ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระอริยบุคคล โดนคุณไสย หรือ ยาพิษ กระทำ หรือ ให้ร้ายได้หรือไม่คะ  (อ่าน 5518 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

sunee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 301
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คือ มีความสงสัยว่า พระอริยะบุคคล นี้โดนคุณไสย เช่นถูกทำเสน่ห์ ยาแฝดได้หรือไม่

หรือ โดยยาสั่ง ยาพิษ ทำร้าย ได้หรือ ไม่ คะ

 
   :49: :88: :58:
บันทึกการเข้า

เท่ากับผลรวม

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +11/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 169
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
น่าสนใจ อันที่จริง พระอริยะบุคคล ไม่น่าจะโดนคุณไสย นะครับ

 :25:
บันทึกการเข้า
ชีวิต นี้เพื่อพุึทธศาสน์

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28559
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ขอบคุณภาพจาก http://www.84000.org/

เรื่องวิบากกรรมเป็นเรื่องอจินไตย หาบรรทัดฐานได้ยาก
เป็นที่รู้กันโดยทั่วไป พระอรหันต์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงวิบากกรรมได้
ตัวอย่างเ่ช่น พระมหาโมคคัลลานะ แม้แต่พระพุทธเจ้าเองก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน

เรื่องอริยบุคคลโดนคุณไสยหรือยาพิษนั้น ในพระไตรปิฎกไม่ปรากฏ


มีแต่เรื่องของศากยวงศ์ของพระพุทธเจ้า ถูกเจ้าชายวิฑูฑภะฆ่าล้างตะกูล เพราะผลกรรมที่ชาติก่อนๆพระญาติพระวงศ์ของพระพุทธเจ้า ได้วางยาเบื่อในแม่น้ำ ทำให้สัตว์น้ำตามเป็นจำนวนมาก แต่สุดท้ายเจ้าชายวิฑูฑภะ ก็จมน้ำตายพร้อมกับทหารเกือบทั้งกองทัพ

จะคุยต่อไป ก็ต้องกล่าวถึงปรินิพพานสูตร เรื่องสูกรมัททวะ ซึ่งเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของพระพุทธเจ้าที่นายจุนทะถวาย สูกรมัททวะนี้ เป็นที่ถกเถียงกันโดยไม่มีข้อยุติว่า คืออะไรกันแน่

ปัญหามีอยู่ว่า ทำไมพระพุทธเจ้า ทรงห้ามไม่ให้พระสาวกทั้งหลายฉันเลย แถมยังให้เอาไปฝัง
ขอยกเอาข้อความหนึ่งจากบทความเรื่อง "ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสุกรมัทวะ" ของเสถียร โพธินันทะ มาแสดงดังนี้


    "แต่ว่าปัญหานั้นไม่ยุติเพียงเท่านั้น ประเด็นว่า เพราะเหตุใด พระพุทธเจ้าจึงตรัสห้ามไม่ให้ภิกษุรูปอื่นฉันสูกรมัททวะนี้ และเพราะเหตุใดพระองค์จึงรับสั่งให้นายจุนทะนำสูกรมัททวะนี้ไปฝังเสีย ไปทำลายไม่ให้เป็นอาหารแก่คนและสัตว์ต่อไป และเพราะเหตุใดจึงตรัสแก่นายจุนทะว่า สูกรมัททวะนี้
      ตถาคตมองไม่เห็นผู้ใดผู้หนึ่งในโลกนี้ ทั้งเทวดา ทั้งมารและพรหมที่จะกินเข้าไปแล้วจะย่อยได้ เว้นแต่เราตถาคตผู้เดียว ที่จะย่อยอาหารชนิดนี้ได้
      ทำไมจึงตรัสเช่นนี้ เป็นอาหารอะไรหรือ ถ้าเป็นเนื้อย่อยทำไมจึงตรัสเช่นนั้น ประเด็นนี้เป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องวินิจฉัย"


      เพื่อนๆครับ มันน่าคิดนะครับ เมื่อไม่ให้ภิกษุอื่นๆฉัน ก็อาจคิดได้ว่า มันมีพิษหรือเป็นของแสลง ที่สำคัญ
พระอรรถกถาจารย์บางท่าน ก็ให้ความเห็นว่า สุกรมัทวะนี้แหละ เป็นเหตุให้พระพุทธเจ้าปรินิพพาน

      อีกอย่างพระพุทธเจ้าถึงกับ สั่งเสียกับพระอานนท์ ให้ไปปลอบใจนายจุนทะว่า อานิสงส์ของอาหารมือสุดท้ายที่นายจุนทะถวาย มีผลเท่ากับอานิสงส์ของอาหารของนางสุชาดาที่ถวายพระองค์ก่อนตรัสรู้

      เรื่องนี้คุยแค่ประเทืองปัญญานะครับ อย่าซีเรียสนัก

       :49:


