ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ฆราวาสผู้สำเร็จอรหันต์ หากไม่บวช.."จะปรินิพพานภายในกี่วัน"..?  (อ่าน 6100 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ฆราวาสผู้สำเร็จเป็นพระอรหันต์

ท่านทั้งหลายคงเคยได้ยินว่า ผู้ที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ถ้าเป็นฆราวาสที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์จะต้องบวชภายใน ๗ วัน หรือปรินิพานภายใน ๗ วัน ก็พูดกันมานานแล้ว
     ท่านทั้งหลายคงเคยได้ยิน ตามหลักฐานในบาลีชั้นอรรถกถา จะเป็นในวันนั้นทั้งนั้น...? 
     คือ ผู้สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว นิพพานหรือบวชอย่างใดอย่างหนึ่งในวันนั้น


ถ้าเป็นพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี ก็อยู่ได้ในเพศคฤหัสถ์ได้ตลอดชีวิตขงตนเท่าชีวิตของตน แต่ถ้าเป็นพระขีณาสพ เป็นพระอรหันต์แล้ว บรรลุอรหันตผลแล้ว จะต้องนิพพานหรือบวชในวันนั้น
     ท่านใช้คำว่า ตํ ทิวสเมว ปพฺพชิตวา ปรินิพฺพาติวา 
     บางแห่งก็ใช้คำว่า ปรินิพฺพายิตพฺพํ วา ปพฺพชิตพพํ วา โหติ คือ พึงปรินิพพานหรือบวชในวันนั้น 
     ตํ  ทิวสเมว ไม่ใช่ ๗ วัน


แต่ได้ยินได้ฟังมานานแล้วว่าจะต้องหรือนิพพานภายใน ๗ วัน พูดกันมาแต่ไม่มีหลักฐานที่อ้างอิง ไม่เคยพบหลักฐานที่ว่า ๗ วัน  แต่ได้พบหลักฐานที่ว่าต้องบวชหรือปรินิพพานในวันนั้น เพราะฉะนั้นนี่ก็เป็นสิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจกันใหม่เพื่อความถูกต้อง





เรื่องแปลกอยู่อันหนึ่ง พระพาหิยะสำเร็จเป็นพระอรหันต์ตั้งแต่ยังเป็นคฤหัสถ์ เมื่อได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้าเพียงเล็กน้อย ก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ขอบวช ไปหาบริขารที่จะมาบวช ปรากฏว่าถูกโคขวิดเสียชีวิต ก็ปรินิพพาน
     พระพุทธเจ้าท่านตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า
     สพรหมฺจารี โว ภิกฺขเว กาลกโต  ภิกษุทั้งหลายเพื่อนพรหมจรรย์ของเธอทำกาลแล้ว
     ใช้คำว่า เพื่อนพรหมจรรย์ของเธอ สพรหมจารี ซึ่งโดยปกติใช้กับพระด้วยกัน
 

     แต่สำหรับท่านพาหิยะเมื่อบรรลุเป็นพระอรหันต์ แม้ยังไม่ได้บวช เป็นฆราวาสอยู่ 
     พระพุทธเจ้าทรงเรียกว่า...สพรหมฺจารี โว ภิกฺขเว กาลกโต เพื่อนพรหมจรรย์ของเธอสิ้นชีวิตแล้ว
     และรับสั่งให้นำกระดูกไปบรรจุไว้ เป็นที่สักการบูชา
 

    แล้วยังมาเป็นพระอสีติมหาสาวกที่เป็นเอตทัคคะ เป็นผู้ตรัสรู้เร็ว
    อยู่ในกลุ่มพระไม่อยู่ในกลุ่มของฆราวาส ทั้งที่ยังไม่ได้บวช เพราะสิ้นชีวิตเสียก่อนที่จะบวช
    เรื่องนี้เป็นเรื่องแปลกที่ยกขึ้นมาเพื่อให้ท่านทั้งหลายได้พิจารณาดูว่าเป็นอย่างไร
    ถ้าพิจารณาตามนี้ พระพุทธเจ้าท่านเล็งเอาคุณสมบัติของบุคคล





