็ผิด
เริ่มหัวข้อโดย: lastman ที่ ตุลาคม 10, 2010, 03:13:31 pm
อ้างถึง
...................

ทำไมพระเมตตรัย พูดจาหยาบคายจัง


พระพรหม  ไม่ได้แปลว่า พระเจ้า เขาแปลว่า พระผู้สร้าง

มั่วอีกแล้ว

 


หัวข้อ: Re: มั่วอีกครั้ง พระพรหม แปลก็ผิด
เริ่มหัวข้อโดย: tuenum ที่ ตุลาคม 10, 2010, 03:27:53 pm
อ้างถึง
....................

ทำไมพระเมตตรัย พูดจาหยาบคายจัง


พระพรหม  ไม่ได้แปลว่า พระเจ้า เขาแปลว่า พระผู้สร้าง

มั่วอีกแล้ว


............................... โดยใช้คำพูดว่า  "พระพรหม  ไม่ได้แปลว่า พระเจ้า เขาแปลว่า พระผู้สร้าง"    เหนื่อยจริงๆกับคนพวกนี้  กวนบาทามา ก็กวนบาทากลับไป  แต่ผมให้ความรู้ไปด้วย  เมื่อเลิกกวนบาทามาหาความรู้เมื่อไร  เขาจะได้ความรู้กลับไป 

ฟรีออนไลน์พจนานุกรม [พระพรหม]

พระพรหม N. Brahma
    def:[ชื่อพระเป็นเจ้าผู้สร้างโลกตามศาสนาพราหมณ์]
 พรหม N. Brahma
    def:[ชื่อพระเป็นเจ้าผู้สร้างโลกตามศาสนาพราหมณ์, เทพในพรหมโลก จำพวกมีรูป เรียก รูปพรหม]
    syn:{พระพรหม}
    sample:[ความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์เชื่อว่าพระพรหมคือผู้สร้างโลก]
 

 ที.ปา. 11/51/91

....ควรเรียกบุคคลผู้นั้นว่าเป็นบุตร เป็นโอรส เกิดแต่โอษฐ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้เกิดจากธรรม เป็นธรรมนิรมิต (ผู้ที่ธรรมสร้าง) เป็นธรรมทายาท (ทายาทแห่งธรรม) ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะคำว่า " ธรรมกาย " ก็ดี " พรหมกาย " ก็ดี " ธรรมภูต " ก็ดี " พรหมภูต " ก็ดี เป็นชื่อของตถาคต "

คำว่า " ธรรมกาย " ก็ดี " พรหมกาย " ก็ดี " ธรรมภูต " ก็ดี " พรหมภูต " ก็ดี เป็นชื่อของตถาคต =
พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นพระพรหมสูงสุดที่เป็นผู้สร้างสิ่งทั้งปวง   พระพรหมสูงสุดที่เป็นพรหมกาย เป็นพรหมที่มนุษย์เทพพรหมทุกชั้นมองไม่เห็น จึงเรียกว่า " ธรรมภูต " หรือ " พรหมภูต "


หัวข้อ: หน้าที่คุณทำให้เกิดความเข้าใจ ก็ทำไป วิสัชนา การแปลพระนามพระพุทธเจ้าผิด
เริ่มหัวข้อโดย: lastman ที่ ตุลาคม 10, 2010, 03:56:05 pm
อ้างถึง
กวนบาทามา ก็กวนบาทากลับไป

คุณนำเสนอเรื่อง ผมเป็นผู้แย้ง มันมีโทษด้วยหรือ เพื่อแก้ความสงสัย

ถึงกับกล่าวว่า กวนบาทา กันเลยหรือครับ ( วัน ๆ หนึ่งคุณคงไมคิดในทางที่ดีบ้างหรือครับ )

เมื่อผู้ถาม ๆ ข้อสงสัย คุณให้ความรู้ก็น่าจะพอ นะครับ

เพราะคำพูดผม ไม่ได้ล่วงเกิน หรือ ไม่ได้ให้เกรียติ คุณ

อีกอย่างการที่ผมถาม คุณ ก็มีเรื่องที่จะตอบ ก็เป็นไปตามเป้าประสงค์ของกระทู้ คุณจะตอบไม่ตอบก็ได้

ผมกำลังพิจารณาคุณธรรมพื้นฐานของคุณอยู่ ผู้ที่กล่าวอ้างอวดอ้างบรรลุธรรมอย่างโน้น อย่างนี้กล่าวคนนั้น

คนนี้เป็นมาร เป็นจอมมาร

จะทำงานใหญ่ ก็ต้องเหนื่อยบ้าง ทำเพื่อคนทั้งโลก แค่นี้ก็รำคาญ ไปได้

อีกอย่างคุณตอบให้ผมทราบ คนอื่นเขาก็อ่านนะครับ เผื่อแผ่ด้วย

ที่นี้ พรหมที่คุณอ้างมานั้นเป็นแบบ พราหมณ์ ครับ ไม่ใช่ พุทธ

ใน พุทธ พรหม ก็คือคือผู้ วิหารธรรม 4 ประการ คือ

   เมตตา

   กรุณา

   มุทิตา

   อุเปกขา

  พรหม ในพุทธ หมายถึง ผู้ที่ได้ สมาบัติ 4 5 และ 8

  พรหม ในพุุทธ หมายถึง พระอนาคามี ในสุทธาวาส 5

  แต่ พรหม ทั้งหมดนั้นไม่ใช่พระเจ้า พรหม ก็คือ พรหม พรหม มีองค์เดียวหรือครับ

  ถ้าคุณปฏิบัติธรรม ในคุณธรรมทั้งหมดนั้น ก็ชื่อว่า พรหม แต่ พรหม ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ใช่ พระเจ้า

 ย้ำไม่ใช่ พระเจ้า


  พระพุทธเจ้า บรรลุเป็น พระพุทธเจ้าหลังมีพรหม อีกครับ


  ดังนั้น คุณจะแปลว่า พระพุทธเจ้า คือ พระเจ้า นั้นไม่ถูกครับ


 
พรหมกาโย ไม่ได้แปลว่า พระพรหมผู้สร้าง

  พระพุทธเจ้า ไม่ได้เป็นผู้สร้าง


หัวข้อ: Re: หน้าที่คุณทำให้เกิดความเข้าใจ ก็ทำไป วิสัชนา การแปลพระนามพระพุทธเจ้าผิด
เริ่มหัวข้อโดย: tuenum ที่ ตุลาคม 10, 2010, 05:05:59 pm
คุณlastman ครับ


 
  พรหม ในพุทธ หมายถึง ผู้ที่ได้ สมาบัติ 4 5 และ 8

  พรหม ในพุุทธ หมายถึง พระอนาคามี ในสุทธาวาส 5

  แต่ พรหม ทั้งหมดนั้นไม่ใช่พระเจ้า พรหม ก็คือ พรหม พรหม มีองค์เดียวหรือครับ

ตอบ

1. พรหม ที่เป็นพระเจ้า ในศาสนาพราหมณ์ต้องมีคุณสมบัติอะไรล่ะครับ ต้องเป็นอมตะ เที่ยง เล็เห็นทุกอย่าง(สัพพัญญู)  ด้วยเหตุนี้ พรหมผู้ที่ได้ สมาบัติ 4 5 และ 8 จึงผิดคุณสมบัตินี้  เพราะพรหมที่มีอายุยืนที่สุดคือ อรูปพรหม  แต่ก็มีอายุแค่ 84,000 มหากัปเท่านั้น ไม่ใช่อมตะ

2. พระพุทธเจ้าเรียกอรูปพรหมที่มีอายุ 84,000 มหากัปว่า "นิพพานโลกีย์" และ  "โลกียะพรหม" และเรียกพรหมที่เป็นอมตะว่า  "โลกุตตรนิพพาน" หรือ"นิพพานพรหม"  ทรงบอกวิธีการไว้ด้วยว่า ต้องดับวิญญาณก็จะเป็นพระนิพพานโลกุตระ

"ดูกรอานนท์  ผู้ที่หลงขึ้นไปอยู่ในอรูปพรหมแล้ว  แลจักได้ถึงโลกกุตตรนิพพานนั้น  ช้านานยิ่งนัก  เพราะว่าอายุของอรูปพรหมนั้นยืนนัก  จะนับว่าเท่านั้นเท่านี้มิอาจนับได้  จึงชื่อว่านิพพานโลกีย์  ต่างกันแต่มิได้ดับวิญญาณเท่านั้น  ถ้าหากดับวิญญาณก็เป็นพระนิพพานโลกุตระได้"

"ผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งจะปรารถนานิพพานพรหม  ไม่มีเลยย่อมมุ่งต่อโลกุตตรนิพพานด้วยกันทั้งนั้น  แต่ไม่รู้จักปล่อยวางวิญญาณ  จึงหลงไปเกิดเป็นอรูปพรหม  ส่วนโลกุตตรนิพพานนั้นปราศจากวิญญาณ  วิญญาณยังมีที่ใด  ความเกิดแก่เจ็บตายก็มีอยู่ในที่นั้น  โลกุตตรนิพพานปราศจากวิญญาณ  จึงไม่มีเกิด  ไม่มีแก่  ไม่มีเจ็บ  ไม่มีตาย"

3. อย่างไรก็ตาม ดับวิญญาณที่พระพุทธองค์ตรัสถึงในพระไตรปิฎก = ดับจิต(สังขาร)  ไมได้ดับจิตประภัสสรแต่อย่างใด  แต่เรื่องนีเป็นเรื่องใหญ่ ต้องแยกกระทู้อีกไปถกกันในวลาอื่น

4. ในที่นี้ เพียงแต่ต้องการจะบอกว่า พรหมพระอนาคามี ในสุทธาวาส  ก็ยังเป็น"โลกียะพรหม" อยู่  จึงไม่เป็นอมตะ  มีแต่พระอรหันต์เท่านั้นจึงจะเป็นอมตะ

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความกำจัดราคะ โทสะ ความกำจัดโมหะ นี้เป็นชื่อแห่งนิพพานธาตุ ความสิ้นราคะ ความสิ้นโทสะ ความสิ้นโมหะ นี้เรียกว่า อมตภาพ"

5. แต่พระอรหันต์ทั่วไปก็ไม่ได้เป็นสัพพัญญู มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นจึงเป็นสัพพัญญู

" ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตถาคตมีฤทธิ์ศักดานุภาพยิ่งใหญ่กว่าโลก กับเทวโลกเช่นนี้แล "


 


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: tuenum ที่ ตุลาคม 10, 2010, 05:09:36 pm
เทพเจ้าอมตะที่ชาวโลกเรียกว่า "พระเจ้า" มีหรือไม่

ปัญหา ศาสนาบางศาสนาเชื่อว่ามีเทวดาที่มีอมตะเที่ยงแท้ แน่นอน ในเรื่องนี้ พระพุทธศาสนามีทัศนะอย่างไร ?

