ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เหลือเชื่อ.! อายุ ๕ ขวบ บรรลุอรหันต์  (อ่าน 1222 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
เหลือเชื่อ.! อายุ ๕ ขวบ บรรลุอรหันต์
« เมื่อ: มกราคม 28, 2014, 06:40:45 pm »
0


พระวัลลิยเถระ บวชตอน ๕ ขวบ ปลงผมเสร็จ บรรลุอรหันต์
อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา ทุกนิบาต วรรคที่ ๓ (วัลลิยเถรคาถา)

    เราละเบญจกามคุณอันน่ารัก น่ารื่นรมย์ใจ และละทรัพย์ประมาณ ๘๐ โกฎิแล้ว บวชเป็นบรรพชิต ครั้นบวชแล้วได้เว้นการทำความชั่วด้วยกาย ละความประพฤติชั่วด้วยวาจา อยู่แทบฝั่งแม่น้ำ.
    พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ได้เสด็จมาหาเราผู้อยู่คนเดียว เราไม่รู้จักว่าเป็นพระพุทธเจ้า เราได้ทำปฏิสันถาร

    ครั้นทำปฏิสันถารแล้ว จึงได้ทูลถามถึงพระนามและพระโคตรว่า
    ท่านเป็นเทวดาหรือคนธรรพ์ หรือเป็นท้าวสักกปุรินททะ ท่านเป็นใคร หรือเป็นบุตรของใคร หรือเป็นท้าวมหาพรหมมาในที่นี้ ย่อมสว่างไสวไปทั่วทิศ เหมือนพระอาทิตย์อุทัยฉะนั้น
    ข้าแต่ท่านผู้นิรทุกข์ จักรมีกำพันหนึ่งปรากฎที่เท้าของท่าน ท่านเป็นใคร เป็นบุตรของใคร เราจักรู้จักท่านอย่างไร ขอท่านจงบอกชื่อและโคตร บรรเทาความสงสัยของเราเถิด


     :25: :25: :25:

    พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า เราไม่ใช่เทวดา ไม่ใช่คนธรรพ์ ไม่ใช่ท้าวสักกปุรินททะ และความเป็นพรหมก็หามีแก่เราไม่ เราสูงสุดกว่าพรหมเหล่านั้น ล่วงวิสัยของพรหมเหล่านั้น เราได้ทำลายเครื่องผูกพันคือกามได้แล้ว เผากิเลสเสียหมดสิ้น บรรลุสัมโพธิญาณอันอุดมแล้ว.
    เราได้สดับพระดำรัสของพระองค์แล้ว จึงได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระมหามุนี ถ้าพระองค์เป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้า ขอเชิญพระองค์ประทับนั่งเถิด ข้าพระองค์จะขอบูชาพระองค์ ขอพระองค์จงทำที่สุดทุกข์แก่ข้าพระองค์เถิด.

    เราได้ลาดหนังเสือถวายพระศาสดาแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งเหนือหนังเสือนั้น ดังสีหราชนั่งอยู่ที่ซอกภูเขาฉะนั้น เราขึ้นภูเขาเก็บเอาผลมะม่วง ดอกรังอันสวยงามและแก่นจันทน์อันมีค่ามาก
    เราถือประคองของทั้งหมดเข้าไปเฝ้าพระผู้นำของโลก ถวายผลไม้แด่พระพุทธเจ้า แล้วเอาดอกรังบูชา
    ก็เรามีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส มีปีติอันไพบูลย์ ได้เอาแก่นจันทน์ลูบไล้แล้ว ถวายบังคมพระศาสดาผู้นำของโลกพระนามว่าสุเมธะ ประทับนั่งบนหนังเสือ.



    เมื่อจะยังเราให้ร่าเริง ได้ทรงพยากรณ์กรรมของเราในครั้งนั้นว่า
     ด้วยการถวายผลไม้กับของหอมและดอกไม้ทั้งสองอย่างนี้ ผู้นี้จักรื่นรมย์อยู่ในเทวโลก ๒,๕๐๐ กัป
     เขาจักเป็นผู้มีความดำริทางใจไม่บกพร่อง ยังอำนาจให้เป็นไป.
     ในกัปที่ ๒,๖๐๐ จักไปสู่ความเป็นมนุษย์ จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ มีมหาสมุทรทั้ง ๔ เป็นขอบเขต.
     วิสสุกรรมเทพบุตรนิรมิตพระนครอันมีนามว่าเวภาระ จักให้พระนครนั้นสำเร็จด้วยทองล้วนๆ ประดับประดาด้วยรัตนะนานาชนิด. เขาจักท่องเที่ยวไปยังกำเนิดทั้งหลายโดยอุบายนี้เทียว เขาจักเป็นผู้ถึงความสุขในทุกภพ คือในความเป็นเทวดาหรือมนุษย์

     เมื่อถึงภพสุดท้าย เขาจักเป็นบุตรพราหมณ์ จักออกบวชเป็นบรรพชิต จักเป็นผู้ถึงฝั่งแห่งอภิญญา ไม่มีอาสวะ ปรินิพพาน.
     พระสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่าสุเมธะ ผู้นำของโลก ครั้นตรัสดังนี้ เมื่อเรากำลังเพ่งดูอยู่ ได้เสด็จเหาะไปในอากาศ.

      ans1 ans1 ans1

     ด้วยกรรมที่ทำไว้ดีแล้วนั้นและด้วยความตั้งเจตนาไว้ เราละร่างมนุษย์แล้ว ได้เข้าถึงสวรรค์ชั้นดุสิต จุติจากดุสิตแล้วไปเกิดใน ครรภ์ของมารดา ในครรภ์ที่เราอยู่ ไม่มีความบกพร่องด้วยโภคทรัพย์แก่เราเลย เมื่อเรายังอยู่ในครรภ์ของมารดา ข้าว น้ำ โภชนาหารเกิดตามความปรารถนาแก่มารดาของเราตามใจชอบ
    เราออกบวชเป็นบรรพชิตแต่อายุ ๕ ขวบ เมื่อปลงผมเสร็จเราก็ได้บรรลุพระอรหัต
    เราค้นหาบุรพกรรมอยู่ ก็มิได้เห็นโดยกัปที่ ใกล้ๆ (แต่) เราระลึกถึงกรรมของเราได้ถึง ๓๐,๐๐๐ กัป

    ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นบุรุษอาชาไนย ข้าพระองค์ขอนอบน้อมแด่พระองค์ ข้าพระองค์อาศัยคำสอนของพระองค์ จึงได้บรรลุบทอันไม่หวั่นไหว
    ในกัปที่ ๓๐,๐๐๐ เราบูชาพระสัมพุทธเจ้าพระองค์ใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า. เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ฯลฯ คำสอนของพระพุทธเจ้า เรากระทำสำเร็จแล้ว ดังนี้.
    ก็พระเถระครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว เมื่อจะพยากรณ์พระอรหัตผลก็ได้กล่าวคาถาเหล่านี้แหละ ฉะนี้แล


ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=281
ขอบคุณภาพจาก
http://www.oknation.net/
http://www.bonbaibua.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