ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: โลกุตรสมาธิ คืออะไร  (อ่าน 3005 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
โลกุตรสมาธิ คืออะไร
« เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2011, 08:31:18 am »
0


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต

๗. สมาธิสูตร

         [๒๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงมีปัญญารักษาตน มีสติเจริญสมาธิหาประมาณมิได้เถิด เมื่อเธอมีปัญญารักษาตน มีสติ เจริญสมาธิหาประมาณมิได้อยู่ ญาณ ๕ อย่าง ย่อมเกิดขึ้นเฉพาะตน
          ญาณ ๕ อย่างเป็นไฉน คือ ญาณย่อมเกิดขึ้นเฉพาะตนว่า


          สมาธินี้มีสุขในปัจจุบัน และมีสุขเป็นวิบากต่อไป ๑
          สมาธินี้เป็น อริยะ ปราศจากอามิส ๑
          สมาธินี้อันคนเลวเสพไม่ได้ ๑
          สมาธินี้ละเอียด ประณีต ได้ด้วยความสงบระงับ บรรลุได้ด้วยความเป็นธรรมเอกผุดขึ้น และมิใช่บรรลุได้ด้วยการข่มธรรมที่เป็นข้าศึก ห้ามกิเลสด้วยจิตอันเป็นสสังขาร ๑
          ก็เราย่อมมีสติเข้าสมาธินี้ได้ มีสติออกจากสมาธินี้ได้ ๑


         ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงมีปัญญารักษาตน มีสติ เจริญสมาธิอันหาประมาณมิได้เถิด เมื่อเธอทั้งหลายมีปัญญารักษาตน มีสติ เจริญสมาธิอันหาประมาณมิได้อยู่ ญาณ ๕ อย่างนี้แล ย่อมเกิดขึ้นเฉพาะตน ฯ

         จบสูตรที่ ๗


อ้างอิง
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ บรรทัดที่ ๕๑๕ - ๕๒๗. หน้าที่ ๒๓ - ๒๔.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=22&A=515&Z=527&pagebreak=0
ขอบคุณภาพจาก http://www.luangpumun.org/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: โลกุตรสมาธิ คืออะไร
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2011, 08:46:49 am »
0


อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต ปฐมปัณณาสก์ ปัญจังคิกวรรคที่ ๓
๗. สมาธิสูตร

               อรรถกถาสมาธิสูตรที่ ๗               
               พึงทราบวินิจฉัยในสมาธิสูตรที่ ๗ ดังต่อไปนี้ :-
               บทว่า อปฺปมาณํ ได้แก่ โลกุตรสมาธิอันเว้นจากธรรมที่กำหนดประมาณได้.
               บทว่า นิปกา ปติสฺสตา ได้แก่ เป็นผู้ประกอบแล้วด้วยปัญญารักษาตนและสติ.
               บทว่า ปญฺจ ญาณานิ ได้แก่ ปัจจเวกขณญาณ ๕.
               บทว่า ปจฺจตฺตญฺเญว อุปฺปชฺชนฺติ แปลว่า ย่อมเกิดขึ้นในตนเท่านั้น.


               ในบทเป็นต้นว่า อยํ สมาธิ ปจฺจุปฺปนฺนสุโข เจว ท่านประสงค์เอาอรหัตผลสมาธิ. อาจารย์บางพวกกล่าวว่า มคฺคสมาธิ ดังนี้ก็มี.
               จริงอยู่ สมาธินั้นชื่อว่าเป็นสุขในปัจจุบัน เพราะเป็นสุขในขณะที่จิตแน่วสนิท. สมาธิต้นๆ มีสุขเป็นวิบากในอนาคต เพราะเป็นปัจจัยแก่สมาธิสุขหลังๆ แล.

               สมาธิชื่อว่าเป็นอริยะ เพราะไกลจากกิเลสทั้งหลาย.
               ชื่อว่านิรามิส เพราะไม่มีอามิสส่วนกาม อามิสส่วนวัฏฏะ อามิสส่วนโลก.
               ชื่อว่ามิใช่ธรรมที่คนเลวเสพ เพราะเป็นสมาธิอันมหาบุรุษมีพระพุทธเจ้าเป็นต้นเสพแล้ว.
               ชื่อว่าสงบ เพราะสงบอังคาพยพ คือก าย สงบอารมณ์และสงบจากความกระวนกระวายด้วยอำนาจสรรพกิเลส.
               ชื่อว่าประณีต เพราะอรรถว่าไม่เดือดร้อน.
               ชื่อว่าได้ความรำงับ เพราะความรำงับกิเลสอันตนได้แล้ว หรือตนได้ความรำงับกิเลส.


               บทว่า ปฏิปฺปสฺสทฺธํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ นี้ โดยความได้เป็นอันเดียวกัน
               อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่าได้ความรำงับ เพราะผู้มีกิเลสอันรำงับ หรือผู้ไกลจากกิเลสได้แล้ว.
               ชื่อว่าถึง เอโกทิ เพราะถึงด้วยความมีธรรมเอกผุดขึ้น หรือถึงความมีธรรมเอกผุดขึ้น.


               ชื่อว่าไม่ต้องใช้ความเพียรข่มห้าม เพราะไม่ต้องใช้จิตอันมีสังขารคือความเพียรข่มห้ามกิเลสอันเป็นข้าศึกบรรลุ เหมือนอย่างสมาธิของผู้ที่ยังมีอาสวะอันไม่คล่องแคล่ว ภิกษุเมื่อเข้าสมาธินั้นหรือออกจากสมาธินั้น ย่อมมีสติเข้ามีสติออก หรือว่ามีสติเข้ามีสติออก โดยกาลตามที่กำหนดไว้ เพราะเป็นผู้ไพบูลย์ด้วยสติ

               เพราะฉะนั้น ปัจจยปัจจเวกขณญาณ ความรู้พิจารณาเห็นปัจจัยในสมาธินี้อันใด เกิดขึ้นเฉพาะตัวเท่านั้นแก่ภิกษุผู้พิจารณาเห็นอย่างนี้ว่า สมาธินี้มีสุขในปัจจุบันและมีสุขเป็นวิบากในอนาคต ปัจจยปัจจเวขณญาณนั้นก็เป็นญาณอย่างหนึ่ง.

               ในบทที่เหลือก็นัยนี้.
               ญาณ ๕ เหล่านี้ย่อมเกิดเฉพาะตนเท่านั้นด้วยประการฉะนี้.

               จบอรรถกถาสมาธิสูตรที่ ๗     
       


http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=22&i=27
ขอบคุณภาพจาก http://trang82.files.wordpress.com/


     เพื่อนๆลองให้ความหมายของคำว่า"โลกุตรสมาธิ" ตามความเข้าใจและตามอัธยาศัย
     ผมมีอีกคำ คือ "เอโกทิภาวะ" คำนี้ในสายของพระอาจารย์ปราโมทย์น่าจะเคยได้ยิน เพื่อนๆคิดว่าคืออะไรครับ

      :49:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