ตอบ 

เทวดาที่มีอมตะเที่ยงแท้ แน่นอน = พระวิสุทธิเทพ หรือพระอรหันต์
อธิบาย : เทพในทางพุทธศาสนาเถรวาทมี 4 ประเภท 1.สมมุติเทพ 2. อุบัติเทพ 3. วิสุทธิเทพ 4. เทวาติเทพ
อันหมายถึง พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า 3 ประเภท

คือ

1. พระปัญญาธิกะสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น  พระศรีศากยะมุนีโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นต้น
2. พระสัทธาธิกะสัมมาสัมพุทธเจ้า
3. พระวิริยาธิกะสัมมาสัมพุทธเจ้า

เทพในขั้น 3 ที่เรียกพระวิสุทธเทพ และในขั้น 4 ที่เรียกเทวาดิเทพ = พระอรหันต์ พวกท่านล้วนเป็นอมตะ จากพุทธดำรัสที่ว่า

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความกำจัดราคะ โทสะ ความกำจัดโมหะ นี้เป็นชื่อแห่ง นิพพานธาตุ  ความสิ้นราคะ ความสิ้นโทสะ ความสิ้นโมหะ นี้เรียกว่า อมตภาพ"

ส่วน 1.สมมุติเทพ 2. อุบัติเทพ เป็นเทพที่ไม่เป็นอมตะ  แม้แต่อรูปพรหมที่มีอายุยืนที่สุดในหมู่เทพ  ก็มีอายุแค่ 84,000 มหากัป ก็ต้องจุติ(ตาย)  ในสีหสูตร ขันธ. สํ. (๑๕๕, ๑๕๖) พระพุทธองค์จึงตรัสว่า:

"แม้เทวดาทั้งหลายที่มีอายุยืน มีวรรณะมากด้วยความสุข ซึ่งดำรงอยู่ได้นานในวิมานสูง ได้สดับธรรมเทศนาของพระตถาคตแล้ว โดยมากต่างก็ถึงความกลัว ความสังเวช ความสะดุ้ง ว่าผู้เจริญทั้งหลายได้ยินว่าเราทั้งหลายเป็นผู้ไม่เที่ยง แต่เข้าใจว่าแน่นอน... ได้ยินว่า ถึงพวกเราก็เป็นผู้ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ไม่แน่นอน ติดยู่ในกายตน"

" ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตถาคตมีฤทธิ์ศักดานุภาพยิ่งใหญ่กว่าโลก กับเทวโลกเช่นนี้แล "

ด้วยเหตุนี้ พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ จึงเป็นเหล่าเทพเจ้าอมตะที่ชาวโลกเรียกว่า "พระเจ้า"  แต่ตถาคตมีฤทธิ์ศักดานุภาพยิ่งใหญ่กว่าโลก กับเทวโลกเช่นนี้แล พระพุทธองค์จึงเรียกพระพุทธเจ้าว่า "พุทธะ" และบรรดาสาวกว่า "อนุพุทธะ"

พราหมณ์ ! ท่านจงจำเราไว้ว่า เป็น "พุทธะ" ดังนี้เถิด  บาลี จตุกฺก. อํ. ๒๑/๔๙/๓๖.


หัวข้อ: Re: หน้าที่คุณทำให้เกิดความเข้าใจ ก็ทำไป วิสัชนา การแปลพระนามพระพุทธเจ้าผิด
เริ่มหัวข้อโดย: tuenum ที่ ตุลาคม 10, 2010, 05:22:07 pm


 ย้ำไม่ใช่ พระเจ้า[/b][/color][/size]

  พระพุทธเจ้า บรรลุเป็น พระพุทธเจ้าหลังมีพรหม อีกครับ


  ดังนั้น คุณจะแปลว่า พระพุทธเจ้า คือ พระเจ้า นั้นไม่ถูกครับ


 
[size=]พรหมกาโย ไม่ได้แปลว่า พระพรหมผู้สร้าง

  พระพุทธเจ้า ไม่ได้เป็นผู้สร้าง
[/size]


พระพุทธเจ้าที่เป็นกายเนื้อไม่ใช่พระพุทธเจ้าผู้สร้างคับ  แต่ธรรมกายข้างในที่เป็นพระธรรมเป็นผู้สร้างครับ  ตัวคุณเองก็มีธรรมกายหรืออายตนะนิพพาน ซึ่งเป็นผู้สร้างอยู่  แต่คุณไม่รู้  เพราะความสกปรกของจิตสังขารคุณ  ปิดบังจิตปภัสสรหรือนิพพานจิตของคุณเอาไว้

จิต+กิเลส(อวิชชา) = จิตสังขาร หรือจิตในปฏิจจสมุปบาท

ละกิเลส(อวิชชา)ได้ เหลือแค่ จิต(ปภัสสร)หรือนิพพานจิต ที่เป็นผู้สร้าง


หัวข้อ: คนที่อ่าน เขาเข้าใจดีครับ ในคำตอบคุณและคำถามผม มาต่อเลยนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: lastman ที่ ตุลาคม 10, 2010, 05:39:19 pm
ปภัสสะระ มิทธัีง ภิกขะเว จิตตัง ภาเวถะ

 ดูก่อนภิกษุ ทั้งหลาย จิตของคนเป็น ปภัสสร

อ้างถึง
จิต(ปภัสสร)หรือนิพพานจิต ที่เป็นผู้สร้าง

 กรุณาขยายความว่า ปภัสสร หน่อยครับ ว่ามีความหมายอย่างไร ที่ คุณเทียบว่าคือ นิพพาน


หัวข้อ: Re: คนที่อ่าน เขาเข้าใจดีครับ ในคำตอบคุณและคำถามผม มาต่อเลยนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tuenum ที่ ตุลาคม 11, 2010, 11:33:05 am
ปภัสสะระ มิทธัีง ภิกขะเว จิตตัง ภาเวถะ

 ดูก่อนภิกษุ ทั้งหลาย จิตของคนเป็น ปภัสสร

อ้างถึง
จิต(ปภัสสร)หรือนิพพานจิต ที่เป็นผู้สร้าง

 กรุณาขยายความว่า ปภัสสร หน่อยครับ ว่ามีความหมายอย่างไร ที่ คุณเทียบว่าคือ นิพพาน


คุณตามผมมา  ในทุกขณะ ก็ดูที่จิตของคุณขณะนั้นไปด้วย  แล้วคุณจะรู้  จิตคุณตอนนี้สกปรกเพราะกิเลสตัณหาทิฏฐิฯลฯ มันมาบดบัง แต่เดิมจิตคุณนั้นหาได้สกปรกไม่

พระพุทธเจ้าตรัสว่า “จิตนี้ประภัสสร (ผุดผ่อง ผ่องใส บริสุทธิ์) แต่เศร้าหมองเพราะอุปกิเลสที่จรมา”  

มีความหมายว่า จิตนี้โดยธรรมชาติของมันเอง มิใช่เป็นสภาวะที่แปดเปื้อนสกปรก หรือมีสิ่งเศร้าหมองเจือปนอยู่ แต่สภาพเศร้าหมองนั้นเป็นของแปลกปลอมเข้ามา ฉะนั้น การชำระจิตให้สะอาดหมดจดจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ = ก็เอาผงซักฟอกความสกปรกออกไปจากจิต ภวังค์จิตมันก็จะค่อยๆขาวบริสุทธิ์ขึ้นมาเอง 

ผงซักฟอก ในทางพุทธศาสนา คือ สมถะ(สมาธิ)+วิปัสสนา

จิตปภัสสร, จิตนี้ผุดผ่อง

อรรถว่า ปภัสฺสรํ ได้แก่ ขาวคือบริสุทธิ์. บทว่า จิตฺตํ
ได้แก่ ภวังคจิต

 จิตปภัสสร =  จิตนี้แต่เดิมเป็นจิตบริสุทธิ์ คือ ภวังคจิตมันบริสุทธิ์.  จิตนี้ชื่อว่า บริสุทธิ์ เพราะปราศจากอุปกิเลส เหตุนั้น จึงชื่อว่า ปภัสสร.

ภวังคจิต แม้จะบริสุทธิ์ตามปกติ ก็ชื่อว่าเศร้าหมองเพราะอุปกิเลสที่จรมา อันเกิดขึ้นด้วยอำนาจที่เกิดพร้อมด้วยโลภะ โทสะ และโมหะ

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความกำจัดราคะ โทสะ ความกำจัดโมหะ นี้เป็นชื่อแห่ง นิพพานธาตุ   ความสิ้นราคะ ความสิ้นโทสะ ความสิ้นโมหะ นี้เรียกว่า อมตภาพ"

สรุป

จิตปภัสสร = ภวังคจิตบริสุทธิ์ = ภวังคจิต ไม่มีโลภะ โทสะ และโมหะ = นิพพานธาตุ(จิต) นี่แหละที่ผมบอกว่า

อ้างถึง
จิต(ปภัสสร)หรือนิพพานจิต ที่เป็นผู้สร้าง

พระพุทธเจ้าจะเกิดขึ้น หรือ ไม่เกิดขึ้น ก็ตาม "ธาตุนั้นก็ตั้งอยู่แล้วนั่นเทียว" (ฐิตา ว สา ธาตุ)   ธาตุนั้นคือ "จิต"  ถ้าไม่บริสุทธิ์ = จิตสังขาร หรือจิตในปฏิจจสมุปบาท  ถ้าจิตนั้นบริสุทธิ์ เป็นปภัสสร  สิ้นราคะ สิ้นโทสะ สิ้นโมหะ  พระพุทธองค์เรียกมันในชื่อต่างๆกัน เช่น จิตหลุดพ้น จิตพ้นวิเศษ นิพพานจิต


หัวข้อ: แปลผิดอีกแล้ว จึงให้ความหมายผิด วิสัชชนา จิตประภัสสร ไม่ใช่ จิตนิพพาน
เริ่มหัวข้อโดย: lastman ที่ ตุลาคม 11, 2010, 12:04:39 pm
อ้างถึง
คุณตามผมมา  ในทุกขณะ ก็ดูที่จิตของคุณขณะนั้นไปด้วย  แล้วคุณจะรู้  จิตคุณตอนนี้สกปรกเพราะกิเลสตัณหาทิฏฐิฯลฯ มันมาบดบัง แต่เดิมจิตคุณนั้นหาได้สกปรกไม่

 เมื่อบรรยายผิด ให้ความหมายผิด ก็ต้องทักท้วง ส่วนจิตผมจะสะอาด หรือ สกปรก มันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของผม

คุณไม่ต้องมาเดือดร้อนอะไรกับผมหรอกครับ คุณมาำทำหน้าที่ตอบในสิ่งที่ผมถาม คุณไม่ตอบก็ได้ ผมยังไม่ได้

กล่าวว่าอะไรคุณสักคำ และผมก็ไม่เตือนคุณด้วย เพราะผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของปุจฉา และ วิสัสชนา

มาสนทนาธรรม เป็นเพื่อนแล้ว ก็อย่า วอแว ให้มาก ถือว่าเป็นการขัดเกลา กิเลสไปด้วยในตัวนะครับ

 
อ้างถึง
จิตปภัสสร = ภวังคจิตบริสุทธิ์ = ภวังคจิต ไม่มีโลภะ โทสะ และโมหะ = นิพพานธาตุ(จิต) นี่แหละที่ผมบอกว่า

   ปภัสสร แปลว่า ประภัสสร ไม่ได้แปลว่า จิตที่บริสุทธิ์ พระพุทธเจ้าตรัสว่าจิต เป็น ประภัสสร ไม่ใช่จิตบริสุทธิ์

   ปภัสสร มาจาก สนธิศัพท์ สอง คำ คือว่า ปภา + ภัสสะระ  =ปภัสสะระ แปลว่า จิตที่สร้านออก

   
   ปภัสสร ถ้าจะแปลต้องแปล่า ยกศัพท์ จิตตัง อันว่า จิต ปภัสสะระ สร้านออกแล้ว หรือ แปลโดยอรรถว่า

      จิต ที่สร้านออก 

   สร้านออก ด้วยอะไร   ด้วย ราคะ ด้วย โทสะ ด้วย โมหะ  ดังนั้นจิตของคนเป็น ปภัสสร อย่างนี้

  จิต ที่ประภัสสร ไม่ใช่ แปลว่า จิตที่บริสุทธิ์ หรือ จิต ที่เป็นนิพพาน


   เพราะอะไร ?

