« เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2013, 09:48:07 am »
0
'บ้านธรรมนำใจ'บ้านไม่ใหญ่แต่ใจกว้าง
ประตูเปิดรับทุกคน : เยือยถิ่นเรือนธรรม โดยพาบุญมา
ศูนย์ปฏิบัติธรรม "บ้านธรรมนำใจ" เป็นศูนย์ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานในกรุงเทพฯ ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้ญาติธรรมในกรุงเทพฯ และในพื้นที่ใกล้เคียงได้ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์ ทำวัตรเย็น นั่งสมาธิ ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานในกรุงเทพฯ ซึ่งเรายึดหลักการปฏิบัติแนวสติปัฏฐานสี่ ตามแบบหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ซึ่งมุ่งเน้นให้ผู้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน สร้างสติ เมื่อมีสติจะเกิดปัญญา จะสามารถนำไปใช้แก้ปัญหาชีวิตและพัฒนาชีวิตของตนเองและครอบครัว ให้ดียิ่งๆ ขึ้นต่อไปในอนาคต
“บ้านธรรมนำใจ” เริ่มต้นโครงการตั้งแต่ต้น พ.ศ.๒๕๕๑ โดยความคิดริเริ่มของ “คุณณัฐวรรธน์ ภรนรา” ด้วยเหตุผลสำคัญ ๒ ประการ คือ
๑.เนื่องด้วยการตอบคำถามให้กับญาติธรรมในเว็บไซต์ jarun.org นั้น เพราะการจะไว้ใจใครในโลกของอินเทอร์เน็ตก็ไม่ง่ายนัก อีกทั้งบางครั้งในกรณีที่เป็นคำถามเกี่ยวกับปัญหาชีวิตที่หนักหนามาก ๆ เช่น คนที่เครียดหรืออยู่ในภาวะที่ต้องการจะฆ่าตัวตาย การตอบคำถามผ่านเมลหรือโทรศัพท์อาจจะไม่เพียงพอ หากเรามีสถานที่ซึ่งเป็นที่ “สาธารณะ” ทุกคนสามารถมาใช้ร่วมกันได้ ให้ความไว้วางใจในสถานที่นี้ได้ การช่วยเหลือญาติธรรมในด้านต่างๆ ก็จะง่ายขึ้นด้วย
๒.เนื่องด้วยในปีนั้น การจัดสร้าง “การ์ตูนหลวงปู่จรัญกับเณรน้อยช่างคิด” จำเป็นที่จะต้องมีทีมงานทั้งพนักงานในบริษัทเองและทีมงานอื่นที่เข้ามาช่วยเป็นฝ่ายผลิตมีจำนวนมาก จึงต้องจัดหาออฟฟิศที่ตั้งอยู่ในเมือง เดินทางได้สะดวก โดยมุ่งหวังเพื่อให้พนักงาน เพื่อนๆ พี่น้อง คนรู้จัก ญาติธรรมจากเว็บไซต์ jarun.org ตลอดจนสาธุชนทั่วไป ได้เข้ามาใช้พื้นที่นี้ได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ค้นหาสถานที่สำหรับใช้ในวัตถุประสงค์ดังกล่าว โดยหลักสำคัญที่สุดคือ ต้องใกล้สถานีรถไฟฟ้าจนสามารถเดินไปได้ไม่ไกล
ที่บ้านธรรมนำใจสอน เรื่องการปฏิบัติธรรมเป็นหลัก ด้วยการสวดมนต์ ทำกรรมฐานแนวสติปัฏฐานสี่
บ้านธรรมนำใจไม่ได้สอนให้ไป “สวรรค์”
บ้านธรรมนำใจไม่ได้สอนให้ไป “นิพพาน”
บ้านธรรมนำใจไม่ได้สอนให้มี “ฤทธิ์”
บ้านธรรมนำใจไม่ได้สอนให้ “สแกนกรรม”
บ้านธรรมนำใจไม่ได้สอนให้ “ระลึกว่าสามชาติที่แล้วเคยเกิดเป็นอะไร”
แต่ครูบาอาจารย์เราสอนให้สร้าง “สติ”เมื่อมี “สติ” จะเกิด “ปัญญา” จะแก้ไข “ปัญหาชีวิตได้”
การเข้ามาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จะเข้าปฏิบัติแบบทั่วไป หรือเข้าคอร์สแบบ ๓ วันก็ไม่เสียค่าใช้จ่าย
เข้ามาใช้ห้องสมุด อ่านหนังสือ รับหนังสือแจก ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ที่ยิ่งกว่านั้น คือ “บ้านธรรมนำใจ” จะไม่มีการตั้งตู้บริจาคเรี่ยไรค่าใช้จ่ายใดๆ จากผู้ใช้บริการเลย
เพราะบ้านธรรมนำใจ อาศัยหลักการ “พึ่งพาซึ่งกันและกัน” ใครที่ต้องการช่วย ต้องการทำ เขาทำเอง ไม่ต้องไปบอก ไม่ต้องไปเรี่ยไร
ท่านสามารถเข้าปฏิบัติที่ “บ้านธรรมนำใจ” ได้ทุกวัน
โดยแบ่งเป็นแบบไปกลับ วันธรรมดาเปิด ๑๐.๐๐-๒๐.๓๐ น.
ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ เปิด ๑๐.๐๐-๑๗.๓๐.น.
ผู้เข้าปฏิบัติ สามารถปฏิบัติตามอัธยาศัย ผู้ปฏิบัติสามารถใส่ชุดตามสบายเรียบร้อยปฏิบัติได้ และแบบอยู่ปฏิบัติ
ที่ “บ้านธรรมนำใจ” เปิดรับครั้งละไม่เกิน ๕ คน แยกรับระหว่างผู้ปฏิบัติหญิงกับชาย ไม่เปิดรวมกัน
นอกจากนี้แล้ว บ้านธรรมนำใจ ยังจัดให้มีการสวดมนต์
ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมสวดมนต์ทำวัตรเย็นที่ศูนย์ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ในเวลา ๑๘.๐๐ น.
เสาร์-อาทิตย์ สวดมนต์ ปฏิบัติธรรมช่วงเวลา ๑๐.๐๐-๑๗.๓๐ น.
“บ้านธรรมนำใจ” ตั้งอยู่เลขที่ ๔๗๔ ถนนไมตรีจิตต์ เขตป้อมปราบฯ กทม.
ใกล้กับสถานนีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพง เพียง ๑๓๐ เมตร
โทร.๐-๒๒๒๒-๐๕๙๘
อีเมล: baandhamnamjai@hotmail.com
หรือเว็บไซต์: http://www.baandhamnamjai.comขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20130426/156974/บ้านธรรมนำใจบ้านไม่ใหญ่แต่ใจกว้าง.html#.UYCAFUrSi85