ท่านใดสนใจบทความเรื่อง "ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสุกรมัทวะ" ของเสถียร โพธินันทะ คลิกที่นี่ครับ
http://www.dharma-gateway.com/ubasok/satien/ubasok-28.htm

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 19, 2011, 09:07:43 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

mongkol

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 95
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ครั้งหนึ่ง มีมารตนหนึ่งเฝ้ามองดูพระโมคคัลลานะมาตลอด มารตนนี้เคยเกิดเป็นหลานชายของพระโมคคัลลานะในอดีตชาติ วันหนึ่งมารตนนี้ได้เข้าไปสิงที่ท้องน้อยของพระโมคคัลลานะ จนท่านมีอาการปวดท้องน้อยจนผิดสังเกต และได้ทราบว่าเป็นเพราะมารผู้เป็นหลานชายมาสิง จึงบอกให้มารออกมาจากท้องเพราะนั่นเป็นการสร้างบาปกรรม ฝ่ายมารแม้จะได้ยินพระโมคคัลลานะกล่าวอย่างนั้นก็ยังนึกดูถูกในใจว่า ไม่มีทางที่สมณะนี้จะเห็นเราได้ พระโมคคัลลานะจึงพูดดักคอว่า มารกำลังคิดอะไรอยู่ มารรู้สึกตกใจ แต่ไม่แน่ใจว่าสมณะรูปนี้มีฤทธิ์มองเห็นได้จริงหรือว่าแกล้งอำ จึงออกจากท้องแล้วไปยืนยังตำแหน่งต่างๆ ซึ่งพระโมคคัลลานะก็บอกตำแหน่งได้ถูกต้อง จึงยอมเชื่อแล้วหนีไป
บันทึกการเข้า

mongkol

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 95
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ทำโดยตรง ก็มี ยักษ์ ใช้กระบอง ทุบ พระสารีบุตร ระหว่างเข้า สัญญาเวทยิตนิโรธ ครับ

พระอริยะบุคคล ก็รับ กรรมได้ ครับ

 :25:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28559
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑
พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑
เรื่องยาพิษ ๒ เรื่อง

             [๒๑๐] ๑. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุผู้ถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตรรูปหนึ่ง ได้บิณฑบาตเจือยาพิษมาแล้วนำไปสู่โรงฉัน ได้ถวายบิณฑบาตนั้นแก่ภิกษุทั้งหลายให้ฉันก่อน ภิกษุเหล่านั้นถึงมรณภาพแล้ว เธอมีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกแล้ว กระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาค

 พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิดอย่างไร?
            ภิ. ข้าพระพุทธเจ้า ไม่ทราบเกล้า พระพุทธเจ้าข้า
             ภ. ดูกรภิกษุ ภิกษุไม่รู้ ไม่ต้องอาบัติ


             ๒. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งประสงค์จะทดลอง ได้ให้ยาพิษแก่ภิกษุอีกรูปหนึ่งฉัน ภิกษุนั้นถึงมรณภาพแล้ว เธอมีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกแล้ว กระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค
 พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิดอย่างไร?
             ภิ. ข้าพระพุทธเจ้า มีความประสงค์จะทดลอง พระพุทธเจ้าข้า
             ภ. เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติถุลลัจจัย.


ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=1&A=7950&w=%C2%D2%BE%D4%C9


     ปัญหามีอยู่ว่า ภิกษุตามที่พระวินัยกล่าวไว้ข้างต้น เป็นอริยบุคคลหรือไม่
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28559
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์

๑๐. มารตัชชนียสูตร
ว่าด้วยการคุกคามมาร

             [๕๕๗] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้:-
             สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ มิคทายวัน ในเภสกลาวันเขตเมืองสุงสุมารคีระ ในภัคคชนบท.
             สมัยนั้น ท่านพระมหาโมคคัลลานะจงกรมอยู่ในที่แจ้ง ถูกมารผู้ลามกเข้าไปในท้องในไส้ได้มีความดำริว่า ท้องเราเป็นดังว่ามีก้อนหินหนักๆ และเป็นเช่นกะทออันเต็มด้วยถั่วหมัก เพราะเหตุอะไรหนอ จึงลงจากจงกรมแล้วเข้าไปสู่วิหาร นั่งอยู่บนอาสนะที่ปูไว้ ครั้นนั่งแล้ว ได้ใส่ใจถึงมารที่ลามกด้วยอุบายอันแยบคายเฉพาะตน.

             [๕๕๘] ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้เห็นมารผู้ลามก เข้าไปในท้องในไส้แล้ว ครั้นแล้วจึงเรียกว่า ดูกรมารผู้ลามก ท่านจงออกมา ท่านจงออกมา ท่านอย่าเบียดเบียนพระตถาคตและสาวกของพระตถาคตเลย วิเหสนกรรมนั้น อย่าได้มีเพื่อโทษไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์แก่ท่านตลอดกาลนาน.

