ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เจ้าอาวาสวัดนาคปรกใช้ 'ไลน์' สอนธรรม  (อ่าน 1518 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28522
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



เจ้าอาวาสวัดนาคปรกใช้ 'ไลน์' สอนธรรม

เจ้าอาวาสวัดนาคปรกสุดเจ๋งใช้'ไลน์'สอนธรรม จัดหล่อพระหล่อศิลป์สู่อเมริกาใต้ : สำราญ สมพงษ์รายงาน

     ยุคข้อมูลข่าวสารสื่อสารกันด้วยเทคโนโลยีระดับสูง  แต่ในสังคมพระสงฆ์แล้วคนทั่วๆไปอาจจะมองว่าเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ยังคนใช้วิธีการสอนธรรมแบบเดิมๆ ขึ้นธรรมาสน์เทศน์ผ่านไมโครโฟนให้ญาติโยมได้รับฟัง จบรับกัณฑ์เทศน์เข้ากุฎิโยมกลับบ้านเป็นเสร็จพิธี

     คนที่มีความคิดเช่นนั้นต่อไปนี้อาจจะต้องคิดใหม่ เพราะว่าเจ้าอาวาสทุกวันนี้พัฒนาแล้ว ได้ใช้เทคโนโลยีในการสอนจนกระทั้งมีโยมจับผิดถ่ายคลิปเจ้าอาวาสรูปหนึ่งทางภาคเหนือนั่งใช้โน้ตบุ๊กโดยเข้าใจว่าอยู่กับสีกาสองต่อสอง แจ้งให้ทางสำนักพุทธศาสนาจังหวัดดำเนินการตรวจสอบ

     ประกอบกับทางมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร)ได้เปิดหลักสูตรระดับปริญญาเอกให้กับเจ้าอาวาสได้เรียน เพื่อให้ได้มีความรู้ด้านการบริหารจัดการเชิญพุทธที่ถูกต้อง รวมถึงมีการสอบทางไกลผ่านเทคโนโลยีต่างๆด้วย



      ตัวอย่างเจ้าอาวาสที่ใช้เทคโนโลยีสอนธรรมคือพระครูวรกิตติโสภณ (เศรษฐกิจ สมาหิโต) หรือหลวงพ่อเศรษฐี  เจ้าอาวาสวัดนาคปรก เขตภาษีเจริญ กทม. ปัจจุบันได้ใช้แอพพลิเคชั่น "ไลน์" ผ่านสมาร์ทโฟนในการสอนธรรม ทั้งๆที่อายุ 70 ปีแล้ว

     แต่เนื่องจากหลวงพ่อมีประสบการณ์เผยแผ่พุทธศาสนาในต่างประเทศหลายประเทศ เช่น อินเดียศรีลังกา จีน สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์  เป็นที่ปรึกษาสมัชชาสงฆ์ไทยในต่างแดน หัวหน้าพระธรรมทูตประเทศนิวซีแลนด์ ทำให้ก้าวทันกับเทคโนโลยีที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา และได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

     พระครูวรกิตติโสภณ ได้กล่าวว่า
     ได้ใช้เทคโนโลยีมานานแล้วตั้งแต่แชทและมาถึงไลน์
     เนื่องจากอาตมามีลูกศิษย์ที่เป็นชาวต่างประเทศต่างศาสนาอยู่เป็นจำนวนมาก
     ทำให้สะดวกในการแนะนำธรรมได้ทันกาลและง่าย



    นอกจากหลวงพ่อเศรษฐี จะใช้เทคโนโลยีเองแล้วยังได้ส่งเสริมให้พระลูกศิษย์ได้ปฏิบัติตาม
     ดังจะเห็นได้จากพระธรรมทูตที่เป็นพระลูกศิษย์ได้ถูกส่งไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาในประเทศต่างๆให้เจริญรอยตาม
     ดังเช่นพระมหาชัยพิชิต ฐานุตฺตโร (ใสสะอาด) ชาวอุดรธานี พุทธศาสตรบัณฑิต รุ่นที่ 45-46  มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยา (มจร) พระธรรมทูตรุ่นที่ 9 นาม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหลวงอาร์เจนตินา ประเทศอาร์เจนตินา นับเป็นพระธรรมทูตรุ่นบุกเบิก ซึ่งปัจจุบันนี้มีคนไทยอาศัยอยู่เกือบ 100 คน คนลาวประมาณ  2,000 คน

      พร้อมกันนี้หลวงพ่อเศรษฐียัง คอยช่วยเหลือกิจกรรมของพระลูกศิษย์อยู่เสมอ นอกจากการเดินทางไปให้กำหลังใจถึงพื้นที่อย่างเช่นเมื่อปี 2555 ก็ได้จัดกองกฐินไปทอดที่วัดหลวงอาร์เจนตินาแม้นว่าค่าเดินทางจะสูงเกือบแสนบาทก็ตามที