   สมมุติ เด็ก เกิดมาในวันแรก ก็ถือว่า จิต ประภัสสร แล้ว แม้ตายในขณะนั้น ถามว่า ต้อง จุติ อีกหรือ ไม่

  คำตอบก็คือ ต้องจุติ อีก เพราะยังไม่นิพพาน

  ขอให้เข้าใจ ด้วย ว่าการแสดงธรรม รู้ธรรมของคุณ ยังไม่ถูกต้อง

   ผู้บรรลุธรรม ไม่ได้มีคุณเพียงผู้เดียว


  ดังนั้นอย่าให้ความหมาย ว่า จิตประภัสสร เป็น จิตนิพพาน อีก หรือ เทียบว่า

   ปภัสสะระ จิตตัง = นิพพานัง ( แปล และ ให้ความหมาย ไม่ถูก )

  ย้ำ จิตปภัสสร  ไม่ใช่ จิตนิพพาน







   


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: tuenum ที่ ตุลาคม 11, 2010, 12:31:31 pm
คุณlastman ครับ


คุณก็แสดงความเห็นของคุณไป   ผมก็แสดงความเห็นของผม   คุณจะแปลว่า จิตปภัสสร เป็นจิต ที่สร้านออก  ก็เป็นเรื่องของคุณ  เหมือนที่คุณโมเมว่า พรหม ทั้งหมดนั้นไม่ใช่พระเจ้า  โดยไม่มีความรู้เลย  พอโดนผมแย้งก็หงายผึ่ง ขอทบทวนอีกที

1. พรหม ที่เป็นพระเจ้า ในศาสนาพราหมณ์ต้องมีคุณสมบัติอะไรล่ะครับ ต้องเป็นอมตะ เที่ยง เล็งเห็นทุกอย่าง(สัพพัญญู)  ด้วยเหตุนี้ พรหมผู้ที่ได้ สมาบัติ 4 5 และ 8 จึงผิดคุณสมบัตินี้  เพราะพรหมที่มีอายุยืนที่สุดคือ อรูปพรหม  แต่ก็มีอายุแค่ 84,000 มหากัปเท่านั้น ไม่ใช่อมตะ

2. พระพุทธเจ้าเรียกอรูปพรหมที่มีอายุ 84,000 มหากัปว่า "นิพพานโลกีย์" และ  "โลกียะพรหม" และเรียกพรหมที่เป็นอมตะว่า  "โลกุตตรนิพพาน" หรือ"นิพพานพรหม"

3.  แล้วพระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญู และเป็นอมตะ และเป็นผู้สร้าง  แต่กายเนื้อนั้นไม่ใช่พระพุทธเจ้า

" ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตถาคตมีฤทธิ์ศักดานุภาพยิ่งใหญ่กว่าโลก กับเทวโลกเช่นนี้แล "

ศาสนาอื่นเขาเรียกคนที่มีอำนาจเหนือเทวโลกว่า "พระเจ้า"

พระสูตรนี้ยิ่งชัดเจนใหญ่  เพราะแสดงว่า พระพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่เกิดจากพระธรรม พระองค์เป็นพรหม (พรหมกาย, พรหมภูต) เป็นธรรมกาย เป็นธรรมภูต

...... ควรเรียกบุคคลผู้นั้นว่าเป็นบุตร เป็นโอรส เกิดแต่โอษฐ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้เกิดจากธรรม เป็นธรรมนิรมิต (ผู้ที่ธรรมสร้าง) เป็นธรรมทายาท (ทายาทแห่งธรรม) ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะคำว่า " ธรรมกาย " ก็ดี " พรหมกาย " ก็ดี " ธรรมภูต " ก็ดี " พรหมภูต " ก็ดี เป็นชื่อของตถาคต   "
(ที.ปา. 11/51/91)


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: tcarisa ที่ ตุลาคม 11, 2010, 12:50:15 pm
ดิฉัน อ่านข้อความมาตั้งแต่ต้น อ่านแล้ว หลายรอบ กับชื่นชมในความเป็นผู้แสดงธรรม

ของคุณ Lastman มากกว่า เพราะแสดงถึงจิต ที่อนุเคราะห์ จริง ๆ ไม่มีการกระทบกระเทียบ

และสมบูรณ์ ด้วย อรรถ และ พยัญชนะ

  ส่วนข้อความของคุณ Tuenum ค่อนข้่างจะขาดหลักการ พยายามใช้คำพูดว่า

    พระพุทธเจ้า แปลว่า และ คือ และ หมายความ ว่า พระเจ้า

  พวกเราอ่านกันมา รวมถึงกลุ่มปฏิบัติธรรม เกือบร้อย ยังไม่เห็นการที่ อธิบาย ของคุณสมบูรณ์ เพียงแค่

 จะนำ พระพุทธเจ้า เป็น พระเจ้า เท่านั้น !

   จุดประสงค์ เพื่อความ ศรัทธา และ อ้อนวอน อีกอย่างพอมีคนแย้งความคิด ก็ใช้วาจา ติเตียน ยวนภาษา

ทั้งยังกล่าวว่าไม่ได้ปฏิบัติ เป็นมาร เป็นต้น ( ก็เห็นมีคุณอยู่เพียงคนเดียวที่ทำอย่างนี้ )

 
อ้างถึง
พอโดนผมแย้งก็หงายผึ่ง

  ดิฉันอ่านข้อความ แล้ว ไม่ได้คิดว่า คุณ Lastman หงายเลย เป็น คุณแหละที่หงาย

  อยาลืม พระพุทธเจ้า ทรงประกาศธรรม


    งามในเบื้องต้น   งามในท่ามกลาง  และ งามในที่สุด




อ้างถึง
คุณจะแปลว่า จิตปภัสสร เป็นจิต ที่สร้านออก  ก็เป็นเรื่องของคุณ

ดิฉัน ว่าคุณ จนกับคำตอบแล้ว เรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่บรรดา ผู้ที่แปลบาลีทุกคน ๆ เขาก็แปลกันอย่างนี้ อีกอย่างความ

หมายก็ไม่ิผิด


   เพราะอะไร เพราะหากแปลยังคุณ ว่า จิตประำภัสสร นั้นเป็นจิตที่บริสุทธิ์ คือ จิตนิพพาน

   ดังนั้นเด็ก เกิดมาวันแรก ก็มีจิต เป็นประำภัสสร ก็หมายความ เด็กเกิดมา ก็ิเป็นจิตนิพพาน

   ถ้าเป็น ดังนั้น เด็ก ก็เป็น พระอรหันต์ ก็ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก


 คนที่หงา่ย ตามความเห็นดิฉัน ไม่ใช่คุณ Lastman แต่เป็น คุณ Tuenum 


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้ง
เริ่มหัวข้อโดย: ปอง ที่ ตุลาคม 11, 2010, 12:51:27 pm
อ่านแล้ว ก็เห็นด้วย ครับ คุณ tumnum หงาย

 :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกคิด ที่ ตุลาคม 11, 2010, 12:52:54 pm
อ้างถึง
อ่านแล้ว ก็เห็นด้วย ครับ คุณ tumnum หงาย

แ่ต่ เดี๋ยวโดนกล่าวว่าเป็นพวกมาร อีก

 :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: ประสิทธิ์ ที่ ตุลาคม 11, 2010, 12:54:49 pm
คนอ่าน เขาเข้าใจ ดีครับ ว่าอะไร เป็นอะไร ?  :13:

คุณ Lastman ครับผมชื่นชม กับคำตอบและ แย้ง ของคุณจริง ๆ
 :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: ครูนภา ที่ ตุลาคม 11, 2010, 12:55:59 pm
ภาวนา เป็นเครื่องพิสูจน์ ธรรม

 :bedtime2: มอบด้วยธรรม ก็หมดและจบ

 :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดชาย ที่ ตุลาคม 11, 2010, 12:59:09 pm
เห็นด้วยว่า คุณ lastman ให้เหตุผล ชัดกว่ามาก

 :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: เจมส์บอนด์ ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:00:24 pm
สะใจ สะใจ พวกเราต้องโดนกล่าวหาว่า เป็นมารแน่เลย

แต่เหตุผล มันก็ชัดเจนจริง ๆ
 :25: :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: ประสิทธิ์ ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:02:39 pm
ผมเองเรียน บาลีมาตรง ๆ ถึง เปรียญ 5

 ขอชื่นชมกับ คุณ Lastman จริง ๆ ว่าแปลรักษาถูกตามข้อความศัพท์

  แต่ทำไม หลักการแปลก็มี อยู่อย่างนี้ มีคนกล่าวว่า อยากจะแปลอย่างนี้ ก็แปลไป ตกลง มีการบัญญัติ

  คำแปลใหม่อีก
 :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: บุญสม ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:04:43 pm
คงนึกว่า คนทุกคนโง่ กระมัง หรือ ไม่ก็เป็น มารทั้งโลก มีผู้บรรลุธรรม คนเดียวหรือในโลกนี้

อ่านแล้ว เข้าใจมากขึ้น จริง ๆ คุณ Lastman เอาใจช่วยครับ ( ถ้ามารเข้าใจธรรมได้ขนาดนี้ สุดยอด )

 :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: วรรณา ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:06:02 pm
หนู เรียน ม6 อ่านแล้ว รู้สึกได้เลยว่า การแสดงธรรมของคุณ Lastman ดีกว่ามาก ๆ เลยคะ

สาธุ สาธุ สาธุ

 :25: :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้ง
เริ่มหัวข้อโดย: เฉินหลง ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:07:44 pm
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วเห็นคนร่วมโพสต์ ซึ่ง นาน ๆ จะเห็น สักครั้ง ฉลาองครบปี

ผมเห็นด้วยกับ คุณ lastman แสดงธรรมได้ดีจริง ๆ

 :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: สาวิตรี ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:10:01 pm
สติ คือการระลึกได้

สัมปชัญญะ คือการรู้ตัว

หิริ ละอายแก่บาป

โอตตัปปะ เกรงกลัวต่อบาป

  ดังนั้น ข้าพเจ้า สนับสนุน ผู้แสดงธรรมที่ดี

   คุณ lastman ถึงจะพิมพ์ไม่มาก แต่ ข้อ อรรถ และ พยัญชนะ สมบูรณ์ จริง ๆ

 :25: :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: มานพ ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:16:42 pm
ธรรมะของแท้ ไม่ต้องกลัวครับ ผมมาสนับสนุน คุณ Lastman ครับ