             ลำดับนั้น มารมีความดำริว่า สมณะนี้ไม่รู้และไม่เห็นเรา จึงกล่าวว่า ดูกรมารผู้ลามกท่านจงออกมา ท่านจงออกมา ท่านอย่าเบียดเบียนพระตถาคตและสาวกของพระตถาคตเลย วิเหสนกรรมนั้น อย่าได้มีเพื่อโทษไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์แก่ท่านตลอดกาลนาน ดังนี้ แล้วจึงดำริว่า แม้สมณะที่เป็นศาสดายังไม่พึงรู้จักเราได้เร็วไว ก็สมณะที่เป็นสาวกไฉน จักรู้จักเราได้.

             ในขณะนั้น ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้บอกว่า ดูกรมารผู้ลามก เรารู้จักท่านแม้ด้วยเหตุนี้แล ท่านอย่าเข้าใจว่า สมณะนี้ไม่รู้จักเรา ท่านเป็นมาร ท่านมีความดำริว่า สมณะนี้ไม่รู้และไม่เห็นเรา จึงกล่าวว่า ดูกรมารผู้ลามก ท่านจงออกมา ฯลฯ ก็สมณะที่เป็นสาวกไฉน จักรู้จักเรา.

             ลำดับนั้น มารมีความดำริว่า สมณะนี้รู้จักและเห็นเรา จึงกล่าวอย่างนี้ว่า ดูกรมารผู้ลามกท่านจงออกมา ฯลฯ วิเหสนกรรมนั้น อย่าได้มีเพื่อโทษไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์แก่ท่านตลอดกาลนาน ดังนี้ แล้วจึงออกจากปากท่านพระมหาโมคคัลลานะ แล้วยืนอยู่ที่ข้างบานประตู.ฯลฯ


อ่านเรื่องเต็มๆได้ที่
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒  บรรทัดที่ ๑๐๒๘๗ - ๑๐๔๕๘.  หน้าที่  ๔๒๔ - ๔๓๐.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=12&A=10287&Z=10458&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=12&i=557


   เรื่องนี้ยกเครดิตให้่คุณมงคล..ขอรับ :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

sunee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 301
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา ขอบคุณ

 ก็คงจะสรุป ได้ว่า พระอรหันต์ นั้นไม่น่าจะโดนยาเสน่ห์ ได้ใช่หรือไม่คะ

 เพราะบางทีก็เป็นห่วง ว่า พระหนุ่ม ๆ ที่อ้างตัวเองเป็นพระอรหันต์ แล้ว เสียท่า พลาดที กับสาว ๆ นั้น

 กล่าวว่า ถูกยาเสน่ห์ วางยา เป็นไปได้หรือ ? ก็คิดอยู่

    อย่างนี้ ก็สรุปได้ว่า เป็นไปได้ ใช่หรือไม่คะ


   :25: :c017:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28559
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา ขอบคุณ

 ก็คงจะสรุป ได้ว่า พระอรหันต์ นั้นไม่น่าจะโดนยาเสน่ห์ ได้ใช่หรือไม่คะ

 เพราะบางทีก็เป็นห่วง ว่า พระหนุ่ม ๆ ที่อ้างตัวเองเป็นพระอรหันต์ แล้ว เสียท่า พลาดที กับสาว ๆ นั้น

 กล่าวว่า ถูกยาเสน่ห์ วางยา เป็นไปได้หรือ ? ก็คิดอยู่

    อย่างนี้ ก็สรุปได้ว่า เป็นไปได้ ใช่หรือไม่คะ


   :25: :c017:

   สรุปไม่ได้...ขอรับ แต่บอกได้กว้างๆว่า อริยบุคคลมีคติที่แน่นอนครับ คือ สวรรค์ชั้นดุสิต พรหมโลกชั้นสุทธาวาส และนิพพาน แต่ขันธ์ของอริยบุคคลที่ยังไม่ปรินิพพาน ยังคงต้องรับวิบากกรรมอยู่ครับ ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้

   ขอให้ดูตัวอย่างของพระพุทธเจ้าของเรา เหตุที่ท่านมีอายุเพียง ๘๐ ปี เนื่องจากชาติหนึ่งเมื่อท่านเป็นมนุษย์ท่านมีฤทธิ์มาก ท่านได้ไปปราบยักษ์ตนหนึ่ง ยักษ์ตนนั้นได้เห็นใต้เท้าของท่านมีรูปกงจักร ยักษ์รู้ว่า ท่านจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมมพุทธเจ้าในอนาคตข้างหน้า และได้กล่าวเตือนว่า หากฆ่าตน ท่านจะมีอายุเพียง ๘๐ ปีในชาติที่เป็นพระพุทธเจ้า  แต่พระองค์ก็ยอมที่จะมีอายุเพียงเท่านั้น ท่านได้ฆ่ายักษ์ตนนั้นตายในที่สุด

   กัมมุนา วัตตีโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
:25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 21, 2011, 12:49:48 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