จัดหล่อพระหล่อศิลป์สู่อเมริกาใต้
    และอย่างเช่นเมื่อวันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ.2556 หลวงพ่อเศรษฐี ได้เป็นเจ้าภาพในพิธีหล่อพระพุทธรูปหลวงพ่อเจ้าสัว 3 องค์ โดยมีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) กรรมการมหาเถรสมาคมเป็นประธาน
     โดยมีญาติโยมไปร่วมงานเป็นจำนวนมากและร่วมกันบริจาคทรัพย์ประมาณกว่า 1 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนในการสร้างพระพุทธรูป ทั้งนี้เพื่อนำไปประดิษฐานที่วัดในประเทศอาร์เจนตินา 3 แห่งด้วยกันรวมถึงเป็นทุนในการสร้างศาสนสถาน ขณะนี้ก็กำลังรอแรงศรัทธาจากญาติโยมร่วมสมทบทุนอยู่เช่นกัน


      หลังจากเสร็จพิธีหล่อพระพุทธรูปแล้ว เพื่อให้การทำงานของพระธรรมทูตในต่างแดนก้าวหน้า ช่วงเย็น หลวงพ่อเศรษฐี ยังได้เป็นประธานในการประชุมเกี่ยวกับงานการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ภาษา ศิลปะและวัฒนธรรมไทยเชิงรุกในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งได้มีโอกาสรับเชิญไปร่วมประชุมด้วย

      หลวงพ่อเศรษฐี ได้ให้แนวในการเผยแพร่ธรรมในต่างแดนว่า จะต้องนำหลักธรรมในพระพุทธศาสนาที่บริสุทธิ์มอบให้กับคนพื้นที่ต่างๆ โดยใช้ภาษาสมาธิและปัญญาเป็นตัวสื่อสาร และประยุกต์ให้เข้ากับพื้นที่ถึงจะประสบผลสำเร็จ


      "สำหรับตัวอาตมานั้นไม่เคยย่อท้อต้องการที่จะนำของดีในพระพุทธศาสนาไปบอกเล่าแก่ชาวโลกแม้นว่าพื้นที่นั้นบอกว่ามีอันตรายก็ตาม" หลวงพ่อเศรษฐีกล่าว

      ขณะเดียวกันพระมหาหรรษา ธัมมหาโส ผช.อธิการบดี มจร ได้แนะนำว่า พระธรรมทูตจะต้องประยุกต์หลักธรรมให้เป็นแบบพื้นที่ให้ได้ว่าไม่ใช่เป็นพุทธแบบไทยๆ และต้องประยุกต์ให้เข้ากับหลักสากล  ซึ่งในเทศกาลวันวิสาขบูชาโลกปีนี้ทาง มจร มีโครงการทำวัดไทยสู่วัดโลกและทำให้เป็นพุทธโลกด้วย

      พร้อมกันนี้ในการประชุมยังได้ทราบถึงการทำงานของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดโครงการเผยแผ่ภาษาศิลปะและวัฒนธรรมไทยในต่างแดนรวมถึงวัดไทยในอาร์เจนตินาด้วย โดยทำงานร่วมกับทางวัดจัดอาจารย์นักศึกษาฝึกงานส่งไปปฏิบัติตามประเทศต่างๆ เป็นลักษณ์เครือข่ายมาเกือบ 30 ปีแล้วแบบปิดทองหลังพระโดยไม่สนใจว่าสื่อจะสนใจหรือไม่และไม่แจ้งให้ทราบด้วย


    รวมถึงได้ทราบถึงการสนองงานของพระธรรมทูตในต่างแดนจากนายจุลสันส์ ทันอินทร์อาจ ผอ.ฝ่ายศาสนวิเทศ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเดิมเป็นข้าราชการกระทรวงแรงงานและโอนมาโดยหวังต้องการรับใช้พระพุทธศาสนาในบั้นปลายชีวิต

      นายจุลสันส์ได้เสนอแนวทางสนองงานอย่างเช่นดำเนินการจดทะเบียบวัดในต่างแดนเป็นสมบัติของประเทศไทยอย่างเช่นสถานทูตเพื่อสะดวกในการบริหารงาน รวมถึงการทำวีซ่าให้กับพระและแม่ชีชาวต่างประเทศเข้ามาปฏิบัติงานในศูนย์พระพุทธศาสนานานาชาติที่ตั้งอยู่ที่พุทธมณฑลเพื่อรองรับการที่พุทธมณฑลเป็นศูนย์กลางชาวพุทธโลก จากวีซ่านักท่องเที่ยวมาเป็นผู้ปฏิบัตงาน ซึ่งจะสามารถขยายเวลาการอยู่ในประเทศไทยได้นานขึ้น

     พร้อมกันนี้ในการประชุมได้เสนอให้งานการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในต่างแดนควรจะมีแผนงานแนวทางที่ชัดเจนและมีลักษณะเป็นเครือข่ายมากยิ่งขึ้น โดยทำการศึกษาวิจัยและนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เป็นประโยชน์

     เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่วัดนาคปรกที่ผ่านมา นับได้ว่าเป็นวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลของพระครูวรกิตติโสภณ เจ้าอาวาส และพระมหาชัยพิชิตเจ้าอาวาสวัดหลวงอาร์เจนตินาโดยแท้


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20130107/148809/เจ้าอาวาสวัดนาคปรกใช้ไลน์สอนธรรม.html#.UPOb_qzjrRd
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