     มีอีกท่านหนึ่ง คือ ท่านสันตติมหาอำมาตย์ ท่านสำเร็จเป็นพระอรหันต์ตั้งแต่เป็นฆราวาส
     ภิกษุทั้งหลายก็ทูลถามถึงเรื่องเหล่านี้ 
     พระพุทธเจ้าตรัสว่า จะเรียกว่าบรรพชิตก็ได้ จะเรียกว่าสมณะก็ได้ จะเรียกว่าภิกษุก็ได้ 
     หมายถึง สันตติมหาอำมาตย์ก็ไม่ได้บวชเหมือนกัน  ขอยกขึ้นมาเพื่อเป็นการพิจารณา และต้องการให้ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง
     เรื่องปรินิพพาน คือ บวชภายในวันนั้น ไม่ใช่ภายใน ๗ วัน สำหรับผู้ที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว


    มีหลายคนที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์ตั้งแต่ยังเป็นฆราวาส พระเจ้าสุทโทธนะพระพุทธบิดา ก็สำเร็จเป็นผู้หนึ่งเหมือนกันที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์ตอนเป็นฆราวาส...


อ้างอิง
ข้อมูลจาก  :  "สิ่งที่ควรทำความเข้าใจกันใหม่ เพื่อความถูกต้อง"  โดย  วศิน  อินทสระ
ที่มา  :  http://www.gotoknow.org/posts/215989
ขอบคุณภาพจาก  :  http://www.ssn.ac.th/,http://3.bp.blogspot.com/,http://www.dmc.tv/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


อรรถกถา มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ ปริพพาชกวรรค
จูฬวัจฉโคตตสูตร เรื่องปริพาชกวัจฉโคตร

อรรถกถาปริพพาชกวรรค
๑. อรรถกถาเตวิชชวัจฉสูตร

(ยกมาแสดงบางส่วน)
   
     ดูก่อนวัจฉะ ไม่มีเลย คือผู้ยังไม่ละคิหิสังโยชน์ ชื่อว่าจะทำที่สุดทุกข์ย่อมไม่มี.
     แม้บุคคลเหล่าใดดำรงเพศคฤหัสถ์ คือ สันตติมหาอำมาตย์ อุคคเสนะเศรษฐีบุตร วีตโสกธารกะ ก็บรรลุพระอรหัตได้.
     แม้บุคคลเหล่านั้นก็ยังความใคร่ในสังขารทั้งปวงให้แห้งไปด้วยมรรคแล้วบรรลุได้ แต่เมื่อบรรลุแล้วก็ไม่ตั้งอยู่ด้วยเพศนั้น.


     ชื่อว่าเพศคฤหัสถ์นี้เลว ไม่สามารถทรงคุณอันสูงสุดไว้ได้.
     เพราะฉะนั้น ผู้ตั้งอยู่ในเพศคฤหัสถ์นั้นบรรลุพระอรหัตแล้วย่อมบวช หรือปรินิพพานในวันนั้นเอง
.
     แต่ภุมมเทวดายังดำรงอยู่ได้. เพราะเหตุไร. เพราะมีโอกาสที่จะแฝงตัวอยู่ได้.



     ในกามภพที่เหลือ พระอริยบุคคล ๓ จำพวกมีพระโสดาบันเป็นต้น ยังดำรงอยู่ได้ในมนุษยโลก.
     ในกามาวจรเทวโลก พระโสดาบันและพระสกทาคามียังดำรงอยู่ได้.
     แต่พระอนาคามี และพระขีณาสพจะดำรงอยู่ในกามาวจรเทวโลกนี้ไม่ได้.
     เพราะเหตุไร. เพราะที่นั้นมิใช่เป็นที่อยู่ของชนผู้ละอายแล้ว และที่นั้นมิใช่เป็นที่ปกปิดที่สมควรแก่วิเวกของพระขีณาสพเหล่านั้น.


     ด้วยประการฉะนี้ พระขีณาสพจึงปรินิพพาน ณ ที่นั้น.
     พระอนาคามีจุติแล้วไปเกิดในชั้นสุทธาวาส.
     พระอริยะแม้ ๔ จำพวกย่อมดำรงอยู่ในภูมิเบื้องบน แต่กามาวจรเทวโลกได้.
     .....ฯลฯ...........