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: มะยม ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:17:57 pm
สรุปได้อย่างไร ว่าคุณ Lastman หงาย ทีดิฉันอ่านมาทั้งหมด เห็นเป็นเป็น คุณ Tuenum หงาย นะนี่

อ่านมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
 :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: บุญสม ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:21:23 pm
อ่้านแล้ว ก็รู้มุมมองคุณ tuenum มาก คุณจะเพื่อชาวโลก ได้อย่างไร เมื่อข้อความที่คุณแสดง

ขาด อรรถ และ พยัญชนะ ที่ถูกต้อง คุณใช้สมมุติ ไม่ถูกกับเรื่อง พยายามทำเพื่ออะไร

และขอขอบคุณ Lastman ที่แสดงธรรม ได้ดีจริง ๆครับ


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: ลำใย ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:22:20 pm
อ้างถึง
อ่้านแล้ว ก็รู้มุมมองคุณ tuenum มาก คุณจะเพื่อชาวโลก ได้อย่างไร เมื่อข้อความที่คุณแสดง

ขาด อรรถ และ พยัญชนะ ที่ถูกต้อง คุณใช้สมมุติ ไม่ถูกกับเรื่อง พยายามทำเพื่ออะไร

และขอขอบคุณ Lastman ที่แสดงธรรม ได้ดีจริง ๆครับ

 :25: :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: เมตตา ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:24:04 pm
ทุกคนประกอบด้วย เมตตา ด้วยนะคะ

 ขอให้สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แ่ก่ เจ็บ ตาย ทั้งหมด ทั้งสิ้น จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด

  อนุโมทนากับ คุณ Lastman ด้วยคะ

 :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้ง
เริ่มหัวข้อโดย: สายฟ้า ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:25:21 pm
อ้างถึง
กายใจทุกข์ซ่านฟุ้ง          ศรัทธา
หลงพร่ำพระบิดา                หน่ายแท้
ใจรั้งเกี่ยวอัตตา                 ยากถก เพื่อนเฮย
หลงพร่ำอรรถความแก้       บ่ช้าฟั่นเฟือย.

                ธรรมธวัช.!

อนุโมทนา กับคุณ Lastman ด้วยคะ


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: มานพ ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:26:09 pm
อ้างถึง
ทุกคนประกอบด้วย เมตตา ด้วยนะคะ

 ขอให้สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แ่ก่ เจ็บ ตาย ทั้งหมด ทั้งสิ้น จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด

  อนุโมทนากับ คุณ Lastman ด้วยคะ

 :25: :25: :25: :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: จตุพร ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:27:41 pm
เป็นธรรมะ ที่ดีครับ คุณ Lastman อยากให้คุณทำหน้าที่ ต่อไปครับ

 :25: :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: หมิว ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:30:30 pm
ประเด็น ถูกต้องมากคะ ไม่ควรแปล พระนามของพระพุทธเจ้า ว่าเป็น พระเจ้า

แปลให้ถูก พระพุทธเจ้า คือ พระผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

จะบัญญัต ความหมายไปทำไป ในเมื่อ ปรมัตถ์ เป็นเรื่องในจิตใจ

ส่วนคำว่า จิตประภัสสร ไม่ใช่ จิตนิพพาน เห็นด้วยคะ

 :25: :25: :25: :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: อัจฉริยะ ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:33:33 pm
ผมตามอ่านเรื่องนี้ มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ครับ และเห็นว่า คุณ Lastman ทำหน้าที่ดีด้วยครับในการ วิสัชชนา

ซึ่งคุณ Lastman ไม่มีการใช้วาจาพูดร้ายกับ คุณ Tuenum ในขณะที่คุณ Tuenum กับใช้วาจาดูหมิ่น

หลายจุดทีเดียว

   คุณ Lastman ทำหน้าที่ต่อเถอะครับ พวกผมอ่านแล้ว ไม่เห็นว่าคุณ Lastman หงายตามที่คุณ Tuenum

กล่าวครับ

  อนุโมทนา ครับ

    :25: :25: :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: tuenum ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:34:33 pm
ทุกท่านครับ


 
โปรดจำไว้   ในโลกนี้ ไม่ว่าจะศาสนาไหนก็ตาม  คนที่เข้าถึงธรรม เข้าใจเรื่องธรรมจริงๆ  ถึงแม้เข้าใจ  แต่เมื่อคนส่วนใหญ่ล้วนมีมิจฉาทิฏฐิ  ในอดีตจึงมีการฆ่าคนที่มีสัมมาทิฏฐิทิ้ง เช่น ประชาชนรุมฆ่าคนที่รู้และบอกว่าโลกกลม  พวกโรมันตรึงกางเขนพระเยซู ที่เข้าถึงความเมตตากรุณาสูงสุดของพระเจ้า(พระพุทธเจ้า)

โชคดี!  ยุคนี้ไม่ใช่ยุคป่าเถื่อนเหมือนในอดีต  ไม่งั้นผมคงโดนรุมกระทืบตายไปแล้วจากพวกมิจฉาทิฏฐิ  สนุกต่อไปเถอะครับ  ผมมีเว็บอื่นที่รอจะรุมด่า รุมขย้ำผมอีกหลายเว็บ  จำเป็นต้องไปสังเวยตัวเองเป็นของคาวหวานให้เขา

ธรรมะของจริงไม่ฟังกัน ธรรมะของปลอม ชอบฟังเหลือเกิน  เพราะมันถูกจริตกับใจที่สกปรกของเดี๊ยน


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: รีบอร์น ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:40:06 pm
ก็ตามมาตั้งแต่ ต้นนะครับ

 เพื่อแสดงว่าผมไม่ได้มองว่า คุณ Lastman หงายตามที่คุณ tuenum กล่าวนะครับ

 เห็นเพื่อนร่วมแสดงความจริงใจ อย่างนี้จึงทราบได้ว่า ศิษย์กรรมฐาน เป็นศิษย์ที่มั่นคงในธรรม จริง ๆ ครับ

 อนุโมทนากับ คุณ Lastman ด้วยนะครับ

   อีกอย่างคุณ tuenum คุณนับถือศาสนาอะไร ครับ

    ถ้าจะมาตอบว่า ใจ ฉันเป็น สากล

   บัตรประชาชน ระบุประเทศ  ตำบล จังหวัด ที่อยู่ กรุ๊พเลือด และ ศาสนา

   ไมมี สากล นะครับ คุณใช้ประชาชนประเทศไหน

   โปรดระบุ ศาสนา ด้วยครับ


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: แมนแมน ที่ ตุลาคม 11, 2010, 01:55:08 pm
อ้างถึง
1. นี่พวกคุณเรียนพุทธศาสนาภาษาอะไรกัน

ถามทำไมครับ ? จะต่อยตีกับชาวบ้านหรือ ? นัดสถานที่กันเลยดีหรือป่าว  1 คน จะไหวหรือ ? พี่น้อง บ้านคุณ

โปรดได้หมด หรือ ยัง เขาเชื่อคุณ หรือ ป่าว ทั้งที่เป็นสิ่งที่ควรจะทำในท่ามกลาง หรือ ที่สุด

 คำตอบมันอยู่ในตัวแล้ว ครับ ก็เรียนเหมือนที่คุณเรียนนั่นแหละ

อ้างถึง
กา. ดูกรคฤหบดี ภิกษุเมื่อจะเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ ไม่ได้คิด
อย่างนี้ว่า เราจักเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธบ้าง เรากำลังเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธบ้าง
เราเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธแล้วบ้าง โดยที่ถูกก่อนแต่จะเข้า ท่านได้อบรมจิตที่
จะน้อมไปเพื่อความเป็นจิตแท้ (จิตดั้งเดิม) ฯ

  ข้อความตรงส่วนนี้ ไปเช็คภาษา บาลี ที่วงเล็บไว้ด้วย มีความหมายว่าอย่างไร

พระพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรม ตามลำดับ  กับชนกลุ่มมาก ชื่อว่า อนุปุพพิกกถา

มีเหตุผล เพื่อปรับความพร้อมของจิต

       เริ่มตั้งแต่ ทาน ศีล สัคค อาทีนว และ เนกขัมมะ

  คุณบอกระลึก ชาติ ได้ คุณจะให้ผมเชื่อ

  ส่วนผมบอกว่า ผมก็ระลึกชาติได้ คุณจะเชื่อไหม

 เรื่องอย่างนี้ เขาไม่กล่าวกันพร่ำเพรื่อ หรอกครับ อีกอย่าง

   คนที่ปฏิบัติได้ บรรลุธรรม ได้ ไม่ได้มีคุณเพียงคนเดียว

  การที่จะกล่าวว่า เราเป็นผู้มาช่วยเหลือคนทั้งโลก ก็เป็นคำกล่าว ที่เกินไป

  บรรดา พระพุทธเจ้า ทั้งหมดไม่สามารถช่วยสรรพสัตว์ได้ทั้งหมด คุณทำได้ทั้งโลก ก็เก่งเกินแล้ว


ผม เห็นคุณอธิบายเพิ่มเติม มาแล้ว ก็ยังไม่เห็นคล้อยตาม ยังเห็นตามคุณ Lastman อยู่ดี
 
 :96:




หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: พรทิพย์ ที่ ตุลาคม 11, 2010, 02:06:03 pm
อ้างถึง
ทุกท่านครับ


 
โปรดจำไว้   ในโลกนี้ ไม่ว่าจะศาสนาไหนก็ตาม  คนที่เข้าถึงธรรม เข้าใจเรื่องธรรมจริงๆ  ถึงแม้เข้าใจ  แต่เมื่อคนส่วนใหญ่ล้วนมีมิจฉาทิฏฐิ  ในอดีตจึงมีการฆ่าคนที่มีสัมมาทิฏฐิทิ้ง เช่น ประชาชนรุมฆ่าคนที่รู้และบอกว่าโลกกลม  พวกโรมันตรึงกางเขนพระเยซู ที่เข้าถึงความเมตตากรุณาสูงสุดของพระเจ้า(พระพุทธเจ้า)

โชคดี!  ยุคนี้ไม่ใช่ยุคป่าเถื่อนเหมือนในอดีต  ไม่งั้นผมคงโดนรุมกระทืบตายไปแล้วจากพวกมิจฉาทิฏฐิ  สนุกต่อไปเถอะครับ  ผมมีเว็บอื่นที่รอจะรุมด่า รุมขย้ำผมอีกหลายเว็บ  จำเป็นต้องไปสังเวยตัวเองเป็นของคาวหวานให้เขา

ธรรมะของจริงไม่ฟังกัน ธรรมะของปลอม ชอบฟังเหลือเกิน  เพราะมันถูกจริตกับใจที่สกปรกของเดี๊ยน

เมื่อเรารู้แล้ว ก็อย่าไปเลียนแบบเขาสิคะ อธิบายะรรม หลีกเลี่ยงการกระทบ เพราะการกระทบ ไม่ทำให้เกิดความเข้าใจ

