« เมื่อ: ธันวาคม 16, 2016, 10:30:49 am »
0
เป้าประสงค์การ เจริญกรรมฐาน ของแต่ละคนต่างกันไป
บางท่าน ก็ทำเพื่อให้จิตมีกุศลบ้าง
บางท่านก็ทำเพื่อให้เกิดความสงบใจบ้าง
บางท่านก็ทำตามเขาไปอย่างนั้นบ้าง
บางท่านก็ทำเพื่อให้มีความสุขในปัจจุบัน
บางท่านก็ทำเพื่อให้มีโชค
บาง่ท่านก็ทำเพื่อไปสู่การสิ้นทุกข์
บางท่านก็ทำเพื่อไปสู่การไม่กลับมาเกิดอีกต่อไป
ท่านจะเจริญกรรมฐานเพื่ออะไร ในส่วนตัว อนุโมทนาทั้งหมด เพราะการพูดตักเตือนท่านไม่สามารถทำได้กับทุกคน จะบอกท่านละ ตรงนี้ เจริญสติ ระลึกความตาย หรือ กระทำความเพียร ให้ทุกคนก็ไม่ได้คงถ้าจะพูดสอนโดยส่วนรวมก็คงพุดได้เป็นกลาง ๆ เท่านั้น
เพราะความเป็นจริง ครูอาจารย์ได้วิมุตติ ลูกศิษย์จะได้หรือไม่ได้มันก็อยู่ที่ความปรารถนา ของเขาเท่านั้นที่เป็นตัว ทำให้เขาเจริญกรรมฐานในแบบของเขา
ดังนั้นใครใคร่เป็นเทวดา ฉันก็อนุโมทนา
ใครใคร่เป็นพรหม ฉันก็อนุโมทนา
ใครใคร่เป็นโพธิสัตว์ ฉันก็อนุโมทนา
แม้ที่สุดใครใคร่ จะเป็นพระอริยะ ฉันยิ่งอนุโมทนา
เพราะพระธรรมกรรมฐานย่อมให้ความสุขแก่ทุกระดับ ไม่ใช่ให้ความทุกข์กับผู้ภาวนา
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสว่า อะไรเป็นเหตุยั้งคนให้มีเป้าหมายต่างกัน พระองค์ตรัสแสดงว่าไว้ ตัณหาอุทปาทิ การเกิดแห่งตัณหา เป็นเครืองฉุดรั้งคนให้ติดในบ่วง 3 ประการ นั่นเอง
เจริญธรรม ยามเช้า