อ่าน เนื้อความในพระไตรปิฎก
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=13&A=4235&Z=4315
ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=13&i=240
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 18, 2013, 09:02:33 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ผู้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์

ถามโดย นาวาเอกทองย้อย
     กระผมเคยฟังมาว่า ผู้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ถ้าเป็นคฤหัสถ์จะต้องบวชในวันนั้นหรือภายใน 7 วัน
     ถ้าไม่บวชจะต้องนิพพาน ข้อสงสัยคือ บวชหรือนิพพานภายในวันนั้นหรือภายใน 7 วัน ?
     และทำไมจะต้องเป็นอย่างนั้น หลักในเรื่องนี้คัมภีร์แสดงไว้อย่างไรครับ
     แถมอีกนิดหนึ่ง พระอริยบุคคลที่ไปเกิดในพรหมโลก และปรินิพพานที่พรหมโลกนั้น
     นิพพานในเพศบรรพชิตหรือเพศคฤหัสถ์ หรือว่าไม่มีเพศ ?
         ขอบพระคุณครับ


ความคิดเห็นที่ 1 โดยคุณ paderm
    ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
    สำหรับในภพภูมิมนุษย์ ผู้ที่บรรลุเป็นพระอรหันต์ในเพศคฤหัสถ์ หากไม่บวชในวันนั้น
    ก็ต้องปริพพานในวันนั้นเลยครับ ไม่ใช่ 7 วันครับ แล้วค่อยบวช
    แต่ถ้าจะมีชีวิตดำรงต่อไปได้ ก็ด้วยการบวชเป็นเพศบรรพชิตครับในวันนั้นครับ 
    ซึ่งตัวอย่างของบุคคลที่บรรลุเป็นพระอรหันต์ในเพศคฤหัสถ์ เช่น ท่านสันตติมหาอำมาตย์ แต่ท่านไม่บวชในวันนั้น ท่านก็ปรินิพพานในวันนั้นนั่นเองครับ


    ซึ่งเหตุผลดังนี้ครับ การบรรลุเป็นพระอรหันต์ พระอรหันต์เป็นคุณธรรมที่สูงสุุด
     ดังนั้นเพศที่รองรับคุณธรรมก็ต้องเหมาะกับการรองรับคุณธรรมนี้  คือ เพศบรรพชิตในภพภูมิมนุษย์ครับ
     ส่วนเพศฆราวาสเป็นเพศที่ต่ำไม่สามารถรองรับคุณธรรม คือ ความเป็นพระอรหันต์ได้ครับ
     เปรียบเหมือนว่า หญ้า ไม่สามารถรองรับก้อนหินใหญ่ได้ฉันใด แม้เพศคฤหัสถ์ก็ไม่สามารถรองรับคุณธรรมคือความเป็นพระอรหันต์ได้  เปรียบเหมือนคนที่มีบุญน้อยแต่ได้ปราบดาได้เป็นกษัตริย์
 
   
     เพราะความที่ตนมีบุญน้อย ไม่มีความสามารถก็ไม่สามารถปกครองราชสมบัติและเกิดความเดือดร้อนตามมามากมาย จะโทษสมบัติก็ไม่ได้ ต้องโทษความที่ตนมีบุญน้อย ฉันใด 
     ผู้ที่มีเพศต่ำ คือ คฤหัสถ์ไม่สามารถรองรับคุณธรรมคือความเป็นพระอรหันต์ หากไม่บวชก็ต้องปรินิพพานในวันนั้น จะโทษความเป็นพระอรหันต์ไม่ได้ เพราะเพศนั้นคือเป็นเพศคฤหัสถ์ไม่เพียงพอที่จะรองรับคุณธรรมขั้นสูงได้ครับ


     ดังนั้นผู้ที่ไม่บวชเมื่อเป็นมนุษย์แล้วย่อมปรินิพพานในวันนั้น แต่ถ้าบวชก็สามารถดำรงมีชีวิตอยู่ได้เพราะเพศบรรพชิต สามารถดำรงคุณธรรมความเป็นพระอรหันต์ได้ครับ
     ซึ่งตัวอย่างผู้ที่บรรลุเป็นพระอรหันต์ในพศฆราวาสแล้วไม่ได้บวชปรินิพพานในวันนั้น ก็เป็นท่านสันตติมหาอำมาตย์
     ส่วนผู้ที่บรรลุเป็นพระอรหันต์ในเพศฆราวาสแล้วบวช สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เช่น พระภัททชิเถระครับ