แสดงธรรมเพื่อ ธรรม อันนี้ก็น่าจบ นะคะ

อีกอย่างเรื่องการบรรลุ เป็นคุณธรรม ด้านใน การเป็นพระอริยะ ไม่ได้เป็นที่กายเนื้อ

แต่ใช่ว่า พระอริยะ จะปฏิเสธ กายเนื้อนี้ก็มิได้ จะทำตามอำเภอใจ ก็มิได้

  อย่างเช่น พระอนุรุทธะ นั่งคิดอยู่ว่า วันนี้เป็นวันที่แสดงปากฏิโมกข์ เราเป็นพระอรหันต์ ไม่ต้องไปฟัง ปาฏิโมกข์

  ท่านจึงตัดสินใจไม่ไปฟังปาฏิโมกข์ พระพุทธเจ้า ทรงทราบวาระจิตของพระอรหันต์อนุรุทธะ

  จึงปรากฏกายด้วยฤทธิ์ แล้ว ตรัสสั้น ๆ ว่า

   ดูก่อนอนุรุทธะ เธอจงไปฟังปาฏิโมกข์

  ถ้าเราอ่านเข้าใจ เรื่อง สงคราม หรือ การแสดงความเห็น ชาวพุทธไม่ไร้น้ำใจกับที่คุณเียบอย่างนั้น

  มีผู้เสียสละอีกมาก ที่กำลังทำหน้าที่ อยู่

  มีผู้ที่กล่าวตนเป็น พระศรีอาริยเมตตรัย พระโพธิสัตว์เมตตรัย ในประเทศไทยมีไม่ต่ำกว่า 10 ที่ดิฉันได้ยินเจ้าตัวพูดและประกาศมา

  คุณก็เป็นหนึ่งในนั้น คุณคิดว่าจะให้เราเชื่อใคร ดังนั้น เราจึงยังไม่เชื่อคุณ เรายังเชื่อพระะรรม ที่เป็นหลักการภาวนา

   คนจึนอาจจะนิยมเรื่อง สุขาวดี อนุตระรรม ก็มีพระเมตตรัยที่ชาว อนุตระ ยอมรับอยู่ที่ไต้หวัน

  ทั้งหมดนี้เป็นการกล่าวเพียงความเชื่อ ซึ่งเราก็ยังเชื่อหลักธรรม ไม่ใช่บุคคล อีกประการหนึ่ง เราก็ยังปฏิบัติในสมมุติอยู่

  สนับสนุนคุณ Lastman
    :25: :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: tcarisa ที่ ตุลาคม 11, 2010, 02:29:33 pm
อ้างถึง
โชคดี!  ยุคนี้ไม่ใช่ยุคป่าเถื่อนเหมือนในอดีต  ไม่งั้นผมคงโดนรุมกระทืบตายไปแล้วจากพวกมิจฉาทิฏฐิ  สนุกต่อไปเถอะครับ  ผมมีเว็บอื่นที่รอจะรุมด่า รุมขย้ำผมอีกหลายเว็บ  จำเป็นต้องไปสังเวยตัวเองเป็นของคาวหวานให้เขา

ธรรมะของจริงไม่ฟังกัน ธรรมะของปลอม ชอบฟังเหลือเกิน  เพราะมันถูกจริตกับใจที่สกปรกของเดี๊ยน

ถูกจ้า ถ้าพวกเราเป็น มิจฉาทิฏฐิ คุณโดนเหยียบไปแล้ว และจะโดนด่าอย่างเสียหาย

แต่ เพราะพวกเราเป็น สัมมาทิฏฐิ คุณเลยไม่โดนเหยียบ นั่งอ่านคุณด่าคนนั้น คุณว่าคนนี้ อยู่นี่ได้

คุณจะอยู่ หรือจะ ไปที่ไหน มันก็เรื่อง ของคุณไม่ต้องบอกก็ได้

อ้างถึง
ธรรมะของจริงไม่ฟังกัน ธรรมะของปลอม ชอบฟังเหลือเกิน  เพราะมันถูกจริตกับใจที่สกปรกของเดี๊ยน

ของจริง ไม่ต้องห่วง ของปลอมทน อยู่ไม่ได้

ใจคนที่กล่าวเช่นนี้ สกปรก มีดัดจริต เดี๊ยน อีก  เพราะดูหมิ่นคนอื่นที่ไมรู้จัก ความเมตตาหายไปไหน

ใจใครที่เป็นมาร เป็นคุณ หรือ เป็นเรา ใจของเรานั้นที่ตอบได้

จงเป็นสุข เป็นสุข เถิด เพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ของฉัน

อย่าได้มีความพยาบาท เบียดเบียน ซี่งกันและกันเลย

จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้น จากทุกข์ภัย ทั้งสิ้นเถิด


 


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: ประสิทธิ์ ที่ ตุลาคม 11, 2010, 02:37:40 pm
กับมาที่ กรรมฐาน ดีกว่าเพื่อนสมาชิก ส่งออกนอกกันมาก

  กรรม ย่อมนำให้ สรรพสัตว์ เลว และ ประณีต ต่างกัน

  เรา กล่าวว่า เจตนา เป็น กรรม

  เมื่อใด จิต เธอตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริง


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: ครูนภา ที่ ตุลาคม 11, 2010, 02:41:30 pm
อ้างถึง
ธรรมะของจริงไม่ฟังกัน ธรรมะของปลอม ชอบฟังเหลือเกิน  เพราะมันถูกจริตกับใจที่สกปรกของเดี๊ยน

 เป็น ไปแล้ว .........

 :smiley_confused1:    :smiley_confused1:

ทุกคนพระอาจารย์ เมล์มาบอกว่า ให้ทบทวน

พระสูตร 2 บทในช่วงปิดเทอม

    คือ 1.ธัมมจักรกัปปวัตนสูตร
 
        2.อนัตตลักขณสูตร

         :25: :25: :25: 

       


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: sumboon ที่ ตุลาคม 11, 2010, 07:10:31 pm
อย่าเสียเวลาสีซอให้ tuenum ฟังเลย แถไปได้เรื่อยๆ



หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 11, 2010, 10:07:56 pm
มาช้าดีกว่าไม่มา ติดภารกิจบางอย่างครับ เลยเงียบไป
 :s_hi:

ห้องนี้เป็นห้องส่งจิตออกนอก ใครอยากส่งไปไหนก็เชิญตามสะดวก

ห้องนี้เอาไว้นั่งเล่นคุยกัน ส่วนเรื่องสาระนั้นต้องพิจารณาเอาเอง

ชอบหรือไม่ชอบ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็ขอให้เจริญสติเข้าไว้

ขอให้คิดว่า เวทีนี้เอาไว้ทดสอบระดับธรรมะของตัวเอง :29: :57: :72:

พระพุทธเจ้ารักพระเทวทัต เท่ากับรักตัวพระองค์เอง ฉันใด

ก็ขอให้ทุกคนพยายามรักคนที่ท่านไม่ชอบให้ได้ ฉันนั้น

 :58: :88: :49: :c017:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ ตุลาคม 11, 2010, 10:19:09 pm
คุณ nathaponson มาคมจริง ๆ

 ไม่เห็น โพสต์เสียนาน นึกว่าหลบไปนั่งกรรมฐาน กับพระอาจารย์ เพราะช่วงนี้พระอาจารย์กำลังจะนั่ง

  กรรมฐาน 7 วัน


    หรือไปมาแล้ว สนับสนุนเพื่อนสมาชิกทุกท่าน ด้วยนะคะ พระอาจารย์สั่งมาที่หมวยไว้คนเดียวกระมัง

 คือเรื่อง เมตตา

   พระพุทธเจ้ารักพระเทวทัต เท่ากับรักตัวพระองค์เอง ฉันใด

                      ก็ขอให้ทุกคนพยายามรักคนที่ท่านไม่ชอบให้ได้ ฉันนั้น


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: prachabeodee ที่ ตุลาคม 11, 2010, 10:33:26 pm
 คุณ tuenum และคุณ พลศักดิ์....ในเมื่อคุณทั้งสองเป็นพวกศาสนาสากล....ก็ควรไปเปิดเว็บไซด์ใหม่แล้วจะให้ข้อมูลอย่างไรมากมายแค่ไหนก็ไม่มีใครว่าหรือตามไปขัดขวาง......เพราะบอร์ดนี้เป็นบอร์ดที่ดำเนินตามแนวทางมัชชิมาโดยลำดับ.....ป้าจึงไม่เห็นด้วยที่จะมาแสดงความรู้ของศาสนาสากลในบอร์ดนี้....


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: tuenum ที่ ตุลาคม 12, 2010, 12:58:09 am
ทุกท่านครับ

สมแล้วที่ตั้งชื่อห้องนี้ว่าจิตส่งออก  แต่ละคนฝึกกรรมฐานไม่ได้เรื่องสักราย  ทดสอบแค่นิดหน่อยก็ไปเสียแล้ว   รู้ไหมกว่าผมจะบรรลุธรรม โดนพระโพธิสัตว์กวนอิม(นิรมาณกาย)  พระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์(สัมโภคกาย) และพระพุทธเจ้า(ธรรมกาย) ทดสอบหนักๆทั้งนั้น   กว่าจะผ่านไปได้แต่ละขั้นเลือดตาแทกกระเด็น

ขอให้โชคดีในธรรมครับ  จะได้กลับบ้านเก่า(นิพพานได้ไวๆ)

อ้าว! เด๊ยวจะแย้งมาอีก

หลวงพ่อฤาษีลิงดำเป็นคนบอกนะครับว่า "นิพพานคือกลับบ้านเก่า"

หลวงพ่อสดก็บอกว่า "ช้าเร็วเราก็ต้องเข้านิพพานกันหมด"  ก็ที่ท่านมันบ้านของเรา  ต่อให้เราตกนรกโลกันต์ สักวันหนึ่งก็ต้องขึ้นมาบรรลุธรรม


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ ตุลาคม 12, 2010, 01:16:40 am
อ้างถึง
ขอให้โชคดีในธรรมครับ  จะได้กลับบ้านเก่า(นิพพานได้ไวๆ)

ขอบคุณที่มาอวยพร คร้า ....

  :25: :25: :25: :25: :25: :58:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: tuenum ที่ ตุลาคม 12, 2010, 01:23:08 am
คุณ tuenum และคุณ พลศักดิ์....ในเมื่อคุณทั้งสองเป็นพวกศาสนาสากล....ก็ควรไปเปิดเว็บไซด์ใหม่แล้วจะให้ข้อมูลอย่างไรมากมายแค่ไหนก็ไม่มีใครว่าหรือตามไปขัดขวาง......เพราะบอร์ดนี้เป็นบอร์ดที่ดำเนินตามแนวทางมัชชิมาโดยลำดับ.....ป้าจึงไม่เห็นด้วยที่จะมาแสดงความรู้ของศาสนาสากลในบอร์ดนี้....

เชิญไปแบ่งแยกศาสนากับคนอื่นเลยครับ  คุณเหมือนกับไอ้ตี่ รุ่นน้องของผมเลย มันแบ่งแยกศาสนาที่สุด  แฟนมันขอให้มันเปลี่ยนศาสนาเป็นคริสต์  เพราะทั้งครอบครัวของฝ่ายสาวนับถือคริสตศาสนาหมด  แต่ไอ้ตี่มันเคร่งศาสนาพุทธที่สุด  หลวงพ่อหลวงปู่หลวงตาดังๆที่ไหน มันรู้จักหมด  กราบไหว้บูชาพระรัตนตรัยมาตลอดชีวิต  มันจึงไม่ยอมแต่งงานถ้ามันต้องเปลี่ยศาสนาเป็นคริสต์  ฝ่ายเจ้าสาวจึงยอม 

แต่โชคร้าย....เจ้าสาวมันตายก่อนแต่งงาน 2 วัน ตี่เป็นมะเร็งตายในอีก 2 ปีต่อมา  ครั้งแรกตี่เป็นวิญญาณอยู่ในพุทธศาสนา  จากนั้นพระบิดายะโฮวาให้เทวทูตเชิญมันไปพบ  มันตะลึงเลย  "พระบิดายะโฮวาในศาสนาคริสต์ คือ พระพุทธเจ้า"

ตี่..เกิดมานับถือพุทธ  ตี่..ตายไปก็นับถือพุทธ  แต่ตี่..ขึ้นสวรรค์ของพระคริสต์เฉยเลย  ไม่ต้องไปอยู่ในสวรรค์ในสังสารวัฏฏ์ของชาวพุทธ

สงครามศาสนาไม่ได้เกิดขึ้นจากเบื้อบนสุดตีกัน  เพราะตีกันไม่ได้ เนื่องจากเป็นองค์เดียวกัน  แต่สงครามศาสนาเกิดขึ้นจากมนุษย์ที่เห็นสิ่งสูงสุดของตนดีกว่าของอีกคน  และบังคับให้คนอื่นเปลี่ยนศาสนา



หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: tuenum ที่ ตุลาคม 12, 2010, 01:28:45 am
อ้างถึง
ขอให้โชคดีในธรรมครับ  จะได้กลับบ้านเก่า(นิพพานได้ไวๆ)

ขอบคุณที่มาอวยพร คร้า ....

 

ผมพูดไปอย่างนั้นเอง  ผมยังคงทดสอบพวกคุณอยู่  เวลาเขาพูดหวาน ก็คล้อยตาม  เวลาเขาพูดขม ก็พูดเหมือนจะเข่นฆาเขา   อารมณ์จิตมันต้องไม่คลอนไปคลอนมากับสิ่งเร้าภายนอกครับ

ใครด่าข้า  ข้าก็ไม่สน  ใครชมข้า ข้าก็ไม่สน  นี่แหละหลักการบรรลุธรรม   เพราะไม่มีใครด่าเราสักคน  มีแต่เราด่าตัวเอง  โดยเอาคำด่าเขามาคิดปรุงแต่ง


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: เท่ากับผลรวม ที่ ตุลาคม 12, 2010, 01:51:17 am
อ้างถึง
    อ้างถึง

        ขอให้โชคดีในธรรมครับ  จะได้กลับบ้านเก่า(นิพพานได้ไวๆ)


    ขอบคุณที่มาอวยพร คร้า ....

     


ผม พูดไปอย่างนั้นเอง  ผมยังคงทดสอบพวกคุณอยู่  เวลาเขาพูดหวาน ก็คล้อยตาม  เวลาเขาพูดขม ก็พูดเหมือนจะเข่นฆาเขา   อารมณ์จิตมันต้องไม่คลอนไปคลอนมากับสิ่งเร้าภายนอกครับ

ใครด่าข้า  ข้าก็ไม่สน  ใครชมข้า ข้าก็ไม่สน  นี่แหละหลักการบรรลุธรรม   เพราะไม่มีใครด่าเราสักคน  มีแต่เราด่าตัวเอง  โดยเอาคำด่าเขามาคิดปรุงแต่ง

ผมก็ว่า น้องหมวยจ้า ก็คงกล่าวไปตามธรรมเนียมนะครับ

อาจจะทดสอบอารมณ์ คุณอยู่ก็ได้ ว่าสงบหรือยัง ?

 ผมว่าคุณ ........... ได้เนียนมาก ๆๆๆๆ

 
อ้างถึง
สมแล้วที่ตั้งชื่อห้องนี้ว่าจิตส่งออก  แต่ละคนฝึกกรรมฐานไม่ได้เรื่องสักราย  ทดสอบแค่นิดหน่อยก็ไปเสียแล้ว   รู้ไหมกว่าผมจะบรรลุธรรม โดนพระโพธิสัตว์กวนอิม(นิรมาณกาย)  พระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์(สัมโภคกาย) และพระพุทธเจ้า(ธรรมกาย) ทดสอบหนักๆทั้งนั้น   กว่าจะผ่านไปได้แต่ละขั้นเลือดตาแทกกระเด็น

  เรื่องที่ผมไม่เข้าใจว่าคุณต้องกล่าว เรื่องความเป็นผู้มีฤทธิ์ติดต่อ สิ่งทิพย์ได้ ผมเป็นปุถุชน ไม่ใช่ผู้บรรลุธรรม

ไม่ได้ปฏิบัติกรรมฐาน เป็นชาวบ้านที่รักษาศีล ทำทาน ไปวัน ๆ

  ผมขอท้าคุณว่า ถ้าคุณติดต่อ อะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น วิญญาณ พญายม หรือ พระพุทธเจ้า อะไรก็ช่าง

  คุณไปถามว่า

   ตอนนี้ total เป็นใคร ชื่ออะไร นามสกุลอะไร บ้านอยู่ไหน ทำงานอะไร เกิดวันไหน เดือนอะไร ปีอะไร

 ปัจจุบันอายุเท่าไหร่


   ถ้าคุณตอบได้ ผมถึงจะยอมรับคุณว่าคุณบรรลุธรรมจริง ผ่านการทดสอบมาจริง ผมจะยอมเป็นสาวก ช่วย

 เหลือสุดความสามารถ ในการเผยแพร่ธรรม ไม่ว่าจะเป็นทุนทรัพย์ หรือ เวลางานของผม

    ผมลูกผู้ชายพอ ได้ส่งประวัติทางเมล์ ไปให้พระอาจารย์แล้ว ไม่ต้องกลัวผมพริ้ว

   ถ้าคุณทำไม่ได้ ไม่ต้องสะเออะมาว่าคนนั้น คนนี้ จะทดสอบเขาอย่างนั้น อย่างนี้ โดยส่วนตัวผมว่าในห้อง

 ส่งจิตออกนอก ศิษย์กรรมฐานตัวจริง ๆ ไม่ค่อยเข้าห้องนี้หรอก เหมือนผมเองก็ไม่ใช่ ป้าประชาบดี ก็ไม่ใ่ช่

 มาจาก ห้อง Hi5 กันเป็นส่วนใหญ่

   แน่จริง ขอท้าพิสูจน์

 


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: เท่ากับผลรวม ที่ ตุลาคม 12, 2010, 02:03:22 am
อ้างถึง
ใครด่าข้า  ข้าก็ไม่สน  ใครชมข้า ข้าก็ไม่สน  นี่แหละหลักการบรรลุธรรม   เพราะไม่มีใครด่าเราสักคน  มีแต่เราด่าตัวเอง  โดยเอาคำด่าเขามาคิดปรุงแต่ง

ประโยค........ นี้เคยได้ยินมาหลายครั้งแล้ว มันเป็นพฤติกรรมของโจร ที่บุกเข้ามาปล้นฆ่า

คนในบ้านเรา แล้วเหลือเรา แล้วมันก็พูดว่า นี่ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา

แล้วมันก็ฆ่าเรา เพราะบอกว่าถ้า ..โกรธ ...เกลียดก.... มึงไม่ใช่พระอรหันต์ นะแล้วมันก็หัวเราะเดินจากไป


   เหตุผลเพราะอะไร ครับฟังนะไอ้...........

  นักปฏิบัติทุกท่าน ๆ เป็นพระโสดาบัน ละกิเลส 3 ข้อ ก็ไม่ไ้ด้หมายความไม่มีความขัดเคืองไม่ได้

  มีความกำหนัดไม่ได้ พระโสดาบัน ยังเงื้อหมัดต่อยหน้า ไอ้........ได้

  อีกอย่างพระโสดาบันมีอยู่มาก แต่ถูกประนามเป็นมาร ก็ไอ้..........แรก

                       เป็นพระสกทาคามี ละกิเลส 3 ข้อ 4 และ 5 บางเบา ก็ยังสามารถ ไล่เตะไอ้ ได้อยู่ดี แต่คงไม่ทำแล้วละ อาจจขุ่นเคืองบ้างเล็กน้อย และดับไปโดยเร็ว
 
                       เป็นพระอนาคามี ละกิเลสได้  5 ประการถ้าเป็นพวกนี้ ส่วนใหญ่ก็จะนิ่งเฉย เพราะว่า

  ปฏิฆานุสัย และ ราคานุสัย ดับลงแล้ว ถ้าทั้งหลายเป็นผู้นิ่ง และ โต้ตอบเพียงเล็กน้อย ก็อยู่ในกลุ่มนี้

  ถ้ามันยังเรียกท่านว่ามาร ผมก็ประนาม ไอ้........... ตรงนี้ด้วย ระดับนี้แล้วเขาไม่มาจ้อเรื่องความลำบาก

  เลือดตาแทก( เขียนตามมัน )กระเด็น  ชีวิตมันลำบากอะไร กัดก้อนเกลือกินหรือ อย่าไปเชื่อเลยครับ

  ผมเองเคารพศรัทธา ในพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ฟังแล้วน่าหมั่นไส้ ผมเป็นปุถุชน ย่อมยกเว้นอยู่แล้ว

  สามารถไล่เตะ ไล่ยิง ไอ้มารนี้ได้

                        อีกอย่าง การที่มันกล่าวประนาม แก็งค์ผ้าเหลือง ทั้งหมดทำสัทธรรมปฏิรูป ทำให้คน

  หลงผิด บอกตรง ๆ ถ้ามันเป็นลูกผม ตบหัวกลิ้งเลย เพราะตัวมันนั่นแหละเป็นผู้ก่อ สัทธรรมปฏิรูป โดยอ้าง

  ว่า แหกกฏฉีกแนว แต่ทุกวันนี้ มันก็ยังอ้างธรรมะ ของแก้งค์ผ้าเหลือง ทีมันประนาม มาเป็นเครื่องมือ

  ซึ่งตามความเป็น  จริงแล้ว ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรง ปฏิบัติสมควร ยังมีอยู่มากมาย และทำงานด้วย

  ความเหน็ดเหนื่อยอยู่ ซึ่งมันกล่าวปรามาสพระสงฆ์ทั้งหมด แล้วยกหางมัน ว่ามันติดต่อ เจ้าแม่กวนอิมบ้าง พระ

  โพธิสัตว์บ้างพระพุทธเจ้า บ้าง พระยายมบ้าง การกล่าวอ้างเช่นนี้ ในทางพระสงฆ์เขาปรับอาบัติ ปาราชิก คือ

  ขาดจากความเป็นพระ แต่ถ้าเป็น ฆราวาส ถือว่า สติ ฟั่นเฟือน เพราะอะไรครับ

                      เพราะผู้ปฏิบัติ ที่บรรลุแท้ ๆ นั้น เขาไม่ทำอย่าง .......... ทำ


               อุปกิเลสที่สำคัญ ผมวิจัยให้ครับ


             1. มานะ ยังมีความสำคัญ ว่าตัวเองเลิศ ประัเสริฐศรี กว่าชาวบ้าน ดูหมิ่นทุกผู้คนเป็นมาร

             2. สาเถยยะ โอ้อวด สรรพคุณ ต่าง ๆ นานา ประการ

             3. มายา  หลอกลวง หวังผล หลายอย่าง โดยเฉพาะการทำสัทธรรมปฏิรูป ศาสนาสากล

             4. อิสสา  ริษยา ไม่อนุโมทนา กับบุญกุศลที่คนอื่นทำ เที่ยวบอกว่า บุญของแกใช้ไม่ได้

      ต้องของฉันนี้ใช้ได้

             ไม่ต้องกล่าวทั้ง 16 ตัว

             ยังมี วิปัสสนูกิเลส อีกแต่ไม่ต้องกล่าว ก็แล้วกัน
             

        มันจะเรียกผมว่า มาร หรือ พญามาร ก็ชั่งหัวมันเถอะ ผมมั่นใจในบุญกุศลของผม ๆ แค่มีศีล 5

แต่ ไม่ตะลบ ตะแลง ........ เหมือน............