     
     และจากคำถามที่ว่า พระอริยบุคคลที่ไปเกิดในพรหมโลก และปรินิพพานที่พรหมโลกนั้น 
     นิพพานในเพศบรรพชิตหรือเพศคฤหัสถ์ หรือว่าไม่มีเพศ ?


     ตอบ : ในเทวโลก และพรหมโลก ไม่มีการบวช จึงไม่มีเพศบรรพชิตและคฤหัสถ์ครับ
     สำหรับพระอรหันต์สามารถอยู่ในเทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาได้
     แต่เป็นเทวดาภาคพื้นที่เป็นภุมมเทวดา เช่น มีวิมานอยู่่ในต้นไม้  เพราะมีที่หลีกเล้นได้ของพระอรหันต์ครับ
     แต่เทวโลกชั้นอื่นย่อมไม่สมควรกับพระอรหันต์และไม่มีที่หลีกเล้นอันสมควร และเต็มไปด้วยการละเล่น เป็นต้น     
     ส่วนพรหมโลกก็มีพระอรหันต์ได้ครับ ยกเว้น อสัญญสัตตาพรหมครับ ขออนุโมทนา





ความคิดเห็นที่ 15 โดยคุณ paderm

     เรียนความเห็นที่ 14 ครับ
     1. เพิ่งทราบว่าพระอรหันต์ในเทวโลก นอกจากเทวดาภาคพื้นที่เป็นภุมมเทวดาในชั้นจาตุมหาราชิกานี้ นั้นไม่มี ขอถามว่าที่หลีกเร้นได้ หรือที่หลีกเร้นอันสมควร ในชั้นนี้ของพระอรหันต์ คืออะไร
     ตอบ : ที่หลีกเล้น ของเทวดาภาคพื้นคือ วิมาน ที่อยู่ในต้นไม้ เป็นต้นครับ ส่วนชั้นอื่นๆมี การละเล่นกันมากมาย ไม่เหมาะสมสำหรับการหลีกเร้นครับ


    2. ที่ปกปิดที่สมควร ในเทวโลกนี้คืออะไร
     ตอบ : ที่ปกปิดที่สมควรในเทวโลก ก็คือที่ที่สามารถหลีกเร้นได้ และไม่เป็นที่ที่มีการละเล่นของเทวดา อันเป็นที่น่ายินดี พอใจมาก ดังนั้น เทวดาที่เป็นเทวดาภาคพื้นที่มีวิมานอยู่ในต้นไม้ จึงเป็นที่ที่ปกปิดสมควร แต่เทวโลกอื่นไม่สมควร   ไม่เป็นที่ปกปิดครับ เพราะเต็มไปด้วย รูป เสียง..น่าพอใจและมีการละเล่นของเทวดาด้วยครับ


    3. เทวดาในเทวโลกนอกเหนือจากภุมม ไม่สามารถบรรลุอรหันต์และพระอนาคามีได้เลย หรือว่าบรรลุได้แล้วจะต้องจุติทันที (เคยทราบมาว่าเทวดามีปัญญามากกว่ามนุษย์)
    ตอบ : เทวดาทุกชั้นสามารถ บรรลุเป็นพระอนาคามีและพระอรหันต์ได้ครับ แต่เมื่อเทวดาบรรลุเป็นพระอนาคามี ย่อมไปเกิดในพรหมโลกทันที ส่วนเทวดาที่บรรลุเป็นพระอรหันต์ ถ้าไม่ใช่พวกภุมมเทวดาแล้วก็ย่อมจุติ ปรินิพพานครับ



ที่มา http://www.dhammahome.com/front/webboard/show.php?id=18654
ขอบคุณภาพจาก http://i883.photobucket.com/,http://image.ohozaa.com/,http://trang82.files.wordpress.com/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 22, 2013, 01:23:21 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