                 

เรากำลังถูกมาร ตัวใหญ่ หรอก ในฐานะคนนอก ผมอ่านแล้ว พิจารณาเห็นความต้องการของ คนที่ยกตนเองว่า

บรรลุธรรม นั้น ต้องการให้ท่านทั้งหลาย อย่ามีปฏิกิริยาใด ๆ ในการโพสต์ของเขา เพื่อที่เขาจะได้ใช้เนื้อที่ในห้อง

โพสต์ แล้วก็บอกที่อื่นต่อว่า พวกท่านทั้งหลายเป็นมาร ที่ถูกสยบแล้ว

 จุดประสงค์ เพียงเพื่อต้องการโพสต์ ความคิดเห็นของตนเอง โดยกล่าวอ้าง พระพุทธเจ้า บ้าง ในแนวหลัก

ศาสนาสากล ผมอยู่ห้อง Hi5 พระพุทธศาสนา ทราบดีว่ามีคนแบบนี้อยู่มากมายจริง ๆ


    คนที่กล่าวว่าตนเองเป็นผู้บรรลุธรรม และ มีพฤติกรรมแบบนี้ มีเป็นร้อย

    คนที่กล่าวว่าตนเองเป็นพระโพธิสัตว์ ก็เป็นร้อยอีก

    คนที่กล่าวว่าตนเองเป็นพระศรีอริยเมตตรัย ก็เป็นร้อยอีกเหมือนกัน

    พวกท่านสามารถ เข้าไปอ่านในบอร์ด พระพุทธศาสนา ใน Hi5 ครับ

   เพราะที่นั่น ศาสนาสากล ยิ่ง กว่านี้อีก ......ครับ

    ( ไม่ได้มาชวนนะครับ )

    ถ้าสิ่งที่ผม ท้าไปนั้น แล้ว ยังทำไม่ได้ อย่างที่ตัวเขา อ้าง

   เพื่อความสงบ ก็คิดว่า สงเคราะห์คนบ้า นะครับ ให้มีที่ระบาย บ้าง และดัดนิสัยสันดานเขาไปเรื่อย ๆ

   เขาทดสอบเรา เราก็ทดสอบเขา

   ไม่ต้องทุกข์ร้อน หรอกครับ เพราะพวกคุณ รวมทังผม ก็บอกแล้วว่าเป็นปุถุชน ทำผิดได้ ถูกได้ ไม่ใช่เพราะ

  อรหันต์ ที่ต้องทำกุศลฝ่ายเดียว

   ส่วนคุณ PHONESAK เป็นผู้บรรลุธรรม ( ผมยังไม่รับรอง หากยังไม่ทำตามคำท้า )

   เวลาเขาว่าพวกคุณนั้น แล้วพวกคุณว่ากลับไปนั้น เวลาเขาตอบมาว่าฉันไม่ได้สังขาร ไม่ได้ปรุงแต่ง

   อมพระมาพูดยังไม่เชื่อเลย เพราะว่า มันโต้กลับด้วยวาจาที่หยาบคาย เหยียดหยาม ดูหมิ่น ทุกครั้ง

   เพราะอะไร เพราะใจมันไม่บริสุทธิ์จริง ๆ



  วิจารณ์ ต่ออีกเรื่อง นะครับ การที่มันบอกว่า ตนเอง ทำเพื่อพระพุทธศาสนาในอีก 7650 ปีข้างหน้านั้น

 ยิ่งเหลวไหลใหญ่ เพราะอะไรครับ

     ในจักรวัตติสูตร ได้มีพระดำรัสของพระพุทธเจ้า อย่างชัดเจนว่า

       หลังจาก ตถาคต ปรินิพพานแล้ว ได้ 1000 ปี จักมีผู้ปฏิบัติธรรมได้สูงสุด เป็น พระอรหันต์สุกขวิปัสสก

       หลังจาก ตถาคต ปรินิพพานแล้ว ได้ 2000 ปี จักมีผู้ปฏิบัติธรรมได้สูสุด เป็น พระอนาคามี

       หลังจาก ตถาคต ปรินิพพานแล้ว ได้ 3000 ปี จักมีผู้ปฏิบัติธรรมได้สูงสุด เป็น สกิทาคามี

       หลังจาก ตถาคต ปรินิพพานแล้ว ได้ 4000 ปี จักมีผู้ปฏิบัติธรรมได้สูงสุด เป็น พระโสดาบัน

       หลังจาก ตถาคต ปรินิพพานแล้ว ได้ 5000 ปี พระพุทธศาสนาของตถาคตจักหมด

     ซึ่งพิจารณาตามจริง แล้ว ด้วยสัพพัญญู ของพระพุทธเจ้า ก็เท่ากับบอกพวกเรานัย ๆ แล้วครับว่า

     คนในยุคต่อ ๆ ไปนั้นจะไม่มี อุคติตัญญู วิปจิตัญญู และ เวไนยะ คงเหลือ แต่ ปทปรมะ

     ซึ่ง มันเป็นไปไม่ได้ที่พระดำรัสของพระพุทธเจ้า จะผิดเพี้ยน

     
     พวกเราควรเชื่อ พระสัพพัญญุตญาณ ของ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันก่อน


     ดังนั้น การที่จะมาสร้างธรรมเพื่อดำรงศาสนานั้น ก็คือ ศาสนาสากล นี่แหละที่จะทำลายศาสนาพุทธ

   ในยุคนี้ เป็น ยุคของพระอนาคามี และ พระสกทาคามี

     แต่มีความเป็นไปได้ ที่จะมีพระอรหันต์บ้าง ซึ่งเป็นส่วนน้อย

     ส่วนการมาอุบัติของ พระพุทธเจ้าพระธรรมิกราชานั้น ( พระศรีอาริยเมตตรัย )นั้น อีกนานมาก

     ต้องรอวิวัฒนาการของมนุษย์ให้มีอายุเหลือ เพียง 10 ปี แล้ว พัฒนาขึ้นเป็น หมื่น ๆ ปี

     พระพุทธเจ้าองค์ที่ 5 จึงจะมาอุบัติ

     เนื้อเรื่องนี้ผมลอง find กระทู้ในที่นี้ ก็มีครับ

    http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=723.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=723.0)


    ถ้าท่านเชื่อเรื่องที่พวกมัน กุ นี้ ก็เท่า กับ ไม่เชื่อใน พระสัพพัญญู ของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ที่พระองค์ตรัสทำนายไว้









หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: เท่ากับผลรวม ที่ ตุลาคม 12, 2010, 07:04:07 am
อ้างถึง
สงครามศาสนาไม่ได้เกิดขึ้นจากเบื้อบนสุดตีกัน  เพราะตีกันไม่ได้ เนื่องจากเป็นองค์เดียวกัน  แต่สงครามศาสนาเกิดขึ้นจากมนุษย์ที่เห็นสิ่งสูงสุดของตนดีกว่าของอีกคน  และบังคับให้คนอื่นเปลี่ยนศาสนา

   ศาสนาพุทธเขา ก็อยู่เฉย ๆ เหมารวมไปได้ว่าชาวพุทธ ก่อสงครามศาสนา ชาวพุทธ

ไม่ก่อสงครามศาสนามีแต่หลีก เลี่ยง ไอที่ก่อ มันศาสนาอื่น ๆ โว๊ย


  อีกอย่าง ถึงจะมีศาสนา แตกต่างกัน แต่ทุกศาสนานั้น ไม่ได้สอนให้ทำสงคราม

  มาตรฐาน ของทุกศาสนานั้น คือสอนให้คนละชั่ว ทำดี ตรงนี้เหมือนกันหมด




 

:96:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: sumboon ที่ ตุลาคม 12, 2010, 08:17:27 am
รู้ไหมกว่าผมจะบรรลุธรรม โดนพระโพธิสัตว์กวนอิม(นิรมาณกาย)  พระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์(สัมโภคกาย) และพระพุทธเจ้า(ธรรมกาย) ทดสอบหนักๆทั้งนั้น   กว่าจะผ่านไปได้แต่ละขั้นเลือดตาแทกกระเด็น

ตื่นเช้ามาเจอข้อความข้างบน โหขำกลิ้งเลยอะ

พักผ่อนมากๆ กินยาตามที่หมอสั่ง

**อย่าลืม**ไปพบแพทย์ตามนัด



หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: ประสิทธิ์ ที่ ตุลาคม 12, 2010, 12:24:16 pm
คุณ total คนนอกอาสามาปราบมาร ก็ขอ อนุโมทนา ด้วยครับ

 :25: :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 12, 2010, 07:20:13 pm
ทุกท่านครับ ผมในฐานะผู้ดูแลเว็บนี้ ขอใช้สิทธิ์ ลบคำไม่สุภาพออกไป

และขอวิงวอนทุกท่าน โปรดใช้คำสุภาพในการโพสต์

การแสดงความเห็นต่างๆตามที่ท่านเชื่อ ในห้องส่งจิตออกนอกนี้ ไม่มีนโยบายปิดกั้น

แต่ขอให้เคารพความคิดเห็นของคนอื่นๆด้วย อย่าได้ใช้คำหยาบตอบโต้


ความเห็นของทุกท่าน ไม่ใช่คำพิพากษาของศาสฎีกา ที่่โต้แย้งไม่ได้

แต่ก็ขอให้ชี้แจ้งด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการทำร้ายจิตใจของผู้อื่น



หากพบเห็นคำหยาบ กรุณาโทรแจ้งผมได้ทันที ที่ 089-823-6122

หรือที่ nathaponson@gmail.com

ขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกท่าน

 :49: :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: patra ที่ ตุลาคม 12, 2010, 08:31:40 pm
เนื่องด้วยตอนนี้ ได้มีผู้ก่อกวน ในรูปแบบใหม่  ๆ เรื่อย ๆ

มีการกล่าวทำร้ายจิตใจ ของผู้อ่าน ซึ่งมีระดับการภาวนา ไม่ได้เสมอกันทุกคน

เนื่องด้วยเว็บนี้มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 เข้าอ่านด้วย มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 100 คน

จึงขอเตือนท่านทั้งหลาย ว่าโปรดอย่าใช้วาจากระทบกระเีทียบ หรือ กล่าวหา ว่าร้าย กันอีก

ขณะนี้ทางทีมงานได้รับเมล์ร้องเรียนเข้ามา 475 ฉบับ เกี่ยวกับเรื่องการโพสต์ของคุณ

 tuenum phonsak phonsak1 survival เป็นส่วนใหญ่

 ทางทีมงานเว็บ มัชฌิมา แบบลำดับไม่ได้นิ่งเฉย ได้ติดตามกระทู้ที่ระบุมาทั้งหมดแล้ว

 จึงเรียนท่านสมาชิก ทุกท่าน โปรดกล่าวธรรม ในส่วนธรรม ไม่ให้ใช้วาจากล่าวร้าย ว่าร้าย และ

 หมิ่นคณะสงฆ์อีกต่อไป

 และห้ามโพสต์ เรื่องอันเกี่ยวกับศาสนาอื่น หรือ อ้างอิง พาดพิง ไปศาสนาอื่น ๆ ที่มิใช่ พุทธศาสนา

 จึงเรียนมาเพื่อทราบ
 


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ ตุลาคม 12, 2010, 09:35:08 pm
ตามที่ โยม สมาชิกนาม total ได้ส่งเมล์ประวัติตนเองมาให้พระอาจารย์ เพื่อการพิสูจน์คุณธรรม

 คุณโยมพลศักดิ์ 

   ขอยืนยันว่าได้รับเมล์ นั้นแล้ว

 อยู่ที่พวกโยมตัดสินใจกัน นะจ๊ะ

 เจริญพร

 ;)


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: tuenum ที่ ตุลาคม 12, 2010, 11:30:58 pm
อ้อ! เขาพิสูจน์คุณธรรมกันด้วยกระดาษแล้วหรือ  อย่างนั้นประวัติผมโดนเว็บศาสนาทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม ไล่ออกมาเพียบ จากการใส่ร้ายป้ายสีของทีมงานผู้ดูแลเว็บ   ผมก็ต้องโคตรเลวเลยน่ะซิ

ผมจะบอกหลวงพี่นะ  ตอนที่ผมอยู่เว็บพันทิพย์  มีคนหนึ่งท้าผมเหมือนนายtotal เลย  บอกว่าจะเลิกตอแยกับผม ถ้าผมบอกได้ว่าเขาเป็นใคร  พอผมบอกว่าเขาชื่อ วรพจน์ เป็นเว็บมาสเตอร์ของเว็บพันทิพย์  ชื่อของเขาในเว็บนี้ ผมบอกหมด รวม 10 กว่าชื่อ  และเขาเป็นคนที่เข้าไปกวนกระทู้ของชาวคริสต์ และอิสลามในเว็บมราตัวเองดูแล  ยุทางนั้นที ยุทางนี้ที เพื่อไม่ให้คนเข้าใจศาสนาอย่างถูกต้อง  ผมคิดว่าเขาโดนมารตัวใหญ่สิงอยู่ เพื่อทำการนี้

ผลเป็นอย่างไรรู้ไหมครับ  เขาไม่ตอบโต้เลย  รีบลบคำตอบของผมทิ้งไปทันที  คงกลัวว่าคนในศาสนาคริสต์ และอิสลาม จะรุมยำตีนเขาล่ะมั้ง  เพราะผมแฉเข้าไปถึงความลับที่เป็นความชั่วที่เขาก่อในเว็บที่ตัวเองดูแล

ตั้งแต่นั้นมา  เขากันผมไม่ให้เข้าเว็บพันทิพย์ทุกรูปแบบ  รวมทั้งตั้งกฎใหม่ๆบ้าๆบอๆด้วย  ผมไม่หลงกลนาtotalหรอกครับ  ถ้าผมบอกไปว่าในเว็บHi5 เขามีชื่อทำนองผู้พิทักษ์อะไรสักอย่าง  ผมไม่อยากค้น  เพราะสมาชิกในเว็บนั้นมันเยอะมาก  ผมไม่อยากไปเสียเวลากับสิ่งไร้สาระแบบนี้

การค้นประวัตินายtotalนี่ไม่ยาก  ดูวิธีการเขียนของเขาทีเดียวก็รู้แล้ว  เขาพูดแบบแยกเป็นช่วงๆ  แต่มาลากยาวในช่วงท้าย เช่น "อิสสา  ริษยา ไม่อนุโมทนา กับบุญกุศลที่คนอื่นทำ"  "ศาสนาพุทธเขา ก็อยู่เฉย ๆ เหมารวมไปได้ว่าชาวพุทธ ก่อสงครามศาสนา ชาวพุทธ"

อีกอย่าง นายsumboonนั้นก็คือนายล่อจี้ สมัยที่อยู่เว็บเมเนเจอร์ ตอนนั้นร่วมกับนายเสี่ยวอีสานยำเว็บที่ตนเองคุม จนคนไม่อยากเว็บศาสนาเว็บนี้

ตอนหลังนายเสี่ยวอีสานก็ไปเป็นทีมงานในเว็บพลังจิต ใช้ชื่อหลายชื่อ ขี้เกียจคิด  เมื่อจิตบริสุทธิ์แล้วมันอ่านข้อเขียน แล้วค้นคว้านิดหน่อย ก็สามารถรู้ได้แล้วครับ  เพราะฉะนั้นอย่ามาท้าผมเลย  ผมพ้นแล้วจากเรื่องเอาชนะคำท้าบ้าๆบอๆนี่



หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: เท่ากับผลรวม ที่ ตุลาคม 12, 2010, 11:58:16 pm
อ้างถึง
ตามที่ โยม สมาชิกนาม total ได้ส่งเมล์ประวัติตนเองมาให้พระอาจารย์ เพื่อการพิสูจน์คุณธรรม

 คุณโยมพลศักดิ์

   ขอยืนยันว่าได้รับเมล์ นั้นแล้ว

 อยู่ที่พวกโยมตัดสินใจกัน นะจ๊ะ

 เจริญพร

 ;)


กราบนมัสการพระอาจารย์ พระอาจารย์ที่ยอมมาตอบรับเรื่องเมล์ของผม



หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: เท่ากับผลรวม ที่ ตุลาคม 13, 2010, 12:00:55 am
อ้างถึง
ประโยค........ นี้เคยได้ยินมาหลายครั้งแล้ว มันเป็นพฤติกรรมของโจร ที่บุกเข้ามาปล้นฆ่า

คนในบ้านเรา แล้วเหลือเรา แล้วมันก็พูดว่า นี่ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา

แล้วมันก็ฆ่าเรา เพราะบอกว่าถ้า ..โกรธ ...เกลียดก.... มึงไม่ใช่พระอรหันต์ นะแล้วมันก็หัวเราะเดินจากไป


   เหตุผลเพราะอะไร ครับฟังนะไอ้...........

  นักปฏิบัติทุกท่าน ๆ เป็นพระโสดาบัน ละกิเลส 3 ข้อ ก็ไม่ไ้ด้หมายความไม่มีความขัดเคืองไม่ได้

  มีความกำหนัดไม่ได้ พระโสดาบัน ยังเงื้อหมัดต่อยหน้า ไอ้........ได้

  อีกอย่างพระโสดาบันมีอยู่มาก แต่ถูกประนามเป็นมาร ก็ไอ้..........แรก

่ขอโทษผู้ดูแลทุกท่าน ผมได้อ่านสิ่งที่ผมโพสต์ลงไปแล้ว เห็นว่ามีข้อความเปลี่ยนแปลงด้วย

น่าจะเกิดจากผู้ดูแลระบบ ดำเนินการตัดคำของผมออก จึงเหลือแต่จุด........

ทำให้ข้อความไม่หนักแน่น

 


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: เท่ากับผลรวม ที่ ตุลาคม 13, 2010, 12:09:06 am
อ้างถึง
ผมพ้นแล้วจากเรื่องเอาชนะคำท้าบ้าๆบอๆนี่


มัน ไม่ใช่ คำตอบ นะคุณ tuenum phonsak phonesak1

 มีแต่อวดอ้าง ชักแม่น้ำทั้ง 5









หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: sumboon ที่ ตุลาคม 13, 2010, 12:23:36 am

อีกอย่าง นายsumboonนั้นก็คือนายล่อจี้ สมัยที่อยู่เว็บเมเนเจอร์ ตอนนั้นร่วมกับนายเสี่ยวอีสานยำเว็บที่ตนเองคุม จนคนไม่อยากเว็บศาสนาเว็บนี้

ตอนหลังนายเสี่ยวอีสานก็ไปเป็นทีมงานในเว็บพลังจิต ใช้ชื่อหลายชื่อ ขี้เกียจคิด  เมื่อจิตบริสุทธิ์แล้วมันอ่านข้อเขียน แล้วค้นคว้านิดหน่อย ก็สามารถรู้ได้แล้วครับ  เพราะฉะนั้นอย่ามาท้าผมเลย  ผมพ้นแล้วจากเรื่องเอาชนะคำท้าบ้าๆบอๆนี่

มันมั่วได้สุดยอดจริงๆ

ปกติเข้ามาอ่านอย่างเดียว แต่จิตใจมีธรรมพอ เพราะมีครูอาจารย์ เป็นกรรมฐานของสังฆราชสุก เหมือนกัน
ที่ต้องตามราวี เพราะเห็นว่ามีความคิดวิปริต ฟั่นเฟือน เป็นอันตรายต่อชาวพุทธ คนแบบนี้อย่าเสียเวลาเอาข้อธรรมะมาเถียงเลย สีซอให้ฟังยังไม่แน่ใจว่าจะรู้เรื่องหรือปล่าว


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: เท่ากับผลรวม ที่ ตุลาคม 13, 2010, 12:34:10 am
อ้างถึง
เพราะเห็นว่ามีความคิดวิปริต ฟั่นเฟือน เป็นอันตรายต่อชาวพุทธ คนแบบนี้อย่าเสียเวลาเอาข้อธรรมะมาเถียงเลย

ผมเห็นด้วยครับ จึงมาร่วมกำหราบมาร ด้วย

 :25: :25:


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: เท่ากับผลรวม ที่ ตุลาคม 13, 2010, 12:35:56 am
อ้างถึง
ความเห็นของทุกท่าน ไม่ใช่คำพิพากษาของศาสฎีกา ที่่โต้แย้งไม่ได้

แต่ก็ขอให้ชี้แจ้งด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการทำร้ายจิตใจของผู้อื่น


หากพบเห็นคำหยาบ กรุณาโทรแจ้งผมได้ทันที ที่ 089-823-6122

หรือที่ nathaponson@gmail.com

ขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกท่าน

รับทราบ และ ยินยอมปฏิบัติตามกฏครับ


หัวข้อ: Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง
เริ่มหัวข้อโดย: ธรรมะ ปุจฉา ที่ ตุลาคม 13, 2010, 10:07:55 pm
ไม่เข้าใจ ว่ารู้แล้วได้อะไร  จะไปสร้างโลกหร๋อ งง?
แล้วทำอะไรได้